ผู้เขียน หัวข้อ: เรื่องสมเด็จพระนเรศวรมหาราชกลับชาติมาเกิด  (อ่าน 4587 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ มหาร้อยวัด

  • มืออาชีพ
  • **
  • ออฟไลน์
  • 102
    46
  • เพศ: ชาย


เรื่องสมเด็จพระนเรศวรมหาราชกลับชาติมาเกิดเป็นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ เรื่องนี้ ผมอ่านพบในหนังสือเรื่องหลวงพ่อธุดงค์ ของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ตอน ฝึกอตีตังสญาณ ในป่าศรีประจันต์ ตอนที่ ๑


หนังสือหลวงพ่อธุดงค์เล่มนี้มี ๓๓ ตอน ตอนที่ว่านี้อยู่ในตอนที่ ๖ เป็นตอนที่หลวงพ่อฤาษีท่านฝึกธุดงค์ใหม่ๆ และผ่านไปที่ป่าศรีประจันต์ ในการฝึกธุดงค์ของหลวงพ่อฤาษีนี้ท่านฝึกแบบอุกฤษฏ์คืออยู่ในป่าลึกบิณฑบาตรกับเทวดา และหลวงพ่อปานพระอาจารย์ของท่านสั่งให้หลวงพ่อฤาษีท่านฝึก อตีตังสญาณของสถานที่และบุคคลต่างๆที่เดินทางผ่านไปด้วย คือต้องรู้เหตุการณ์ในอดีตที่ผ่านมาของบุคคลและสถานที่ และสถานที่ที่หลวงพ่อไปผ่านก็คือ ป่าศรีประจันต์ อำเภอศรีประจันต์ จังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งมีดอนเจดีย์ตั้งอยู่ด้วย และหลวงพ่อปานสั่งมาว่า เธอจะไปที่ไหนก็ตาม ไปพักที่ไหนก็ตาม ต้องรู้อดีตของที่นั่น


ท่านหลวงพ่อฤาษีลิงดำและสหายของท่านอีกสองท่านก็ใช้วิธีถามจากเทวดาถึงเรื่องราวความเป็นมาของสถานที่และบุคคลเช่นท่านถามเทวดาเกี่ยวกับดอนเจดีย์นี่อยากจะทราบว่า เขาฝังศพพระมหาอุปราชใช่ไหม เทวดาท่านบอกว่า ไม่มีใครเขาเอาข้าศึกมาบูชาหรอกครับ พระมหาอุปราชกษัตริย์ของพม่าเวลานั้นเป็นศัตรูกับคนไทย ยกทัพมาย่ำยี่ ไทยอาศัย พระนเรศวร กับพระเอกาทศรถ ท่านเป็นพระมหากษัตริย์ที่มีบุญญาธิการมาก จึงเข้าชนช้างกัน ในที่สุด ก็ฟันพระมหาอุปราชตาย และพระเอกาทศรถก็ฆ่านายทหารของเขาตายพร้อมกัน ทีนี้ ศพคนเลว ๆ แบบนี้ ไม่มีใครบูชา


หลวงพ่อฤาษีก็เลยถามเทวดาท่านว่า ถ้าอย่างนั้นเขาฝังอะไรไว้ล่ะ ท่านบอก เขาฝังเครื่องสาตราวุธที่มีอยู่บนหลังช้างทั้งหมด
หลวงพ่อฤาษีท่านถามต่อว่า ช้างไม่วิ่งหนีหรือ เทวดาท่านตอบว่า ช้างมันวิ่งหนีไม่ได้เพราะควาญช้างก็ถูกฆ่าตายเช่นเดียวกัน จับช้างได้จึงเอากูบช้างลงมา อาวุธทั้งหมดในนั้นมีครบ ถอดเครื่องกษัตริย์วางไว้ แล้วก็นำมาขุดหลุมฝังที่ตรงนี้ แล้วทำเจดีย์ครอบ ก่อนที่จะฝัง เขาทำพิธีกรรมเหยียบย่ำกันอย่างหนัก...


อีกตอนหนึ่งหลวงพ่อฤาษีท่านถามเทวดาว่า
พระนเรศวรมหาราชทรงสวรรคตขณะที่จะยกทัพไปตีพม่า กำลังใจของท่านเวลานั้นมีกำลังใจอย่างเดียว คือ ฆ่า หรือจับ ยึดประเทศชาติให้ได้ ทำลายพม่าให้ได้ กำลังใจเต็มอารมณ์ของความบาป อยากจะทราบว่า พระนเรศวรตกนรกหรือเปล่า


ท่านภุมเทวดาท่านก็บอกว่าไม่ตกนรกครับ


เลยถามท่านบอกว่า ขนาดที่บาปยกทัพจะไปรบกันน่ะ มีแต่อาวุธ ทั้งกำลังใจตั้งใจจะห้ำหั่นกัน ท่านภุมเทวดาท่านก็บอกว่า ความจริงการยกทัพไปรบก็มีอารมณ์ ๒ อย่าง


๑. อยากจะห้ำหั่นข้าศึก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ต้องการมากอย่างยิ่ง คือ ยึดพื้นที่
และประการที่ ๒ มีความต้องการ ให้บุคคลภายหลังในประเทศของเรา อยู่ร่มเย็นเป็นสุขด้วยความเมตตาปรานี จะได้ไม่ถูกบรรดาพม่าทั้งหลายรบกวนต่อไป กำลังใจเป็นทั้งบุญ และบาป

และโดยเฉพาะอย่างยิ่งนักรบทุกคนที่ไปรบนั้นหรือเวลาอื่นก็ตาม ทุกคนตื่นขึ้นเช้าเป็นนักบุญหมด

พอเทวดาบอกอย่างนั้น ก็ตกใจว่า นักรบเป็นนักบุญหมด
หลวงพ่อจึงถามว่า นักรบเป็นนักบุญอย่างไร


เทวดาท่านก็ตอบว่า นักรบทุกคน ตื่นขึ้นมาแล้ว นึกถึงพระอันดับแรก พระที่ห้อยอยู่ที่คอ ความจริงนะ พระจริง ๆ ไปรบมากกว่าคนไปรบ คน ๓o คน มีพระเกิน ๑oo องค์ที่ร่วมรบ


เป็นอันว่า นักรบทุกคนเวลาตื่นขึ้นเช้าไม่อยากตาย ปลุกพระ อาราธนาบารมีพระให้ช่วย คำว่า พระที่ห้อยคอ นี่หมายถึง พระพุทธเจ้า และก็หมายถึง พระสงฆ์ผู้ทำพระ เขานึกถึงพระที่ห้อยคอแล้ว เขาก็ปลุกด้วยคาถาตามที่เขาเรียนมา เป็นการอาราธนาบารมีของความปลอดภัยของตัว เขาเป็นนักบุญทุกวัน

ในเมื่อเขาเป็นนักบุญอย่างนี้ ถ้าถูกฆ่าตายในขณะที่จิตใจนึกถึงพระ แทนที่เขาจะไปนรก เขาไปสวรรค์ทันที เพราะใจนึกถึงพระ (เอาเข้านั่น) และพระนเรศวรมหาราชก็เช่นเดียวกัน พระองค์ไม่ได้นึกถึงพระเฉพาะป้องกันพระองค์เอง นึกถึงพระให้ป้องกันทหารในกองทัพทั้งหมด นึกว่าขอให้ชนะข้าศึก เพื่อให้คนไทยทั้งหมดมีความสุข เมตตาสูงมาก ฉะนั้น พระนเรศวรมหาราชท่านจึงไม่ลงนรก


ท่านตอบทันทีเลยว่า นักรบไปอยู่ชั้นจาตุมหาราชเป็นนายของพวกผม


ถามว่า เวลานี้พระนเรศวรมหาราชอยู่ทิศไหน

ท่านบอกว่า เวลานี้พระนเรศวรมหาราชอยู่ทิศตะวันออกของประเทศไทย คำว่า ตะวันออก นี่หมายถึง ประเทศไหน หรือแหล่งไหน ท่านบอก ไม่ใช่
เวลานี้พระนเรศวรมหาราชเกิดเป็นคนแล้ว และอยู่ในประเทศด้านทิศตะวันออกของประเทศไทย


จึงถามว่าท่านบอกว่า พระนเรศวรมหาราชเป็นคนไทย หรือเป็นคนแขก หรือเป็นคนลาว หรือเป็นฝรั่ง


ท่านบอกว่า เป็นคนไทยที่เกิดในเมืองฝรั่ง และในกาลต่อไปข้างหน้าวาระเข้ามาถึง พระนเรศวรมหาราชจะเข้ามาครองประเทศไทยในฐานะเป็น พระมหากษัตริย์


บรรดาท่านพุทธบริษัทอ่านเรื่องนี้แล้ว ทิ้งไว้ก่อนนะอย่าเชื่อนะอย่างไปเชื่อ ถ้าจะเชื่อก็ถามท่านผู้รู้จริง ๆ อันนี้เป็นการฟังจากภุมเทวดา ถามว่า เป็นกษัตริย์จะเป็นกษัตริย์นักรบไหม ท่านบอกว่า ขึ้นชื่อว่า พระนเรศวร เกิดชาติไหน รบชาตินั้น

แต่การรบตอนหลัง พระนเรศวรจะไม่มีเวลาพักผ่อน
ตั้งแต่เริ่มต้นเป็นกษัตริย์ก็จะรบเรื่อยไป จนกระทั่งยันวันตายเลย บอกว่า ถ้าอย่างนั้น คนไทยทั้งชาติไม่ต้องทำมาหากินกันละ ก็รบกันอย่างเดียว ภุมเทวดาท่านบอกว่า ไม่ใช่ คนไทยทั้งชาติ ตั้งหน้าตั้งตาทำมาหากิน แต่พระนเรศวรมหาราชจะตั้งหน้าตั้งตารบ ถามว่า รบองค์เดียวหรือ ท่านบอกว่า มีคู่หูรบ ถามว่า รบกับอะไร รบกับใคร รบอย่างไร

ท่านบอกว่า รบกับความยากจนของคนทั้งชาตินั่นคือ พระนเรศวรมหาราชมีพระเมตตากรุณากับคนไทยมามาก


ในกาลก่อนที่ต้องการรบ ก็เพราะว่า ต้องการให้บรรดาประชาชนมีความสุข ถ้าพม่ารบกวนอย่างนั้น คนไทยจะมีความสุขไม่ได้ จะตั้งตัวไม่ได้ ก็มีความจำเป็นต้องรบ เสี่ยงชีวิตแม้ต้องปีนค่าย เอาปากคาบดาบ เอามือยึดค่าย เท้าปีนค่ายก็เอาขึ้นไปฟันกับข้าศึก ถ้าพลาดพลั้งมันก็ต้องตาย เสียสละชีวิตของพระองค์ เพื่อคนไทยทั้งชาติขนาดนี้


และสิ่งทั้งหลายเหล่านี้เป็นนิสัย ขึ้นชื่อว่า นิสัย นี่ละไม่ได้ ดู พระสารีบุตร เคยเป็นลิงเหมือนกัน นิสัยลิงต้องโดด เมื่อถึงลำคลอง ลำรางพอจะข้ามได้ก็ไม่ข้าม กระโดด จนกระทั่งพระบวชใหม่สงสัย องค์สมเด็จพระจอมไตรจึงบอกว่า กิเลส ละได้ แต่นิสัย ละไม่ได้ ขนาดเป็น อัครสาวก


ทีนี้สำหรับ พระนเรศวรมหาราชเป็นนักรบ เป็นนิสัย เกิดชาติไหน ก็ต้องรบชาตินั้น ในเมื่อเกิดชาติตอนหลังขึ้นมา โอกาสที่จะรบอย่างนั้นมันไม่มี เพราะว่า มีแม่ทัพ มีนายกอง มีรัฐบาลควบคุมงานการบริหาร รัฐบาลควบคุม พระมหากษัตริย์อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ ก็ต้องวางแผนรบกับความยากจนของบรรดาประชาชนชาวไทย ถามท่านว่า อีกกี่ปี จะถึงวาระที่พระนเรศวรมหาราชมาครองประเทศไทย

ท่านบอกว่า หากว่าท่านอยู่ไปไม่ตาย ไม่นานนักท่านก็มาครองประเทศไทยแน่ เวลาที่ถาม เป็นสมัยของรัชกาลที่ ๘”

เมื่อท่านอ่านมาถึงตรงนี้คงชัดเจนนะครับว่า สมเด็จพระนเรศวรมหาราชของเราบัดนี้ท่านมาเกิดเป็นในหลวงรัชกาลที่ ๙ ซึ่งเป็นที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทยนั่นเอง


และพระองค์ท่านก็ได้ต่อสู้กับความยากจนของคนไทยมาจนบัดนี้กำลังจะครบ ๘๔ พรรษา ผมได้นำตอนนี้ทั้งตอนมาให้ท่านได้อ่านในตอนท้ายของบทความนี้ ใจจริงแล้วอยากให้ท่านได้อ่านหนังสือหลวงพ่อธุดงค์เล่มนี้ทั้งเล่ม ถ้าท่านสนใจก็หาอ่านเองนะครับ รับรองว่าสนุกมากๆ ได้ความรู้มากมาย และถ้าท่านสนใจมากกว่านี้ก็ติดตามอ่านหนังสือของหลวงพ่อฤาษีลิงดำดู ทุกเล่มของท่านอ่านสนุกมากครับ ถ้าท่านต้องการรู้เรื่อง ผี เทวดา นรก เปรต อะไรทำนองนี้ ก็อ่านเรื่อง ตายแล้วไปไหน


ถ้าต้องการทราบประวัติของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ตั้งแต่สมัยเด็กๆ ก็อ่านเรื่องประวัติหลวงพ่อปาน หรือถ้าสนใจเรื่อง อดีตชาติของหลวงพ่อและประวัติของชาติไทยว่ามีความเป็นมาอย่างก็ติดตามอ่านในหนังสือเรื่อง เรื่องจริงอิงนิทานพิเศษ และถ้าท่านใดสนใจในการปฏิบัติธรรมและอยากทราบว่า หลวงพ่อฤาษีลิงดำท่านเป็นพระอริยเจ้าเมื่อไร ด้วยวิธีใด ก็อ่านจาก หนังสือ ปฏิปทาท่านผู้เฒ่า ความจริงแล้ว เรื่องราวของท่านมีอีกมาก สำหรับท่านที่ไม่เคยอ่าน ค่อยๆตามอ่าน ผมมั่นใจว่าท่านไม่ผิดหวังแน่นอน ขอความเจริญในธรรม จงมีแด่ทุกๆท่านครับ

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=13503

ออฟไลน์ ภูแมว

  • MOD
  • *
  • ออฟไลน์
  • 1814
    546

เคยไปนมัสการหลวงพ่อฤาษีลิงดำ เมื่อตอนเป็นเด็ก ค่ะ และก็เคยไปวัดบางนมโค ที่หลวงพ่อปานเคยพำนัก ค่ะ สวดมนต์ของท่านได้บางบทด้วยค่ะ

ขอบคุณสำหรับบทความที่เอามาแชร์กันนะคะ  :'e:106  :'e:92

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=13503

ออฟไลน์ มนตรี

  • เทพ
  • *****
  • ออฟไลน์
  • 877
    79
    • อีเมล์

ขอบคุณบทความของคุณมหาร้อยวัด

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=13503

ออฟไลน์ หนูอ่ำ

  • มืออาชีพ
  • **
  • ออฟไลน์
  • 53
    4
  • เพศ: ชาย

ผมต้องไปหาหนังสือ "หลวงพ่อธุดงค์"มาอ่านเพิ่มเติมแล้ว ขอบคุณมากครับ สำหรังความรู้ใหม่ ๆ

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=13503


 ขอบคุณ ท่านมหาร้อยวัด ที่นำบทความดีๆ มาฝาก ชาติบ้านเมือง ของเราเจริญรุ่งเรืองมาได้ ตราบจนเท่าทุกวันนี้ เป็นเพราะพระบารมีและพระเมตตา ของพระมหากษัตริย์ ทุกพระองค์.....ทรงพระเจริญ...

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=13503

ออฟไลน์ เดช อุตรดิตถ์

  • มือสมัครเล่น
  • **
  • ออฟไลน์
  • 35
    8
    • อีเมล์

ขอบคุณสำหรับบทความดีๆ ครับ

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=13503

ออฟไลน์ ชบาบาน

  • VIP
  • *****
  • ออฟไลน์
  • 579
    486
  • เพศ: ชาย
  • แม้สองเท้าติดตมจมโคลนอยู่ แต่ตายังเงยดูดวงดาวได้
    • อีเมล์

ขอบคุณขอรับท่านมหา ได้รู้ในสิ่งที่ยังไม่เคยรู้

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=13503

ออฟไลน์ เก๊ะ

  • มือสมัครเล่น
  • **
  • ออฟไลน์
  • 3
    2

พระนเรศวรท่านทำคุณความดีไว้ชาติมากมาย เป็นที่น่าเคารพยกย่อง

ส่วนท่านจะมาเกิดแล้วหรือยัง อันนี้ผมรู้ไม่ได้

ถ้าท่านมาเกิดแล้ว มันก็ภพชาติใหม่ของท่าน อย่ามัดรวมเลยครับ
ภพชาติใหม่ก็ได้กรรมเก่ามาเกื้อหนุน ส่วนกรรมใหม่ท่านจะทำดีหรือไม่ดีอย่างไร มันก็อีกเรื่องหนึ่ง

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=13503

ออฟไลน์ นายกบเอ้บ

  • มือสมัครเล่น
  • **
  • ออฟไลน์
  • 6
    2

ขอบคุณครับที่นำมาแบ่งปัน

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=13503

ออฟไลน์ ธีระพัศธ์

  • มือสมัครเล่น
  • **
  • ออฟไลน์
  • 16
    4

ขอบคุณสำหรับบทความครับ

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=13503

ออฟไลน์ หนุ่ย บ้านส้อง

  • มืออาชีพ
  • **
  • ออฟไลน์
  • 144
    12
    • อีเมล์

 :'e:31
ได้ความรู้มากขึ้นครับ ขอเรื่องอื่นๆ้เพิ่มเติมได้อีกหรือไม่ครับ
 :'e:94

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=13503

ออฟไลน์ แซน กทม.

  • ปรมาจารย์
  • ***
  • ออฟไลน์
  • 231
    17

ขอบคุณสำหรับบทความดีๆอย่างนี้ รู้สึกรักในหลวงขึ้นอีกเท่าตัวเลยครับ ขอให้พระองค์จงทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน  :'e:92

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=13503