เรา..เพียง..แค่..เศษ..เสี้ยว..ส่วน..หนึ่ง..ใน..ฝัน..เธอ..หรือ...ทอฝัน
เรา..เรื่มต้น จากในฝัน อันว่างเปล่า
เพียง..สองเรา ต้องเฝ้าคอย ร้อยเรียงฝัน
แค่..สัญญา ปากกับใจ ให้ตรงกัน
เศษ..เสี้ยวฝัน ให้หมั่นหา มาต่อเติม
เสี้ยว..นาที ที่รวมฝัน นั้นมีค่า
ส่วน..ที่ขาด ไขว่คว้าหา มาแต่งเสริม
หนึ่ง..เป็นสอง ต้องแบ่งคั่น จากฝันเดิม
ใน..ส่วนเพิ่ม ไร้แม้ฉัน ในฝันเรา
ฝัน..ยังไกล คงไร้แรง จะแข่งสู้
เธอ..ก็รู้ ต่างต้องอยู่ อย่างเงียบเหงา
หรือ..แท้จริง สิ่งที่วาด อาจบางเบา
ทอฝัน..เรา จึงเลือนลาง ห่างจากจริง
แม็ท เมืองชล ๑๑/๑๐/๕๗ ๐๓.๒๒
แนวคิดได้มาจากกลอนเปล่า ซึ่งจำไม่ได้แล้วว่าเคยอ่านมาจากที่ใด เป็นไดอารี่ หรือบันทึกอะไรสักอย่าง แต่ของเขาขึ้นต้นแบบนี้แหละครับ คือคำแรกของวรรค สามารถอ่านลงในแนวดิ่งแล้วได้ใจความ หรือมีความหมาย แต่นั่นเป็นกลอนเปล่าซึ่งไม่ได้มีกฏอะไรมากนัก ผมนำมาปรับใส่กลอนซึ่งอาจจะเป็นบทกลอนที่ใช้คำ 9 คำ หรือ 9 พยางค์ทั้งหมด แค่ 3 บทนี่ก็เอาเรื่องเหมือนกัน เพราะนอกจากจะตั้ง กำหนดคำให้สามารถสื่อความหมายได้แล้ว ยังต้องนึกให้ถึงบทที่จะส่งในบทต่อไปให้ได้ด้วย บางคำใช้แล้วเปลี่ยนเรื่องไปเลย หรือถ้าไปไม่ได้จริงต้องเปลี่ยนคำ หรือต้องเริ่มใหม่กันเลย ลองๆดูครับ เผื่อท่านใดมีแนวคิดหรือติชมให้คำแนะนำกันได้นะครับ ว่างๆจะลองแต่งให้ยาวๆกว่านี้ครับ


หลายๆคนก็คงงงว่า ทอฝัน คือ อะไร มาเกี่ยวอะไร ทอฝัน คือชื่อของผู้หญิงคนหนึ่งครับ แค่อ่านหัวข้อแล้ว ก็เหมือนๆคำถามที่ถามคนที่ชื่อ ทอฝัน แต่เนื้อหาอาจจะไม่เกี่ยวกับคนที่ชื่อทอฝันเลย ผมชื่นชอบชื่อนี้ แค่อยากจะใช้ชื่อของเธอมาเป็นชื่อบทกลอน ค่อยๆอ่านและคิดตามทีละวรรคอย่างช้าๆครับ ปิดส่วนที่เหลือไว้ก่อนก็ได้ครับ เพราะถ้าอ่านทั้งหมดแล้วแปลความหมายทีเดียวอาจจะไม่ค่อยเข้าใจได้ครับ

