หลังจากได้ฟังบทกวีขลุ่ยของพี่ชบาบาน และของ อ. ชัย นรา แล้ว มันให้นึกอยากแต่งสำนวนนี้ ล้อเสียจริงครับ
" มนต์ ปี่ หวาน อิอิอิ "
แว่วเสียงขลุ่ย ลอยพริ้ว หวิววาบใหว
อาจารย์ชัย ใส่กลอน อ้อนคำหวาน
ใส่สำนวน ชวนรัก ปักดวงมาลย์
ชบาบาน หวานสำนวน ชวนพิรมย์
แสนสุขใจ ในเสียง สำเนียงขลุ่ย
พาเจ้าทุย ลุยกลับนา พาสุขสม
สองครูเป่า เคล้าคลอพริ้ว ปลิวลอยลม
หยุดนิ่งชม ผมเจ้าทุย ฟังขลุ่ยกัน ...
ถึงบ้านเรา เจ้าขลุ่ยน้อย ลอยก้องหู
อันความรู้ เรื่องเป่า เราแข็งขัน
จาเป่าปี่ มีทำนอง สองอาจารย์
ให้ปี่นั้น หวานยด จนมดตอม ... อิอิอิ ไม่ได้โม๊ .....
หยิบเอาปี่ คู่ใจ ด้วยหมายเป่า
สูดลมเข้า จะ เป่าด้น จนท้องผอม
เป่าคราวนี้ มีตาย ไงก็ยอม
ไม่ต้องออม แรงกาย หมายบรรเลง
เป่าคราวแรก แปลกใจ ใยไร้เสียง
สรรพสำเนียง เสียงไม่มี ปี่คงเจ๊ง
เสียงครั่กครั่ก จากปี่ ที่บรรเลง
ควันลอยเคว้ง เพลงจบ ซบชายเรือน ... สงสัยหมดแรงจากเป่าปี่ อิอิ
หัวหมุนติ้ว คิ้วตก อกระริก
จะเป่าอีก อาจตาย ไม่แล้วเพื่อน
เขียนกลอนส่ง พี่ชบา หาแชร์เชือน
อาจเลอะเลือน เหมือนปี่บอ ขอโทษที ...
ฮ่าฮ่าฮ่า ปี่ผมสักเพลงมั๊ย อ.ชัย พี่ชบาบาน ฮ่าฮ่าฮ่า ....
ล้อเล่นนะพี่ อ่านกันเล่น ๆ ถือว่าเป็นบทออกแขกครับ ...ฮ่าฮ๋าฮ่า หัวเราะเยอะนี่อาจเป็นเพราะฤทธิ์ ปี่หรือไงก้อม่ายรู๊ ..............
นี่คือภาพปี่ของผม ชัดมั๊ยครับ

ฟังสำนวนแล้วชวนปวดตับ เพลงเสริมให้ครับ