ผู้เขียน หัวข้อ: ม่วนหลาย สะบายดี เที่ยวเมืองน้องพี่ “อุดรธานี-หนองคาย-เวียงจันทน์”  (อ่าน 1989 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ วิทยา

  • VIP
  • *****
  • ออฟไลน์
  • 576
    1108



ม่วนหลาย สะบายดี เที่ยวเมืองน้องพี่ “อุดรธานี-หนองคาย-เวียงจันทน์”
    
   
“พระธาตุหลวงเวียงจันทน์” พระธาตุคู่บ้านคู่เมืองและศูนย์รวมจิตใจของชาวลาว

       สำนวนไทยที่ว่า “ยิงปืนนัดเดียว ได้นกสองตัว” ดูเหมือนจะเข้ากันดีกับการออกทริปเที่ยวครั้งนี้ของ “ตะลอนเที่ยว”
เสียจริงเชียว เพราะว่าการออกเดินทางท่องเที่ยวในครั้งนี้ เราตีตั๋วเครื่องบินครั้งเดียว แต่ได้เที่ยวถึง 2 ประเทศ       
       ในทริปนี้เราเดินทางมากับสายการบินนกแอร์ บินมาลงยัง จ.อุดรธานี แล้วค่อยเดินทางไปเที่ยวต่อยังเวียงจันทน์
เมืองหลวงของ สปป.ลาว โดยผ่านสะพานมิตรภาพไทย-ลาว ที่จ.หนองคาย เรียกว่าเป็นการเดินทางที่แสนจะสะดวกสบาย
ได้เที่ยวแบบคุ้มค่า สัมผัสสถานที่ท่องเที่ยวอันน่าสนใจและวัฒนธรรมอันหลากหลายของทั้ง 2 ประเทศ


“พระพุทธไสยาสน์โลกนาถศาสดามหามุนี” สร้างจากหินอ่อนสีขาว

       ทันทีที่ “ตะลอนเที่ยว” เดินทางมาถึง จ.อุดรธานี เราไม่รอช้าขอเดินทางออกนอกเมืองกันก่อน เพื่อตรงไปเที่ยวยัง
จุดหมายแรกที่ “วัดป่าภูก้อน” ซึ่งตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่านายูงและป่าน้ำโสม อ.นายูง ที่นี่เป็นวัดที่มีอาณาบริเวณ
กว้างใหญ่มาก บรรยากาศภายในวัดแวดล้อมไปด้วยธรรมชาติอันบริสุทธิ์ มีภูเขา ต้นไม้น้อยใหญ่ ดูร่มรื่นและสงบงามมาก       
       เมื่อได้มาที่วัดป่าภูก้อน เราได้ขึ้นมาบนเขาเพื่อมากราบสักการะและขอพรกับ “พระพุทธไสยาสน์โลกนาถศาสดามหามุนี”
เป็นพระพุทธปางปรินิพพานที่สร้างขึ้นจากหินอ่อนสีขาวจากประเทศอิตาลี มีความงดงามวิจิตรอลังการทางพุทธศิลป์เป็นอย่างมาก
องค์พระมีความยาว 20 ม. สร้างขึ้นเนื่องในโอกาสมหามงคลที่ในหลวงทรงเจริญพระชนมพรรษา 7 รอบ 84 พรรษา ในปี 2554


“พระปฐมรัตนบูรพาจารย์มหาเจดีย์” ที่วัดป่าภูก้อน

       ภายในวัดป่าภูก้อนยังมีสิ่งที่น่าสนใจให้มาชมอีก คือ “พระปฐมรัตนบูรพาจารย์มหาเจดีย์” เป็นองค์เจดีย์สีทองเหลืองอร่าม
ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่บนยอดเขา เราต้องออกแรงเดินขึ้นไปตามบันได เพื่อไปชมองค์เจดีย์กันอย่างใกล้ชิด ด้านหน้าขององค์เจดีย์มี
พระร่วงรุ่งโรจน์ศรีบูรพาให้ได้ไหว้ขอพร และที่ชั้นบนยอดบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ส่วนชั้นสองมีรูปหล่อของบูรพาจารย์ในสาย
กรรมฐานให้ได้กราบบูชากัน


“ศูนย์วัฒนธรรมไทย-จีน อุดรธานี” จัดแสดงเรื่องราวความเป็นจีนให้ได้ชม

       ได้ไหว้พระขอพรจนอิ่มบุญและอิ่มใจกันแล้ว เราเดินทางกลับมาที่ตัวเมืองอุดรฯ กัน เพื่อมาเที่ยวที่ “ศูนย์วัฒนธรรมไทย-จีน
อุดรธานี” ที่นี่ถูกก่อตั้งขึ้นเพื่อให้เป็นจุดศูนย์รวมอนุรักษ์ศิลปะ วัฒนธรรม วิถีบรรพชนและหลักปรัชญา ของพี่-น้องชาวไทยเชื้อสายจีน
ใน จ.อุดรธานี เมื่อเราได้เข้ามาชมก็สัมผัสได้กับความเป็นจีนตั้งแต่ด้านนอกที่จัดเป็นสวนจีนอันสวยงามตระการตา สวนสวยตกแต่ง
ด้วยไม้มงคลของจีนมากมาย อาทิ ต้นเครามังกร ต้นหลิว ต้นไผ่ดำ ประทัดจีน ฯลฯ และรายล้อมด้วยสระบัว และบ่อปลาคาร์ปจักรพรรดิ
ซึ่งรอบสระบัวยังมีประติมากรรมนูนสูงบอกเล่าเรื่องราวตำนานสุดยอด 24 กตัญญูของแผ่นดินจีน พร้อมคำบรรยาย (ภาษาไทย-จีน)
ให้ได้อ่านศึกษากันด้วย


สวนสไตล์จีนตกแต่งอย่างสวยงามที่ “ศูนย์วัฒนธรรมไทย-จีน อุดรธานี”

       มีอาคารพิพิธภัณฑ์ที่นำเสนอการจัดแสดงไว้อย่างน่าสนใจ ภายในจัดแสดงเรื่องราวของคนไทยเชื้อสายจีนใน จ.อุดรธานีไว้อย่างมากมาย
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวของธุรกิจการค้า การศึกษา เรื่องราวขององค์เจ้าปู่-ย่า ที่เป็นที่เคารพและศรัทธาของชาวอุดรฯ การจำลองประเพณีการไหว้เจ้า
ของชาวจีน ประวัติมหาปราชญ์ขงจื้อและคำสอนต่างๆ ของท่านให้ได้เรียนรู้กันด้วย และยังมีอาคารเฉลิมพระเกียรติ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้า
พัชรกิติยาภา ห้องฉายภาพยนตร์ 3 มิติ ห้องประชุม ห้องออเคสตรา อาคารศูนย์การเรียนรู้วัฒนธรรมและโรงทาน


ภายในพระอุโบสถวัดโพธิ์ชัยเป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อพระใส
       “ตะลอนเที่ยว” ใช้เวลาเดินชมและเรียนรู้สิ่งต่างๆ อันน่าสนใจที่ศูนย์วัฒนธรรมไทย-จีนนี้อยู่พักใหญ่ ก็ได้เวลาที่จะต้องเดินทางไปยัง
จ.หนองคาย กันแล้ว เพื่อจะได้ข้ามแดนไปเที่ยวเวียงจันทน์กันต่อ แต่ไหนๆ เมื่อมาถึงหนองคายแล้วก็ไม่พลาดจะที่จะขอแวะ “วัดโพธิ์ชัย”
เพื่อมาสักการะและขอพร “หลวงพ่อพระใส” พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของชาวหนองคาย ซึ่งประดิษฐานอยู่ภายในพระอุโบสถที่มีภาพ
จิตกรรมฝาผนังอันงดงาม


วัดโพธิ์ชัย มีหลวงพ่อพระใส พระสุก พระเสริม ให้ได้กราบขอพร

       หลวงพ่อพระใส เป็นพระพุทธรูปขัดสมาธิราบ ปางมารวิชัย หล่อด้วยทองสีสุก หน้าตักกว้าง 2 คืบ 8 นิ้ว ส่วนสูงจากพระชงฆ์เบื้องล่าง
ถึงยอดพระเกศ 4 คืบ 1 นิ้ว และด้านในโบสถ์ยังมีรูปหล่อของหลวงพ่อพระใส พระสุก พระเสริม ซึ่งเป็นพระพี่น้องกันให้ได้กราบไหว้ขอพร
เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตัวเอง เอาล่ะ หลังจากได้ไหว้พระขอพรกันจนอิ่มเอมใจแล้ว ก็ถึงเวลาที่เราจะเดินทางข้ามแดนไปยัง สปป.ลาว
กันเสียที โดยเราใช้เส้นทางข้ามสะพานมิตรภาพไทย-ลาว ซึ่งเป็นสะพานข้ามแม่น้ำโขงขนาดใหญ่แห่งแรก เชื่อมจาก จ.หนองคาย
ไปยังท่านาแล้ง นครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว หลังจากผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เราก็มาถึงยัง “เวียงจันทน์”
สปป.ลาว ซึ่งเป็นเมืองเก่าแก่แห่งอาณาจักรล้านช้าง มีประวัติความเป็นมายาวนานกว่า 1,200 ปี ถูกสถาปนาขึ้นเป็นราชธานีของอาณาจักร
ล้านช้างแทนเมืองหลวงพระบาง เมื่อ พ.ศ. 2103 โดยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช และเป็นเมืองหลวง เป็นศูนย์กลางการปกครองของลาวมาจนถึงทุกวันนี้


”พระราชานุสาวรีย์พระเจ้าไชยเชษฐาธิราช” ตั้งอยู่ด้านหน้าพระธาตุหลวงเวียงจันทน์

       ที่ “เวียงจันทน์” มีสถานที่ท่องเที่ยว วัดวาอาราม และโบราณสถานต่างๆ ชวนให้เที่ยวชมหลายที่ เรามุ่งหน้ามาเที่ยวที่แรก คือ
“พระธาตุหลวงเวียงจันทน์” เพื่อมากราบพระธาตุคู่บ้านคู่เมืองที่เป็นที่เคารพศรัทธาและเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวลาว แต่เดิมพระธาตุ
องค์นี้เป็นพระธาตุองค์เล็กๆ ชื่อว่า องค์พระธาตุศรีธรรมาโศก เชื่อกันว่าสร้างขึ้นในราวพุทธศตวรรษที่ 13-14 หรือในยุคอาณาจักรศรี
โคตรบอง กระทั่งในปี พ.ศ. 2109 พระเจ้าไชยเชษฐาธิราชทรงสร้างพระธาตุหลวงใหม่ครอบองค์พระธาตุเดิม และให้ชื่อว่า "พระธาตุ
เจดีย์โลกจุฬามณี" แต่ชาวลาวนิยมเรียกว่า “พระธาตุหลวง” องค์พระธาตุมีสีทองเหลืองอร่ามตั้งโดดเด่นเป็นสง่า เมื่อได้เข้าไปชมใกล้ๆ
สัมผัสได้ถึงความงดงามขององค์พระธาตุที่สร้างขึ้นตามรูปทรงตามคติจักรวาล มีเขาพระสุเมรุเป็นแกนกลาง องค์พระธาตุรูปทรงดอกบัวตูม
มีความสูง 45 ม. มีเจดีย์บริวารล้อมรอบ 30 องค์ และภายในองค์พระธาตุประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุส่วนกระดูกหัวเหน่า พอได้กราบ
ไหว้พระธาตุและขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตัวเองแล้ว เราก็เดินออกมาทางด้านหน้าเพื่อมาสักการะ ”พระราชานุสาวรีย์พระเจ้าไชย
เชษฐาธิราช” ผู้ทรงเป็นมหาราชผู้ยิ่งใหญ่พระองค์หนึ่งในประวัติศาสตร์ลาว


หอพระแก้ว เมื่ออดีตเคยเป็นที่ประดิษฐานพระแก้วมรกต

       หลังจากได้สักการะพระธาตุหลวงแล้ว เรามาเที่ยวกันต่อที่ “หอพระแก้ว” ซึ่งแต่เดิมเคยเป็นวัดหลวงประจำราชวงศ์ของลาวมาก่อน
และเมื่ออดีตเคยเป็นที่ประดิษฐานองค์พระแก้วมรกต หรือพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร ก่อนที่จะถูกอัญเชิญมาประทับที่ประเทศไทย
แม้ปัจจุบันนี้ที่หอพระแก้วจะไม่มีพระแก้วมรกตประดิษฐานอยู่แล้ว แต่ก็ยังมีสิ่งที่น่าสนใจให้มาเที่ยวชมมากมาย


พระพุทธรูปเก่าแก่ตั้งอยู่รอบระเบียงหอพระแก้ว

       หอพระแก้วทุกวันนี้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ที่เก็บรวบรวมวัตถุโบราณล้ำค่ามากมายให้ได้ชมกัน ไม่ว่าจะเป็นนาค 7 เศียร พระพุทธรูปเก่าแก่
ศิลาจารึก กลองสำริด และโบราณวัตถุอื่นๆ อีกมากมาย และที่ระเบียงรอบหอพระแก้วยังมีพระพุทธรูปโบราณหลายองค์ตั้งเรียงรายอยู่รอบ
ระเบียงที่ล้วนแล้วแต่มีความงดงาม


ความสวยงามของพระวิหาร วัดสีสะเกด

       ออกจากหอพระแก้ว เราเดินมาฝั่งตรงข้ามมายัง “วัดสีสะเกด” หรือ “วัดสะตะสะหัสสาราม” (วัดแสน) เป็นวัดที่พระเจ้าไชยเชษฐาธิราช
ทรงสร้างขึ้น และได้ทรงสร้างพระพุทธรูปทั้งองค์เล็กและองค์ใหญ่ประดิษฐานไว้รอบพระระเบียงและในพระอุโบสถไว้นับแสนองค์ จนเป็นที่มา
ของชื่อวัดแสน ซึ่งวัดสีสะเกดเป็นวัดสำคัญของเวียงจันทน์ เพราะแม้จะผ่านศึกสงครามมาหลายยุคหลายสมัย แต่วัดแห่งนี้เป็นเพียงวัดเดียว
ที่รอดพ้นจากการถูกทำลายมาได้


พระพุทธรูปจำนวนมากตั้งเรียงรายอยู่ที่ระเบียงคดวัดสีสะเกด

       ภายในวัดสีสะเกดมีพระวิหารที่ยังคงความงดงามทางด้านสถาปัตยกรรมให้ได้ชม และด้านในประดิษฐานพระพุทธรูปศิลปะล้านช้าง
มีภาพจิตกรรมบนฝาผนังเขียนเรื่องทศชาติชาดกให้ได้ชม บนผาฝนังยังมีช่องเล็กๆ ที่บรรจุพระพุทธรูปองค์เล็กๆ นับพันองค์ไว้ และที่ด้านนอก
พระวิหาร มีระเบียงคดล้อมรอบทั้ง 4 ด้าน เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปเก่าแก่จำนวนมาก และที่ฝาผนังก็เจาะเป็นช่องเล็กๆ บรรจุพระพุทธรูป
องค์เล็กๆ ไว้มากมายเช่นกัน


ประตูชัย หนึ่งในสัญลักษณ์ของเวียงจันทน์

       เราได้เที่ยวชมโบราณวัตถุตามวัดวาอารามเก่าแก่มาก็หลายที่แล้ว แต่ถ้ามาถึงเวียงจันทน์แล้วก็ต้องไม่พลาดที่จะมาเที่ยวอีกหนึ่งสัญลักษณ์
ของเวียงจันทน์ นั่นคือ “ประตูชัย” เป็นซุ้มประตูขนาดใหญ่ ตั้งเด่นเป็นสง่าเห็นได้แต่ไกล สร้างเสร็จเมื่อปี พ.ศ. 2512 เป็นอนุสรณ์สถานเพื่อระลึก
ถึงประชาชนชาวลาวผู้เสียสละชีวิตในสงครามก่อนหน้าการปฏิวัติของพรรคคอมมิวนิสต์ และประตูชัยมีอีกชื่อเรียกว่า “รันเวย์แนวตั้ง” เพราะการก่อสร้าง
ประตูชัยได้ใช้ปูนซีเมนต์ที่อเมริกาซื้อมาเพื่อนำมาสร้างสนามบินใหม่ใน นครเวียงจันทน์ในระหว่างสงครามอินโดจีน แต่ไม่ทันสร้างเพราะอเมริกาแพ้
เวียดนามเสียก่อนจึงนำปูนเหล่านั้นมาสร้างประตูชัยแทน


ภาพเรื่องราวมหากาพย์รามายณะแบบปูนปั้นใต้ซุ้มประตูโค้งของประตูชัย

       ประตูชัยมีลักษณะสถาปัตยกรรมที่ได้รับอิทธิพลมาจากประตูชัยในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส แต่ก็ยังมีลักษณะสถาปัตยกรรมรายละเอียดอื่นๆ
ที่แสดงให้เห็นถึงเอกลักษณ์ของศิลปะแบบล้านช้างให้เห็นด้วย ไม่ว่าจะเป็นยอดปราสาทบนประตู ลวดลายปูนปั้นเทพนม ภาพเรื่องราวมหากาพย์รามายณะ
แบบปูนปั้นใต้ซุ้มประตูโค้ง แล้วยังมีบันไดวนให้เดินขึ้นไปชมวิวทิวทัศน์เวียงจันทน์ในมุมสูง ส่วนรอบๆ ประตูชัยก็เป็นลานกว้าง มีน้ำพุ และเป็นที่พักผ่อน
หย่อนใจของชาวลาวและนักท่องเที่ยว


นักท่องเที่ยวนิยมมาเดินชอปซื้อสินค้าพื้นเมืองที่ตลาดเช้า

       “ตะลอนเที่ยว” ปิดท้ายการทัวร์เวียงจันทน์ ด้วยการไปชอปปิ้งซื้อของฝากคนที่บ้านสักหน่อย โดยมาที่ “ตลาดเช้า” เมื่อก่อนขายของแค่ตอนเช้า
แต่ปัจจุบันเปิดขายตั้งแต่เช้ายันเย็น ตลาดเช้ามีทั้งอาคารหลังเก่าที่ด้านในตลาดส่วนใหญ่จะขายสินค้าประเภทผ้าทอต่างๆ เสื้อผ้า สินค้าหัตถกรรมมากมาย
ของที่ระลึกต่างๆ ส่วนอีกอาคารเป็นเหมือนห้างที่ภายในติดแอร์มีหลายชั้น มีสินค้าจำพวกของก็อปปี้จำหน่ายมากมาย และยังมีร้านขายทองคำมากมายหลายร้าน
ซึ่งชาวลาวนิยมมาซื้อทองคำที่นี่กันเป็นอย่างมาก


ทองคำ เป็นอีกหนึ่งสินค้าที่มีให้เลือกซื้อหาได้ที่ตลาดเช้า

       ถ้าหากใครอยากจะมาเที่ยวอย่างอิ่มเอมใจกับการมาเยือนเมืองน้องพี่ อุดรธานี-หนองคาย-เวียงจันทน์ แบบ “ตะลอนเที่ยว” บ้าง
ขอบอกว่าไม่ยากเลย แค่ตีตั๋วเครื่องบินมากับนกแอร์ก็มาเที่ยวได้สบายๆ ม่วนหลายๆ เด้อ
       
       * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
       
       สายการบินนกแอร์ให้บริการบินสู่ จ.อุดรธานี วันละ 6 เที่ยวบิน และนกแอร์ให้บริการบินเชื่อมระหว่างอุดรธานีและเชียงใหม่
อีกวันละ 3 เที่ยวบิน พร้อมกันนี้นกแอร์ยังให้บริการที่เรียกว่า Fly n’ Ride ที่ผู้โดยสารที่เดินทางจากกรุงเทพฯ หรือเชียงใหม่บินมา
ลงอุดรธานีแล้วนั่งรถที่รอรับที่สนามบินต่อไปยังเวียงจันทน์โดยผ่านสะพานมิตรภาพไทย-ลาว สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
ได้ที่ www.nokair.com  หรือโทร. 1318


>>>>>>>>>>>>>>>
นำมาจาก
http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9560000096828


+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=17887


สวยงามมาก เลย ค่ะ หลายปีก่อนเคยไปเที่ยว แต่ไม่จุใจ อ่ะ เวลาน้อย มาก ถ้ามีโอกาส อยากไปเที่ยวอีก ค่ะ

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=17887

ออฟไลน์ ตู่ ลำพูน

  • VIP
  • *****
  • ออฟไลน์
  • 583
    115
  • เพศ: ชาย

สวยมากครับคุณวิทยา..มีโอกาสอยากไปเที่ยว....เคยข้ามไปเที่ยวลาวมาบ้างเหมือนกันครับ...แต่เวียงจันทน์ผมยังไม่เคยไป...ขอบคุณอีกครั้งนะครับสำหรับภาพสวยๆ

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=17887