ผู้เขียน หัวข้อ: จับ “ขี้ควาย” ย้อมผ้า! ผลงานโอทอปหนึ่งเดียวในไทย  (อ่าน 1438 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ วิทยา

  • VIP
  • *****
  • ออฟไลน์
  • 576
    1108



จับ “ขี้ควาย” ย้อมผ้า! ผลงานโอทอปหนึ่งเดียวในไทย

   
สายสุณี ไชยหงษา ประธานกลุ่มทอผ้าย้อมสีธรรมชาติบ้านนาเชือก (มูลควาย) จ.สกลนคร

       เคยคิดกันไหมว่ามูลควายจะนำมาย้อมผ้าได้ แถมให้สีธรรมชาติ ปราศจากสารเคมี ไอเดียนี้เกิดจาก
ความร่วมมือระหว่างพระสงฆ์ กับชาวบ้านช่วยคิดช่วยทำ จนก่อเกิดเป็นธุรกิจในชุมชนสร้างรายได้ไม่น้อย
ขึ้นแท่นสินค้าโอทอป 5 ดาวในการส่งประกวดเพียงครั้งแรกกับ “ก็ฝ้าย” แบรนด์ผลิตภัณฑ์จากผ้าย้อม
มูลควาย จ.สกลนคร


ตุ๊กตาควาย หวังให้เด็กๆ เห็นคุณค่าของควายไทย

       เป็นธรรมดาเมื่อชาวบ้านหมดหนทางในการทำมาหากิน รายได้ขาดมือ ก็ต้องหันหน้าเข้าหา “วัด”
ซึ่งวัดในชุมชนนี้ถือว่าแตกต่างจากวัดทั่วไปเพราะมีพระสงฆ์อย่าง พระอาจารย์ฉัฐกรณ์ (ฉายามหาปุญโญ)
แห่งวัดป่าภูมิธนารักษ์ธรรมาราม อ.พังโคน จ.สกลนคร ที่เป็นทั้งนักคิดและนักพัฒนา เน้นให้ชาวบ้านพึ่ง
ตนเอง เพียงแนะนำให้กลับไปคิด ไม่ใช่กำหนดให้ทำโน่นทำนี่ สุดท้ายก่อเกิดเป็น “ผ้าย้อมมูลควาย”
แห่งเดียวในไทย



       ก่อนอื่นต้องเอ่ยถึงความเป็นมาวิถีชีวิตของชาวบ้านว่าส่วนใหญ่ยึดอาชีพรับจ้างทอผ้าส่งตามโรงงาน
อย่างผ้าขาวม้า ซึ่งรายได้ไม่ค่อยสมดุลกับรายจ่ายนัก จึงคิดหาอาชีพเสริมโดยมองไปที่งานหัตถกรรม
เนื่องจากมีผู้หญิงในหมู่บ้านจำนวนมากที่อาจหาเวลาว่างจากการเลี้ยงลูกมาทำงานเสริมได้ ซึ่งพวกเขา
ได้ตั้งกลุ่ม “ทอผ้าย้อมสีธรรมชาติบ้านนาเชือก” ขึ้น โดยมีพระอาจารย์คอยให้คำปรึกษา ขณะที่ชาวบ้าน
จะคอยแจ้งความคืบหน้าโดยตลอด


"ก็ฝ้าย" แบรนด์ผ้าฝ้ายทอมือย้อมมูลควาย

       กระทั่งพระอาจารย์ติงไปว่า “การนำเปลือกไม้มาย้อมผ้าต้นไม้ไม่ตายหรือ?” ชาวบ้านตอบว่า
“ไม่น่าตายนะ” พระอาจารย์เมื่อได้ยินดังนั้นจึงตั้งคำถามเปรียบเทียบว่า “ถ้ามีใครมาลอกผิวหนังของโยม
โยมจะตายไหม” ประโยคนั้นทำให้ชาวบ้านคิดได้ และเริ่มมองหาวัตถุดิบอื่นมาย้อมผ้าแทน


ที่นอนปิคนิก เมื่อพับเก็บเป็นตุ๊กตาควาย

       พระอาจารย์แนะนำให้ลองนำมูลควายมาย้อมผ้า ซึ่งยอมรับว่าก็ไม่รู้ว่าจะย้อมได้หรือไม่
แต่จากประสบการณ์ของพระอาจารย์ที่เคยทำงานด้านดีไซน์มาก่อนก็คิดว่าน่าจะทำได้เพราะ
ควายกินหญ้า กินพืช ซึ่งมูลที่ออกมานั้นก็มาจากธรรมชาติเช่นกัน


เปลญวน อีกหนึ่งผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ

       ช่วงแรกชาวบ้านนึกค้านในใจ ซึ่งคงเหมือนกับใครหลายคน แต่ทุกคนก็ลองทำ โดยมี
“สายสุณี ไชยหงษา” ประธานกลุ่มทอผ้าย้อมสีธรรมชาติบ้านนาเชือก (มูลควาย) จ.สกลนคร
เป็นผู้นำ เริ่มจากนำมูลควายมากรองน้ำนำมาหมัก แยกกากใย มาทำเป็นปุ๋ยหมักในการเกษตร
ต่อมาใช้สมุนไพรไทยอย่าง ตะไคร้ มะกรูด กลบกลิ่น ซึ่งขั้นตอนกรรมวิธีการย้อม และสีจาก
มูลควายชาวบ้านลองผิดลองถูกมานาน แต่ไม่ท้อกลับรู้สึกสนุกที่ได้เห็นสีเขียวจากมูลควาย
ที่จะใช้ย้อมผ้าออกมามีโทนสีที่แตกต่างกัน สุดท้ายมารู้ว่าสภาพภูมิอากาศมีผลต่อสีเขียว
ของต้นหญ้า ทำให้ในแต่ละฤดูมูลควายที่ได้สีจะไม่เหมือนกัน


ทำเป็นผ้าพันคอก็ดูดีไม่น้อย

       เมื่อขั้นตอนการผลิตเริ่มนิ่ง ชาวบ้านนำมาย้อมทำเป็นผ้าพันคอ ผ้าคลุมไหล่ ต่อมาย้อม
ผืนผ้าใหญ่ พัฒนาเป็นที่นอนปิกนิก หมอนอิง หมอนหนุน เปล กระเป๋าเป้ เบาะรองนั่ง ผ้ารองจาน
ผ้าปูโต๊ะ และตุ๊กตาควาย ที่สายสุณีบอกว่า ต้องการให้เยาวชนคนรุ่นหลังเห็นคุณค่าของควาย
และช่วยกันอนุรักษ์ควายไทยที่นับวันจะสูญหายไป


กระเป๋าเป้ น่ารัก

       “เรานำผ้าทอมือที่ชาวบ้านมีฝีมืออยู่แล้วมาย้อมมูลควายที่จะให้สีเขียวธรรมชาติ แต่โทนสีจะ
ให้สีเขียวที่แตกต่างกันไป เข้มบ้าง อ่อนบ้างตามหญ้าที่ควายกิน แต่รับประกันในเรื่องการปราศจาก
สารเคมีในการย้อม โดยกลุ่มเริ่มดำเนินธุรกิจนี้มาตั้งแต่ปี 2552 ได้มาตรฐาน มผช. หรือมาตรฐาน
ผลิตภัณฑ์ชุมชน กระทั่งลองส่งผลิตภัณฑ์เข้าประกวดสินค้าโอทอป ก็ได้รับรางวัลโอทอป 5 ดาว
ในปี 56 จากการส่งเข้าคัดสรรเพียงครั้งแรก พร้อมได้รับโอกาสนำสินค้ามาจัดแสดงในงานโอทอป
Mid Year 2013 ที่ผ่านมา กับบูท Unseen OTOP ซึ่งสร้างความภาคภูมิใจให้แก่สมาชิกในกลุ่มฯ
เป็นอย่างมาก”


เบาะรองนั่งนิ่มสบาย

       ปัจจุบันมีชาวบ้านช่วยกันผลิตสินค้าจากผ้าย้อมมูลควายประมาณ 30 คน จากเดิมมีเพียง 4-5 คน
เท่านั้น โดยราคาสินค้าเริ่มที่ 59 บาท ไปจนถึงหลักพันบาทเท่านั้น หรือลูกค้าต้องการให้ผลิตเป็นรูปแบบอื่น
ทางกลุ่มฯ ก็สามารถผลิตให้ได้เช่นกัน ซึ่งที่ผ่านมามีลูกค้าชาวญี่ปุ่นมาสั่งผลิตเป็นจำนวนมาก แต่ต้องการ
ให้ผ้ามีโทนสีเดียวกัน ชาวบ้านต้องปฏิเสธไปเนื่องจากเป็นวัตถุดิบธรรมชาติ การทำให้สินค้าเหมือนกันทุก
ชิ้นคงเป็นไปได้ยาก



       ***สนใจติดต่อ 08-7222-5256, 08-0176-9265***


โทนสีของผ้าไม่สม่ำเสมอ ขึ้นอยู่กับความเขียวของหญ้าในแต่ละฤดู


>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
นำมาจาก
http://www.manager.co.th/iBizchannel/viewNews.aspx?NewsID=9560000074897



+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=16361