...กลอนบทนี้ ขอสานต่อ จากท่านชบาบาน เรื่องราวของ วิมานบ้านนา ขอบคุณครับ ที่ทำให้ได้ย้อนอดีต จากบทกลอนของท่าน

..
...หอมไอดิน..กลิ่นหญ้า..เวลาพลบ
ตะวันหลบ..ดวงสู่..หลังภูเขา
ภาพที่ยัง..ฝังใจ..ครั้งวัยเยาว์
ทยอยเข้า..มาเยือน..เตือนความจำ
เคยถือเบ็ด..คู่กาย..สะพายข้อง
มุ่งหน้าสู่..คูคลอง..และหนองน้ำ
ได้ปลามาก..หลากแท้..ให้แม่ทำ
ทั้งแกงส้ม..ต้มยำ..อย่างสำราญ
ปั้นดินไว้..ใส่พก..ยิงนกเอี้ยง
นั่งเฝ้าหนำ..เลี้ยงควาย..ท้ายหมู่บ้าน
นอนนับดาว..พราวฟ้า..ราตรีกาล
แสนชื่นบาน..บ้านป่า..เมื่อครานั้น.....
ตะวันหลบ..ดวงสู่..หลังภูเขา
ภาพที่ยัง..ฝังใจ..ครั้งวัยเยาว์
ทยอยเข้า..มาเยือน..เตือนความจำ
เคยถือเบ็ด..คู่กาย..สะพายข้อง
มุ่งหน้าสู่..คูคลอง..และหนองน้ำ
ได้ปลามาก..หลากแท้..ให้แม่ทำ
ทั้งแกงส้ม..ต้มยำ..อย่างสำราญ
ปั้นดินไว้..ใส่พก..ยิงนกเอี้ยง
นั่งเฝ้าหนำ..เลี้ยงควาย..ท้ายหมู่บ้าน
นอนนับดาว..พราวฟ้า..ราตรีกาล
แสนชื่นบาน..บ้านป่า..เมื่อครานั้น.....
สุริยายอแสง
คำร้อง/ทำนอง สุรพล สมบัติเจริญ
ขับร้อง เมืองมนต์ สมบัติเจริญ
คำร้อง/ทำนอง สุรพล สมบัติเจริญ
ขับร้อง เมืองมนต์ สมบัติเจริญ