ผู้เขียน หัวข้อ: บทเพลง...และเรื่องราวของ...ชรินทร์ นันทนาคร  (อ่าน 115052 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 3 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ จรีพร

  • Global Moderator
  • *****
  • ออฟไลน์
  • 5592
    6479
  • เพศ: หญิง
  • เก่าแก่มานมนาน


<a href="https://www.youtube.com/v/KwvbKXHteaM?hl" target="_blank" class="new_win">https://www.youtube.com/v/KwvbKXHteaM?hl</a> 
เครดิต : คุณAphirakchuchai78 และ youtube
 

เพลง "คำมั่นสัญญา" 
   


คำร้อง/ทำนอง : สุรพล แสงเอก
ผู้ขับร้อง : ชรินทร์ นันทนาคร

ถึงม้วยดินสิ้นฟ้ามหาสมุทร
ไม่สิ้นสุดความรักสมัครสมาน
แม้อยู่ในใต้หล้าสุธาธาร
ขอพบพานพิศวาสไม่คลาดคลา

แม้นเนื้อเย็นเป็นห้วงมหรรณพ
พี่ขอพบศรีสวัสดิ์เป็นมัจฉา
แม้ เป็นบัวตัวพี่เป็นภุมรา
เชยผกาโกสุมปทุมทอง

แม้นเป็นถ้ำอำไพใคร่เป็นหงส์
จะร่อนลงสิงสู่เป็นคู่สอง
ขอติดตามทรามสงวนนวลละออง
เป็นคู่ครองพิศวาสทุกชาติไป




:'e:135 :'e:135 :'e:135


+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=22536
ระยะทางพิสูจน์ม้า  กาลเวลาพิสูจน์คน

ออฟไลน์ จรีพร

  • Global Moderator
  • *****
  • ออฟไลน์
  • 5592
    6479
  • เพศ: หญิง
  • เก่าแก่มานมนาน


เครดิต : คุณKrung Thai Audio Classic และ youtube

     เพลง "สงขลา"     

คำร้อง : อิงอร
ทำนอง : สมาน กาญจนะผลิน
ผู้ขับร้อง : ชรินทร์ นันทนาคร

สงขลาฝั่งนที
กลิ่นสารภียังตรึงเตือน
แสงเดือนเตือนตรึงใจ
สนแกว่งไกว ดูแสนงาม

เรือลำน้อยลอยตาม
หน้าน้องงาม ละห้อยหา
เสียงสน กระซิบสัญญา
ฝากนภา ให้เตือนใจ

สั่งรักพี่ไว้
น้องมอบใจ ให้อาลัยหา
พี่ไม่ลืมสงขลา
เสียงสนที่เคยสัญญา
ตราบจน ชั่วชีวา สิ้นสลาย 




:'e:135 :'e:135 :'e:135


+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=22536
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04/ก.ย./15 01:39น. โดย จรีพร »
ระยะทางพิสูจน์ม้า  กาลเวลาพิสูจน์คน

ออฟไลน์ จรีพร

  • Global Moderator
  • *****
  • ออฟไลน์
  • 5592
    6479
  • เพศ: หญิง
  • เก่าแก่มานมนาน


เครดิต : คุณสารนาถ พรหมแก้วกุล และ youtube


เพลง "ลืมคำสั่ง"     

คำร้อง/ทำนอง : ประเทือง  บุญญประพันธ์
ผู้ขับร้อง : ชรินทร์ นันทนาคร

สั่งน้ำฝากธารสั่งจันทร์ฝากฟ้า
เธอจำได้ไหมว่า เธอเคยสั่งให้ข้าคอย
นกที่สร้างรังนั้นยังฝังรอย
รักที่สั่งให้คอย ใยถึงลืมคำสั่ง

สั่งฟ้าฝากดินสั่งพิณฝากสาย
เธอคงจำไม่ได้ เธอเคยสั่งให้ใครหวัง
รักสั่งลมไปไร้ความจริงจัง
รักจึงไม่จีรัง ลืมคำสั่งไปเสียสิ้น

ต่อไปนี้อย่าสั่งอีกเลย กลัวแล้วเอย
ฉันกลัวรักสั่งจากลิ้น จะสั่งกับฟ้าหรือสั่งกับดิน
ฉันไม่อยากได้ยิน คำสั่งจากลิ้นที่สิ้นดวงใจ

สั่งรักฝากใจสั่งไปด้วยลิ้น
โถคงลืมไปสิ้น เคยชินลิ้นสั่งเรื่อยไป
ฉันเข็ดคำลวง ของเธอจนตาย
เห็นเธอสั่งกับใคร ฉันเศร้าใจเสมอ



:'e:135 :'e:135 :'e:135


+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=22536
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04/ก.ย./15 01:41น. โดย จรีพร »
ระยะทางพิสูจน์ม้า  กาลเวลาพิสูจน์คน

ออฟไลน์ จรีพร

  • Global Moderator
  • *****
  • ออฟไลน์
  • 5592
    6479
  • เพศ: หญิง
  • เก่าแก่มานมนาน

<a href="https://www.youtube.com/v/vO-OLx2jOOk?hl" target="_blank" class="new_win">https://www.youtube.com/v/vO-OLx2jOOk?hl</a> 
เครดิต  :  คุณAphirakchuchai78 และ youtube
 

เพลง "ยังคอย"     

คำร้อง/ทำนอง :  ร้อยแก้ว รักไทย
คำร้อง : ร้อยแก้ว รักไทย
ทำนอง :  มงคล อมาตยกุล
ผู้ขับร้อง : ชรินทร์ นันทนาคร

ยังคอย ยังคอย ยังคอยรออยู่ ทุกลมหายใจ
รักเธอเท่าใดใจคงจะรู้
แม้นเกลียดก็บอกอย่าหลอกให้คอย เฝ้าน้อยใจอยู่
เหลือทน ทนดูเธอเปลี่ยนไป

ใจจริง ใจจริง นั้นคอยแต่ยั่ว พี่มัวเหลิงลอย
หลายปีเฝ้าคอยยังทนอยู่ไหว
รับปากกันหน่อยอย่าปล่อยละเมอ เฝ้าเพ้อรักใคร่
บอกหน่อยได้ไหมว่าใจเมตตา

หรือมีเพื่อนใหม่ ถึงได้เมินเฉย
ลืมแล้วที่เคย สัญญา
อย่างำเงียบไว้โปรดจงเฉลย เอ่ยมาเถิดหนา
หลงรอใจพา รำพึง

ใจดำ ใจดำ แกล้งทำให้คลั่ง เพื่อหยั่งน้ำใจ
รักเธอแค่ไหนใจคงซาบซึ้ง
รักก็จงตอบจะมอบใจภักดิ์ ตอบรักคำหนึ่ง
อย่าปล่อยให้ถึงละเมอกอดหมอน



:'e:135 :'e:135 :'e:135


+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=22536
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02/ก.ย./17 21:41น. โดย จรีพร »
ระยะทางพิสูจน์ม้า  กาลเวลาพิสูจน์คน

ออฟไลน์ จรีพร

  • Global Moderator
  • *****
  • ออฟไลน์
  • 5592
    6479
  • เพศ: หญิง
  • เก่าแก่มานมนาน

[/youtube]
เครดิต : คุณpangpond1184  และ youtube


เพลง "ลืมไม่ลง"     

คำร้อง : เอิบ ประไพเพลงผสม 
ทำนอง : สมาน กาญจนะผลิน
ผู้ขับร้อง : ชรินทร์ นันทนาคร

น้อง...เอย ทุกวันแม่เคยออดออเซาะ
หวานฉ่ำฉอเลาะเพราะจริงถ้อยคำ พี่จำไว้ไม่เคยลืม
ปลาบปลื้มยังลืมไม่ลง พี่เฝ้าประโลมโฉมงาม
ไม่เคยขัดความประสงค์   น่ารักภักดีซื่อตรง
น้องทำให้หลงติดใจ

น้องเอย...น้องพี่ไม่เคยพรากจากกัน
เห็นหน้าทุกวันรำพันพูดจา แม่กระซิบว่าสุขจริง
แอบอิงคลอคู่อยู่ใกล้  พร่ำพรอดออดความรักกัน
ดวงใจผูกพันธ์หวั่นไหว ร่วมรักเริงรื่นชื่นใจ
เหมือนดังอยู่ในวิมาน

สมใจได้ชิดชม ใจรวมอยู่ร่วมภิรมย์
สุขสมอย่างนี้นาน นาน
ชื่นชีวิต จุมพิตชื่นฉ่ำ สุขสำราญ
รักของเราซึมซ่าน หวานอยู่ไม่วาย

น้องเอย...หรือชาติก่อนเคย คู่เคียงกัน
รักร่วมสัมพันธ์กันมาแน่นอน ด้วยบุญชาติก่อนเรามี
ชาตินี้ไม่มีเสื่อมคลาย ได้เจอะคู่ชมสมปอง
เคยเป็นคู่ครองมั่นหมาย พี่รักจนชีพพี่วาย
รักยังไม่หาย ไม่ลืม



:'e:135 :'e:135 :'e:135


+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=22536
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15/ก.พ./16 01:40น. โดย จรีพร »
ระยะทางพิสูจน์ม้า  กาลเวลาพิสูจน์คน

ออฟไลน์ จรีพร

  • Global Moderator
  • *****
  • ออฟไลน์
  • 5592
    6479
  • เพศ: หญิง
  • เก่าแก่มานมนาน


<a href="https://www.youtube.com/v/DCf7-7Bvmkk?hl" target="_blank" class="new_win">https://www.youtube.com/v/DCf7-7Bvmkk?hl</a> 
เครดิต  :  คุณAphirakchuchai78 และ youtube
 

เพลง "กากีเหมือนดอกไม้"     

คำร้อง/ทำนอง : ไสล  ไกรเลิศ
ผู้ขับร้อง : ชรินทร์ นันทนาคร

โอ้มาลีนี้ใครชมเล่น
กลีบเจ้าเป็นรอยช้ำ ใครทำให้เจ้าเฉา
หรือภุมรา แกล้งมาภิรมย์ชมเจ้า
มองแล้วพายิ่งเศร้า เจ้าเคยพริ้งเพรา
กลับมาอับเฉาเพราะมือคนชม

ใครอยากจะรักใครอยากจะดม
ใครอยากจะชมนิยมว่าเด่นดี

เปรียบกานดาโสภางามผ่อง
โอ้รูปทองใจทราม มีนามว่ากากี
สวยอรชรกลิ่นขจรหอมดังมาลี
กรรมของนางเทวีเจ้างามโสภี
แต่ใจบัดสีเพราะมีอารมณ์

ใจอยากจะรักใจอยากจะชม
ใจกลับระทมเพราะลมสวาทเอย




:'e:135 :'e:135 :'e:135


+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=22536
ระยะทางพิสูจน์ม้า  กาลเวลาพิสูจน์คน

ออฟไลน์ จรีพร

  • Global Moderator
  • *****
  • ออฟไลน์
  • 5592
    6479
  • เพศ: หญิง
  • เก่าแก่มานมนาน


เครดิต : คุณจารุณี ใจแก้ว และ youtube


     เพลง "จากน้อง"     

คำร้อง/ทำนอง :  สาโรจน์ เสมทรัพย์
ผู้ขับร้อง : ชรินทร์ นันทนาคร

จากน้องไปไกล
อยู่แห่งไหน ดวงใจพี่นี้เป็นห่วง
พี่ยังรัก พี่ยังหวง
พี่ยังห่วง หวงเธอเหมือนดังดวงใจ

ขอบฟ้ากั้นกาง
ใช่กีดขวาง แนวทางแห่งรักเราได้
สุดขอบฟ้า กว้างเพียงไหน
ยังคงได้ หวนคืนรับขวัญแก้วตา

หมั่นนึกถึงพี่ หมั่นสร้างความดี
ไว้รอคอยพี่กลับมา
กอดน้องแนบหมอนนิทรา
สุขเถิดหนา แก้วตาจงอย่าโศกศัลย์

เก็บน้ำตาไว้
อย่าให้ไหล พาใจพี่คิดไหวหวั่น
ยิ่งได้รู้ เจ้าโศกศัลย์
พี่ยิ่งหวั่น หวิวทรวงแทบจะขาดใจ



:'e:135 :'e:135 :'e:135


+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=22536
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04/ก.ย./15 01:45น. โดย จรีพร »
ระยะทางพิสูจน์ม้า  กาลเวลาพิสูจน์คน

ออฟไลน์ จรีพร

  • Global Moderator
  • *****
  • ออฟไลน์
  • 5592
    6479
  • เพศ: หญิง
  • เก่าแก่มานมนาน


เครดิต : คุณsuthep kongklad และ youtube
 

เพลง "เพื่อน้อง"     

คำร้อง :ชาลี อินทรวิจิตร
ทำนอง : สมาน กาญจนะผลิน
ผู้ขับร้อง : ชรินทร์ นันทนาคร

เพื่อ น้อง พี่ปองหมายพยายาม
เพ้อพะวง เพียงนงราม
คอยติดตามเหมือนเงาตามตัว
เพื่อ น้องพี่ปองรักมาพันพัว
เพ้อรำพึงจึงเมามัว ยังหวั่นกลัวหลวมตัวลืมตาย

มอบ รักฝากใจไว้เป็นประกัน
ขายชีวิตเป็นเดิมพัน
ใจประกันมิมีวันคลาย
อย่า ทำให้พี่ช้ำเพียงเดียวดาย
แม้ชวดชมตรมใจตาย คงจะอายทั่วทั้งโลกา

อย่าทำ ให้พี่ข้องจิต
พี่นั่งและนอนยังคิด อยู่ตั้งหลายเวลา
ตรมอยู่ในทะเลน้ำตา ไม่รักพี่ก็บอกมา
ไม่ปรารถนา มากวนเจ้า

อยากรู้ก็จงคิดดูเป็นไร ทั้งโลกนี้มีใครใคร
คอยใส่ใจเหมือนดังเป็นเงา
อยาก รู้ว่าใครภักดีนงเยาว์
น้องคิดดูเพียงเลาเลา
ใครจะเท่าพี่รักเจ้าเอย     



:'e:135 :'e:135 :'e:135


+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=22536
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04/ก.ย./15 01:47น. โดย จรีพร »
ระยะทางพิสูจน์ม้า  กาลเวลาพิสูจน์คน

ออฟไลน์ จรีพร

  • Global Moderator
  • *****
  • ออฟไลน์
  • 5592
    6479
  • เพศ: หญิง
  • เก่าแก่มานมนาน


เครดิต : คุณ Krung Thai Audio Classicและ youtube


เพลง "น้ำตาแสงไต้"   

คำร้อง : มารุต+เนรมิต
ทำนอง : สง่า อารัมภีร
ผู้ขับร้อง : ชรินทร์ นันทนาคร

นวลเจ้าพี่เอย คำน้องเอ่ยล้ำคร่ำครวญ
ถ้อยคำเหมือนจะชวน ใจพี่หวนครวญคร่ำอาลัย

น้ำตา..อาบแก้ม เพียงแซมเพชรไสว
แวววับจับหัวใจ เคล้าแสงไต้ งามจับตา

นวลแสงเพชร เกล็ดแก้วอันล้ำค่า
ยามเมื่อแสงไฟส่องมา แวววาวชวนชื่นชม

น้ำตาแสงไต้ ดื่มใจพี่ร้าวระบม
ไม่อยากพรากขวัญภิรมย์
จำใจข่มใจไปจากนวล

นวลเจ้าพี่เอย..นวลเจ้าพี่เอย



ที่มาของเพลง "น้ำตาแสงไต้"

ส่วนทางด้านการประพันธ์คำร้องนั้น ครูสง่า อารัมภีร ได้คำแนะนำจากเรืออากาศโท ทองอิน
บุณยเสนา ซึ่งเป็นนักเขียนชื่อดังที่มีนามปากกาว่า "เวทางค์" (ที่บอกรงค์ วงษ์สวรรค์ว่า "เว"
มาจากคำว่า way ที่แปลว่า "ทาง" แล้วเติม "ค์" เท่านั้นเอง) รวมทั้งครูมารุต (ทวี ณ บางช้าง)
และ ครูเนรมิต (อำนวย กลิสนิมิ) ซึ่งมีบทบาทอย่างสำคัญในการเขียนบท
และกำกับละครเวทีในยุคนั้น
เป็นพี่เลี้ยง คอยให้คำปรึกษาอยู่ด้วยตลอดอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะผลงานเพลงอมตะ
 "น้ำตาแสงไต้" อันเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวาง แพร่หลายมานานหลายสิบปี

ครูสง่า อารัมภีร เล่าถึงความเป็นมาของเพลงน้ำตาแสงไต้ นี้ไว้อย่างน่าสนใจยิ่งว่า

ผมจำได้แม่นยำว่า "วันนั้น" ในราวเดือน พฤศจิกายน พ.ศ.2487 ศิวารมณ์กำลังซ้อม
ละครเรื่องพันท้ายนรสิงห์ อยู่ที่ห้องครูเล็กศาลาเฉลิมกรุง ดูเหมือนจะเข้าโปรแกรม
วันที่ 10 พฤศจิกายน เราซ้อมกันอย่างหนัก เพราะเป็นสมัยที่เริ่มงานกันใหม่ ๆ กำลังฟิต

สุรสิทธิ์ จก สมพงษ์ และทุก ๆ คนมาซ้อมตั้งแต่เช้าจรดเย็นทุกวัน

เนรมิต มารุต สมัยโน้น เข้าคู่กันคร่ำเครียดกับบท และวางคาแร็กเตอร์ตัวละครเป็นการใหญ่
นาฏศิลป์ก็ซ้อมกันไป นักร้องก็ร้องกันไป เสียงแซดไปทั่วห้องเล็กเฉลิมกรุง
ตั้งแต่ 9 น. ถึง 15.30 น. ทุกวัน

ตอนนั้นผมมีหน้าที่แต่เพียงดีดเปียโนสำหรับนาฎศิลป์เขาซ้อมและต่อเพลงนักร้องเท่านั้น
ผู้แต่งเพลงศิวารมณ์คือ ประกิจ วาทยกร และ โพธิ์ ชูประดิษฐ์ ผมเป็นนักดนตรีใหม่ๆ
ยังไม่ถึงปีเลย เพลงก็ยังแต่งกับเขายังไม่เป็น และไม่เคยคิดว่าจะแต่งกับเขาได้ยังไง
ได้แต่ดูเขาแต่งเท่านั้น วันหนึ่ง ๆ ก็ได้แต่ดีดเปียโนจนเมื่อยนิ้วไปหมด..."

เหตุการณ์ต่อมก็คือ เพลงเอกของเรื่องยังแต่งไม่เสร็จ แม้ครูเพลงทั้งสองจะแต่งมาให้แล้ว
แต่เจ้าของเรื่องและผู้กำกับยังไม่พอใจ เพราะต้องการให้เพลงนั้นมีท่วงทำนองแบบไทย ๆ
หวานเย็นและเศร้า โดยที่ทำนองเพลงของครูประกิจออกไปทางฝรั่ง ส่วนของครูโพธิ์
ก็เป็นไทยครึ่ง ฝรั่งครึ่ง ทุกคนต่างพากันอึดอัด เพราะเกรงว่่าจะเสร็จไม่ทันวันเปิดการแสดง

เย็นวันนั้นครูสง่า อารัมภีร ก็ไปนั่งดื่มเหล้ากับครูเวทางค์ ที่ร้านโว่กี่ตรงข้ามศาลาเฉลิมกรุง
และก็ปรารถถึงการแต่งเพลง "น้ำตาแสงไต้" ซึ่งเป็นเพลงเอกในละครเรื่อง "พันท้ายนรสิงห์"
ที่ยังค้างคาอยู่ไม่แล้วเสร็จ

ครูทองอินหรือเวทางค์ ก็บอกว่า

"เพลงไทยนั้นมีแยะ แต่ไอ้รสหวานเย็น และเศร้าที่หง่าว่ามันมีน้อย ที่อั๊วชอบมากและรู้สึกหวาน
เย็นเศร้าก็เห็นจะมีแต่ เขมรไทรโยค และลาวครวญเท่านั้น"

เมื่อพูดขาดคำ ครูเวทางค์ก็ร้องให้ฟัง เสียงดังลั่นร้านว่า

"ร้อยชู้หรือจะสู้เนื้อเมียตน เมียร้อยคนหรือจะสู้พระแม่ได้..."

ร้องไม่ทันจบก็ขึ้นเพลงใหม่

"เสียงนกยูงทอง มันร้องโด่งดัง หูเราฟัง หูเราฟัง..." ทันที จนคนในร้านพากันขำ หัวร่อกันทุกคน

ซึ่งคืนนั้นครูสง่า อารัมภีร เล่าว่า ตนเองได้ข้ามฟากมานอนที่เก้าอี้ยาวของแผนกฉาก
แล้วหลับฝันไปว่า

"...มีคนอยู่ 4 เป็นชาย 3 หญิง 1 แต่งกายแปลกมากเหมือนนักรบไทยโบราณ เขาถอดหมวก
วางไว้บนเปียโน คนเล่นเปียโนผิวค่อนข้างขาว หน้าตาคมคาย อีกคนหนึ่งผิวคล้ำ
นั่งอยู่ทางขวาของเปียโน คนที่ 3 อายุมากกว่า 2 คนแรก ผมหงอกประปราย ท่าทางเป็นผู้มีบุญ
หนักศักดิ์ใหญ่ หน้าตาอิ่มเอิบ ปล่อยผมยาวปรกบ่า กำลังเอามือท้าวเปียโนอยู่ด้านซ้าย..."

ในความฝันนั้นครูสง่า อารัมภีร เล่าว่า ชายคนแรกที่ชื่อเทพ เล่นเปียโนเพลงเขมรไทรโยค
ส่วนผู้หญิงที่ชื่อธิดานั้น เล่นเพลงลาวครวญ และชายผิวคล้ำคนที่สามที่ชื่อว่า อมรนั้นนำเอาเพลง
ทั้งสองเพลงมาผสมกันอย่างไพเราะ และกลมกลืนกัน

ครูสง่า อารัมภีร เขียนเล่าเอาไว้ว่า

"...ท่านที่รัก เสียงที่ลอยมาจากเปียโนนั้น สำเนียงไทยแท้มีรส "หวานเย็นเศร้า"

ศิษย์ทั้งสองของเขาจับมือกันอย่างเป็นสุข หน้าของผู้มีอายุยืนยิ้มละไม

คุณครูอมรได้รวมวิญญาณของเขมรไทรโยคและลาวครวญ ให้เป็นเกลียวเขม็งเข้าหากัน
อย่างสนิทแนบ สำเนียงและวิญญาณถอดออกมาจากเพลงทั้งสองอย่างครบถ้วน
โดยที่เพลงเดิมไม่ได้เสียหายอะไรแม้แต่น้อย ดูดุจสองวิญญาณเก่า เข้าเคล้ากันจนเกิด
วิญญาณใหม่ที่สวยงามขึ้นอีกวิญญาณหนึ่ง..."

เพราะเหตุที่ครูสง่า อารัมภีร เปงเป็นนักเขียนเล่าเรื่องเกี่ยวกับผี ๆ สาง ๆ และวิญญาณต่าง ๆ
และมีแฟนติดตามอ่านกันมากมายหลายเรื่องถึงขนาดพิมพ์รวมเล่มในชื่อว่าหนังสือแจ๋วเจอผี
โดยใช้นามปากกาว่า "แจ๋ว วรจักร" เช่นเรื่อง วิญญาณสุนทรภู่ แจ๋วเจอพี่เหม ฯลฯ
การเขียนเล่าเรื่องในแนวแบบนี้จึงน่าอ่าน น่าติดตาม

ครูสง่า อารัมภีร เล่าต่อไปอีกว่า

"...บ่าย 3 โมงวันนั้น...เมื่อนาฎศิลป์และละครกลับกันไปแล้ว บนห้องเล็กเหลือ
ผม เนรมิต มารุต สุรสิทธิ์

เนรมิตและมารุต พากันบ่นถึงเพลง "น้ำตาแสงไต้" ว่า ทำนองที่คุณประกิจส่งมายังใช้ไม่ได้
ไม่ตรงกับความประสงค์ สุรสิทธิ์บ่นว่าเหลืออีก 3 วัน เดี๋ยวก็ร้องไม่ทันหรอก

ผมนั่งฟังเขาสักครู่ ก็หันมาดีดเปียโน

ท่านที่รัก ความรู้สึกที่บอกไม่ถูกได้พานิ้วมือของผมบรรเลง ๆ ไปตามอารมณ์ ผมก็ไม่รู้ว่า
เป็นเพลงอะไร เพราะเคลิ้ม ๆ ยังไงพิกล ก็ได้ยิน เนรมิต ถามว่า

"หง่า...นั่นเพลงอะไร?"

ผมสะดุ้งพร้อมกับนึกขึ้นได้ และจำทำนองได้ทันทีว่าเป็นเพลงที่ครูอมรดีด เป็นเพลงที่ผมได้ฟัง
อย่างประหลาด ผมจำได้หมด

ในบัดนั้น ผมหันไปถามเนรมิตว่า "เพราะหรือฮะ"

เนรมิตพยักหน้า พลางบอกให้ผมเล่นใหม่ ผมก็บรรเลงอีกหนึ่งเที่ยว ทั้ง เนรมิต และมารุต
ก็พูดขึ้นว่า นี่แหละ "น้ำตาแสงไต้"

ผมดีใจรีบจดโน้ต และประพันธ์คำร้องกันเดี๋ยวนั้น จากพล็อตขององค์ชายใหญ่เจ้าของเรื่อง
มารุตเอ่ยขึ้น..."นวล เจ้าพี่เอย..." เนรมิตต่อ "คำน้องเอ่ยล้ำคร่ำครวญ" แล้วก็ช่วยกันต่อ
"ถ้อยคำดั่งเหมือนจะชวน ใจพี่หวนครวญคร่ำอาลัย"

พอจบประโยคแรก สุรสิทธิ์ก็ร้องเกลาทันที ร่วมกันสร้างจบคำร้องในราว 10 นาทีเท่านั้นเอง

สุดท้ายเพลงก็ทันละครแสดง สมัยนั้นฉากสุดท้ายเมื่อทำนอง "น้ำตาแสงไต้" พลิ้วขึ้น
คนร้องไห้กันทั้งโรง แม้พันท้ายฯ จะสร้างเป็นภาพยนตร์ ก็ยังใช้ "น้ำตาแสงไต้" เป็นเพลงเอกอยู่"


เครดิต : หนังสือตำนานครูเพลง เพลงไทยสากลลูกกรุง โดย คีตา พญาไท





:'e:135 :'e:135 :'e:135




+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=22536
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04/ก.ย./15 01:30น. โดย จรีพร »
ระยะทางพิสูจน์ม้า  กาลเวลาพิสูจน์คน


เพลงไพเราะทั้งนั้นเลยแต่มีเปลี่ยนบ้างไปตามกาล

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=22536

ออฟไลน์ จรีพร

  • Global Moderator
  • *****
  • ออฟไลน์
  • 5592
    6479
  • เพศ: หญิง
  • เก่าแก่มานมนาน


เครดิต : คุณsuchat somboonsuk และ youtube


     เพลง "รมดี"   

คำร้อง/ทำนอง : สุรพล โทณะวณิก
ผู้ขับร้อง : ชรินทร์ นันทนาคร

รมดี เธอคือสตรี ที่แสนประเสริฐ   (ที่แสนประเสริฐ)
รมดี ทั้งสวยทั้งเลิศ กว่ามวลนารี    (กว่ามวลนารี)
รมดี  (โอ้รมดี)   รมดี  (โอ้รมดี)
รมดี  (โอ้รมดี)   พี่รักเธอ  (พี่รักเธอ)   เหนือสิ่งใด

แม้นหากขาดเธอ รมดี เหมือนพี่สิ้นสูญดวงใจ
เหลือเพียงซากรักเดินได้  เห็นใจอย่าให้พี่ระทม
แม้นโลกสิ้นสูญพระสุรีย์ ทะเลแห้งไม่มีแม้โคลนตม
สิ้นอื่นสิ้นไปไม่ระทม อย่าให้สิ้นคู่ชม รมดี

รมดี เธอคือสตรี ที่แสนประเสริฐ   (ที่แสนประเสริฐ)
รมดี ทั้งสวยทั้งเลิศ กว่ามวลนารี   (กว่ามวลนารี)
รมดี  (โอ้รมดี)   รมดี  (โอ้รมดี)
รมดี  (โอ้รมดี)   พี่รักเธอ   เหนือสิ่งใด



:'e:135 :'e:135 :'e:135


+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=22536
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04/ก.ย./15 01:50น. โดย จรีพร »
ระยะทางพิสูจน์ม้า  กาลเวลาพิสูจน์คน

ออฟไลน์ จรีพร

  • Global Moderator
  • *****
  • ออฟไลน์
  • 5592
    6479
  • เพศ: หญิง
  • เก่าแก่มานมนาน


เครดิต : คุณKrung Thai Audio Classic และ youtube


     เพลง "ชายสัญจร"     

คำร้อง : ชาลี อินทรวิจิตร
ทำนอง : สมาน กาญจนะผลิน
ผู้ขับร้อง : ชรินทร์ นันทนาคร

โอ้ข้าเกิดมา ข้าหมองอุรา อาภัพอับจน
กล้ำกลืนทุกข์ทน ความหวังมืดมนอับจนกว่าใคร
ต้องจากถิ่นฐาน จากบรรจถรณ์สัญจรรอนแรมไป
ทั่วแคว้นแดนใดใกล้ไกล ข้าอาศัยแสงดาวช่วยส่องทาง                       
                                   
เสาะหายอดรักทรามวัย
ให้ทานน้ำใจให้คลายอ้างว้าง
ให้น้องเป็นเพื่อนเดินทาง
เอาน้ำใจนาง ส่องทางสัญจรเรื่อยไป                         
                                   
ข้าจะให้ความรัก ให้ดวงใจแทนให้ไอสูรย์
ข้าจะเทิดทูน น้องนาง ไว้หว่างดวงใจ
ไม่ปรารถนา มหาสมบัติของใคร
ข้าแบกความรักมาไกล พื่อขอมอบไว้แด่นาง                       
                                   
เสาะหายอดรักทรามวัย
ให้ธารน้ำใจ ให้คลายอ้างว้าง
ให้น้องเป็นเพื่อนเดินทาง
เอาน้ำใจนางส่องทางสัญจร เรื่อยไป     



:'e:135 :'e:135 :'e:135


+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=22536
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11/เม.ย./15 17:22น. โดย จรีพร »
ระยะทางพิสูจน์ม้า  กาลเวลาพิสูจน์คน

ออฟไลน์ จรีพร

  • Global Moderator
  • *****
  • ออฟไลน์
  • 5592
    6479
  • เพศ: หญิง
  • เก่าแก่มานมนาน


เครดิต : คุณKrung Thai Audio Classic และ youtube


เพลง "ลาก่อนความรัก"   

คำร้อง : ป.วรานนท์
ทำนอง : สง่า อารัมภีร
ผู้ขับร้อง : ชรินทร์ นันทนาคร

ลาก่อนความรัก ที่ฉันเคยมี
ลาก่อนความดี ที่ฉันเคยหวัง
ลาก่อนความทุกข์ ที่สุมประดัง
ลาก่อนเพราะความหวังมลาย

ลืมเถิดดวงใจ ที่ไร้ความรัก
ลืมเถิดใจภักดิ์ ที่มักแหนงหน่าย
ลืมเถิดความฝัน ที่มันลืมง่าย
ลืมเถิดความหมาย ที่กลายอาดูร

เธอมีความสวย และรวยคนรัก
ฉันมีใจภักดิ์ และรักเทอดทูน
เธอมีความรู้ ที่คนเกื้อกูล
ฉันจึงต้องสูญ สิ้นศรัทรา

ลาก่อนความรัก จากเธอคนดี
ลาก่อนชาตินี้ สิ้นทีเสน่หา
ลาก่อนความฝัน วิมานโสภา
ลาก่อนจนกว่า ชีวามลาย



:'e:135 :'e:135 :'e:135


+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=22536
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04/ก.ย./15 01:58น. โดย จรีพร »
ระยะทางพิสูจน์ม้า  กาลเวลาพิสูจน์คน

ออฟไลน์ จรีพร

  • Global Moderator
  • *****
  • ออฟไลน์
  • 5592
    6479
  • เพศ: หญิง
  • เก่าแก่มานมนาน


เครดิต : คุณsuchat somboonsuk และ youtube


     เพลง "คนเลวของเธอ"     

คำร้อง : อ.กวี สัตโกวิท 
ทำนอง : ประสิทธิ์ พยอมยงค์
ผู้ขับร้อง : ชรินทร์ นันทนาคร

ในดวงตาที่เคยสัญญาฝากใจ
กลับมีน้ำตาอาบไว้ล้นเอ่อ
เก็บน้ำตาเอาไว้ทำไม ร้องไห้ซิเธอ
เพื่อเธอจะยิ่งเกลียดฉัน

เธอระกำให้ความรักคนที่ชัง
ฉันเจ็บช้ำใจพลาดพลั้งไหวหวั่น
ให้หัวใจรักของเธอคืน ฉันยังตื้นตัน
ทุกวันเหมือนชายสิ้นเชิง

อยากร้องไห้ เกิดเป็นชาย
มีความรักเหมือนกองไฟ
มีดวงใจเหมือนกองเพลิง
ปล่อยใจรักเขาจนเหลิง
โธ่เอ๋ยสิ้นแล้วที่เคยเริงใจ

ลืมเธอลงคงไม่ช้ำใจหรอกเธอ
อนาถรักจนอดเพ้อไม่ ได้
ต่อนี้ไปไม่ขอยอมเป็นสุดที่รักของใคร
ขอให้ฉันเป็นคนเลวของเธอ



:'e:135 :'e:135 :'e:135

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=22536
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04/ก.ย./15 02:01น. โดย จรีพร »
ระยะทางพิสูจน์ม้า  กาลเวลาพิสูจน์คน

ออฟไลน์ จรีพร

  • Global Moderator
  • *****
  • ออฟไลน์
  • 5592
    6479
  • เพศ: หญิง
  • เก่าแก่มานมนาน

[/youtube]
เครดิต : คุณMrRuangyot2013 และ youtube


     เพลง "โคมทองแห่งชีวิต"     

คำร้อง/ทำนอง : ร้อยแก้ว รักไทย
ผู้ขับร้อง : ชรินทร์ นันทนาคร

เธอเอาดวงใจพี่ไปครองอยู่
ควรได้ถนอมเชิดชู ค่อยเพียรเรียนรู้น้ำใจ
ใจจริงรักเธอล้นทรวงห่วงใย
สุดสวาทเธอนั้นเพียงใด ย่อมเรียนรู้ใจกันดี

นางในดวงใจนั้นคือเธอแน่
นางอื่นหมื่นแสนไม่แล เฝ้าปองรักแท้เทวี
ใจเดียวรักเดียวมิคลายหน่ายหนี
เปรียบประดุจยอดขวัญชีวี เจ้าเอยรักนี้ยืนนาน

หากขาดน้องมาเคียง ร่วมเรียงคู่ชิด
ดุจดั่งชีวิตไร้ซึ่งแก่นสาร
จมในปลักตมแห่งความทุกข์ทรมาน
สุดเดินพ้นผ่านทางหมอง ยามไร้นวลน้องใจตรม

เธอคือโคมทองของชีวิตพี่
นำส่องทางไว้ให้ดีเพื่อชีวิตนี้รื่นรมย์
เดินทางสายเดียวกลมเกลียวชื่น
ร่วมความสุขฝ่าทุกข์ระทม สู่ความภิรมย์ร่วมกัน




:'e:135 :'e:135 :'e:135

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=22536
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04/ก.ย./15 02:04น. โดย จรีพร »
ระยะทางพิสูจน์ม้า  กาลเวลาพิสูจน์คน