ผู้เขียน หัวข้อ: มาดู วิธีใช้เงินของคน รวยกัน  (อ่าน 1681 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ chinda

  • VIP
  • *****
  • ออฟไลน์
  • 407
    528
    • อีเมล์




 
มาดู วิธีใช้เงินของคน รวยกัน

บิล เกตต์
เคยเข้า ประชุมสายเพียง เพราะว่า เค้า วน หาที่จอดอยู่นานมาก
เนื่องจากที่จอดแถว นั้นเค้ารู้สึกว่า แพง!

จอร์จ โซรอส
...นั่ง รถแท็กซี่ไปทำงาน เค้าให้เหตุผลว่า
"ผมทำรายได้จากเงิน ลงทุนได้ประมาณ 36% ต่อปี
 ถ้าผมซื้อรถ 1 คันราคา 1 ล้าน ใช้ไปได้สิบปี แล้วขายเป็นเศษเหล็ก
 รถคันนี้ไม่ได้มี มูลค่า 1 ล้าน แต่เป็น 32 ล้าน เทียบกับว่าเอาไปลงทุน
คิดอย่างนี้แล้วผม ก็เลยซื้อไม่ลง"

น.พ. ยรรยง หรือ หมอยง
ผู้ มีทรัพย์สินเป็น เงินสด และหุ้นรวมกันไม่ต่ำกว่าพันล้านบาท
"วิถีชีวิตของผม ง่ายๆ เรียบๆ แต่งตัวธรรมดาๆ ไม่ได้ใช้ของแบรนด์เนม
ชอบใส่รองเท้าแตะ นาฟิกาก็ใส่ไซโก้ เรือนละแปดพัน
ไม่เคยใส่โรเลกซ์ (ปลอมแบบไอ้จอ) ราคาเหยียบแสนเลย
ผมว่าคุณค่าผมมี มากกว่าสิ่งของ เหล่านั้นเยอะ คนที่เค้าจะชื่นชมผม
ก็ควรชื่นชมความ รู้ความสามารถ และนิสัยมากกว่าสิ่งภายนอกเห ล่านั้น
รถ ก็ขับวอลโว่ 850 เก่าๆ ขับมาแปดปีแล้ว เอาแค่พอขับได้ก็พอ
ไม่ต้องแพงเว่อร์ วันหยุด เสาร์-อาทิตย์มัก จะไปดูหนัง เดินเล่นห้าง แค่นั้น
หรือไม่ก็เข้า ป่า..ผมชอบเที่ยว ป่าแบบ Backpack เมืองนอกไม่ชอบ เที่ยว
ไปไกลสุดก็ สิงคโปร์

ดร. นิเวศน์
ผู้มี พอร์ตหุ้นไม่ต่ำ กว่าร้อยล้าน .... ผมชอบเดินจ่ายตลาด เองวันเสาร์เย็นๆ กะครอบครัว
รถถ้าไม่ได้อยู่ใน หน้าที่การงานผู้ บริหารก็คงจะไปใช้ รถญี่ปุ่นแล้ว พวกนี้เป็นเศษเหล็ก
ยิ่งเวลาผ่านไปราคา ยิ่งตกลง....เที่ยว เมืองนอกก็ใช้ Economic Class ตลอด "

ชาย ชาวอินเดียคน หนึ่ง

เดิน เข้าไปในธนาคาร กลางเมือง นิวยอร์ค ถามหาเจ้าหน้าที่สินเชื่อ
ชายคนนี้บอกกับ เจ้าหน้าที่สิน เชื่อว่า เขาจะต้องไปทำธุระที่ประเทศอินเดีย ประมาณ 2 สัปดาห์
ก็เลยจะขอกู้เงิน สัก 170,000 บาท เจ้าหน้าที่สิน เชื่อบอกกับเขา ว่า การกู้ยืมเงินจะต้องมี
หลักทรัพย์ค้ำ ประกัน ดังนั้นชายชาวอินเดียยื่นกุญแจรถเฟอร์รารี่รุ่นใหม่ล่าสุดที่จอดอยู่หน้า ธนาคาร
พร้อมกับเสนอให้ ใช้รถคันนี้เป็น หลักทรัพย์ค้ำ ประกัน เจ้าหน้าที่สินเชื่อจึงตกลงให้กู้เงินโดยใช้
รถ ค้ำประกัน ผู้จัดการธนาคาร กับเจ้าหน้าที่ สินเชื่อ ต่างก็ขบขันชายชาวอินเดียที่เอารถเฟอร์รารี่ราคา 8,500,000 บาท มาค้ำประกันเงินกู้ เพียงแค่ 170,000 บาท หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ธนาคารก็
นำ รถเฟอร์รารี่ขับ เข้าไปจอด ที่ลานจอดรถชั้นใต้ดินของธนาคาร
สอง สัปดาห์ผ่านไป ชายชาวอินเดียก็กลับมาที่ธนาคาร
พร้อมด้วยเงิน 170,000 บาท และดอกเบี้ยอีก 500 บาท นำมาชำระคืนให้กับธนาคาร
เจ้า หน้าที่สินเชื่อ พูดว่า "ท่านครับ เรารู้สึกดีใจมาก ที่คุณจัดการธุระ ของคุณได้เสร็จ เรียบร้อย
และ การกู้เงินใน ครั้งนี้ก็เสร็จ สิ้นไปได้ด้วยดี แต่ผมสงสัยอะไร นิดหน่อย ตอนที่คุณไปแล้ว เราได้เช็ค ประวัติของคุณดู ก็พบว่าคุณร่ำรวย เป็นอภิมหาเศรษฐี คนหนึ่งเลย
แต่ ทำไมคุณถึงต้องมา กู้เงินกับเราแค่ 170,000 บาทด้วย ล่ะครับ"
ชาวชาว อินเดียตอบกลับไป ว่า "ไม่มีที่ไหนในนิวยอร์คอีกแล้ว ที่ผมจะสามารถจอดรถ ทิ้งไว้
ได้ถึง 2 สัปดาห์ ด้วยเงินเพียง 500 บาท พร้อมกับความมั่นใจเต็มร้อยว่ารถผมจะไม่หาย"

สุด ยอด !!!
จะ ว่าไปคนที่รวย จริงๆ นิสัยการใช้เงินเค้าไม่ฟุ่มเฟือยเลยนะเนี่ย

 

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=2087

  

ออฟไลน์ สอนคา

  • VIP
  • *****
  • ออฟไลน์
  • 706
    356
Re: มาดู วิธีใช้เงินของคน รวยกัน
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: 23/ก.ย./11 17:28น. »

เยี่ยมจริงๆเลยพี่ เพิ่งจะทราบจริงๆ ครับพี่ว่าเคยรู้จักพี่มาก่อน ขอบคุณครับ :'e:94

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=2087

ออนไลน์ ประสิทธิ์

  • Administrator
  • *
  • ออนไลน์
  • 6177
    9863
  • เพศ: ชาย
    • เพลงพักใจดอทเนต
Re: มาดู วิธีใช้เงินของคน รวยกัน
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: 23/ก.ย./11 18:39น. »

แต่ละความคิดที่พี่เขียวนำมาเล่านี้ สุดๆทั้งนั้นเลยครับ อิอิ โดยเฉพาะเศรษฐีชาวอินเดีย  :'e:39 :'e:39

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=2087
สมาชิกใหม่..ก่อนตั้งกระทู้แนะนำตัวให้ดูตัวอย่าง.แล้วไปอ่านประกาศการใช้งานบอร์ดและห้องโหลดเพลง เมื่ออ่านเข้าใจแล้วก็ตอบรับทราบทั้ง 2 กระทู้1.ห้ามเด็ดขาดการใช้เพียงอีโมตอบกระทู้เพื่อโหลดเพลง.2.ห้ามตอบเพียงขอบคุณครับ/ค่ะ โหลดเพลง 5:1 อ่านให้เข้าใจด้วย

Re: มาดู วิธีใช้เงินของคน รวยกัน
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: 26/ก.ย./11 20:27น. »

 อ่านแล้วผมกลับคิดว่าคนมีตังค์ (อย่าไปพูดว่าคนรวย ผวนแล้วไม่น่าฟัง) บางคนก็ใช้เงินไม่เป็นเหมือนกันนะครับ
   มีตังค์แต่ใช้อย่างมีเหตุผล ดีกว่ามีแล้วไม่ใช้หรือใช้อย่างไม่มีเหตุผลครับ

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=2087