'ปูแป้ง และ ปูเปรี้ยว' ปูสองสายพันธุ์ควรอนุรักษ์ที่ตำบลชุมพู เมืองสองแคว

ชาวบ้านในพื้นที่ตำบลชุมพู เมืองสองแคว พบปูสองสายพันธุ์มีลักษณะและสีสันสวยงาม
อาศัยอยู่ภายในลำธารกลางป่าทึบ วอนประชาชนนอกพื้นที่ช่วยกันอนุรักษ์เกรงถูกจับไปขายจนสูญพันธุ์
ในพื้นที่ บ้านร่องกล้า หมู่ 11 ต.วังชมพู อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก มีชาวบ้านไปพบปูน้ำจืดที่มีสีสัน
และลักษณะที่สวยงาม โดยอาศัยอยู่ตามธารน้ำตกเล็กๆ กลางป่าทึบ โดยส่วนมากจะพบบริเวณสองฝั่งข้างลำธาร
ตามทิวเขา หลังจากนั้นทางชาวบ้านจึงได้พาทีมข่าวเดินทางเท่าเข้าไปสำรวจ ในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งเป็นพื้นที่ราบสลับ
กับภูเขา เมื่อเดินทางเข้าไปถึงก็ได้พบกับ นายพิทักษ์ สุขจันทร์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลชมพู และชาวบ้าน
ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่และพร้อมนำพาทีมงานเดินเท้าเข้าไปสำรวจ อีกทอดหนึ่ง ซึ่งจะต้องเดินเท้าเข้าไปตามลำธาร
เพื่อค้นหา ปู ซึ่งชาวบ้านมักจะพบรูปูที่มีอยู่ ข้างลำธาร โดยมีวิธีการสังเกตุรูปู โดยให้ดูดินที่มีลักษณะ
ขุยดินกองอยู่ใต้รูก็แสดงว่าปูได้ทำการขุดรูลงไปอยู่ใต้ดินแล้ว ส่วนวิธีการจับปูนั้นก็ไม่ยากโดยใช้ยอดไม้ค่อยๆ
แหย่ ลงไปในรู ซึ่งปูก็ใช้ก้ามคีบติดกับกิ่งไม้ หลังจากนั้นชาวบ้านก็จะดึงออกมาจากรู้ได้อย่างง่ายดาย

ซึ่งปูส่วนใหญ่จะอาศัยอยู่รวมกันเป็นกลุ่มก้อนตามริมฝั่ง ลักษณะจะคล้ายกับปูทั่วไป แต่จะมีสีสัน
ตามลำตัว ก้ามและขาหลากสีสัน สวยงาม โดยชาวบ้านพบปู ที่อยู่ในบริเวณนี้มีด้วยกัน ถึง 2 สายพันธุ์
ซึ่งชาวบ้านเรียกกันว่า ปูแป้ง และ ปูเปรี้ยว และหากนำปูทั้ง 2 ชนิดที่พบ มาเปรียบเทียบกันก็จะพบว่า
ปูเปรี้ยวนั้นจะมีสีสันที่กระดองหลังของปู และขานั้นจะมีลักษณะออกสีส้มสด ส่วนอีกชนิดคือ ปูแป้ง
จะมีลักษณะกระดองหลังและตามขาจะมีสีฟ้าน้ำทะเลไล่สีไปเป็นสีเขียว โดยเฉพาะที่บริเวณขานั้น
จะมีขนออกมาตามขาทั่วไป และมีลักษณะตัวใหญ่กว่าปูเปรี้ยว

ด้านนายพิทักษ์ สุขจันทร์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลชมพู ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ประชาชนที่อาศัย
อยู่ในพื้นที่ดังกล่าว มีความตื่นเต้นและชื่นชอบเป็นอย่างมาก ที่ภายในพื้นที่อาศัยของเขานั้นได้มีปูที่แปลกตา
มีสีสันสดใส และสวยงาม มาอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก จึงเป็นเรื่องที่ดีสำหรับชาวบ้านในพื้นที่ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นแล้ว
ประชาชนก็อยากที่จะได้ให้ประชาชนที่ชอบธรรมชาติ และสัตว์ที่มีความสวยงาม เช่นปูแป้ง และปูเปรี้ยว
นี้ได้ชื่นชมกันอย่างทั่วไปและแพร่หลาย จึงได้รวมตัวกันร่วมอนุรักษ์ และประกาศห้ามจับ ห้ามล่า ห้ามฆ่า
โดยขอความร่วมมือ ให้ชาวบ้านในหมู่บ้านและหมู่บ้านใกล้เคียง ช่วยกันดูแลและร่วมกันอนุรักษ์อย่าได้ทำร้าย
หรือล่าเพื่อนำไปขาย หารายได้ เพราะเกรงว่า ปูแป้ง และ ปูเปรี้ยว ของชาวบ้านนั้นจะสูญพันธุ์
ไปจากผืนป่าที่ชาวบ้านในพื้นที่ได้หวงแหนและดูแลเป็นอย่างดี

สำหรับประชาชนที่อยู่บริเวณใกล้เคียง และต่างจังหวัดหากอยากที่จะเดินทางเข้ามาเที่ยวชมธรรมชาติและ
ความสวยงามของ ปูแป้ง และปูเปรี้ยว ตามที่ชาวบ้านในพื้นที่เรียกกัน ก็สามารถติดต่อสอบถามเส้นทางกับ
นายพิทักษ์ สุขจันทร์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลชมพู ได้ที่หมาย 0862103317 เพราะพื้นที่เส้นทาง
ต่างๆต้องได้รับการนำทางจากผู้นำท้องถิ่นเพื่อให้เกิดความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยวทุกคน..
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
นำมาจาก http://www.dailynews.co.th/thailand/218364

ชาวบ้านในพื้นที่ตำบลชุมพู เมืองสองแคว พบปูสองสายพันธุ์มีลักษณะและสีสันสวยงาม
อาศัยอยู่ภายในลำธารกลางป่าทึบ วอนประชาชนนอกพื้นที่ช่วยกันอนุรักษ์เกรงถูกจับไปขายจนสูญพันธุ์
ในพื้นที่ บ้านร่องกล้า หมู่ 11 ต.วังชมพู อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก มีชาวบ้านไปพบปูน้ำจืดที่มีสีสัน
และลักษณะที่สวยงาม โดยอาศัยอยู่ตามธารน้ำตกเล็กๆ กลางป่าทึบ โดยส่วนมากจะพบบริเวณสองฝั่งข้างลำธาร
ตามทิวเขา หลังจากนั้นทางชาวบ้านจึงได้พาทีมข่าวเดินทางเท่าเข้าไปสำรวจ ในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งเป็นพื้นที่ราบสลับ
กับภูเขา เมื่อเดินทางเข้าไปถึงก็ได้พบกับ นายพิทักษ์ สุขจันทร์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลชมพู และชาวบ้าน
ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่และพร้อมนำพาทีมงานเดินเท้าเข้าไปสำรวจ อีกทอดหนึ่ง ซึ่งจะต้องเดินเท้าเข้าไปตามลำธาร
เพื่อค้นหา ปู ซึ่งชาวบ้านมักจะพบรูปูที่มีอยู่ ข้างลำธาร โดยมีวิธีการสังเกตุรูปู โดยให้ดูดินที่มีลักษณะ
ขุยดินกองอยู่ใต้รูก็แสดงว่าปูได้ทำการขุดรูลงไปอยู่ใต้ดินแล้ว ส่วนวิธีการจับปูนั้นก็ไม่ยากโดยใช้ยอดไม้ค่อยๆ
แหย่ ลงไปในรู ซึ่งปูก็ใช้ก้ามคีบติดกับกิ่งไม้ หลังจากนั้นชาวบ้านก็จะดึงออกมาจากรู้ได้อย่างง่ายดาย

ซึ่งปูส่วนใหญ่จะอาศัยอยู่รวมกันเป็นกลุ่มก้อนตามริมฝั่ง ลักษณะจะคล้ายกับปูทั่วไป แต่จะมีสีสัน
ตามลำตัว ก้ามและขาหลากสีสัน สวยงาม โดยชาวบ้านพบปู ที่อยู่ในบริเวณนี้มีด้วยกัน ถึง 2 สายพันธุ์
ซึ่งชาวบ้านเรียกกันว่า ปูแป้ง และ ปูเปรี้ยว และหากนำปูทั้ง 2 ชนิดที่พบ มาเปรียบเทียบกันก็จะพบว่า
ปูเปรี้ยวนั้นจะมีสีสันที่กระดองหลังของปู และขานั้นจะมีลักษณะออกสีส้มสด ส่วนอีกชนิดคือ ปูแป้ง
จะมีลักษณะกระดองหลังและตามขาจะมีสีฟ้าน้ำทะเลไล่สีไปเป็นสีเขียว โดยเฉพาะที่บริเวณขานั้น
จะมีขนออกมาตามขาทั่วไป และมีลักษณะตัวใหญ่กว่าปูเปรี้ยว

ด้านนายพิทักษ์ สุขจันทร์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลชมพู ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ประชาชนที่อาศัย
อยู่ในพื้นที่ดังกล่าว มีความตื่นเต้นและชื่นชอบเป็นอย่างมาก ที่ภายในพื้นที่อาศัยของเขานั้นได้มีปูที่แปลกตา
มีสีสันสดใส และสวยงาม มาอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก จึงเป็นเรื่องที่ดีสำหรับชาวบ้านในพื้นที่ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นแล้ว
ประชาชนก็อยากที่จะได้ให้ประชาชนที่ชอบธรรมชาติ และสัตว์ที่มีความสวยงาม เช่นปูแป้ง และปูเปรี้ยว
นี้ได้ชื่นชมกันอย่างทั่วไปและแพร่หลาย จึงได้รวมตัวกันร่วมอนุรักษ์ และประกาศห้ามจับ ห้ามล่า ห้ามฆ่า
โดยขอความร่วมมือ ให้ชาวบ้านในหมู่บ้านและหมู่บ้านใกล้เคียง ช่วยกันดูแลและร่วมกันอนุรักษ์อย่าได้ทำร้าย
หรือล่าเพื่อนำไปขาย หารายได้ เพราะเกรงว่า ปูแป้ง และ ปูเปรี้ยว ของชาวบ้านนั้นจะสูญพันธุ์
ไปจากผืนป่าที่ชาวบ้านในพื้นที่ได้หวงแหนและดูแลเป็นอย่างดี

สำหรับประชาชนที่อยู่บริเวณใกล้เคียง และต่างจังหวัดหากอยากที่จะเดินทางเข้ามาเที่ยวชมธรรมชาติและ
ความสวยงามของ ปูแป้ง และปูเปรี้ยว ตามที่ชาวบ้านในพื้นที่เรียกกัน ก็สามารถติดต่อสอบถามเส้นทางกับ
นายพิทักษ์ สุขจันทร์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลชมพู ได้ที่หมาย 0862103317 เพราะพื้นที่เส้นทาง
ต่างๆต้องได้รับการนำทางจากผู้นำท้องถิ่นเพื่อให้เกิดความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยวทุกคน..
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
นำมาจาก http://www.dailynews.co.th/thailand/218364