ขอเล่าเรื่อง เบื้องหลัง ครั้งเก่าก่อน เป็นบทกลอน วอนใหว้ ให้คิดถึง
เมื่อกาลเปลี่ยน ใจเปลี่ยน เพียรรำพึง กำหนดซึ้ง ถึงเรื่องเก่า คราวก่อนมา ...
เทศกาล สงกรานต์ นานเนาว์นึก ห้วงรู้สึก นึกได้ ให้หรรษา
ทั้งผู้คน ล้มหลาม งามจรรยา ปราถนาสร้างกุศล เพื่อพ้นเวร
เตรียมข้าวปลา อาหาร จานสำรับ อีกสำทับ กับข้าว คราวแลเห็น
พร้อมของหวาน จานผลไม้ ได้ประเคน สวยงามเด่น เป็นกุศล ชนชื่นบาน
นพผู้ใหญ่ ใฝ่ธรรมะ ฟังพระเทศ ตัดกิเลส ละอบาย ใจสุขสันต์
ไม่หันหน้า ห้ำหั่น ประจัญบาน ทุกพื้นบ้าน ครองธรรมะ พระอบรม
ยามสงกรานต์ สนานสนุก สุขรดน้ำ ดูงดงาม น้ำใส ชื่นใจสม
รดเรียบร้อย พลอยหายร้อน ผ่อนระทม ไม่ตะโบม โหมทับ จับร่างกาย
การละเล่น เริ่มก่อน มอญซ่อนผ้า ทอยสะบ้า ตี๋จับ วิ่งตับหาย
ทั้งลูกช่วง ควงพลอง กระบองไฟ จุดตะไล ไฟพะเนียง เสียงอื้่อ อึง
กาคาบไข่ ไฟเย็น เล่นซักเส้า ถนัดเมา เอ๊ากระแซ่ แลถลึง
สองกะลา ว่าไป ได้หน้าตึง หมดใหผึ่ง ทลึ่งถลา กะลากระดอน
สงกรานต์ใหม่ กลายเห็น เพียงเล่นน้ำ บุญไม่ทำ ธรรมไม่เข้า เฝ้าหลอกหลอน
รดสาดน้ำ งามหน้า ผ้าเปียกปอน อรชร โชว์ส่วนสัด รัดร่างกาย
ตะลอนเมา เช้ายันบ่าย คล้ายหมดทุกข์ เกษมสุข ซาบซ่าน นั่นใจหาย
เดินดุ่มดิ่ง ดำลง ตรงอบาย ทางวอดวาย ไม่ตระหนัก จักตรอมตรม ...
จะว่าไป คล้ายอิจฉา ดูตาร้อน เลยวัยอ่อน ค่อนเขา ว่าเหล้าขม
ก็แอบกิน กันแอ่น หลายแบนกลม พล่ามตามลม ตามหลัก นักกลอนเมา อิอิอิ ..
ก็ด้วยผ่าน ร้อนเย็น เห็นมามาก ก็ไม่อยาก เหลวไหล อายคนเขา
ก็อยากเตือน ลูกหลาน ว่าการเมา เสื้อกระเป๋า ลูกแกหนา ค่าเหล้าเอ็ง ......
จบละโว๊ย .. ไปดูสาวใส่ผ้าบางเปียกน้ำดีฝ่า อิอิอิ เพลินตา

