ผู้เขียน หัวข้อ: น้ำมันพืช... อันตรายระดับชาติ !!!  (อ่าน 7473 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ ภูแมว

  • MOD
  • *
  • ออฟไลน์
  • 1814
    546


น้ำมันพืช... อันตรายระดับชาติ !!!   :'e:38


คนไทยตาสว่างเสียที … เลิกเสียเงินซื้อยาฝรั่ง ต้นเหตุเพียงแค่น้ำมันพืชเคลือบระบบดูดซึม อดีตเมื่อก่อน  30  ปีที่แล้ว คนไทยใช้น้ำมันมะพร้าว และน้ำมันหมูทำกับข้าว จู่ๆโฆษณา(แหกตา)ฝรั่ง มากล่าวโทษวิถีไทยเดิมๆ มาขี้ตู่ หาว่าน้ำมันมะพร้าว และน้ำมันหมู ทำให้คลอเลสเตอรอลสูง เพราะจับตัวเป็นไข แล้วขี้ตู่ว่าวิธีแก้คือ การใช้น้ำมันพืชปัจจุบันผู้คนส่วนใหญ่เปลี่ยนมาใช้น้ำมันพืช เพราะความเชื่อผิดๆที่ถูกฝรั่งฝังหัวมา แต่ปรากฏว่า อัตราการเป็นโรคต่างๆมากขึ้น  …  ไขมันในเลือดสูง ,  โรค หัวใจ ,  โรคไต ,  ภูมิแพ้ … เป็นต้น

วงการสุขภาพของตะวันตก เพิ่งจะมาตาสว่างเมื่อค้นพบโทษของน้ำมันพืชสหรัฐฯได้ออกมาตรการลด ละ เลิก ใช้ น้ำมันพืชผ่านกรรมวิธี( transfat oil) ใน หลาย ๆ รัฐท่านสามารถอ่านข่าวเหล่านี้ได้ เช่น อาร์โนลด์ ชวาชเนกเกอร์ ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย กับการแบนการใช้น้ำมันพืชผ่านกรรมวิธี โดยกล่าวว่า   “ การใช้น้ำมันพืชผ่านกรรมวิธี ทำให้เป็นโรคหลอดเลือดหัวใจ …”

http://gov.ca.gov/press-release/ 10291/
รัฐ เท็กซัส … พระราชบัญญัติขจัดน้ำมันพืชแปรรูปให้หมดจากร้านอาหารภายใน สิงหาคม   2553 KFC  เริ่มเห็นโทษของน้ำ มันพืชผ่านกรรมวิธี ออกเมนูไร้น้ำมันพืช  Transfat McDonald  ประกาศเริ่มใช้ น้ำมันชนิดอื่น แทนน้ำมันพืชผ่านกรรมวิธีเมื่อป ี   2007   เริ่ม ต้นที่ 1 , 200   สาขา  Dunkin Donut  ประกาศ เลิกใช้น้ำมันพืชผ่านกรรมวิธีตั้งแต่ปี   2550   เว๊บไซท์ ต่อต้าน transfat  http://www.bantransfats.com/   โรคที่มากับน้ำมันพืชผ่านกรรมวิธี … ระบบเผาผลาญอาหาร เสื่อม ,  เบาหวาน  ,  ธัยรอยด์ ,  เสื่อสมรรถภาพทางเพศ ,  โรคหัวใจ ,  โรคอ้วน ,  โรคไต   

http://transfatdisease.com/why.html
อาหารที่พบอยู่ทั่วไปมีน้ำมันพืชเสมอ …   ก๋วยเตี๋ยว ,  ผัดไทย ,  หอยทอด ,  ราดหน้า ,  ผัดผักทุกชนิด ,  ไก่ทอด ,  ปาท่องโก๋ ,  ข้าวผัด ขนมอบ เบอเกอรี่ … สรุปรวมว่า อาหารทุกชนิดที่ใช้ กะทะ (ผัด ทอด) ใช้น้ำมันพืชทั้งนั้น
น้ำมันพืชเกือบทุกชนิด ใช้น้ำมันปาล์มเป็นวัตถุดิบ ซึ่งราคาถูก แต่ขวางระบบดูดซึม น้ำซึมผ่านไม่ได้ หากใช้วัสดุอื่นตามที่โฆษณาจริง เหตุใดจ ึงยังขายได้ในราคาถูกเช่นนั้น   


อย่าให้คำว่า   ‘ ไม่เป็นไข ’   มาหลอกท่านได้อีกน้ำมันพืชเมื่ออยู่ในอุณหภูมิที่ต่ำกว่า   25   องศา จะดูสวยงาม ไม่เป็นไข ผิดกับน้ำมันหมูที่เมื่อยู่ในอุณหภูมิต่ำจะเป็นไข … แต่เมื่อน้ำมันพืชเข้าไปอยู่ ในร่างกาย อุณหภูมิ   37   องศา จะกลายเป็นกาวเหนียว เกาะติดลำไส้ตั้งแต่ลำคอลงมาถึงลำไส้ใหญ่ไม่สามารถล้างออกได้ด้วยพืชผักที่เราทานเข้าไป และ ไม่สามารถล้างออกได้ด้วยน้ำชาธรรมดา … แต่น้ำมันจากสัตว์ และ น้ำมันมะพร้าว เมื่ออยู่ในอุณหภูมิร่างกายจะไม่มีทางเป็นไข และจะละลายกับน้ำได้ สารอาหารต่างๆยังซึมเข้าร่างกายได้


หากท่านลองนำน้ำมันพืชใส่ภาชนะ แล้วไปตั้งทิ้งไว้กลางแดดสัก   10   นาที อุณภูมิจะประมาณ   30   กว่าองศาใกล้เคียงร่างกายมนุษย์ … ท่านเช็ดน้ำมันพืชออกได้ยากมาก เหมือนกับที่เขม่ากาวติดกะทะ เครื่องครัว เขม่ากาวเหนียวนั่นคือผลของน้ำมันพืชโดนความร้อนจำเป็นต้องใช้กรดมาล้างเท่านั้นแต่หากท่านลองใช้น้ำมันหมู หรือ น้ำมันมะพร้าว ใส่ภาชนะแล้วตากแดด …


จะพบว่าล้างออกได้โดยง่ายเมื่อน้ำมันพืชเคลือบระบบดูดซึมท่านทั้งหมด น้ำก็จะไม่เข้าร่างกายท่าน เมื่อท่านทานน้ำ น้ำก็จะถูกไตพาไปที่กระเพาะปัสสาวะโดยเร็วเสมือนกับท่านทานน้ำ   100%   น้ำเกือบทั้งหมดไม่ได้ถูกดูดซึมเข้าไปใช้ในอวัยวะต่างๆเลย กลับเป็นภาระให้ไตนำไปทิ้งเกือบ   100%   


นี่คือ เหตุผลว่า ทำไมท่านทานน้ำแล้วฉี่บ่อย เป็นโรคไต และ โรคกระเพาะปัสสาวะ ตามมา เมื่อน้ำซึมเข้าตัว ไม่ได้ วิตามินที่มากับน้ำ เช่น วิตามินบี และ ซี ก็จะไม่เข้าร่างกายท่าน   


ขาดวิตามินบี ทำให้สมองมีปัญหา เฉื่อยชา ความจำสั้น หากหญิงกำลังตั้งครรค์ มีโอกาสทำให้ลูกคลอดมาเป็นออทิสติค ขาดวิตามินซี ทำให้ภูมิคุ้มกันมีปัญหาเป็นภูมิแพ้ หวัด ไวรัสเมื่อภูมิคุ้มกันมีปัญหา ท่านก็จะติดโรคอื่นๆได้ง่ายมาก   

จบลงด้วยการเสียเงินซื้อยา ฝรั่ง เงินทองไหลออกนอกประเทศ เพราะเพียงแค่ท่านหลงเชื่อว่าน้ำมันพืชสมัยใหม่ไม่เป็นอันตราย น้ำมันพืชผ่านกรรมวิธี จำเป็นต้องผ่านกระบวนการ
-   ฟอก สี ( bleached)  เพื่อให้สีดูสวย สดใส
-   แต่งกลิ่น ( deodorized)  เพื่อให้ไม่มีกลิ่นหื มีกลิ่นตามที่ต ้องการใส่ ไฮโดรเจน ( hydrogenated)
-กระบวนการเหล่านี้ทำให้สารเคมีเปลี่ยน เมื่อทานเข้าไปแล้วเป็นพิษต่อร่างกายโดยตรง

เมื่อใดที่เห็นข้างกล่องผลิตภัณฑ์ว่า มีน้ำมันพืชผ่านกรรมวิธี ขอให้รู้ว่านั่นคือยาพิษ โยนทิ้งขยะทันที   …
…Trans fats do not exist in nature. They are laboratory-designed and have adverse health consequences. They interfere with the body’s production of beneficial fatty acids and promote heart disease. As trans fatty acids offer no benefits and only clear adverse metabolic consequences, when you see the words partially hydrogenated on the side of a box, consider it poisonous and throw it in the trash. (Ascherio, A., and W. C. Willett. 1997. Health effects of trans fatty acids. Am. J. Clin. Nutr. 66 (4 supp.): 1006 S– 10 S.)
http://www.diseaseproof.com/archives/hurtful-food-dunkin-donuts-kills-trans-fat.html



ถึงเวลาล้างได้แล้ว ท่านจำเป็นต้องล้างน้ำมันพืชในร่างกาย ที่สะสมมาตั้งแต่เกิดเสียที ด้วยสูตรตามธรรมชาติที่ท่านสามารถพึ่งพาตัวเองได้ มี   2   สูตร   ที่ได้รับการทดสอบจากประชาชนทั่วไปมากกว่าห้าหมื่นคน และ ได้ผลสูตรที่ เร็วที่สุด คือ

น้ำชามะละกอ   (ล้างอย่างเดียว แต่เร็ว)
วิธีทำ : มะละกอดิบที่ใช้ตำส้มตำ นำมาหั่นเป็นชิ้นเหมือนชิ้นฟัก ประมาณ   6-8   ชิ้นต่อน้ำ   2   ลิตร จะขาดจะเกิน ไม่ผิด(ถ้าใส่มากเกินไปจะทำให้บูดง่าย มะละกอดิบที่เหลือ ใส่ตู้เย็นเก็บไว้ใช้ได้ในครั้งต่อไป) และ ใบเตย หรือ เก๊กฮวย อย่างใดอย่างนึง กะเอง ต้มในน้ำ จนเดือด พอเดือดได้ ประมาณ   1   นาที ปิดไฟทันที อย่าต้มต่อ ให้เอามะละกอ กับ ใบเตยทิ้ง(อย่า ปล่อยให้มะละกอเดือดจนเละ) แล้ว ใส่ใบชา ลงไปแช่ประมาณ   4   นาที ห้ามแช่นานกว่า   4   นาที เพราะสารแทนนินจะออกมา ทำให้ท้องผูก แล้วตักใบชาทิ้ง จะได้น้ำชามะละกอ ดื่มร้อน หรือ เย็นได้ น้ำชาที่เหลื อให้แช่ตู้เย็น เก็บไว้ได้ประมาณ   2   วัน เกินกว่านั้น จะบูด (ยางมะละกอล้างไขม ัน ,  ใบเตยให้ความสดชื่น ,  ชาดับกลิ่นมะละกอ)
สูตรนมสดโยเกิร์ตน้ำผึ้งมะนาว   (ล้างและบำรุง ค่อยๆล้าง)
นมสด โยเกิร์ต น้ำผึ้ง มะนาว : ใช้โยเกิร์ตชนิดจืดครึ่งถ้วย ผสมนมสดชนิดจืด   1   กล่อง เติมน้ำผึ้ง   2   ช้อนชา และ บีบมะนาว   2   ลูก คนให้เข้ากัน ทิ้ง ไว้   5-10   นาที แล้วค่อยดื่ม
คุณสมบัติ : ให้วิตามิน  B  บำรุงสมอง วิตามิน  C  เพิ่มภูมิต้านทาน ,  จุลินทรีย์ตัวดีช ่วยย่อยน้ำ มันพืช ,  นมสด ให้แคลเซียม   


ขอให้ท่านมองดูคนป่วยรอบกายท่าน คนป่วยในสังคม แล้วถามตัวเองว่า
-   คนเหล่านั้น ทานน้ำมันพืชแล้วภูมิคุ้มกันมีปัญหา ป่วย แต่ไปรักษาปลายเหตุ ใช่หรือไม่  ?
-   คนป่วยเหล่านี้มากพอหรือยัง เงินที่คนป่วยเหล่านี้ต้องจ่ายซื้อ ยา เงินนั้นอยู่ในประเทศ หรือนอกประเทศ  ?
-   เศรษฐ กิจพอ เพียงจ ะเกิดขึ้นได้อย่างไร หากคนไทยยังไม่ดูแลสุขภาพตนเอง ต้องพึ่งพายาฝรั่งไปเรื่อย ๆ  ?  ท่านอย่าเพิ่งเชื่อบทความนี้ จนกว่า ท่านหาจะได้ข้อมูลเพิ่มเติมใน  search engine (google)  ต่างๆ ด้วยตนเอง โดย พิมพ์  key word  ต่อไปนี้ (พิมพ์ครั้งละ   1คำ)  Transfat, transfat bill, vegetable oil bad health, hydrogenated oil,  ชามะละกอ < / FONT> ,  อันตราย น้ำมันพืช

แล้วจะให้ใช้น้ำมันอะไร ?

ผศ.ดร.เรวดี จงสุวัฒน์ อาจารย์ประจำภาควิชาโภชนวิทยา คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยว่า ปัจจุบันผู้บริโภคมีความรู้ เข้าใจถึงผลดีผลเสียของการบริโภคน้ำมันแต่ละชนิดว่า ชนิดใดเหมาะสมหรือไม่ต่อผู้ที่เป็นโรคหัวใจ เบาหวาน มะเร็ง หลายคนเริ่มหลีกเลี่ยงน้ำมันไม่ดีหันมาใช้น้ำมันที่มีสัดส่วนกรดไขมันชนิดดีมากขึ้น ในปริมาณที่เหมาะสมเพื่อสุขภาพที่ดี เช่น น้ำมันมะกอก น้ำมันเมล็ดชา น้ำมันคาโนล่า   ซึ่งพบว่ามีกรดไขมันดี ชนิดไม่อิ่มตัวตำแหน่งเดียวสูง กรดไขมันไม่อิ่มตัวตำแหน่งเดียว   มีผลต่อการเพิ่มคอเลสเตอรอลชนิดดี ( HDL)  และลดคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี ( LDL)  ลดความเสี่ยงการเกิดโรคหลอดเลือดและหัวใจ กรดไขมันโอเมก้า3   และ   6   เป็นกรดไขมันจำเป็น ซึ่งหมายถึงกรดไขมันที่ร่างกายสร้างไม่ได้ต้องได้รับจากอาหาร ที่ได้จากน้ำมันทานตะวัน และเป็นสารตั้งต้นในการสร้าง  EPA  และ  DHA  ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด มีส่วนช่วยให้สมองและดวงตาทำงานได้ดี   

   

   ดร.เรวดีกล่าวว่า ขณะนี้นักวิจัยพบว่าร่างกายคนควรบริโภคกรดไขมันชนิด โอเมก้า   3   และโอเมก้า   6   ในปริมาณที่พอเหมาะและสัดส่วนสมดุล โดยสถาบันแพทย์มหาวิทยาลัยแมรี่แลนด์ แนะนำให้บริโภคโอเมก้า   6 :   โอเมก้า   3   ในสัดส่วน   4 : 1   เพื่อความสมดุลของร่างกายและช่วยป้องกันภาวะผิดปกติของร่างกาย ในสัดส่วนที่เหมาะสม เป็นทางเลือกใหม่การบริโภคน้ำมันชนิดใหม่ที่เกิดจากการผสมผสานระหว่าง "น้ำมัน คาโนล่าผสมน้ำมันทานตะวัน" ทั้ง   2   ชนิดนี้เป็นที่ยอมรับในกลุ่มผู้รักสุขภาพว่าเป็นน้ำมันที่ดีมีคุณค่าต่อสุขภาพ โดยนำมาผสม ในสัดส่วนน้ำมันคาโนล่า   4   ส่วนต่อน้ำมันทานตะวัน   1   ส่วน ผ่านการค้นคว้าแล้วว่าสมดุลเหมาะสมกับความต้องการของร่างกาย   

     
สำหรับน้ำมันคาโนล่าผสมน้ำมันทานตะวัน ต้องผ่านการผสมผสานในสัดส่วนที่เหมาะสม คือ   4 : 1   จึงจะได้เป็นน้ำมันผสมที่มีความสมดุลของกรดไขมันโอเมก้า   3   และโอเมก้า   6   ที่เหมาะสมและดีต่อสุขภาพ พร้อมกันนี้น้ำมันผสมของน้ำมันคาโนล่าและน้ำมันทานตะวันในสัดส่วนนี้ ยังมีกรดไขมันอิ่มตัวและกรดไขมันทรานซ์ต่ำ ไม่ทำให้ระดับคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี ( LDL)  เพิ่มขึ้น   นอกจากนี้  Blended oil ที่เกิดจากการผสมของน้ำมันคาโนล่าและน้ำมันทานตะวันในสัดส่วนนี้ ยังมีโอเมก้า   9   และวิตามินอีสูง   มีจุดเดือดสูงถึง   230   องศา สามารถนำมาประกอบอาหารได้หลากหลายประเภท ทั้ง ผัด ทอด ย่าง หมัก ทำน้ำสลัด แม้น้ำมันผสมระหว่างน้ำมันคาโนล่าและน้ำมันทานตะวันยังไม่เป็นที่รู้จักกันมากนัก แต่ประโยชน์จากคุณค่าที่โดดเด่นของน้ำมันทั้ง   2   ชนิด เมื่อมารวมกันจึงช่วยเพิ่มสมดุลของกรดไขมันที่จำเป็นและมีประโยชน์ต่อร่างกาย ซึ่งโอเมก้า   3   มีส่วนช่ วยให้สมองและดวงตาทำงานได้ดี โอเมก้า   6   ช่วยลดความเสี่ยงโรคหลอดเลือดและควบคุม ความดันให้อยู่ในระดับปกติ และโอเมก้า   9   ที่มีผลช่วยลดความเสี่ยงโรคหลอดเลือดและหัวใจ

------
NOTE:   :'e:121 อันนี้พอดีเพื่อนส่งต่อมาให้ได้รับนานแล้วค่ะ ก็เลยเอามาแชร์เผื่อว่า ใครยังไม่เคยอ่านนะคะ แต่ว่าในยุคปัจจุบันเราก็หันมาบริโภคน้ำมันพืชกันเกือบหมดแล้วเพราะสะดวกซื้อ ไม่ต้องไปซื้อมันหมูที่ตลาดมาเจียวนะคะ เดิมที่บ้านก็เคยทานน้ำมันหมูพอหน้าหนาวจะเป็นไข และเก็บไว้ได้ในช่วงเวลาสั้นกว่าเพราะมันจะเริ่มมีกลิ่นหืนอ่ะค่ะ แต่ระยะหลังๆ ก็หันมาใช้น้ำมันพืชเพราะไม่เป็นไข สะดวกซื้อ ไม่ต้องเปลืองแก๊สหุงต้มในการเคี่ยวเอาน้ำมันหมูและประหยัดเวลากว่าน่ะค่ะ โดยที่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไรด้วยสถานการณ์ยุคปัจจุบันอะไรก็เน้นง่าย สะดวก สบาย

ส่วนข้อมูลนี้จะจริงหรือเท็จอย่างไร คงต้องลองตามลิงค์ต่างๆ ไปและใช้วิจารณญาณอีกที ตลอดจนลองสอบถามคุณหมอดูนะคะว่า จริงๆ แล้วอันไหนจะดีกว่ากันอ่ะค่ะ

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=12278

ออฟไลน์ มนตรี

  • เทพ
  • *****
  • ออฟไลน์
  • 877
    79
    • อีเมล์
Re: น้ำมันพืช... อันตรายระดับชาติ !!!
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: 20/ธ.ค./12 07:36น. »

เมื่อชีวิตประจำวันยังต้องบริโภคอาหารนอกบ้านอย่างหลีกเลี่ยงไม่ไ้ด้ต้องหาตัวช่วยล้างไขมัน
ถึงได้ไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ก็ยังดีกว่าไม่กำจัดมันออกจากร่างการเลย
ขอบคุณมากครับ คุณเหมียว ชลบุรี สำหรับเรื่องราวดี ๆ และสูตรน้ำชามะละกอ

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=12278

ออฟไลน์ จงรักษ์

  • ปรมาจารย์
  • ***
  • ออฟไลน์
  • 329
    65
  • เพศ: ชาย
    • อีเมล์
Re: น้ำมันพืช... อันตรายระดับชาติ !!!
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: 20/ธ.ค./12 21:56น. »

เรื่องการกินเป็นเรื่องใกล้ตัวที่เราต้องปฏิบัติอยู่ทุกวัน ไม่น่าเชื่อเช่นกันว่า ของทอดที่เราทานทุกวันก็มีพิษเช่นกัน ขอบคุณมากครับ..ที่นำสาระดีๆมาให้อ่านครับ

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=12278

Re: น้ำมันพืช... อันตรายระดับชาติ !!!
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: 20/ธ.ค./12 22:01น. »

เมื่อน้ำมันพืชเคลือบระบบดูดซึมท่านทั้งหมด น้ำก็จะไม่เข้าร่างกายท่าน เมื่อท่านทานน้ำ น้ำก็จะถูกไตพาไปที่กระเพาะปัสสาวะโดยเร็วเสมือนกับท่านทานน้ำ   100%   น้ำเกือบทั้งหมดไม่ได้ถูกดูดซึมเข้าไปใช้ในอวัยวะต่างๆเลย กลับเป็นภาระให้ไตนำไปทิ้งเกือบ   100%   

 ข้อความนี้ผิดเห็นๆครับ

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=12278

ออฟไลน์ ภูแมว

  • MOD
  • *
  • ออฟไลน์
  • 1814
    546
Re: น้ำมันพืช... อันตรายระดับชาติ !!!
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: 22/ธ.ค./12 00:24น. »

เมื่อน้ำมันพืชเคลือบระบบดูดซึมท่านทั้งหมด น้ำก็จะไม่เข้าร่างกายท่าน เมื่อท่านทานน้ำ น้ำก็จะถูกไตพาไปที่กระเพาะปัสสาวะโดยเร็วเสมือนกับท่านทานน้ำ   100%   น้ำเกือบทั้งหมดไม่ได้ถูกดูดซึมเข้าไปใช้ในอวัยวะต่างๆเลย กลับเป็นภาระให้ไตนำไปทิ้งเกือบ   100%   

 ข้อความนี้ผิดเห็นๆครับ
คุณนนท์์ คะดิฉันได้ระบุ NOTE ไว้ด้านล่างด้วยนะคะ -> ส่วนข้อมูลนี้จะจริงหรือเท็จอย่างไร คงต้องลองตามลิงค์ต่างๆ ไปและใช้วิจารณญาณอีกที ตลอดจนลองสอบถามคุณหมอดูนะคะว่า จริงๆ แล้วอันไหนจะดีกว่ากันอ่ะค่ะ

ซึ่งดิฉันเองก็ไม่มีความรู้ความชำนาญทางด้านการแพทย์หรือสาธารณสุขน่ะค่ะ แ่ต่ได้รับการเผยแพร่มาจากเพื่อนผ่านอีเมล์น่ะคะ่เลยเอามาแชร์ต่อตามที่แจ้งไปแล้ว ถ้าที่ถูกเป็นอย่างไรหากคุณทราบรบกวนหน่อยนะคะ เพื่อผู้อื่นที่ผ่านมาจะได้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องชัดเจนกว่านี้ไงคะ
ช่วยกันแก้นะคะ
ขอบคุณล่วงหน้าด้วยค่ะ

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=12278

ออฟไลน์ วิทยา กรุงเทพ

  • มืออาชีพ
  • **
  • ออฟไลน์
  • 103
    5
Re: น้ำมันพืช... อันตรายระดับชาติ !!!
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: 24/ธ.ค./12 16:59น. »

โลกเราก็แปลกๆแบบนี้แหละ มีแต่คนที่คิดจะหาประโยชน์กันแทบทั้งนั้น ไม่มีสำนึกถึงผู้บรฺโภคกันเลย เห็นมนุษย์เป็นหนูทดลอง แย่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ แต่ยังดีที่มีคุณที่ยังห่วงใยเพื่อนร่วมโลก ขอบคุณมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=12278

ออฟไลน์ พันธุ์

  • มืออาชีพ
  • **
  • ออฟไลน์
  • 56
    5
Re: น้ำมันพืช... อันตรายระดับชาติ !!!
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: 07/ม.ค./13 15:35น. »

ผมขายปลาท่องโก๋อยู่ คงต้องใช้น้ำมันหมูทอดดีกว่ามั๊ง

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=12278

Re: น้ำมันพืช... อันตรายระดับชาติ !!!
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: 08/ม.ค./13 07:33น. »

    ที่บ้านผม นี้มีสวนมะพร้าว อยู่นิดหน่อย เลยทำน้ำมันไว้กินเอง หลังจากขายแลัว ลูกแก่ๆ งอกๆ เราก็เอามาขูด คั้นกระทิ นำไปเคี่ยวทำน้ำมัน ได้น้ำมันมะพร้าวทอดปลา ทำกับข้าว ส่วนจะผัดผักนี่ เราซื้อมันหมู มาเจียวน้ำมัน เก็บไว้ทั้งกาก คลุกข้าวกินกับกะปิ ก็อร่อยดี(แต่ไม่กินบ่อย กลัว พุงยื่น) ส่วนขี้มันจาก น้ำมันมะพร้าวนี่ เอาไว้ทำขนม กินกับข้าว อร่อยดี นี่คือภูมิปัญญาโบราณ ท้องถิ่น ที่มีประโยชน์กับชีวิตประจำวัน ที่บ้านไม่ค่อยจะซื้อ หรือทานอาหารนอกบ้าน เพราะไม่ถูกกับผงชูรส นอกจากเลี่ยงไม่ได้ จริงๆเท่านั้น นอกจากนี้ที่บ้านยัง
1.ปลูกผักทุกชนิดที่ิกินเอง
2.ปุ๋ยเคมี ไม่มีโอกาส เยี่ยมกรายเข้าไปในสวน
3.เราจะทำปุ๋ยใช้เอง ไม่ว่าจะเป็นปุ๋ยหมักแห้ง น้ำหมักชีวภาพ
4.สารเคมีไล่แมลง ก็ทำใช้เอง จากสมุนไพรพื้นบ้าน

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=12278

ออฟไลน์ น้องดา

  • MOD1
  • *****
  • ออฟไลน์
  • 2123
    211
  • เพศ: หญิง
  • -
    • -
    • อีเมล์
Re: น้ำมันพืช... อันตรายระดับชาติ !!!
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: 24/ม.ค./13 10:08น. »

อ่านดูแล้วน่ากลัวจังเลยค่ะ แล้วเราจะใช้อะไรค๊ะ สมัยนี้ทุกอย่างอันตรายหมด ขอบคุณมากค่ะคุณเหมียว ชลบุรี ที่นำสาระดีๆๆมาฝากค่ะ

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=12278
-

ออฟไลน์ คาร์บอย

  • มืออาชีพ
  • **
  • ออฟไลน์
  • 100
    6
Re: น้ำมันพืช... อันตรายระดับชาติ !!!
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: 25/ม.ค./13 16:05น. »

เป็นภัยที่น่ากลัว ไม่รู้ว่าประเทศเราจะมีมาตราการใดๆๆบ้าง ถ้าเป็นจริงตามนั้น คนไทยคงแย่

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=12278

Re: น้ำมันพืช... อันตรายระดับชาติ !!!
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: 28/ม.ค./13 14:19น. »

       :'e:92    ขอบคุณคุณเหมียวที่นำสาระดีๆกับสุขภาพมาฝาก ของทอดและของย่างอันตรายเสียงต่อโรคมะเร็งน่ากลัวมากต่อไปจะ ทอดเองจะดีกว่าค่ะ

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=12278

ออฟไลน์ ภูแมว

  • MOD
  • *
  • ออฟไลน์
  • 1814
    546
Re: น้ำมันพืช... อันตรายระดับชาติ !!!
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: 25/ก.พ./13 05:58น. »

       :'e:92    ขอบคุณคุณเหมียวที่นำสาระดีๆกับสุขภาพมาฝาก ของทอดและของย่างอันตรายเสียงต่อโรคมะเร็งน่ากลัวมากต่อไปจะ ทอดเองจะดีกว่าค่ะ
 

เปลี่ยนไปกินเมนูนึ่งๆ ต้มๆ แทนนะคะ อิ อิ อิ   :'e:78

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=12278

ออฟไลน์ ศศินี

  • ปรมาจารย์
  • ***
  • ออฟไลน์
  • 239
    34
    • อีเมล์
Re: น้ำมันพืช... อันตรายระดับชาติ !!!
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: 25/ก.พ./13 09:33น. »

โอ้โฮ นี่เราถูกฝรั่งหลอกมาตั้งนาน อ่านแล้วตาสว่างเลย

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=12278

ออฟไลน์ ดีใจ

  • เซียน
  • ****
  • ออฟไลน์
  • 464
    46
Re: น้ำมันพืช... อันตรายระดับชาติ !!!
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: 25/ก.พ./13 11:49น. »

ขอบคุณคุณเหมียว ที่นำสาระที่ดีมาฝากสมาชิกครับ มนุษย์เราก็ยังมีสภาพเป็นหนูลองยาอยู่ทุกยุคทุกสมัย ข้อมูลทางวิชาการบางยุคสิ่งหนึ่งดี แต่พอมาอีกยุคกลับกลายเป็นสิ่งไม่ดี เป็นอย่างนี้มาตลอดไม่เคยหยุดนิ่ง แต่มีสิ่งหนึ่งที่ธรรมชาติสร้างไว้เพื่อแก้ไขภาวะเช่นนี้ ก็คือการปรับสภาพร่างกายของมนุษย์ให้รับสภาพที่ว่านี้ มีอยู่ตลอดเวลาครับ ทำให้มนุษย์สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ การปรับเปลี่ยนไปตามสภาพแวดล้อมทำให้เรามีชีวิตอยู่ได้ครับ แล้วแต่ความเชื่อของแต่ละคน และอีกประการหนึ่งที่สำคัญ โบราณกล่าวว่าลางเนื้อชอบลางยา อันนี้คือทฤษฎีที่แน่นอนครับ ร่างกายคนเราชอบไม่เหมือนกัน แพ้หรือชนะกับบางสิ่งไม่เหมือนกัน ตัวเราเองที่รู้ดีที่สุดว่าอะไรดี-ไม่ดีสำหรับร่างกายของเรา เพียงแต่ควรหามันให้พบ และเข้าใจมันให้ได้เท่านั้นเอง ก็ทำให้ชีวิตเรามีความสุขแล้วครับ(ทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียง) อย่าไปกังวลกับข้อมูลบางอย่างให้มากนัก หากน้ำมันพืชเป็นอันตรายจริงก็คงแสดงฤทธิ์ให้เห็นไปนานแล้วครับ เพราะใช้กันมานานเกือบชั่วชีวิต(ของคนบางคน) แล้ว ความดีของน้ำมันพืชก็คงมีอยู่บ้าง แต่การเตือนก็เป็นสิ่งดี พิจารณากันเองนะครับ

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=12278

ออฟไลน์ สมศักดิ์ กทม

  • มืออาชีพ
  • **
  • ออฟไลน์
  • 65
    10
Re: น้ำมันพืช... อันตรายระดับชาติ !!!
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: 15/พ.ค./13 22:19น. »

น่ากลัวจังครับ ขอบคุณครับสำหรับสาระดีๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ แบบนี้ :'e:133 :'e:133 :'e:133

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=12278