ผู้เขียน หัวข้อ: กวีวรรค  (อ่าน 6347 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ ชบาบาน

  • MOD1
  • *****
  • ออฟไลน์
  • 579
    486
  • เพศ: ชาย
  • แม้สองเท้าติดตมจมโคลนอยู่ แต่ตายังเงยดูดวงดาวได้
    • อีเมล์
Re: กวีวรรค
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: 24/พ.ค./13 20:30น. »

ซาบซึ้งในวิริยะอุตสาหะของท่า"สหัสวรรษ"เป็นที่ยิ่งขอรับ  นำการขับขานบทกวีของชาวจีนมาให้ฟังกัน นึกไม่ถึงว่าโจโฉก็เป็นกวีชั้นแนวหน้า
เสียงร่ายโศลกในวีดิทัศน์ได้อารมณ์มากๆ ทั้งๆที่กระผมไม่รู้ภาษาจีน  น่าอิจฉาท่านที่เชี่ยวชาญแตกฉานในภาษาจีน  ดูท่าจะเคยเป็นนักศึกษา
จากที่โน่นมา ส่วนเนื้อหาที่ท่าน"สหัสวรรษ"แปลมาเป็นกาพย์ก็ร้อยเรียงได้ลื่นไหลเป็นอย่างยิ่ง  พนมมือคารวะขอรับกระผม

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=14189

Re: กวีวรรค
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: 25/พ.ค./13 00:21น. »

..ผมขอชื่นชม ท่านชบาบานมากๆ เลยครับ ที่เปิดห้องนี้ขึ้นมา ผมคนหนึ่งละที่ชื่นชอบ การขีดเขียน ไม่ว่าจะเรื่องสั้น บทกวี บทกลอน แต่ก็ไม่เอาถ่านสักเท่าไหร่ เมื่อสมัย เป็นนักเรียน ก็เขียนหนังสือ ไปลง(ตะกร้า)ที่นั่นที่นี่ บ้าง แต่ที่ชอบมาก คือ บทกลอนชมธรรมชาติ..ก็พอจะเขียนได้บ้าง แต่ต้องมีสิ่งประกอบ คือ บรรยากาศ อารมณ์ สิ่งแวดล้อม เมื่อก่อนนี่ไม่เท่าไหร่ จะเขียนได้ไวมาก แต่ตอนนี้แก่แล้ว สมองทำงานช้า เหมือนเครื่องดีเซล ต้องเผาหัวนานมาก กว่าจะออกมาแต่ละชิ้นงาน งานที่เพิ่งผ่านมา 2 ชิ้นนี่ ก็ได้ไปเที่ยวที่เกาะหลีเปะ สตูลมาก็พอมีอารมณ์ เขียนส่งมา ถ้ายังไง ท่านชบาบาน ติ และท้วงติงได้นะครับ ยินดีให้ความร่วมมือเต็มที่ครับ ขอขอบคุณมากครับ


ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=14189

ออฟไลน์ ชบาบาน

  • MOD1
  • *****
  • ออฟไลน์
  • 579
    486
  • เพศ: ชาย
  • แม้สองเท้าติดตมจมโคลนอยู่ แต่ตายังเงยดูดวงดาวได้
    • อีเมล์
Re: กวีวรรค
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: 25/พ.ค./13 07:40น. »

แหม...กระผมหรือจะเตือนลุงชัยได้ สีมือท่านราบรื่นสละสลวยดียิ่งอยู่แล้ว  วัยวุฒิแลคุณวุฒิของท่านเป็นตัวการันตีท่านลุงชัยเอง  พูดถึงความแก่ก็เช่นกัน
แก่มะพร้าวนี่มันเยี่ยมนาขอรับ  มาแวะเวียนกันบ่อยๆนะขอรับ  ช่วยกันพัฒนาห้องนี้  เพื่อดำรงความเป็นเจ้าบทเจ้ากลอนแบบไทยๆฝากไว้ให้ลูกหลาน

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=14189

ออฟไลน์ สหัสวรรษ

  • เซียน
  • ****
  • ออฟไลน์
  • 568
    65
Re: กวีวรรค
« ตอบกลับ #18 เมื่อ: 25/พ.ค./13 08:17น. »

สวัสดีครับลุงชัยกับท่านชบาบาน
พูดถึงบทกลอนธรรมชาติ ผมก็นึกถึงบทกลอนที่เคยท่องสมัยเด็ก บรรยายเห็นฉากธรรมชาติในป่า ยิ่งเด็กเล็กๆกำลังอยู่ในช่วงจินตนาการกว้างไกลด้วย เลยเอามาฝาก กลอนบทนี้ประทับใจไม่หาย

๏ ๏สัตว์สวยป่างาม ๏ ๏
จาก - มูลบทบรรพกิจ -
ของ พระยาศรีสุนทรโวหาร (น้อย)

เห็นกวางย่างเยื้องชำเลืองเดิน   เหมือนอย่างนางเชิญ
พระแสงสำอางข้างเคียง
เขาสูงฝูงหงส์ลงเรียง   เริงร้องซ้องเสียง
สำเนียงน่าฟังวังเวง
กลางไพรไก่ขันบรรเลง   ฟังเสียงเพียงเพลง
ซอเจ้งจำเรียงเวียงวัง
ยูงทองร้องกระโต้งโห่งดัง   เพียงฆ้องกลองระฆัง
แตรสังข์กังสดารขานเสียง
กะลิงกะลางนางนวลนอนเรียง   พญาลอคลอเคียง
แอ่นเอี้ยงอีโก้งโทงเทง
ค้อนทองเสียงร้องป๋องเป๋ง   เพลินฟังวังเวง
อีเก้งเริงร้องลองเชิง
ฝูงละมั่งฝังดินกินเพลิง   ค่างแข็งแรงเริง
ยืนเบิ่งบึ้งหน้าตาโพลง
ป่าสูงยูงยางช้างโขลง   อึงคะนึงผึงโผง
โยงกันเล่นน้ำคล่ำไป
 



ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=14189

ออฟไลน์ ชบาบาน

  • MOD1
  • *****
  • ออฟไลน์
  • 579
    486
  • เพศ: ชาย
  • แม้สองเท้าติดตมจมโคลนอยู่ แต่ตายังเงยดูดวงดาวได้
    • อีเมล์
Re: กวีวรรค
« ตอบกลับ #19 เมื่อ: 25/พ.ค./13 14:41น. »

หนังสือมูลบทบรรพกิจ  เป็นแบบฉบับร้อยกรองที่ยิ่งใหญ่  จนกระทั่งบัดนี้ยังไม่มีหนังสือใดเทียบเท่าใด้เลย  ขอบคุณท่านสหัสวรรษที่นำมาเสนอบทที่ดีๆอย่างบทนี้
ให้อะไรหลายอย่าง หลับตาเห็นภาพ  ในบทนี้พรรณาความให้เห็นอาการร่าเริงของบรรดาสัตว์ป่า  ออกเสียงเป็นดนตรีชนิดต่างๆ  กระผมยังงงๆกับดนตรีบางอย่าง
เช่นที่ว่า"...ซอเจ้งจำเรียงเวียงวัง..." ซอน่ะรู้จัก  แต่"เจ้ง"คืออะไร  กระผมเดาเอาว่าเจ้งคือดนตรีจีนชนิดหนึ่ง  ที่เรียกกันว่า"กู่เจิ้ง" ใช่หรือไม่ขอรับ ดนตรีกู่เจิ้งเสียงเพราะมาก
ท่านสหัสวรรษ เป็นผู้ชำนาญกรณีย์ทางแผ่นดินใหญ่  น่าจะบอกเล่าสู่กันฟังได้บ้าง  คุยกันสนุกๆเป็นความรู้ทั่วๆไปเท่านั้นเอง ขอรับ

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=14189

ออฟไลน์ สหัสวรรษ

  • เซียน
  • ****
  • ออฟไลน์
  • 568
    65
Re: กวีวรรค
« ตอบกลับ #20 เมื่อ: 25/พ.ค./13 15:12น. »

เช็คดูในเว็บแล้ว สารานุกรมไทยเขาอธิบายว่า ๑๘๑๔. ซอเจ้ง  เป็นเครื่องดนตรีจีนชนิดหนึ่ง มีสายสำหรับดีดคล้ายจะเข้ (ดูจะเข้และเจ้ง - ลำดับที่ ๑๒๙๔ และ ๑๔๖๓)          หน้า ๖๖๒๗ ก็น่าจะสรุปว่าน่าจะใช่กู่เจิงแหละ

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=14189
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25/พ.ค./13 15:13น. โดย สหัสวรรษ »

Re: กวีวรรค
« ตอบกลับ #21 เมื่อ: 25/พ.ค./13 22:59น. »

...แหม..ชื่นใจ..และยินดีมากๆทีมีผู้รู้เข้ามาเสริม ทักษะ ความรู้ให้ในหน้านี้ กลอนบทนี้เคยท่อง เมื่อสมัยเป็นนักเรียนตัวน้อยๆอยู่..ขอขอบคุณท่านสหัสวรรษ ที่ช่วยย้อนอดีตความทรงจำ..และขอขอบคุณท่านชบาบานที่เป็นผู้ดูแลห้องนี้ครับ

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=14189

ออฟไลน์ สหัสวรรษ

  • เซียน
  • ****
  • ออฟไลน์
  • 568
    65
Re: กวีวรรค
« ตอบกลับ #22 เมื่อ: 26/พ.ค./13 08:03น. »

ไปค้นในกรุเก่าๆที่ไปเกี่ยวเก็บมา มาถึงบทมหัศจรรย์บ้าง เก็บไว้นานจะเน่าเปล่าๆ เลยเอามาให้ซาบซึ้งกัน
บทอัศจรรย์จากเรื่อง พระอภัยมณี
       ๏  เกิดกุลาคว้าว่าวปักเป้าติด   กระแซะชิดขากบกระทบเหนียง
กุลาส่ายย้ายหนีตีแก้เอียง   ปักเป้าเหวี่ยงยักกะแผละกระแซะชิด
กุลาโคลงไม่สู้คล่องกระพร่องกระแพร่ง   ปักเป้าแทงตะละทีไม่มีผิด
จะแก้ไขก็ไม่หลุดสุดความคิด   ประกบติดตกผางลงกลางดิน

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=14189
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26/พ.ค./13 08:04น. โดย สหัสวรรษ »

ออฟไลน์ ชบาบาน

  • MOD1
  • *****
  • ออฟไลน์
  • 579
    486
  • เพศ: ชาย
  • แม้สองเท้าติดตมจมโคลนอยู่ แต่ตายังเงยดูดวงดาวได้
    • อีเมล์
Re: กวีวรรค
« ตอบกลับ #23 เมื่อ: 26/พ.ค./13 13:14น. »

บทอัศรรย์ที่ท่านสหัสวรรษยกของพระอภัยมณีมานำเสนอ  ก็เป็นบทหนึ่งถ้าเป็นหนังก็เรท R ทีเดียว   กระผมก็มีประสบการณ์บทอัศจรรย์บทนี้  สมัยที่
พอเริ่มอ่านหนังสือแตกอ่านให้ยายฟัง  พอถึงตอนอัศจรรย์บทนี้ยายบอกว่า พอ..พอ  แล้วลูกไม่ต้องอ่านข้ามมันไปเลย   ตอนนั้นก็ไม่ค่อยรู้เหตุรู้ผล
เมื่อภายหลังพอจะรู้อะไรขึ้นมาบ้างก็นึกขำไม่หาย   บทอัศจรรย์ของวรรณกรรมน่าจะมีท่านใดท่านหนึ่งค้นคว้านำมาจากวรรณกรรมสมัยเก่ามาชำแหละให้เป็นเรื่อง
เป็นราวเห็นท่าจะน่าสนุก  ท่านสหัสวรรษแลท่านลุงชัย เห็นด้วยไหมขอรับ 
ยังมีวรรณกรรมอีกฉบับหนึ่งน่าศึกษามาก  ไม่ทราบท่านสหัสวรรษเป็นคนใต้หรือไม่  ท่านลุงชัยแน่นอนอยู่แล้ว  คนใต้จะมีวรรณกรรมใต้ดินอยู่ฉบับหนึ่งโด่งดัง
มากคือ"สรรพลี้หวล"  วรรณกรรมคำผวนที่อ่านแล้วเขย่าซี่โครงได้นานมาก  กระผมเคยคัดลอกกับเครื่องคอมแจกเพื่อนพ้องในวงการวิทยุสมัครเล่น
อยู่คราวหนึ่งนานมาแล้ว  ปรากฎว่ามีเสียงเฮฮาคะรึกคะรื้นกันยกใหญ่  ทั้งสองท่านเคยผ่านตาวรรณกรรมฉบับที่ว่านี้ไหม  ขอรับ

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=14189

Re: กวีวรรค
« ตอบกลับ #24 เมื่อ: 26/พ.ค./13 16:31น. »

...ผมมีอยู่ในครอบครอง 1 สำเนาครับ หวงยิ่งกว่าทอง เพราะหายากมาก...ได้มาจากเพื่อนครูรุ่นน้อง เขาไปสัมมนาที่นครศรีฯ เพื่อนๆเขาถ่ายเอกสารมาแจกกัน..สมัยเมื่อ 25 ปีที่ผ่านมา..ผมเลยใช้เป็นแนวทางแต่งกลอน เสมอมาครับ ท่านชบาบาน...

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=14189

ออฟไลน์ สหัสวรรษ

  • เซียน
  • ****
  • ออฟไลน์
  • 568
    65
Re: กวีวรรค
« ตอบกลับ #25 เมื่อ: 26/พ.ค./13 17:00น. »

สรรพลี้หวล ผมไม่เคยรู้จัก อาจจะห่างจากวงการไปนานทั้งๆที่เป็นคนใต้ เลยไปค้นหาดูในเว็บ ก็เห็นว่ามีบันทึกในสมุดใบข่อย เลยจัดการก๊อปไว้ตามระเบียบ อ่านดูแล้วเป็นกลอนในแนวตลกโปกฮา ทำให้นึกถึงบรรยากาศตอนดูหนังตะลุง ยิ่งตนดึกๆด้วยละก้อ อื้อหือ แต่สรุปแล้วก็ได้แค่ความสะใจเท่านั้น หาคำว่าศิลปะไปเจอ ผมขอลอกข้อความที่ผมก๊อปมาทั้งดุ้นมาให้ดูนะครับ ข้อความนี้ผมเห็นด้วยโร้ยโปเซ็ง

ในวรรณคดีไทยมักมีบทอัศจรรย์ แทรกอยู่ด้วย เรื่องความรักและเพศสัมพันธ์ เป็นธรรมชาติของมนุษย์ในการพรรณนาฉากรักฉากพิศวาสของตัวละครหญิงชาย กวีไทยไม่นิยมกล่าวตรงไปตรงมา แต่จะกล่าวถึงโดยใช้กลวิธีการเปรียบเทียบหรือใช้ สัญลักษณ์แทน บทนี้เรียกว่า “บทอัศจรรย์” กล่าวคือกวีใช้ธรรมชาติเป็นสัญลักษณ์แทนการแสดงพฤติกรรมทางเพศ บทอัศจรรย์จึงเป็นบทที่ต้องใช้ความสามารถในการแต่ง เพื่อให้เป็นงานศิลปะมิใช่อนาจาร

ไหนๆเว็บนี้เป็นเว็บเพลง ผมเลยอยากเอาบทกลอนที่มาแต่งเป็นเพลงมาให้ฟังกัน เป็นพระราชนิพนธ์ ร.6 ร้องโดยเพ็ญศรี พุ่มชูศรี จะใส่ยูทูปใส่ไม่ถูก โทษที

ดวงใจ
     คำร้อง บทพระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ ๖
ทำนอง เอื้อ สุนทรสนาน
โอ้ว่าดวงใจอยู่ไกลลิบ
เหลือจะหยิบมาชมภิรมย์สรรค์
เหมือนดวงดาว วาววาวอยู่ไกลกัน
ชิดสวรรค์สุดเอื้อมมาเชยชม
* เสียแรงชื่ออุษานารี
ไยไม่มีเทวามาอุ้มสม
ปล่อยให้นั่งฟูมฟกอกตรม
ร้อนระบม จิตใจดั่งไฟราญ
อ้าองค์เทวาสุรารักษ์
ทรงฤทธิ์สิทธิศักดิ์มหาศาล
ช่วยดลใจให้ชู้คู่ชีวัน
เสียวซ่านเสน่หามาไวไว


[/youtube]

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=14189
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26/พ.ค./13 17:08น. โดย สหัสวรรษ »

ออฟไลน์ ชบาบาน

  • MOD1
  • *****
  • ออฟไลน์
  • 579
    486
  • เพศ: ชาย
  • แม้สองเท้าติดตมจมโคลนอยู่ แต่ตายังเงยดูดวงดาวได้
    • อีเมล์
Re: กวีวรรค
« ตอบกลับ #26 เมื่อ: 27/พ.ค./13 09:19น. »

เพลงนี้เป็นเพลงเก่านานมากแล้ว  ในทุกวันไม่ค่อยได้ยินได้ฟังกันแล้วน่าเสียดาย จริงๆ    พูดถึงบทกวีที่เป็นเพลง
ก็ยังมีอยู่อีกไม่น้อย   บทกวีของท่าน ประสิทธิ์ โรหิตเสถียร  เคยเป็นเพลงเพราะๆตั้งหลายเพลง  คงเคยได้ยินได้ฟัง
กัน   แต่การนำเสนอเพลงสมัยนี้ไม่ค่อยแจกแจงความเป็นมาของเพลงสักเท่าไหร่ เช่นผู้แต่งคำร้อง ผู้แต่งทำนอง
มักเอาแต่ชื่อนักร้องเท่านั้น  จึงไม่ค่อยเป็นที่รู้กัน

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=14189

Re: กวีวรรค
« ตอบกลับ #27 เมื่อ: 27/พ.ค./13 22:58น. »

        ข้อนี้ผมเห็นด้วย กับท่านชบาบานเป็นอย่างมากๆเลยครับ นักร้องไม่อาจจะมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักของคนฟัง หากไม่มีครูเพลงช่วยกล่อมเกลา และช่วย เจียรนัย บา่งบริษัท ไม่ค่อยเห็นความสำคัญในข้อนี้ ไม่พิมพ์ชื่อ ผู้แต่ง คำร้อง/ทำนอง พิมพ์แต่ชื่อนักร้อง เขาคงไม่ทราบว่ากว่าเพลงแต่ละเพลง จะออกมาสู่คนฟัง ครูเพลงต้องกลั่นกรอง บีบเค้น ทั้งสมอง และอารมณ์สักขนาดไหน แถมบางยุค ยังมีนักร้องเนรคุณบางคนมาออกสื่อ ว่าหากเขาไม่ร้องเพลงของครูเพลงคนนี้ ก็ไม่มีใครรู้จัก เป็นเพราะเขาร้องเพลงให้ ครูเพลงเลยพลอยดังไปด้วย..น่าอนาถใจนะ แถมสุดท้าย...ครูเพลงคนแล้วคนเล่าที่ล่วงลับไปบางคนแทบไม่มีผ้าจะพันกาย ทั้งๆที่สร้างฐานะให้ เจ้าของบริษัท นักร้อง ร่ำรวยกันไป เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่แล้ว...

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=14189

ออฟไลน์ สหัสวรรษ

  • เซียน
  • ****
  • ออฟไลน์
  • 568
    65
Re: กวีวรรค
« ตอบกลับ #28 เมื่อ: 28/พ.ค./13 17:23น. »

ไปค้นกลอนเก่ามาใส่ขวดใหม่ กลอนนี้เป็นของกวีเอกหลี่ไป๋ สุนทรภู่จีน ถือบทกวีอมตะ แม้แต่ฝรั่งก็ยังศึกษาบทกลอนของท่าน ซีรี่ย์เรื่องเปาบุ้นจิ้นยังเอาข้อความบางตอนในกวีบทนี้ไปแต่งเป็นเพลงประกอบ ผมเลยเอาทั้งต้นฉบับภาษาจีน ภาษาอังกฤษ และกาพย์ยานี11 มาให้เปรียบเทียบกันเลย เป็นกลอนที่แต่งขึ้นในงานเลี้ยงส่งท่านเสมียนซูหวิน เชิญทัศนาได้ ใครถนัดจีนจีน ใครปะกิตปะกิต หรือจะเพลิดเพลินไปกับกาพย์ยานี11ก็ได้

《宣州谢朓楼饯别校书叔云》
作者:李白
弃我去者,昨日之日不可留。
乱我心者,今日之日多烦忧。
长风万里送秋雁,对此可以酣高楼。
蓬莱文章建安骨,中间小谢又清发。
俱怀逸兴壮思飞,欲上青天览日月。
抽刀断水水更流,举杯消愁愁更愁。
人生在世不称意,明朝散发弄扁舟。


Seven-character-ancient-verse

    Li Bai

    A FAREWELL TO SECRETARY SHUYUN
    AT THE XIETIAO VILLA IN XUANZHOU


        Since yesterday had to throw me and bolt,
        Today has hurt my heart even more.
        The autumn wildgeese have a long wind for escort
        As I face them from this villa, drinking my wine.
        The bones of great writers are your brushes, in the School of Heaven,
        And I am a Lesser Xie growing up by your side.
        We both are exalted to distant thought,
        Aspiring to the sky and the bright moon.
        But since water still flows, though we cut it with our swords,
        And sorrows return, though we drown them with wine,
        Since the world can in no way answer our craving,
        I will loosen my hair tomorrow and take to a fishingboat.


จากข้าเวลาวาน พร่ำเรียกขานมิหวนคืน
รบกวนข้ายามตื่น คืนวันนี้ที่เศร้าโศก
ลมโบกโบยโชยพา ห่านป่ามาจากไกลโลก
มิควรจะวิโยค ร่ายโศลกยกเหล้าถอน
ท่านนั้นเปรียบประดุจ เป็นที่สุดแห่งสาคร
ตำราและอักษร อีกโคลงกลอนที่หาญกล้า
เราสองมีพลัง ที่แฝงฝังยังชีวา
ทะยานสู่เมฆา สู่เวหาหาแขไข
มือสองประคองกอด มิให้ลอดหนีไปได้
ฟันหมับฉับน้ำไหล ขาดหรือไม่ไหลยิ่งเชี่ยว
หมองเศร้าเคล้าห่อเหี่ยว เหล้าจอกเดียวยิ่งหม่นหมอง
ยกมือถือจอกสอง นิ่งเฝ้ามองตรองตรองคิด
คนเราในโลกหล้า ต้องนำพาเรียกหาสิทธิ์
มิอาจใช้ชีวิต ตามที่คิดใครทนไหว
มิสู้รุ่งเช้าตรู่ พายเรือดูตามน้ำไป
ไปสู่ที่ไกลไกล มิมีใครไร้ผู้คน



หลี่ไป๋

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=14189

ออฟไลน์ ชบาบาน

  • MOD1
  • *****
  • ออฟไลน์
  • 579
    486
  • เพศ: ชาย
  • แม้สองเท้าติดตมจมโคลนอยู่ แต่ตายังเงยดูดวงดาวได้
    • อีเมล์
Re: กวีวรรค
« ตอบกลับ #29 เมื่อ: 28/พ.ค./13 20:29น. »

เคยได้ยินชื่อมหากวี"หลีไป่"มานานทีเดียว  จากภาพยนต์ จากหนังสือกำลังภายใน ท่านนี้เข้าใจว่าจะเป็นที่นิยมชมชื่น
ของชาวจีนเป็นอย่างมาก  จากกาพย์ยานีถ้อยรำพันกินใจเหลือที่จะกล่าว  บทกวีจีนนี่ลึกซึ้งเอามากๆ ขอบคุณท่าน
สหัสวรรษ ที่นำเอามมหากาพย์ของมหากวีชาวจีนมาฝากกัน ขอรับ.

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=14189