เมื่อวันที่ 22 ธ.ค.57 นพ.โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยกับ "เดลินิวส์" ว่า แม้ขณะนี้กรมควบคุมโรคจะขาดแคลนนักระบาดวิทยา
เพราะติดปัญหาเรื่องค่าตอบแทน และความก้าวหน้าในวิชาชีพ แต่จากการลงพื้นที่ของนักระบาดวิทยา 20 คน ตรวจหาอันตรายจากโรคติดเชื้อต่างๆ
ตั้งแต่โรคอาหารเป็นพิษ จนถึงโรคติดเชื้อรุนแรง โดยจากข้อมูลใน จ.เชียงใหม่ พบการระบาดของโรคอาหารเป็นพิษ ตั้งแต่เดือน พ.ค.-ก.ย. 57
จากการตรวจสอบในเชิงลึกพบว่าเกิดจากการรับประทานข้าวมันไก่ถึง 15 เหตุการณ์ และเมื่อทบทวนรายงานการสอบสวนโรคของสำนักงานสาธารณสุข
จังหวัด (สสจ.) เชียงใหม่ พบเชื้ออหิวาเทียม (Vibrio parahaemolyticus) ถึง 13 เหตุการณ์ ซึ่งเกิดจากก้อนเลือดไก่ ในข้าวมันไก่ โดยเป็นเลือดไก่
ที่มาจากโรงงานผลิตแห่งหนึ่ง ซึ่งขณะนี้ยังพบการระบาดลักษณะนี้อย่างต่อเนื่อง
อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ตั้งแต่เดือน มิ.ย.-ธ.ค.พบรายงานการระบาดของโรคอาหารเป็นพิษที่เกี่ยวข้องกับไก่ และผลิตภัณฑ์จากไก่ในเขต
รับผิดชอบของสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 6 ทั้งหมด 20 เหตุการณ์ จำนวน 1,410 ราย กระจายไป 7 จังหวัด ได้แก่ จ.กาฬสินธุ์ ขอนแก่น หนองบัวลำภู
อุดรธานี บึงกาฬ มหาสารคาม และร้อยเอ็ด โดยพบการระบาดมากที่สุดในเดือน พ.ย.และสงสัยมาจากอาหารที่มีเลือดไก่เป็นส่วนประกอบ อาทิ ข้าวมันไก่
ลาบไก่ที่ผสมเลือด ตามลำดับ ซึ่งขณะนี้ได้แจ้งไปยังโรงงานผลิตเลือดไก่ ขอให้ปรับปรุง ซึ่งเร็วๆ นี้กรมควบคุมโรคได้เตรียมลงพื้นที่ตรวจสอบซ้ำ
นพ.โสภณ กล่าวว่า จะเห็นได้ว่านักระบาดวิทยามีความสำคัญมาก เพราะข้อมูลข้างต้นได้มาจากการลงตรวจสอบในพื้นที่ ดังนั้น นักระบาดจึงเป็นเหมือนนักสืบ
ที่มีความสำคัญในการทราบว่าแหล่งโรคมาจากที่ใด เพื่อป้องกันได้ตรงจุด และจากปัญหาความขาดแคลนบุคลากรตรงนี้ ตนได้ทำหนังสือถึงนพ.รัชจะ รัชตะนาวิน
รมว.สาธารณสุข ให้พิจารณาปรับค่าตอบแทนให้กับบุคลากรกลุ่มนี้ และระหว่างการพิจารณาอยู่นั้น กรมควบคุมโรคได้จัดระบบในการสร้างแรงจูงใจให้กับแพทย์
ระบาดวิทยาด้วยการเพิ่มเบี้ยเลี้ยงรายวันสำหรับคนลงพื้นที่ภาคสนามจากวันละ 100 กว่าบาท เป็น 200 บาทต่อวัน ขณะเดียวกันก็เร่งผลิตบุคลากรกลุ่มนี้เพิ่ม
ด้วยการอบรมบุคลากรสายเชี่ยวชาญอื่นๆ เบื้องต้นจะพยายามให้ได้ 30-40 คน เพราะการผลิตนักระบาดระดับผู้เชี่ยวชาญโดยตรง อาจจะค่อนข้างยาก.