รูปภาพเกี่ยวข้องกับบทเพลง > มาต่อเพลงกันเถอะ
ความเชื่อ คำสอนและปรัชญาศาสนาที่แทรกไว้ในบทเพลง
ทนาย:
เพลง - มะเหมี่ยวสวดมนต์
ขับร้องโดย - สุรพล สมบัติเจริญ
เมื่อมะเหมี่ยว หาชุดจุดเทียนไข
ยกขึ้นไว้ตรงหน้า [บักโกละหย่า บักโกละหย่า หย่าเล]
ก่อนนอนค่ำคืนนั่งสวดมนต์ ด้วยกุศลของข้า [เหล่ เล เล้ เล เล เหล่]
โลกนี้อนิจจังวะตะสังขารา ตั้งนะโมโกละช่า
อะระหังสัมมาสัมพุทโธ กุสะลาธัมมาปลาท่องโก๋
เวียนมาหาทุคคะโตทุคคะถานัง ทุคคะตึงทุคคะตังทุคคะถาโน
ทุกข์ไม่มีสตังค์ ทุกข์จนหัวโต
เมื่อเสร็จากสวดมนต์ บ่นคาถา
แล้ววางท่าให้โก้ [บักโกละหย่า บักโกละหย่า หย่าเล]
ดับเทียนแล้วค่อยมองย่องขึ้นเตียง ได้ยินเสียงโบเลโร่ [เหล่ เล เล้ เล เล เหล่]
จะล้มตัวนอน คว้าเอาหมอนใบโต
มะเหมี่ยวโค้งยงโย่ ใครเอาหมอนใบโตข้าไป
เอามือคลำซอกซอนยอนเข้าใน เอ๊ะนี่มันขาของใครบนหัวนอน
นั่งยองๆจ้องไปใจอาวรณ์ อ๋อนี่มันขางามงอนเมียข้าเอง...
ทนาย:
http://www.onmvoice.com/player/player.swf?a=75393&ap=0&color=red
กฎแห่งกรรม - ประภาศรี ศรีคำภา
*** ทำดีดีส่งให้ เห็นผล
ทำชั่วชั่วก็ดล ชั่วให้
ชั่วดีดุจตราตน ตีบอก ไว้นา
ใครชั่วใครดีไซร้ สืบได้ ด้วยกรรม***
มวลมนุษย์ในโลกนี้ เกิดมาต่างมีบุญกรรมประจำตน
ไพร่ผู้ดี มีหรือจน มนษย์ปุถุชนไม่อาจหลุดพ้นตัณหา
คอยเบียดเบียนต่อกันเรื่อยมา ใช้เล่ห์ต่างๆ นานา ไม่นำพาผลกรรมความดี
*** มนุษย์เอย อย่าเห็นกงจักรเป็นดอกบัว ***
กลัวเวรกรรมกันเถิดหนา แผ่ความเมตตา ให้กันด้วยไมตรี
โปรดได้คิดชีวิตคน ไม่เห็นใครจะทนหลีกให้พ้นเป็นผี
ควรเร่งคิดสร้างสรรสิ่งดี เพิ่มบุญเพิ่มบารมี เพราะความดีเหมือนเงาตามติดตัว
*** รอยโครอยเกวียน วงเวียนแห่งกรรม
ดีชั่วตัวเราทำ เป็นกฎแห่งกรรมของปุถุชน ***
ทนาย:
กฎแห่งกรรม
คำร้อง - ทำนอง …. จงรัก จันทร์คณา
ขับร้อง …. พิทยา บุญยรัตนพันธุ์
น่าเห็นใจ น่าเห็นใจ
น่าเห็นใจที่ใจเธอต้องเจ็บช้ำ
โดนลมคำรักลวงจนระกำ
โดนถูกเขาทำจนช้ำใครนะทำได้
หากคิดไปถึงครั้งหนึ่ง
รักครั้งหนึ่งซึ่งฉันเคยถูกทำลาย
เธอเป็นคนทำให้ฉันช้ำใจ
ฉันก็ช้ำใจไม่ผิดที่เธอช้ำอยู่
เหตุการณ์จะผ่านไป
ฉันยังจำได้ ความอัปยศอดสู
ฉันเคยเรียกเธอให้เธอมาดู
ให้เธอมาดูรอยช้ำเธอกลับหนำใจ
บัดนี้เธอเจอเข้าบ้าง
รู้หรือยังว่ามันเจ็บปวดแค่ไหน
ยามเรารักเขา เขากลับทำลาย
เขากลับทำลาย มันเจ็บใช่ไหมคนดี
ทนาย:
ชาติหน้าถ้ามี - ก้าน แก้วสุพรรณ
ชาติหน้าถ้ามี ให้พี่ได้พบรักเธอ
อยู่เรียงเคียงขวัญบำเรอ
จะรักเธอไม่รู้เสื่อมคลาย
ให้เราเคียงรักร่วมรักกันมิรู้แหนงหน่าย
รักกันจวบจนวันตายอย่ามีมารร้ายคอยตามลามม
ชาติหน้าถ้ามีให้พี่ได้พบดวงใจ
ให้เราครองรักกันไป
ให้รักกันไม่รู้เสื่อมทราม
อย่าได้แรมร้างสมอย่างใจรักในชาติหน้า
รักเอยอย่าทรมา รักเอยอย่าพาให้ร้าวระทม
มีกรรมขอทนแต่เพียงชาตินี้
มารแย่งรักมาตามราวี มารยังมีคนนิยม
มารเหยียดหยาม มารใจทรามข้าระทม
สาปแช่งมารเพราะข้าซานซม ระทมฤทัยเหลือทน
***
ชาติหน้าถ้ามีอย่ามีมารร้ายรังควาน
อย่าให้ความรักร้าวราน
อย่าพบมารตามผลาญผจญ
ตั้งจิตอธิษฐานขอเทพไท้เห็นใจข้าหม่น
แม้นชาติหน้ามีจงดล อย่าพ้นกันทุกชาติไปเลย
ซ้ำ ***
ทนาย:
http://www.4shared.com/embed/780897489/a9f994b9
มนต์ปาริชาติ - กังวาลไพร ลูกเพชร
ช) โอ้ปาริชาติผ่องพรรณพิลาศดั่งสวนสวรรค์ อบอวลชวนฝันวันคืนตื่นตา
ญ) เธอเหมือนเทพบุตร
ช) เธอดุจเทพธิดา ลอยล่องท่องฟ้าอำไพ
ญ) กลิ่นปาริชาติให้รำลึกชาติ เป็นจริงแน่หรือ ก็เรานี้หรือคือใครต่อใคร
ช) เธอนั้นคือผู้สร้าง ปางก่อนเป็นขวัญใจ เคยทุกข์ยากไร้ได้แนบเนื้อนอน
***
ญ) ฉันอาจเป็นปลา
ช) ฉันถ้าจะเป็น....อุทก
ญ) ฉันอาจเป็นนก
ช) ฉันอาจเป็นไม้ ให้เธอจับคอน
ญ) ฉันอาจเป็นดิน
ช) ฉันอาจเคยเป็น..สิงขร โอ้ดวงสมรอย่าแหนงแคลงใจ
ญ) โอ้ปาริชาติ บุพเพสันนิวาส เราสร้างปางหลัง
ช) จึงมีมนต์ขลังฝังตรึง หทัย
ญ) ปาริชาติชวนชื่น
ช) เรารื่นรมย์สมใจ
พร้อม) บุญหลังสร้างไว้จึงไม่แคล้วกัน
*** ซ้ำ
กล่าวกันว่า ปาริชาติ เรียกกันอีกชื่อหนึ่งว่า "ทองหลาง" แต่ที่ปรากฎอยู่ในวรรณคดี กามนิต-วาสิฏฐี ภาคสวรรค์นั้น เป็นคนละชนิด เทพบุตรเทพธิดาผู้จุติใหม่ในสวรรค์เมื่อได้ดมกลิ่นดอกปาริชาติ ในสวนสวรรค์นันทวัน จะทำให้รำลึกถึงบุญกุศลที่เป็นเหตุให้ตนได้บังเกิดในสวรรค์ได้
แต่ในคัมภีร์พระพุทธศาสนา จะไม่เรียกว่าปาริชาติ จะใช้คำว่า ปาริฉัตร ตามรูปทรงของต้นไม้ที่เป็นชั้นๆ ขึ้นไปเหมือนเศวตฉัตรนั่นเอง
นำร่อง
[0] ดัชนีข้อความ
[#] หน้าถัดไป
[*] หน้าที่แล้ว
Go to full version