จริงๆ แล้วเคยตั้งใจว่าออกพรรษาจะเข้ามาฟังเพลงพื้นบ้านแบบภาคอิสานสนุกๆ ก็ได้มาฟังแล้ว เป็นกระทู้ 199 จริงๆ ตอนเด็กเคยเกลียดคนกินเหล้า เพราะดูแล้วมัน
ไม่ค่อยดี บ่อยครั้ง ผมต้องเป็นกรรมการห้ามศึกระหว่างพ่อกับแม่ ที่มีปากเสียง เลยไม่ค่อยจะชอบคนเมา คือพูดไม่รู้เรื่อง พอเป็นวัยรุ่น เพื่อนๆ ก็ชวนกินเหล้าสูบบุหรี่
ก็แอบสูบแอบกิน นิดๆ หน่อยๆ พอมาเรียนมหาวิทยาลัยพักหอพัก ตอนปีสองปีแรก อยู่กันเป็นกลุ่มใหญ่ รุ่นผมผู้ชายล้วนๆ ในหอพักมีทุกอย่างไพ่ กัญชา บุหรี่ เหล้า
อาจารย์ฝ่ายปกครองมาตรวจทุกครั้งเจอสิ่งผิดระเบียบทุกครั้ง ถูกเตือน ถูกตัดคะแนน เพื่อป้องปราม แรกๆ ผมกินเพราะเครียด เรื่องไม่มีจ่ายค่าเทอม คะแนนสอบ
รุ่นพี่ชวนไปกิน พอเมาลืมเรื่องราวต่างๆ แฮะ เข้าท่า ตอนหลังพอมีเพื่อนชวนก็เลยไม่ขัด สนุกดี นานๆ เข้าก็เลยขาดไม่ได้ พรุ่งนี้สอบ คืนนี้ยังเฮฮา ตามประสา
ไปนั่งสอบกลิ่นเหล้าคลุ้ง ต้องเคี้ยวหมากฝรั่ง ใบฝรั่งตุ้ยๆ เรียนมาขอแค่ผ่าน แค่จบ หลังๆ มาเพื่อนๆ จบ แค่......ผมยังไม่จบ เรียนกับรุ่นน้อง เป็นพี่ใหญ่ ชวนน้องๆ
กินเหล้า เที่ยวเตร่ ตามประสา กินสนุกสนาน ไม่ทะเลาะเบาะแว้งกับใคร ชอบเพลง ชอบเล่น ชอบร้อง คณะที่ผมเรียน คณะอื่นๆ เขาเกรงใจ เราวางตัวเป็นมิตร
กับทุกคน เจอกันก็ทักทาย ผมว่าตอนสมัยเรียนนี่อิสระ เราต้องดูแลตนเอง กลับบ้านไปเรียบร้อยยังกับผ้าพับไว้ เพื่อนๆ ที่อยู่ใกล้บ้านชวนไปเที่ยวไหน ไม่ไปทั้งๆ
ที่หิวเหล้า น้ำลายสอ ช่วงปิดเทอม ช่วยพ่อแม่ทำงาน เพื่อมีเงินไว้ลงทะเบียนเรียน กลับมาเรียนที่มหาวิทยาลัย ตั้งชมรมคนขี้เมา สมาชิกเยอะมาก ครูบาอาจารย์
พี่ๆ น้องๆ ชาวบ้านรู้กิตติศัพท์ดี ชอบดื่ม ชอบสนุก แต่เมาแบบสุภาพ คือต่อหน้าผู้หลักผู้ใหญ่ต้องบังคับตนยืนตรง พูดสุภาพ ไม่มีอ้อๆ แอ้ๆ ให้เสียบุคลิกภาพ
นี่เป็นที่มาที่ผู้ใหญ่ไว้ใจ ไม่เคยเสียงาน รับผืดชอบสูง ตีสามตีสี่เพิ่งเข้านอน หกโมงต้องตื่นมาทำงาน เรียนต่อ บางครั้งก็หลับบ้างในชั้นเรียน ทำกิจกรรมช่วยเหลือ
ส่วนรวม โดยไม่หวังประโยชน์ใดๆ เพลงชุดนี้ ไม่เคยฟัง เห็นชื่อเพลง มันเตะตาดี เลยต้องฟัง พูดถึงชมรมคนชอบเมา ปัจจุบัน ผมพยายามลดปรืมาณลงจากวันละแบน
เหลือวันละถาดเสริฟอาหารเท่านั้นครับ ขอบคุณท่านหนุ่มมหาราช ที่ทำให้ผม นึกเปรี้ยวปากโดยทันทีทันใด เลย ต้องขออนุญาตไปคารวะแม่ ..สักประเดี๋ยว