ผู้เขียน หัวข้อ: วันอาสาฬหบูชา มีความสำคัญอย่างไร  (อ่าน 2094 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้




....สวัสดีครับ เพื่อน บ้านเพลงพักใจ ที่นับถือ พระพุทธศาสนา ที่รักทุกท่าน วันจันทร์ ที่ ๒๒ ที่จะถึงนี้ เป็นวันสำคัญอีกวันหนึ่ง ของชาวไทยพุทธ ผมขออนุญาต นำเรื่องราวของวันสำคัญที่จะมาถึง เล่าสู่กันฟัง เพื่อประเทืองความรู้และเสริมปัญญา เพื่อให้รู้ค่าของความเป็นคนที่นับถือ"ศาสนาพุทธ" ให้เข้าถึงแก่นแท้ มิใช่พุทธแค่  ในสูจิบัตร ซึ่งนั่นคือกระพี้ เท่านั้นเอง วันที่ว่าคือ "วันอาฬาหบูชา"

****วันอาสาฬหบูชา มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "วันพระธรรม" และ "วันพระสงฆ์"เพราะเป็นวันที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงปฐมเทศนาประกาศพระธรรมจักร เป็นครั้งแรกแก่ปัญจวัคคีย์และเป็นวันที่บังเกิดมีพระสงฆ์ครบเป็นองค์พระรัตนตรัยครั้งแรกในโลก

วันอาสาฬหบูชา ต ร ง กั บ วั น ขึ้ น ๑ ๕ ค่ำ เ ดื อ น ๘
    วันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๘ นับเป็นวันที่สำคัญในประวัติศาสตร์แห่งพระพุทธศาสนา คือวันที่พระพุทธองค์ทรงแสดงธรรมเทศนาหรือหลักธรรมที่ทรงตรัสรู้ เป็นครั้งแรกแก่เบญจวัคคีย์ทั้ง ๕ ณ มฤคทายวัน ตำบลอิสิปตนะ เมืองพาราณสี ในชมพูทวีปสมัยโบราณ ซึ่งปัจจุบันตั้งอยู่ในประเทศอินเดีย
   ด้วยพระพุทธองค์ทรงเปรียบดังผู้ทรงเป็นธรรมราชา ก็ทรงบันลือธรรมเภรียังล้อแห่งธรรมให้หมุนรุดหน้า เริ่มต้นแผ่ขยายอาณาจักรแห่งธรรม นำความร่มเย็นและความสงบสุขมาให้แก่หมู่ประชา ดังนั้น ธรรมเทศนาที่ทรงแสดงครั้งแรกจึงได้ชื่อว่า ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร แปลว่า พระสูตรแห่งการหมุนวงล้อธรรมหรือพระสูตรแห่งการแผ่ขยายธรรมจักร กล่าวคือดินแดนแห่งพระธรรมนั่นเอง
     เมื่อ ๒๕๐๐ กว่าปีมาแล้วนั้นชมพูทวีปในสมัยโบราณ กำลังย่างเข้าสู่ยุคใหม่แห่งความเจริญก้าวหน้า รุ่งเรืองเฟื่องฟูทุกด้านและมีคนหลายประเภททั้งชนผู้มั่งคั่งร่ำรวย นักบวชที่พัฒนาความเชื่อและ ข้อปฏิบัติทางศาสนา เพื่อให้ผู้ร่ำรวยได้ประกอบพิธีกรรมแก่ตนเต็มที่ ผู้เบื่อหน่ายชีวิตที่วนเวียน ในอำนาจและโภคสมบัติที่ออกบวช หรือบางพวกก็แสวงหาคำตอบที่เป็นทางรอดพ้นด้วยการคิดปรัชญาต่าง ๆ เกี่ยวกับเรื่องที่เหลือวิสัยและไม่อาจพิสูจน์ได้บ้าง
พระพุทธเจ้าจึงทรงอุบัติในสภาพเช่นนี้ และดำเนินชีพเช่นนี้ด้วยแต่เมื่อทรงพบว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนั้นขาดแก่นสาน ไม่เป็นประโยชน์อย่างแท้จริง แก่ตนเองและผู้อื่น จึงทรงคิดหาวิธีแก้ไขด้วยการทดลองต่าง ๆ โดยละทิ้งราชสมบัติ และอิสริยศแล้วออกผนวช บำเพ็ญตนนานถึง ๖ ปี ก็ไม่อาจพบทางแก้ได้ ต่อมาจึงได้ทางค้นพบ "มัชฌิมาปฏิปทา" หรือทางสายกลาง

    เมื่อทรงปฏิบัติตามมรรคานี้ก็ได้ค้นพบสัจธรรมที่นำคุณค่า แท้จริงมาสู่ชีวิต อันเรียกว่า อริยสัจ ๔ ประการ ในวันเพ็ญเดือน ๖ ก่อนพุทธศก ๔๔ ปี ที่เรียกว่า การตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า จากนั้นทรงงานประกาศศาสนา โดยทรงดำริหาทางที่ได้ผลดีและรวดเร็ว คือ เริ่มสอนแก่ผู้มีพื้นฐานภูมิปัญญาดีที่รู้แจ้งคำสอนได้อย่างรวดเร็ว และสามารถนำไปชี้แจงอธิบาย ให้ผู้อื่นเข้ามาได้อย่างกว้างขวาง จึงมุ่งไปพบนักบวช ๕ รูป หรือ ปัญจวัคคีย์ และได้แสดงธรรม เทศนาเป็นครั้งแรกในวันเพ็ญ เดือน ๘
ธรรมเมกขสถูป
สถานที่สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงจุดที่พระพุทธองค์ทรงแสดงปฐมเทศนาโปรดปัญจวัคคีย์
"หลักธรรมในพระธรรมจักกัปปวัตนสูตร
มีจุดเด่นคือเน้นทางสายกลาง
ให้มนุษย์มองโลกตามความเป็นจริง (แก้ทุกข์ที่ใจ)
เพื่อพบกับความสุขที่ยั่งยืนกว่า"

พระพุทธรูปศิลปะคุปตะ สกุลช่างสารนาถ พุทธศตวรรษที่ ๙-๑๑
พระพุทธรูปปางปฐมเทศนา ที่ขุดพบในป่าอิสิปตนมฤคทายวันที่มีผู้ยกย่องว่า เป็นพระพุทธรูปปางแสดงปฐมเทศนาที่งามที่สุดในโลก
(ปัจจุบันประดิษฐานอยู่ในพิพิธภัณฑ์สารนาถ)
ค ว า ม ห ม า ย ข อ ง "อ า ส า ฬ ห บู ช า"
"อาสาฬหบูชา" (อา-สาน-หะ-บู-ชา/ อา-สาน-ละ-หะ-บู-ชา) ประกอบด้วยคำ ๒ คำ คือ อาสาฬห (เดือน ๘ ทางจันทรคติ) กับบูชา (การบูชา) เมื่อรวมกันจึงแปลว่า การบูชาในเดือน ๘ หรือการบูชาเพื่อระลึกถึงเหตุการณ์สำคัญในเดือน ๘ หรือเรียกให้เต็มว่า อาสาฬหบูรณมีบูชา

    โดยสรุป "วันอาสาฬหบูชา" แปลว่า การบูชาในวันเพ็ญ เดือน ๘ หรือ การบูชาเพื่อระลึกถึงเหตุการณ์สำคัญในวันเพ็ญ เดือน ๘ คือ

    ๑. เป็นวันที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงปฐมเทศนา
    ๒. เป็นวันที่พระพุทธเจ้าเริ่มประกาศพระศาสนา
    ๓. เป็นวันที่เกิดอริยสงฆ์ครั้งแรกคือการที่ท่านโกณฑัญญะรู้แจ้งเห็นธรรม เป็นพระโสดาบัน จัดเป็นอริยบุคคลท่านแรกในอริยสงฆ์
    ๔. เป็นวันที่เกิดพระภิกษุรูปแรกในพระพุทธศาสนา คือ การที่ท่านโกณฑัญญะขอบรรพชาและ ได้บวชเป็นพระภิกษุ หลังจากฟังปฐมเทศนาและบรรลุธรรมแล้ว
    ๕. เป็นวันที่พระพุทธเจ้าทรงได้ปฐมสาวกคือ การที่ท่านโกณฑัญญะนั้น ได้บรรลุธรรม และบวชเป็นพระภิกษุ จึงเป็นสาวกรูปแรกของพระพุทธเจ้า
เมื่อเปรียบกับวันสำคัญอื่น ๆ ในพระพุทธศาสนา บางทีเรียกวันอาสาฬหบูชา นี้ว่า "วันพระสงฆ์" (คือวันที่เริ่มเกิดมีพระสงฆ์)

พิธีกรรมที่ทำในวันอาฬหบูชา
ตักบาตร


รักษาศีล
เวียนทียน
 
 
ฟังพระธรรมเทศนา
        พิธีกรรมที่กระทำในวันนี้ โดยทั่วไป คือ ทำบุญ ตักบาตร รักษาศีล เวียนเทียน ฟังพระธรรมเทศนา (ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร) และสวดมนต์ ดังนั้นในวันนี้จึงถือว่า พุทธศาสนิกชนควรได้รับประโยชน์ ที่เป็นสาระสำคัญจากอาสาฬหบูชา กล่าวคือ ควรทบทวนระลึกเตือนใจสำรวจตนว่า ชีวิตเราได้เจริญงอกงามขึ้นด้วยความเป็นอยู่อย่างผู้รู้เท่าทันโลกและชีวิตนี้บ้างแล้วเพียงใด เรายังดำเนินชีวิตอยู่อย่างลุ่มหลงมัวเมา หรือมีจิตใจอิสระปลอดโปร่งผ่องใสบ้างแล้วเพียงใด ...ขอให้ ทุกท่านที่เข้ามาอ่าน ข้อความนี้ จงรับเอา บุญกุศลในการที่คิด ลด ละ เลิก ทำความชั่ว ในเทศกาลเข้าพรรษา นี้ด้วย เทอญ....

ขอขอบคุณข้อมูล จาก wikipedia.org/wiki/Asa
และPujaboard.palungjit.com
ขอขอบคุณภาพจาก www.dek-d.com

[ Invalid YouTube link ]
เพลงปางเมื่อพระองค์ปะระมะพุทธ
คำสรภัญญะ  : พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเ­จ้าอยู่หัว
เรียบเรียง : วงศ์วริศ อาริยวัฒน์
ศิลปิน  : ธนพร แวกประยูร

ขอขอบคุณ  Bua Loy  จาก youtube

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=17270