กระทู้นี้ขอเสนอบทเพลง...และเรื่องราวของ...สุเทพ วงศ์กำแหง
ประวัติ สุเทพ วงศ์กำแหง จาก วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

คุณสุเทพ วงศ์กำแหง เกิดเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2477 ที่จังหวัดนครราชสีมา ปัจจุบันอายุย่างเข้าสู่ปีที่ 77 ท่านได้รับการศึกษาตั้งแต่เบื้องต้นจนจบชั้นมัธยมปีที่ 6 ที่จังหวัดบ้านเกิด ความมีแววของการเป็นนักร้องเริ่มมีขึ้นตั้งแต่สมัยที่เป็นนักเรียน โดยมักจะได้รับมอบหมาย ให้เป็นต้นเสียงร้องเพลงชาติที่โรงเรียนเสมอ ๆ
ครั้นเรียนจบชั้นมัธยมปีที่ 6 แล้ว คุณสุเทพก็ได้ย้ายเข้ามาอาศัยอยู่กับญาติที่กรุงเทพมหานคร และด้วยนิสัยรักการวาดเขียนและงานศิลปะเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ท่านจึงได้สมัครเข้าเรียนต่อที่โรงเรียนเพาะช่าง ซึ่งระหว่างที่เรียนอยู่นั้นนอกจากท่านจะแสดงฝีมืออย่างโดดเด่นในทางศิลปะแล้ว ท่านยังเป็นนักร้องเสียงดีประจำห้องเรียนอีกด้วย ในยามว่างท่านมักจะฝึกซ้อมร้องเพลงเสมอตามแบบอย่างของนักร้องที่ท่านชื่นชอบ เช่น วินัย จุลบุษปะ สถาพร มุกดาประกร ปรีชา บุณยเกียรติ ฯลฯ
คุณสุเทพได้มีโอกาสรู้จักและคุ้นเคยกับครูไศล ไกรเลิศ นักแต่งเพลงผู้มีชื่อเสียงเนื่องจากบ้านอยู่ใกล้กัน เมื่อครูไศลมองเห็นแววความสามารถของคุณสุเทพ ก็คิดจะช่วยสนับสนุนส่งเสริมจึงชักชวนให้มาช่วยงาน เช่น ช่วยเขียนโน้ตเพลง เขียนตัวหนังสือ ตลอดจนติดตามไปช่วยงานในธุรกิจบันเทิงต่าง ๆ เสมอ ทำให้คุณสุเทพ
เริ่มคุ้นเคยกับบุคคลในวงการเพลงมากหน้าหลายตา ทั้งยังได้รับโอกาสให้ร้องเพลงสลับฉากละคร ร้องเพลงตามงานบันเทิงต่าง ๆ รวมไปถึงการทดลองเสียงแทนนักร้องตัวจริง ก่อนที่จะทำการอัดเสียงเสมอ จากการที่ร้องเพลงได้อย่างดีเด่น ทำให้คุณสุเทพได้ร้องเพลงบ่อยขึ้นเรื่อย ๆ จนได้รับคัดเลือกให้ร้องเพลงบันทึกแผ่นเสียง
ของตนเองบ้าง
ต่อมาท่านได้รับการสนับสนุนจาก พลอากาศเอก ทวี จุลละทรัพย์ ซึ่งเป็นผู้หนึ่งที่ชื่นชอบการร้องเพลงของท่านโดยช่วยส่งเสริมท่านในทางต่าง ๆ ครั้นคุณสุเทพมีอายุครบกำหนดกฎเกณฑ์ทหาร พลอากาศเอกทวี จึงได้ชักชวนให้ท่านเข้ารับราชการในกองทัพอากาศ โดยได้ประจำอยู่ที่วงดุริยางค์ทหารอากาศ ซึ่งมี ครู ปรีชา
เมตไตรย์ เป็นผู้ควบคุมวง ระหว่างนั้น คุณสุเทพได้บันทึกแผ่นเสียงมากขึ้นอีก และสถานีวิทยุต่าง ๆ ก็ได้นำเพลงที่ท่านร้องบันทึกแผ่นเสียงนี้ไปเปิดจนเป็นที่รู้จักแพร่หลายอย่างรวดเร็ว
ภายหลังจากออกจากกองทัพอากาศแล้ว คุณสุเทพก็ได้ร้องเพลงเป็นอาชีพหลักอย่างเต็มตัว ท่านได้เข้าร่วมกับคณะชื่นชุมนุมศิลปิน และได้มีโอกาสร้องเพลงทั้งในรายการวิทยุและโทรทัศน์อยู่เนือง ๆ ทำให้ชื่อเสียงของท่านเริ่มเพิ่มขึ้น งานต่าง ๆ จึงหลั่งไหลเข้ามาไม่ขาดสาย และยิ่งในช่วงนั้น วงการภาพยนตร์ไทยกำลังเฟื่องฟู ท่านจึงได้งานร้องเพลงประกอบภาพยนตร์ไทยเป็นจำนวนมาก รวมทั้งได้ร่วมแสดงภาพยนตร์บางเรื่องด้วย ท่านได้มีโอกาสร้องเพลงคู่กับนักร้องรุ่นพี่ท่านหนึ่งคือ คุณสวลี ผกาพันธุ์ อยู่เสมอ ในเวลานั้นคุณสวลีเป็นนักร้องยอดนิยมแห่งยุค ที่มีแฟนเพลงชื่นชอบมากมาย ดังนั้นเมื่อใครซื้อแผ่นเสียงของคุณสวลีไป ก็มักจะมีเสียงคุณสุเทพติดไปด้วย ชื่อเสียงของคุณสุเทพจึงโด่งดังขึ้นเป็นอย่างมาก ดังนั้น คุณสุเทพจึงถือว่าความสำเร็จในเบื้องต้นส่วนหนึ่งของท่านนั้น ได้รับอานิสงส์มาจากการที่ได้ร้องเพลงคู่กับคุณสวลี ผกาพันธุ์ด้วย
จุดเด่นของคุณสุเทพก็คือ การที่ท่านมีน้ำเสียงที่ดีเป็นเลิศ มีลีลาในการร้องเพลงที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวนุ่มนวล ชวนฟัง อีกทั้งอารมณ์ที่แสดงออกมาทางน้ำเสียงและสีหน้านั้น ก็สามารถสะกดใจผู้ฟังให้คล้อยตาม และเข้าถึงอารมณ์ของเพลงนั้นได้อย่างพิเศษ ประกอบกับการที่ท่านเป็นผู้ที่เอาใจใส่อย่างจริงจัง ในการทำงาน ทำให้ท่านเป็นนักร้องที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงภายในระยะเวลารวดเร็ว จนได้รับฉายาจาก รงค์ วงษ์สวรรค์ว่า "นักร้องเสียงขยี้แพรบนฟองเบียร์" มีผลงานดีเด่นเป็นเวลาต่อเนื่องมานานกว่า 40 ปี
ในช่วงก่อนปีพุทธศักราช 2500 คุณสุเทพได้ร่วมเดินทางไปฮ่องกง และสาธารณรัฐประชาชนจีนกับศิลปินแขนงต่าง ๆ กลุ่มใหญ่ จากนั้น ท่านก็ได้เดินทางต่อไปยังประเทศญี่ปุ่น เพื่อศึกษาทางด้านการวาดรูปที่ท่านเคยรักมาก่อนในอดีต ระหว่างนั้นท่านก็ได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีจากแฟนเพลงคนไทยที่นั่น ท่านได้เรียน
วาดรูปตามความประสงค์ และร้องเพลงขับกล่อมคนไทยที่ไปพำนักยังแดนอาทิตย์อุทัยประมาณ 3 ปี จึงได้เดินทางกลับประเทศไทย
งานร้องเพลงของ สุเทพ วงศ์กำแหง สามารถแบ่งออก 3 ช่วง ตามช่วงเวลาดังนี้
- งานในช่วงแรก คือช่วงเริ่มต้นก่อนที่จะเดินทางไปอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น งานส่วนมากเป็นงานร้องเพลงประกอบละครและภาพยนตร์ งานอัดแผ่นเสียง และงานร้องเพลงตามไนท์คลับ เพลงดังที่สร้างชื่อเสียงให้คุณสุเทพมากเป็นพิเศษในช่วงนั้นก็คือเพลง "รักคุณเข้าแล้ว" ซึ่งเป็นผลงานแต่งทำนองโดย ครูสมาน กาญจนผลิน และแต่งคำร้อง โดย สุนทรียา ณ เวียงกาญจน์ เพลง ๆ นี้ถือได้ว่าเป็นเพลงอมตะที่ยังเป็นที่นิยมต่อเนื่องตลอดมาจนทุกวันนี้ นอกจากนั้นยังมีเพลง คุณจะงอนมากไปแล้ว ผมต้องวิวาห์เสียที เพียงคำเดียว นางอาย สวรรค์มืด เท่านี้ก็ตรม และลาก่อนสำหรับวันนี้ เป็นต้น
- งานช่วงที่ 2 อยู่ในช่วงเวลาประมาณปี 2503 ภายหลังจากที่เดินทางกลับจากประเทศญี่ปุ่นในช่วงนั้น แฟนเพลงให้การต้อนรับการกลับบ้านของคุณสุเทพ อย่างอบอุ่น คุณสุเทพจึงมีงานร้องเพลงเข้ามามากมายไม่ขาดสาย งานเพลงดัง ๆ ที่ท่านขับร้องในช่วงนั้น ได้แก่ เพลงเกิดมาอาภัพ อาลัยโตเกียว อนิจจา
น้ำตาลใกล้มด สัญญารัก เธออยู่ไหน และเย้ยฟ้าท้าดิน เป็นต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เพลง "เย้ยฟ้าท้าดิน" นั้น เป็นเพลงที่นับว่าทำให้คุณสุเทพประสบความสำเร็จมากที่สุดเพลงหนึ่งในชีวิต
- ช่วงที่สาม ซึ่งเริ่มต้นตั้งแต่ประมาณปี 2512 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบันนั้น นับว่าเป็นช่วงที่คุณสุเทพก้าวไปถึงจุดสูงสุดแล้วทั้งด้านชื่อเสียงและผลงาน ดังเช่นที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ กล่าวได้ว่า คุณสุเทพ วงศ์กำแหง เป็นนักร้องเพลงไทยสากลฝ่ายชายที่ร้องเพลงไว้มากที่สุดถึงกว่า 3,000 เพลง ในจำนวนนี้มีเพลงที่นับว่าเป็นเพลงยอดนิยมในประเภทต่าง ๆ มากมาย นับไม่ถ้วน
คำประกาศเกียรติคุณ
นายสุเทพ วงศ์กำแหง เกิดเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม พุทธศักราช 2477 ที่จังหวัดนครราชสีมา เป็นศิลปินนักร้องเพลงไทยสากลที่มีผลงานดีเด่นทั้งในและนอกประเทศ เป็นเวลาอันต่อเนื่องกันมากว่า ๔๐ ปี มีผลงานขับร้องที่ประจักษ์ชัดเจนในความสามารถอันสูงส่ง ได้พัฒนาวิธีการขับร้องเพลงไทยสากลอย่างไพเราะ และทวีความงดงาม
ในศิลปะแขนงนี้ยิ่งขึ้นเป็นลำดับ เป็นผู้ตั้งใจทำงานอย่างต่อเนื่อง จนปรากฏผลงานเพลงมากมาย เช่น ขับร้องเพลงประกอบในภาพยนตร์ และละครโทรทัศน์ เพลงไทยสากลทั่วไป เพลงพระราชนิพนธ์ในรัชกาลปัจจุบันเพลงอันเกี่ยวด้วยพระศาสนา และจริยธรรม ตลอดจนได้ใช้ความสามารถในเชิงศิลปะสร้างสรรค์ อำนวย
คุณประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติเสมอมา ทั้งได้ถ่ายทอดความรู้ความสามารถแก่ศิษย์เป็นจำนวนมาก จากความสามารถอันสูงส่งดังกล่าว ยังส่งผลให้คุณสุเทพ วงกำแหง ได้รับพระราชทานรางวัลแผ่นเสียงทองคำ ไม่น้อยกว่า5 ครั้ง รางวัลเสาอากาศทองคำ ในฐานะนักร้องยอดเยี่ยม 2 ครั้ง และรางวัลอื่น ๆ อีกมากมาย ปัจจุบันคุณสุเทพยังบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติเป็นอเนกประการ คุณงามความดีที่ได้กระทำอย่างต่อเนื่องมานี้เป็นที่ชื่นชมชัดเจนในหมู่ประชาชนคนไทยโดยทั่วไป คุณสุเทพ วงศ์กำแหง จึงได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติเป็นศิลปินแห่งชาติสาขาศิลปะการแสดง (เพลงไทยสากล – ขับร้อง) ปีพุทธศักราช 2533
การศึกษา
โรงเรียนวัดสมอราย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
โรงเรียนประจำอำเภอ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6
การทำงาน
ร้านตัดเสื้อ ตำแหน่งเขียนตัวหนังสือ
กองทัพอากาศ ยศจ่าอากาศตรี
รางวัล & เกียรติคุณ
จากพรสวรรค์ ความสามารถ และความมุ่งมั่นในการทำงาน ทำให้คุณสุเทพ วงศ์กำแหง ได้รับรางวัลแผ่นเสียง
ทองคำพระราชทาน และรางวัลเสาอากาศทองคำ หลายครั้ง ดังนี้
รางวัลแผ่นเสียงทองคำพระราชทาน
รางวัลเสาอากาศทองคำ
โล่เพชร
โล่เกียรติยศ สมาคมดนตรีแห่งประเทศไทย
ปริญญาบัตรศึกษาศาสตรบัณฑิตกิตติมศักดิ์ ศิลปกรรม
โล่เกียรติยศ วัดไทยในลอสแอนเจลิส
ปริญญาศึกษาศาสตรบัณฑิตกิติมาศักดิ์(ศิลปกรรม) สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล
โล่เกียรติยศพระราชทาน สมาคมดนตรีแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2525
รางวัลศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง(เพลงไทยสากล-ขับร้อง) สำนักงานคณะกรรมการ
วัฒนธรรมแห่งชาติ พ.ศ. 2533
งานการเมือง
สุเทพ วงศ์กำแหง เป็นศิลปินที่สนใจการเมือง มีส่วนสนับสนุนนักศึกษาให้เรียกร้องประชาธิปไตยสมัยเหตุการณ์ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2516 เป็นสมาชิกพรรคแนวร่วมสังคมนิยมแห่งประเทศไทย ต่อมาได้สมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้แทนราษฎร สังกัดพรรคพลังใหม่ และได้รับเลือกตั้งหลายสมัย มีโอกาสทำงานรับใช้สังคมมากขึ้น นับเป็นศิลปินที่ตั้งใจทำประโยชน์เพื่อประเทศชาติอย่างสม่ำเสมอตลอดมา
ในปี พ.ศ. 2525 เคยเข้าร่วมก่อตั้งและเป็นเลขาธิการพรรคพลังใหม่ ซึ่งนำโดยนายแพทย์กระแส ชนะวงศ์ หัวหน้าพรรค ร้อยตรีสมหวัง ศรีชัย รองหัวหน้าพรรค และแกนนำคนสำคัญอาทิเช่น ชัชวาลย์ ชมภูแดง บรรลือ ชำนาญกิจ ทินวัฒน์ มฤคพิทักษ์ และในวันที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2551 ได้ขึ้นเวทีชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ร้องเพลง “คน” และ “อำนาจเงิน” สด ๆ โดยไม่มีดนตรีประกอบอีกด้วย
เพลงที่ร้องประกอบภาพยนตร์และละครโทรทัศน์
ป่าลั่น จากภาพยนตร์เรื่อง เทพบุตรนักเลง
สกาวเดือน จากภาพยนตร์เรื่อง สกาวเดือน
สุรีรัตน์ล่องหน จากภาพยนตร์เรื่อง สุรีรัตน์ล่องหน
แผ่นดินของเรา จากภาพยนตร์เรื่อง โพระดก
มนต์รักบ้านนา จากภาพยนตร์เรื่อง มนต์รักบ้านนา
ดอกอ้อ จากภาพยนตร์เรื่อง ดอกอ้อ
แววมยุรา จากภาพยนตร์เรื่อง แววมยุรา
ยอดพธูเมืองแปร จากละครโทรทัศน์เรื่อง ผู้ชนะสิบทิศ
ปองใจรัก จากละครโทรทัศน์เรื่อง จุฬาตรีคูณ
จุฬาตรีคูณ จากละครโทรทัศน์เรื่อง จุฬาตรีคุณ
เพลงประเภททั่วไป
ในโลกแห่งความฝัน
ดาวลอย
เพียงคำเดียว
ดอกแก้ว
คำคน
ลาก่อนสำหรับวันนี้
ครวญ
ไม่อยากให้โลกนี้มีความรัก
ชั่วนิจนิรันดร
โลกนี้คือละคร
คนจะรักกัน
บทเรียนก่อนวิวาห์
คืนหนึ่ง
วิญญาณในภาพถ่าย
หวานรัก
ชื่นรัก
ฯลฯ
เพลงประเภทปลุกใจและศาสนา
เทิดพระเกียรติพระปิยมหาราช
สดุดีมหาราชา
พลังไทย
พระรัตนตรัย
พุทธธรรม
เดือนเพ็ญตรัสรู้
องคุลีมาร
ประวัติ สุเทพ วงศ์กำแหง จาก วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

คุณสุเทพ วงศ์กำแหง เกิดเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2477 ที่จังหวัดนครราชสีมา ปัจจุบันอายุย่างเข้าสู่ปีที่ 77 ท่านได้รับการศึกษาตั้งแต่เบื้องต้นจนจบชั้นมัธยมปีที่ 6 ที่จังหวัดบ้านเกิด ความมีแววของการเป็นนักร้องเริ่มมีขึ้นตั้งแต่สมัยที่เป็นนักเรียน โดยมักจะได้รับมอบหมาย ให้เป็นต้นเสียงร้องเพลงชาติที่โรงเรียนเสมอ ๆ
ครั้นเรียนจบชั้นมัธยมปีที่ 6 แล้ว คุณสุเทพก็ได้ย้ายเข้ามาอาศัยอยู่กับญาติที่กรุงเทพมหานคร และด้วยนิสัยรักการวาดเขียนและงานศิลปะเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ท่านจึงได้สมัครเข้าเรียนต่อที่โรงเรียนเพาะช่าง ซึ่งระหว่างที่เรียนอยู่นั้นนอกจากท่านจะแสดงฝีมืออย่างโดดเด่นในทางศิลปะแล้ว ท่านยังเป็นนักร้องเสียงดีประจำห้องเรียนอีกด้วย ในยามว่างท่านมักจะฝึกซ้อมร้องเพลงเสมอตามแบบอย่างของนักร้องที่ท่านชื่นชอบ เช่น วินัย จุลบุษปะ สถาพร มุกดาประกร ปรีชา บุณยเกียรติ ฯลฯ
คุณสุเทพได้มีโอกาสรู้จักและคุ้นเคยกับครูไศล ไกรเลิศ นักแต่งเพลงผู้มีชื่อเสียงเนื่องจากบ้านอยู่ใกล้กัน เมื่อครูไศลมองเห็นแววความสามารถของคุณสุเทพ ก็คิดจะช่วยสนับสนุนส่งเสริมจึงชักชวนให้มาช่วยงาน เช่น ช่วยเขียนโน้ตเพลง เขียนตัวหนังสือ ตลอดจนติดตามไปช่วยงานในธุรกิจบันเทิงต่าง ๆ เสมอ ทำให้คุณสุเทพ
เริ่มคุ้นเคยกับบุคคลในวงการเพลงมากหน้าหลายตา ทั้งยังได้รับโอกาสให้ร้องเพลงสลับฉากละคร ร้องเพลงตามงานบันเทิงต่าง ๆ รวมไปถึงการทดลองเสียงแทนนักร้องตัวจริง ก่อนที่จะทำการอัดเสียงเสมอ จากการที่ร้องเพลงได้อย่างดีเด่น ทำให้คุณสุเทพได้ร้องเพลงบ่อยขึ้นเรื่อย ๆ จนได้รับคัดเลือกให้ร้องเพลงบันทึกแผ่นเสียง
ของตนเองบ้าง
ต่อมาท่านได้รับการสนับสนุนจาก พลอากาศเอก ทวี จุลละทรัพย์ ซึ่งเป็นผู้หนึ่งที่ชื่นชอบการร้องเพลงของท่านโดยช่วยส่งเสริมท่านในทางต่าง ๆ ครั้นคุณสุเทพมีอายุครบกำหนดกฎเกณฑ์ทหาร พลอากาศเอกทวี จึงได้ชักชวนให้ท่านเข้ารับราชการในกองทัพอากาศ โดยได้ประจำอยู่ที่วงดุริยางค์ทหารอากาศ ซึ่งมี ครู ปรีชา
เมตไตรย์ เป็นผู้ควบคุมวง ระหว่างนั้น คุณสุเทพได้บันทึกแผ่นเสียงมากขึ้นอีก และสถานีวิทยุต่าง ๆ ก็ได้นำเพลงที่ท่านร้องบันทึกแผ่นเสียงนี้ไปเปิดจนเป็นที่รู้จักแพร่หลายอย่างรวดเร็ว
ภายหลังจากออกจากกองทัพอากาศแล้ว คุณสุเทพก็ได้ร้องเพลงเป็นอาชีพหลักอย่างเต็มตัว ท่านได้เข้าร่วมกับคณะชื่นชุมนุมศิลปิน และได้มีโอกาสร้องเพลงทั้งในรายการวิทยุและโทรทัศน์อยู่เนือง ๆ ทำให้ชื่อเสียงของท่านเริ่มเพิ่มขึ้น งานต่าง ๆ จึงหลั่งไหลเข้ามาไม่ขาดสาย และยิ่งในช่วงนั้น วงการภาพยนตร์ไทยกำลังเฟื่องฟู ท่านจึงได้งานร้องเพลงประกอบภาพยนตร์ไทยเป็นจำนวนมาก รวมทั้งได้ร่วมแสดงภาพยนตร์บางเรื่องด้วย ท่านได้มีโอกาสร้องเพลงคู่กับนักร้องรุ่นพี่ท่านหนึ่งคือ คุณสวลี ผกาพันธุ์ อยู่เสมอ ในเวลานั้นคุณสวลีเป็นนักร้องยอดนิยมแห่งยุค ที่มีแฟนเพลงชื่นชอบมากมาย ดังนั้นเมื่อใครซื้อแผ่นเสียงของคุณสวลีไป ก็มักจะมีเสียงคุณสุเทพติดไปด้วย ชื่อเสียงของคุณสุเทพจึงโด่งดังขึ้นเป็นอย่างมาก ดังนั้น คุณสุเทพจึงถือว่าความสำเร็จในเบื้องต้นส่วนหนึ่งของท่านนั้น ได้รับอานิสงส์มาจากการที่ได้ร้องเพลงคู่กับคุณสวลี ผกาพันธุ์ด้วย
จุดเด่นของคุณสุเทพก็คือ การที่ท่านมีน้ำเสียงที่ดีเป็นเลิศ มีลีลาในการร้องเพลงที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวนุ่มนวล ชวนฟัง อีกทั้งอารมณ์ที่แสดงออกมาทางน้ำเสียงและสีหน้านั้น ก็สามารถสะกดใจผู้ฟังให้คล้อยตาม และเข้าถึงอารมณ์ของเพลงนั้นได้อย่างพิเศษ ประกอบกับการที่ท่านเป็นผู้ที่เอาใจใส่อย่างจริงจัง ในการทำงาน ทำให้ท่านเป็นนักร้องที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงภายในระยะเวลารวดเร็ว จนได้รับฉายาจาก รงค์ วงษ์สวรรค์ว่า "นักร้องเสียงขยี้แพรบนฟองเบียร์" มีผลงานดีเด่นเป็นเวลาต่อเนื่องมานานกว่า 40 ปี
ในช่วงก่อนปีพุทธศักราช 2500 คุณสุเทพได้ร่วมเดินทางไปฮ่องกง และสาธารณรัฐประชาชนจีนกับศิลปินแขนงต่าง ๆ กลุ่มใหญ่ จากนั้น ท่านก็ได้เดินทางต่อไปยังประเทศญี่ปุ่น เพื่อศึกษาทางด้านการวาดรูปที่ท่านเคยรักมาก่อนในอดีต ระหว่างนั้นท่านก็ได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีจากแฟนเพลงคนไทยที่นั่น ท่านได้เรียน
วาดรูปตามความประสงค์ และร้องเพลงขับกล่อมคนไทยที่ไปพำนักยังแดนอาทิตย์อุทัยประมาณ 3 ปี จึงได้เดินทางกลับประเทศไทย
งานร้องเพลงของ สุเทพ วงศ์กำแหง สามารถแบ่งออก 3 ช่วง ตามช่วงเวลาดังนี้
- งานในช่วงแรก คือช่วงเริ่มต้นก่อนที่จะเดินทางไปอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น งานส่วนมากเป็นงานร้องเพลงประกอบละครและภาพยนตร์ งานอัดแผ่นเสียง และงานร้องเพลงตามไนท์คลับ เพลงดังที่สร้างชื่อเสียงให้คุณสุเทพมากเป็นพิเศษในช่วงนั้นก็คือเพลง "รักคุณเข้าแล้ว" ซึ่งเป็นผลงานแต่งทำนองโดย ครูสมาน กาญจนผลิน และแต่งคำร้อง โดย สุนทรียา ณ เวียงกาญจน์ เพลง ๆ นี้ถือได้ว่าเป็นเพลงอมตะที่ยังเป็นที่นิยมต่อเนื่องตลอดมาจนทุกวันนี้ นอกจากนั้นยังมีเพลง คุณจะงอนมากไปแล้ว ผมต้องวิวาห์เสียที เพียงคำเดียว นางอาย สวรรค์มืด เท่านี้ก็ตรม และลาก่อนสำหรับวันนี้ เป็นต้น
- งานช่วงที่ 2 อยู่ในช่วงเวลาประมาณปี 2503 ภายหลังจากที่เดินทางกลับจากประเทศญี่ปุ่นในช่วงนั้น แฟนเพลงให้การต้อนรับการกลับบ้านของคุณสุเทพ อย่างอบอุ่น คุณสุเทพจึงมีงานร้องเพลงเข้ามามากมายไม่ขาดสาย งานเพลงดัง ๆ ที่ท่านขับร้องในช่วงนั้น ได้แก่ เพลงเกิดมาอาภัพ อาลัยโตเกียว อนิจจา
น้ำตาลใกล้มด สัญญารัก เธออยู่ไหน และเย้ยฟ้าท้าดิน เป็นต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เพลง "เย้ยฟ้าท้าดิน" นั้น เป็นเพลงที่นับว่าทำให้คุณสุเทพประสบความสำเร็จมากที่สุดเพลงหนึ่งในชีวิต
- ช่วงที่สาม ซึ่งเริ่มต้นตั้งแต่ประมาณปี 2512 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบันนั้น นับว่าเป็นช่วงที่คุณสุเทพก้าวไปถึงจุดสูงสุดแล้วทั้งด้านชื่อเสียงและผลงาน ดังเช่นที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ กล่าวได้ว่า คุณสุเทพ วงศ์กำแหง เป็นนักร้องเพลงไทยสากลฝ่ายชายที่ร้องเพลงไว้มากที่สุดถึงกว่า 3,000 เพลง ในจำนวนนี้มีเพลงที่นับว่าเป็นเพลงยอดนิยมในประเภทต่าง ๆ มากมาย นับไม่ถ้วน
คำประกาศเกียรติคุณ
นายสุเทพ วงศ์กำแหง เกิดเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม พุทธศักราช 2477 ที่จังหวัดนครราชสีมา เป็นศิลปินนักร้องเพลงไทยสากลที่มีผลงานดีเด่นทั้งในและนอกประเทศ เป็นเวลาอันต่อเนื่องกันมากว่า ๔๐ ปี มีผลงานขับร้องที่ประจักษ์ชัดเจนในความสามารถอันสูงส่ง ได้พัฒนาวิธีการขับร้องเพลงไทยสากลอย่างไพเราะ และทวีความงดงาม
ในศิลปะแขนงนี้ยิ่งขึ้นเป็นลำดับ เป็นผู้ตั้งใจทำงานอย่างต่อเนื่อง จนปรากฏผลงานเพลงมากมาย เช่น ขับร้องเพลงประกอบในภาพยนตร์ และละครโทรทัศน์ เพลงไทยสากลทั่วไป เพลงพระราชนิพนธ์ในรัชกาลปัจจุบันเพลงอันเกี่ยวด้วยพระศาสนา และจริยธรรม ตลอดจนได้ใช้ความสามารถในเชิงศิลปะสร้างสรรค์ อำนวย
คุณประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติเสมอมา ทั้งได้ถ่ายทอดความรู้ความสามารถแก่ศิษย์เป็นจำนวนมาก จากความสามารถอันสูงส่งดังกล่าว ยังส่งผลให้คุณสุเทพ วงกำแหง ได้รับพระราชทานรางวัลแผ่นเสียงทองคำ ไม่น้อยกว่า5 ครั้ง รางวัลเสาอากาศทองคำ ในฐานะนักร้องยอดเยี่ยม 2 ครั้ง และรางวัลอื่น ๆ อีกมากมาย ปัจจุบันคุณสุเทพยังบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติเป็นอเนกประการ คุณงามความดีที่ได้กระทำอย่างต่อเนื่องมานี้เป็นที่ชื่นชมชัดเจนในหมู่ประชาชนคนไทยโดยทั่วไป คุณสุเทพ วงศ์กำแหง จึงได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติเป็นศิลปินแห่งชาติสาขาศิลปะการแสดง (เพลงไทยสากล – ขับร้อง) ปีพุทธศักราช 2533
การศึกษา
โรงเรียนวัดสมอราย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
โรงเรียนประจำอำเภอ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6
การทำงาน
ร้านตัดเสื้อ ตำแหน่งเขียนตัวหนังสือ
กองทัพอากาศ ยศจ่าอากาศตรี
รางวัล & เกียรติคุณ
จากพรสวรรค์ ความสามารถ และความมุ่งมั่นในการทำงาน ทำให้คุณสุเทพ วงศ์กำแหง ได้รับรางวัลแผ่นเสียง
ทองคำพระราชทาน และรางวัลเสาอากาศทองคำ หลายครั้ง ดังนี้
รางวัลแผ่นเสียงทองคำพระราชทาน
รางวัลเสาอากาศทองคำ
โล่เพชร
โล่เกียรติยศ สมาคมดนตรีแห่งประเทศไทย
ปริญญาบัตรศึกษาศาสตรบัณฑิตกิตติมศักดิ์ ศิลปกรรม
โล่เกียรติยศ วัดไทยในลอสแอนเจลิส
ปริญญาศึกษาศาสตรบัณฑิตกิติมาศักดิ์(ศิลปกรรม) สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล
โล่เกียรติยศพระราชทาน สมาคมดนตรีแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2525
รางวัลศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง(เพลงไทยสากล-ขับร้อง) สำนักงานคณะกรรมการ
วัฒนธรรมแห่งชาติ พ.ศ. 2533
งานการเมือง
สุเทพ วงศ์กำแหง เป็นศิลปินที่สนใจการเมือง มีส่วนสนับสนุนนักศึกษาให้เรียกร้องประชาธิปไตยสมัยเหตุการณ์ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2516 เป็นสมาชิกพรรคแนวร่วมสังคมนิยมแห่งประเทศไทย ต่อมาได้สมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้แทนราษฎร สังกัดพรรคพลังใหม่ และได้รับเลือกตั้งหลายสมัย มีโอกาสทำงานรับใช้สังคมมากขึ้น นับเป็นศิลปินที่ตั้งใจทำประโยชน์เพื่อประเทศชาติอย่างสม่ำเสมอตลอดมา
ในปี พ.ศ. 2525 เคยเข้าร่วมก่อตั้งและเป็นเลขาธิการพรรคพลังใหม่ ซึ่งนำโดยนายแพทย์กระแส ชนะวงศ์ หัวหน้าพรรค ร้อยตรีสมหวัง ศรีชัย รองหัวหน้าพรรค และแกนนำคนสำคัญอาทิเช่น ชัชวาลย์ ชมภูแดง บรรลือ ชำนาญกิจ ทินวัฒน์ มฤคพิทักษ์ และในวันที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2551 ได้ขึ้นเวทีชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ร้องเพลง “คน” และ “อำนาจเงิน” สด ๆ โดยไม่มีดนตรีประกอบอีกด้วย
เพลงที่ร้องประกอบภาพยนตร์และละครโทรทัศน์
ป่าลั่น จากภาพยนตร์เรื่อง เทพบุตรนักเลง
สกาวเดือน จากภาพยนตร์เรื่อง สกาวเดือน
สุรีรัตน์ล่องหน จากภาพยนตร์เรื่อง สุรีรัตน์ล่องหน
แผ่นดินของเรา จากภาพยนตร์เรื่อง โพระดก
มนต์รักบ้านนา จากภาพยนตร์เรื่อง มนต์รักบ้านนา
ดอกอ้อ จากภาพยนตร์เรื่อง ดอกอ้อ
แววมยุรา จากภาพยนตร์เรื่อง แววมยุรา
ยอดพธูเมืองแปร จากละครโทรทัศน์เรื่อง ผู้ชนะสิบทิศ
ปองใจรัก จากละครโทรทัศน์เรื่อง จุฬาตรีคูณ
จุฬาตรีคูณ จากละครโทรทัศน์เรื่อง จุฬาตรีคุณ
เพลงประเภททั่วไป
ในโลกแห่งความฝัน
ดาวลอย
เพียงคำเดียว
ดอกแก้ว
คำคน
ลาก่อนสำหรับวันนี้
ครวญ
ไม่อยากให้โลกนี้มีความรัก
ชั่วนิจนิรันดร
โลกนี้คือละคร
คนจะรักกัน
บทเรียนก่อนวิวาห์
คืนหนึ่ง
วิญญาณในภาพถ่าย
หวานรัก
ชื่นรัก
ฯลฯ
เพลงประเภทปลุกใจและศาสนา
เทิดพระเกียรติพระปิยมหาราช
สดุดีมหาราชา
พลังไทย
พระรัตนตรัย
พุทธธรรม
เดือนเพ็ญตรัสรู้
องคุลีมาร