ผู้เขียน หัวข้อ: “ว่านเพชรหึง” กล้วยไม้ใหญ่ที่สุดในโลกออกดอกสะพรั่งแค่ปีละ 3 เดือน  (อ่าน 2874 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ วิทยา

  • VIP
  • *****
  • ออฟไลน์
  • 576
    1108



“ว่านเพชรหึง” กล้วยไม้ใหญ่ที่สุดในโลกออกดอกสะพรั่งแค่ปีละ 3 เดือน










      
     “ว่านเพชรหึง” กล้วยไม้ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของโลก 1,200 ต้น ภายในศูนย์พันธุ์พืชเพาะเลี้ยงตรัง
พร้อมใจกันออกดอกให้ชมความสวยงาม เป็นระยะเวลาเพียงแค่ปีละ 3 เดือน
ศูนย์พันธุ์พืชเพาะเลี้ยง ได้ขยายต้นกล้าว่านเพชรหึง โดยการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อไปแล้ว
จำนวน 2 หมื่นต้น เพื่อให้ประชาชนนำไปปลูกเพื่อตัดดอกขายเชิงการค้า

 
     
       นายเสนอ รัตนสำเนียง ผู้อำนวยการ ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตร
(พันธุ์พืชเพาะเลี้ยง) จังหวัดตรัง กล่าวว่า ว่านเพชรหึง หรือที่ชาวปักษ์ใต้รู้จักกันในชื่อ
ว่านหางช้าง นั้น อันเนื่องจากมีลักษณะลำต้นที่ยาว และมีใบติดอยู่ที่ปลายหลายใบ
คล้ายๆ กับปลายหางของช้างที่ชี้ขึ้นด้านบน โดยมีลักษณะเด่นคือ รากมีจำนวนมาก
เกาะแน่น และแตกเป็นแขนงที่ปลายราก จนถือเป็นกล้วยไม้ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของโลก
จัดอยู่ในสกุลแกรมมาโทฟิลลัม (Grammatophyllum) เป็นกล้วยไม้ประเภท
แตกกอ มีระบบรากอากาศ และมีลำต้นสูง ส่วนดอกก็จะมีทั้งชนิดช่อตั้งและช่อห้อย
โดยกลีบดอกนั้นจะหนา มีพื้นกลีบสีเหลือง หรือเหลืองอมเขียว และยังมีแต้มสีน้ำตาล
หรือม่วง คล้ายกับลวดลายของเสือ ซึ่งจะมีดอกประมาณช่อละ 75-125 ดอก


     
       ทั้งนี้ นอกจากทางศูนย์พันธุ์พืชเพาะเลี้ยงจังหวัดตรัง จะดำเนินการเพาะขยายพันธุ์
ว่านเพชรหึงแล้ว ยังได้มีการปลูกไว้กระจายเรียงรายสองข้างทางเป็นจำนวนมากถึง 1,200 ต้น
โดยเฉพาะที่บริเวณหน้าสำนักงาน และศูนย์ฝึกอบรม กระทั่งปัจจุบันแต่ละต้นมีอายุตั้งแต่
5-10 ปีแล้ว จนถือเป็นแหล่งรวบรวมกล้วยไม้พันธุ์นี้ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และมักจะ
ออกดอกในช่วงประมาณเดือนกรกฎาคม-กันยายนของทุกปี แต่จะต้องมีอายุ 5 ปีขึ้นไป
ถึงจะออกดอกให้ชมความสวยงามได้ ทั้งนี้ ดอกจะทยอยบานตั้งแต่ชั้นล่างสุดไปจนถึงชั้นบนสุด
เป็นระยะเวลาเพียงแค่ 3 เดือน หลังจากนั้นจะต้องรอชมความงามอีกครั้งในปีถัดไป


       
       ปัจจุบัน ศูนย์พันธุ์พืชเพาะเลี้ยงจังหวัดตรัง ได้ขยายต้นกล้าว่านเพชรหึง โดยการเพาะเลี้ยง
เนื้อเยื่อไปแล้ว จำนวน 2 หมื่นต้น ในเนื้อที่กว่า 10 ไร่ เพื่อหวังจะให้ประชาชนนำไปปลูกเพื่อ
ตัดดอกขายเชิงการค้า รวมทั้งปลูกในสถานที่ต่างๆ เพื่อการท่องเที่ยว เนื่องจากเวลาออกดอกพร้อมๆ
กันแล้วจะสวยงามมาก ทั้งนี้ ผู้สนใจสามารถมาชม หรือถ่ายภาพภายในศูนย์ฯ ได้ฟรี ในวันเวลาราชการ
ซึ่งกำลังเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์แห่งใหม่ของจังหวัดตรัง โดยตั้งอยู่ในบริเวณพื้นที่หมู่ 11
ในเขตเทศบาลตำบลโคกหล่อ หรือเข้ามาทางสำนักงานทางหลวงชนบทจังหวัดตรัง และสามารถ
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0-7558-2312


>>>>>>>>>>>>>>>>>
นำมาจาก
http://www.manager.co.th/South/ViewNews.aspx?NewsID=9560000088063


+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=17213

ออฟไลน์ ตู่ ลำพูน

  • VIP
  • *****
  • ออฟไลน์
  • 583
    115
  • เพศ: ชาย

สวยงามครับ...ไม่เคยเห็นภาพกล้วยไม้ที่มีขนาดใหญ่มาก่อน..อยากจะเลี้ยงบ้างครับ

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=17213

ออฟไลน์ สุวิทย์ สุข

  • VIP
  • *****
  • ออฟไลน์
  • 110
    69
  • เพศ: ชาย

ยังมีอีกแหล่ง สวยงามไม่แพ้กัน ที่บ้าน อ.สุเทพ อ.ลานสกา จ.นครฯ
เดี๋ยวกลับใต้วันไหนจะเก็บภาพมาฝากครับ

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=17213
-::-คำขวัญการท่องเที่ยว-::-
นครศรีธรรมราช เมืองประวัติศาสตร์ พระธาตุทองคำ
ชื่นฉ่ำธรรมชาติ แร่ธาตุอุดม เครื่องถมสามกษัตริย์
มากวัดมากศิลป์ ครบสิ้นกุ้งปู


สวยงามมาก เลย ค่ะ ยังไม่เคยเห็นที่ไหน มาก่อน  เพิ่งเคยเห็น ครั้งแรก ขอบคุณมาก นะคะ ที่นำภาพสวยๆมาให้ชม

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=17213

ออฟไลน์ โอฬาร

  • MOD
  • *
  • ออฟไลน์
  • 1266
    817

เห็นด้วยครับ สวยจริงๆ

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=17213

ออฟไลน์ ศศินี

  • ปรมาจารย์
  • ***
  • ออฟไลน์
  • 239
    34
    • อีเมล์