ผู้เขียน หัวข้อ: "ดอกซากศพ" พรรณไม้หายากจากอินโดนีเซียแย้มบานในสหรัฐฯ  (อ่าน 1025 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ วิทยา

  • VIP
  • *****
  • ออฟไลน์
  • 576
    1107



"ดอกซากศพ" พรรณไม้หายากจากอินโดนีเซียแย้มบานในสหรัฐฯ

      
ดอกไททันอารัมเมื่อแรกแย้มตอนเช้าวันที่ 22 ก.ค
      
       "ดอกซากศพ" ที่มีกลิ่นเหม็นหึ่ง และกลีบดอกสีช้ำราวกับเนื้อเน่ากำลังแย้มบานในสวนพฤกษศาสตร์ของสหรัฐฯ เมื่อบานเต็มที่จะอยู่ได้เพียง 24-48 ชั่วโมง
ก่อนจะเหี่ยวเฉาไปอย่างรวดเร็ว  "ไททันอารัม" (titan arum) หรือดอกซากศพซึ่งเป็นพรรณไม้หายากจากเกาะสุมาตรา อินโดนีเซีย กำลังแย้มกลีบบานภายในสวน
อนุรักษ์พันธุ์พฤกษศาสตร์สหรัฐ (United States Botanic Garden Conservatory) วอชิงตัน ดีซี สหรัฐฯ
       
       ครั้งล่าสุดที่ไททันอารัมหรือ อามอร์ฟอฟัลลัสไททานัม (Amorphophallus titanum) ในสวนพฤกษศาสตร์ดังกล่าวแย้มบานคือเมื่อปี 2007 และเมื่อบานเต็มที่
แล้วจะอยู่ได้เพียง 24-48 ชั่วโมง แล้วเหี่ยวเฉาลงไปอย่างรวดเร็ว และในปีนี้ 2013 นี้ดอกไม้ดังกล่าวกำลังผลิบานและเริ่มแยมกลีบให้เห็นตอนเช้าวันที่ 22 ก.ค.
ตามเวลาท้องถิ่น  ครั้งแรกที่นักวิทยาศาสตร์พบพืชชนิดนี้คือเมื่อปี 1878 ซึ่งการผลิบานของไททันอารัมไม่มีวัฏจักรตายตัว เราไม่สามารถคาดการณ์ช่วงเวลาออกดอกได้
เพราะอาจใช้เวลาไม่กี่ปีจึงบานอีกครั้งหรืออาจต้องรอนานไปหลายสิบปี  ความพิเศษของดอกซากศพตามที่สวนพฤกษศาสตร์ระบุคือขนาดดอกที่ใหญ่มาก และเป็นพืช
ขนาดใหญ่ที่สุดในบรรดาพืชมีช่อดอกแบบไร้กิ่งในอาณาจักรพืช และด้วยกลิ่นที่เน่าเหม็นเหมือนซากศพเมื่อบานเต็มที่ระหว่างกลางคืนถึงเช้าตรู่จึงเป็นที่มาของชื่อดังกล่าว
       
       นอกจากลิ่นสุดทนแล้วดอกไม้ที่มีแดงช้ำเหมือนเนื้อเน่ายังปล่อยความร้อนที่ช่วยให้กลิ่นเหม็นเดินทางได้ไกลขึ้นด้วย เพื่อล่อแมลงที่กินซากสัตว์และมูลสัตว์ที่อยู่ไกลๆ
ให้มาผสมเกสรการดูแลดอกไม้หายากนี้ทางสวนพฤกษศาสตร์ให้ข้อมูลว่าพืชดังกล่าวต้องการสภาพแวดล้อมพิเศษทั้งวันที่มีอากาศอบอุ่น มีอุณหภูมิตอนกลางคืนที่เหมาะสม
และยังต้องอยู่ท่ามกลางความชื้นสูง ทำให้ทางสวนพฤกษศาสตร์ต้องจำกัดจำนวนผู้เข้าชมไม้ดอกที่มีความจำเพาะนี้

           
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
นำมาจาก
http://www.manager.co.th/Science/ViewNews.aspx?NewsID=9560000090391


+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=17442