ขอขอบคุณต้นไฟล์เพลงทุกท่านด้วยครับ และพี่สมภพผู้ที่ให้ความรู้เรื่องราวของตำนานนี้
หนุ่มกองเชียร์รำวงจากสิงห์บุรีที่ใช้ชื่อว่า ลิงแดง เข้ามาสังกัดในวงดนตรีจุฬารัตน์ ของครูมงคล อมาตยกุล โดยอาสาที่จะมาร้องเพลงแหล่ประชันกับพร ภิรมย์ ดาวเด่นที่ถือว่าเป็นเบอร์หนึ่งประจำวงในเวลานั้น เมื่อเข้ามาสังกัดในวงดนตรีจุฬารัตน์แล้ว ครูมงคล ได้ตั้งชื่อให้ว่า ชาย เมืองสิงห์ ทำให้พร ภิรมย์ ขอแยกตัวออกไป จึงทำให้เกิดตำนานเพลงต่อว่าต่อขานในวงการเพลงเกิดขึ้นดังนี้
เพลงที่ 1 มอดกัดไม้ เป็นเพลงที่ครูมงคล แต่งให้ชาย เมืองสิงห์ ร้องต่อว่าพร ภิรมย์
(อยากจะเตือนเพื่อนเราที่โง่เขลาลืมตัว เห็นกงจักรเป็นดอกบัว หลงเมามัวลืมตัวไปได้.....)
เพลงที่ 2 ไม้หลักปักเลน เป็นเพลงที่พร ภิรมย์ แต่งขึ้นตอบโต้ครูมงคล อมาตยกุล
(จะขอสาธกยกลิขิต ถึงชีวิตอันไร้แก่นสาร เกิดแก่ตายย่อมวายปราณ มัจจุมารเขาไม่ปรานี......)
เพลงที่ 3 ดาวลืมฟ้า เป็นเพลงที่ พล พรภักดี (สุรพล พรภักดี) ในฐานะลูกศิษย์ของครูมงคล แต่งเองร้องเอง เพื่อตอบโต้ พร ภิรมย์
(ดวงดาวทอแสงสกาวพราวฟ้า เจ้าคงลืมเสียว่าแสงดาวมีค่าเมื่อยามราตรี เย่อหยิ่งผยองลำพองว่ารุ่งรังสี......)
เพลงที่ 4 ดาวหาง เป็นเพลงที่ชาย เมืองสิงห์ ร้องเพื่อตอบโต้พร ภิรมย์ เช่นเดียวกัน
(เพลงรำวงที่ชื่อว่าดาวลืมฟ้าเพลงนี้เขาเขียนขึ้นมาไม่เจตนาว่าใคร ขอฝากเพลงนี้ไว้เป็นสติเตือนใจ...)
เพลงที่ 5 ดาวเดียว เป็นเพลงที่พร ภิรมย์ ร้องเพื่อตอบโต้พล พรภักดี และชาย เมืองสิงห์
(ไม่ต้องเตือนพี่หรอกน้อง เพราะพี่มองเงาตัว รู้กงจักรรู้ดอกบัวรู้ดีรู้ชั่วทั้งปวง ไม่เนรคุณ....)
เพลงที่ 6 อัดอั้นตันใจ เป็นบทสรุปของตำนานเพลงชุดนี้ ขับร้องโดยพนม นพพร และแต่งโดยวิเชียร คำเจริญ (ลพ บุรีรัตน์) ซึ่งในขณะนั้นถือ
ว่าเป็นน้องเล็กในวง เนื้อหาของเพลงเรียกได้ว่าสุดยอดทีเดียว ยิ่งได้เสียงของพนม นพพร มาถ่ายทอดความรู้สึกยิ่งได้อารมณ์เป็นอย่างยิ่ง
เพลงที่ 7 ดาวยุ หยกนพเก้า
ขอบคุณข้อมูลประกอบจาก somphop2499: (พี่สมภพ)
