ผู้เขียน หัวข้อ: พระตำหนักแดนอีสาน  (อ่าน 1945 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ วิทยา

  • VIP
  • *****
  • ออฟไลน์
  • 576
    1108
พระตำหนักแดนอีสาน
« เมื่อ: 22/พ.ค./13 13:37น. »


พระตำหนักแดนอีสาน



                ถ้าพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ เป็นที่ประทับในภาคเหนือ อยู่ที่ จ.เชียงใหม่ พระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์
ที่ประทับในภาคใต้ ที่ จ.นราธิวาส ภาคอีสานก็ไม่น้อยหน้า เพราะมีพระตำหนักภูพานราชนิเวศน์ อยู่ที่ จ.สกลนคร

               พระตำหนักภูพานราชนิเวศน์ ที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
ตลอดจนพระราชวงศ์ ในคราวเสด็จแปรพระราชฐานเยี่ยมพสกนิกรในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตั้งอยู่กลางเทือกเขาภูพาน แต่ใน
ช่วงที่ไม่ได้ประทับอยู่ จะอนุญาตให้ประชาชนทั่วไปเข้าชมได้ โดยทำหนังสือถึงสำนักราชเลขาธิการ ในพระบรมมหาราชวัง ถนน
หน้าพระลาน กรุงเทพฯ 10200 และเมื่อได้รับหนังสือตอบรับแล้วจึงจะเดินทางไปชมได้ จะมีเจ้าหน้าที่นำชมและคอยอธิบายถึงสถานที่



               พระตำหนักภูพานราชนิเวศน์ อยู่บนทางหลวงสายสกลนคร-กาฬสินธุ์ หมายเลข 213 ห่างจากตัวเมืองสกลนคร 13 กม.
มีทางแยกเข้าไปทางด้านขวามือ ตามทางหลวงหมายเลข 2106 ตลอดทางเข้าไปในเขตพระตำหนักภูพาน จะมีต้นไม้ใหญ่ร่มรื่น
ดอกไม้ที่เด่นสะดุดตานอกจากกุหลาบก็มีเฟื่องฟ้า ที่ปล่อยให้ต้นสูงใหญ่ ดูสวยงามยามออกดอกเต็มต้น



               หลังจากลงทะเบียนพบเจ้าหน้าที่แล้ว ก็จะมีเจ้าหน้าที่พาทัวร์สถานที่ ไปยังส่วนต่างๆ มีทั้งเดินขึ้น-ลงเนินน้อยๆ
ข้ามสะพานไม้ที่ปรับปรุงขึ้นใหม่เมื่อปีก่อน เจ้าหน้าที่จะคอยอธิบายให้เราได้เข้าใจ พร้อมกับข้อห้ามในบางเรื่อง บางจุดของสถานที่
เนื่องจากเป็นเขตพระราชฐานนั่นเอง



               การตกแต่งอาคารต่างๆ เป็นไปแบบเรียบหรู ดูคลาสสิก อาคารส่วนใหญ่ทาสีขาว ตัดกับสีเขียวของต้นไม้ดูสบายตา
รูปแบบสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ ส่วนเรือนรับรองหลักแรกที่สร้าง เป็นพระตำหนักปีกไม้รูปแบบล็อกเคบิน เลยจากหมู่พระตำหนักมี
การจัดสร้างบ้านชาวชนบทไว้หลายหลัง เป็นตัวอย่างของบ้านแบบดั้งเดิม มีเครื่องมือเครื่องไม้ทางการเกษตรครบถ้วน แม้แต่ครก
กระเดื่อง และเครื่องสีข้าวแบบสมัยก่อนอยู่ใต้ถุนบ้าน



               จากกลุ่มบ้านชนบทตัวอย่างนี่เอง มีประตูเปิดไปสู่ทางที่มุ่งไปยัง เขื่อนตาดโตน เดินขึ้นเนินไปหน่อย พอหอบเล็กๆ
จะถึงที่ตั้งของเขื่อน ซึ่งเป็นเขื่อนขนาดเล็กที่อยู่ภายในบริเวณพระตำหนัก กักเก็บน้ำไว้สำหรับใช้ในเขตพระตำหนัก ซึ่งมีเนื้อที่กว้าง
ใหญ่เกือบ 2,000 ไร่ โดยเป็นพื้นที่เขตพระราชฐานชั้นใน 950 ไร่ ที่เหลืออีก 1,000 กว่าไร่ กันไว้เป็นพื้นที่ป่า ซึ่งจะมีต้นไม้นานา
ชนิดขึ้นรกครึ้มดูเป็นป่าจริงๆ และยังมีสัตว์ป่าอยู่อาศัยใช้ชีวิตราวกับว่ามันไม่ได้อยู่ในเขตพระตำหนัก

               "หากไม่มีพระตำหนักนี่ ป่าแถวนี้ก็คงไม่เหลือ" เจ้าหน้าที่ที่นำชมบอกเล่าให้ฟัง ระหว่างที่เดินไปตามถนนลาดยาง
ที่เชื่อมจากเขื่อนตาดโตนไปยังพื้นที่ส่วนต่างๆ ที่เราสามารถเดินวนได้เป็นรอบโดยไม่ต้องย้อนกลับทางเก่า

               เนื้อที่กว้างใหญ่แบบนี้ ใช้เจ้าหน้าที่ดูแลทั้งหมด 135 คน มีทั้งเป็นเจ้าหน้าที่ประจำ และลูกจ้างชั่วคราว ที่คอยดูแล
โดยเฉพาะในส่วนของเขตพื้นที่ชั้นใน ส่วนที่เป็นป่าโดยมากก็จะปล่อยให้อยู่อย่างนั้น เพราะนี่เป็นพื้นที่ที่ในหลวงทรงตั้งพระราช
หฤทัยฟื้นฟูสภาพป่า คืนชีวิตสู่ธรรมชาตินั่นเอง

......................................
นำมาจาก
http://www.komchadluek.net/detail/20130519/158805/พระตำหนักแดนอีสาน.html#.UZmtDNhXu9t


+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=15407

ออนไลน์ ประสิทธิ์

  • Administrator
  • *
  • ออนไลน์
  • 6196
    9884
  • เพศ: ชาย
    • เพลงพักใจดอทเนต
Re: พระตำหนักแดนอีสาน
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: 22/พ.ค./13 14:00น. »

ขอบคุณครับที่นำมาให้ชมกัน เพิ่งได้เห็นภาพใกล้ๆนี้เองครับ

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=15407
สมาชิกใหม่..ก่อนตั้งกระทู้แนะนำตัวให้ดูตัวอย่าง.แล้วไปอ่านประกาศการใช้งานบอร์ดและห้องโหลดเพลง เมื่ออ่านเข้าใจแล้วก็ตอบรับทราบทั้ง 2 กระทู้1.ห้ามเด็ดขาดการใช้เพียงอีโมตอบกระทู้เพื่อโหลดเพลง.2.ห้ามตอบเพียงขอบคุณครับ/ค่ะ โหลดเพลง 5:1 อ่านให้เข้าใจด้วย

ออฟไลน์ จงรักษ์

  • ปรมาจารย์
  • ***
  • ออฟไลน์
  • 329
    65
  • เพศ: ชาย
    • อีเมล์
Re: พระตำหนักแดนอีสาน
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: 22/พ.ค./13 19:56น. »

พระตำหนักภูพานราขนิเวศน์ ยังไม่เคยไปเลยครับ..เคยแต่นั่งรถผ่าน..สวยนะครับ..ต้องหาโอกาศไปสัมผัสสักครั้งครับ...

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=15407