ผู้เขียน หัวข้อ: ฟักข้าว พืชพื้นบ้าน ช่วยต้านมะเร็งชั้นยอด  (อ่าน 8699 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออนไลน์ ประสิทธิ์

  • Administrator
  • *
  • ออนไลน์
  • 6177
    9863
  • เพศ: ชาย
    • เพลงพักใจดอทเนต



‎" ฟักข้าว พืชพื้นบ้าน ช่วยต้านมะเร็งชั้นยอด "

ได้รับความนิยมในหมู่คนรักสุขภาพมาพักหนึ่งแล้ว สำหรับผักพื้นบ้านที่มีชื่อว่า "ฟักข้าว" เชื่อว่าหลายคนคงคุ้น ๆ กับ...ชื่อนี้ แต่อาจจะยังไม่รู้ว่า "ฟักข้าว" มีประโยชน์อย่างไร เอ้า...ใครที่ยังไม่รู้ว่า สรรพคุณของฟักข้าว มีอะไรบ้าง ตามมาอ่านกันจ้า

ฟักข้าว เป็นพืชไม้เลื้อยอยู่ในวงศ์แตงกวาและมะระ มีชื่อสามัญว่า Spring Bitter Cucumber เป็นพืชที่ขึ้นตามรั้วบ้าน หรือตามต้นไม้ต่าง ๆ มีมือเกาะคล้ายกับตำลึง ใบเป็นรูปหัวใจคล้ายใบโพธิ์ ขอบใบหยักเว้าลึกเป็นแฉก 3-5 แฉก ดอกจะมีสีขาวแกมเหลือง ตรงกลางมีสีน้ำตาลแกมม่วง

ผลของฟักข้าว 2 ลักษณะ คือ ทรงกลม และทรงรี ผลกลม ๆ จะยาวประมาณ 4-6 เซนติเมตร ส่วนผลรีจะยาวประมาณ 6-10 เซนติเมตร ถ้ายังเป็นผลอ่อนอยู่ ผลจะมีสีเขียวอมเหลือง มีหนามถี่ ๆ อยู่รอบผล แต่เมื่อสุกแล้ว ผลจะมีสีแดง หรือแดงอมส้ม และหากผ่าผลฟักข้าวออกดูข้างใน ก็จะเห็นเมล็ดจำนวนมากเรียงตัวกันคล้ายเมล็ดแตง แต่ละผลหนักประมาณ 0.5-2 กิโลกรัม

หลายคนที่อยู่ต่างจังหวัดอาจจะไม่คุ้นชื่อกับ "ฟักข้าว" แต่คุณอาจจะคุ้นกับชื่อที่เรียกกันในท้องถิ่น อย่างจังหวัดปัตตานี จะเรียก "ฟักข้าว" ว่า "ขี้กาเครือ" จังหวัดตาก จะเรียกว่า "ผักข้าว" จังหวัดแพร่ เรียก "มะข้าว" เป็นต้น

เห็นหน้าค่าตารู้จัก "ฟักข้าว" กันไปแล้ว ลองมาดูกันบ้างดีกว่า ว่า "ฟักข้าว" นำไปทำประโยชน์อะไรได้บ้าง ที่เห็นชัด ๆ เลยก็คือ คนนิยมนำผลอ่อนของฟักข้าวมาปรุงอาหาร เพราะรสชาติของฟักข้าวอร่อยออกขมนิด ๆ แต่นุ่มลิ้น และเพราะว่า "ฟักข้าว" เป็นพืชที่มีฤทธิ์เย็นเช่นเดียวกับพืชตระกูลแตง การรับประทาน "ฟักข้าว" จึงช่วยลดความร้อนในร่างกายได้ด้วย ซึ่งวิธีปรุงอาหารจาก "ฟักข้าว" ก็ไม่ยาก แค่นำ "ฟักข้าว" มาลวก หรือต้มให้สุก แล้วจิ้มกินกับน้ำพริก หรือใส่ในแกง เช่น แกงเลียง แกงส้ม ก็ได้เมนูอร่อยเด็ดอีกจานแล้ว

แล้วรู้ไหมว่า เห็น "ฟักข้าว" ผลเล็ก ๆ แบบนี้ แต่มีสรรพคุณเด็ด ๆ มากมายเลยล่ะ โดยเฉพาะผลอ่อนของฟักข้าวที่มีทั้งวิตามินซี แคลเซียม เหล็ก ไฟเบอร์ แต่สารอาหารที่พบมากใน "ฟักข้าว" ก็คือ เบต้าแคโรทีน โดยพบว่า เยื่อเมล็ดของฟักข้าวมีปริมาณเบต้าแคโรทีนสูงกว่าแครอทถึง 10 เท่าเชียวนะ ซึ่งสารตัวนี้เป็นสารตั้งต้นของวิตามิน ซึ่ส่วนช่วยบำรุงสายตาได้อย่างดี และยังทำหน้าที่เสมือนเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ

ไม่ใช่แค่ "แคโรทีน" เท่านั้น เพราะรายงานการศึกษาของต่างประเทศ ยังพบด้วยว่า ในเยื่อหุ้มเมล็ดฟักข้าวสีแดงมีไลโคปีนมากกว่ามะเขือเทศถึง 70 เท่า แต่สำหรับฟักข้าวสายพันธุ์ไทยมีปริมาณไลโคปีนมากกว่ามะเขือเทศเพียง 12 เท่า ซึ่งก็ถือว่ามากแล้ว

ทั้งนี้ ทางการแพทย์พิสูจน์แล้วว่า ไลโคปีนจากเยื่อหุ้มเมล็ดฟักข้าวเป็นสารต้านมะเร็ง มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย มีส่วนช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ โรคมะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งปอด และมะเร็งกระเพาะอาหาร ดังนั้น หากจะบอกว่า ฟักข้าว เป็นอาหารอีกหนึ่งชนิดที่ต้านมะเร็งได้ดีก็คงไม่ผิดนัก

นอกจากในประเทศไทยแล้ว เรายังสามารถพบ "ฟักข้าว" ได้ในอีกหลายประเทศในแถบเอเชีย ทั้งประเทศจีน พม่า ไทย ลาว บังกลาเทศ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม ซึ่งแต่ละประเทศก็รู้จักสรรพคุณของ "ฟักข้าว" เป็นอย่างดี และนำ "ฟักข้าว" มาใช้ประโยชน์ต่าง ๆ กัน อย่างเช่น

ประเทศจีน นิยมนำเมล็ดแก่ของฟักข้าวมาบดให้แห้ง นำไปผสมน้ำมัน หรือน้ำส้มสายชูเล็กน้อย แล้วทาผิวหนังบริเวณที่มีอาการอักเสบ บวม จะช่วยรักษาอาการบวมได้ นอกจากนั้น ยังช่วยรักษาโรคกลาก เกลื้อน ฟกช้ำ แก้อาการผื่นคัน โรคผิวหนังต่าง ๆ ได้ด้วย

ประเทศเวียดนาม ชาวเวียดนามนิยมนำฟักข้าวมาปรุงอาหารในเทศกาลปีใหม่ และงานมงคลสมรส โดยจากงานวิจัยของมหาวิทยาลัยฮานอย พบว่า น้ำมันจากเยื่อเมล็ดฟักข้าวมีประสิทธิภาพในการรักษามะเร็งตับ

ประเทศฟิลิปปินส์ นำรากฟักข้าวมาบดแล้วนำไปหมักผม เพื่อช่วยให้ผมดกและยังสามารถกำจัดเหาได้ด้วย ซึ่งในประเพณีล้านนาของไทยก็มีการนำฟักข้าวไปสระผมเช่นกัน เพื่อช่วยแก้อาการคันศีรษะ แก้รังแค แก้ผมร่วง และช่วยให้ผมดกดำขึ้น

ประเทศญี่ปุ่น มีการวิจัยพบว่า โปรตีนจากสารสกัดน้ำของผลฟักข้าวช่วยยับยั้งการเจริญของก้อนมะเร็งลำไส้ใหญ่ในหนูทดลอง

สำหรับในประเทศไทยเองนั้น ขณะนี้มีนักวิจัยกำลังศึกษาสรรพคุณของฟักข้าวอย่างมากมาย อย่างเช่น คณะนักวิจัยจากคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยพายัพ ได้ร่วมกันศึกษาเรื่องการนำน้ำมันของเยื่้อหุ้มเมล็ดฟักข้าวในอนุภาคไขมันระดับนาโน มาพัฒนาเป็นเครื่องสำอางลดเลือนริ้วรอย ซึ่งจากการทดสอบก็ได้ผลเป็นที่น่าพอใจ และทำให้งานวิจัยชิ้นนี้ได้รับรางวัล "IFSCC Host Society Award 2011" จากงานประชุมสมาพันธ์นักเคมีเครื่องสำอางนานาชาติ 2011 (IFSCC 2011)

นอกจากนี้ ยังมีงานวิจัยของมหาวิทยาลัยมหิดล ที่พบว่า ในเมล็ดฟักข้าวมีโปรตีนที่มีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญของเชื้อเอชไอวี และยับยั้งเซลล์มะเร็งได้ด้วย ขณะที่นักวิจัยจากคณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ก็กำลังศึกษาวิจัย เพื่อปรับปรุงและพัฒนาพันธุ์ฟักข้าวให้มีปริมาณเบต้าแคโรทีนและสารไลโคปีนสูงขึ้น และมีผลผลิตของเยื่อหุ้มเมล็ดเพิ่มมากขึ้นด้วย

เห็นแบบนี้แล้ว ต้องยกให้ "ฟักข้าว" เป็นพืชมหัศจรรย์อีกหนึ่งชนิด เพราะมีสรรพคุณทางยาและคุณค่าทางโภชนาการไม่น้อยเลยทีเดียว และเชื่อว่าหากมีการศึกษาวิจัยเพิ่มเติม เราคงได้ค้นพบถึงสรรพคุณเจ๋ง ๆ ของพืชพื้นบ้านชนิดนี้อีกแน่นอน

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=12162
สมาชิกใหม่..ก่อนตั้งกระทู้แนะนำตัวให้ดูตัวอย่าง.แล้วไปอ่านประกาศการใช้งานบอร์ดและห้องโหลดเพลง เมื่ออ่านเข้าใจแล้วก็ตอบรับทราบทั้ง 2 กระทู้1.ห้ามเด็ดขาดการใช้เพียงอีโมตอบกระทู้เพื่อโหลดเพลง.2.ห้ามตอบเพียงขอบคุณครับ/ค่ะ โหลดเพลง 5:1 อ่านให้เข้าใจด้วย

ออฟไลน์ ภูแมว

  • MOD
  • *
  • ออฟไลน์
  • 1814
    546

เกิดมาในชีวิต ก็เพิ่งเคยได้ยินชื่อนี้และเพิ่งเคยเห็นหน้าตามันอ่ะค่ะ อร่อยไหมคะลุงสิทธิ์เคยลองหรือยังคะ ไม่เคยเห็นเขาเอามาขายเลย ไอ้ลูกหนามๆ แบบนี้เคยเห็นและกินแต่ ลูกลิ้นจี่อ่ะค่ะ อย่างไรก็ขอบคุณสำหรับบทฟาร์มดีๆ นะค๊าาาาาา  :'e:92  sp762

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=12162

ออฟไลน์ สมพร เกาะยอ

  • ผู้ทรงเกียรติ
  • *
  • ออฟไลน์
  • 1136
    937
    • อีเมล์


    แถวสงขลา เขาเรียง มะระไฟ นะ  ไม่แน่ว่าท่านประสิทธิ์เคยได้ยินชื่อนี้ไหม  ได้รับความนิยมอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน
เขาเอาเถามาปักชำ หรือเมล็ดมาปลูกก็ได้ เดี๋ยวนี้มีขายเยอะ ภูวดี เห็นทุกวัน ที่ตลาดนัดวันอาทิตย์ สงขลา

   ขอบคุณท่านประสิทธิ์ ที่นำสิ่ง ดีๆ มีประโยชน์มากฝาก ให้รับทราบกัน 
เอ้าทุกท่าน ใครไม่อยากเป็นมะเร็ง ไปหามาปลูก และกินกันนะ


+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=12162

ออนไลน์ ประสิทธิ์

  • Administrator
  • *
  • ออนไลน์
  • 6177
    9863
  • เพศ: ชาย
    • เพลงพักใจดอทเนต

กระบี่เรียก "น้ำเต้าไฟ" ครับพี่สมพร ที่บ้านผมได้ใช้งานแระ พี่ชายของแม่เป็นมะเร็งที่ลำไส้ใหญ่ ผ่าตัดเอาลำไส้ออก ไม่ฉายแสง แต่กิน น้ำเต้าไฟนี้แหละ ทุกวันนี้ยังแข็งแรงอยู่เลยครับพี่ น่าอัศจรรย์จริงๆครับ

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=12162
สมาชิกใหม่..ก่อนตั้งกระทู้แนะนำตัวให้ดูตัวอย่าง.แล้วไปอ่านประกาศการใช้งานบอร์ดและห้องโหลดเพลง เมื่ออ่านเข้าใจแล้วก็ตอบรับทราบทั้ง 2 กระทู้1.ห้ามเด็ดขาดการใช้เพียงอีโมตอบกระทู้เพื่อโหลดเพลง.2.ห้ามตอบเพียงขอบคุณครับ/ค่ะ โหลดเพลง 5:1 อ่านให้เข้าใจด้วย

ออฟไลน์ มนตรี

  • เทพ
  • *****
  • ออฟไลน์
  • 877
    79
    • อีเมล์

ฟักข้าวเพิ่งเคยได้ยิน แต่เคยได้ยินมะระไฟ  คงเป็นที่สีสันสวยสดจึงได้ชื่อว่ามะระไฟ
ตระกูลพืชจำพวกมะระมีสรรพคุณมากมาย  ขอบคุณ คุณประสิทธิ์ ที่นำเรื่องดีดีได้สาระมาฝากสมาชิก 

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=12162

ออนไลน์ ประสิทธิ์

  • Administrator
  • *
  • ออนไลน์
  • 6177
    9863
  • เพศ: ชาย
    • เพลงพักใจดอทเนต

เกิดมาในชีวิต ก็เพิ่งเคยได้ยินชื่อนี้และเพิ่งเคยเห็นหน้าตามันอ่ะค่ะ อร่อยไหมคะลุงสิทธิ์เคยลองหรือยังคะ ไม่เคยเห็นเขาเอามาขายเลย ไอ้ลูกหนามๆ แบบนี้เคยเห็นและกินแต่ ลูกลิ้นจี่อ่ะค่ะ อย่างไรก็ขอบคุณสำหรับบทฟาร์มดีๆ นะค๊าาาาาา  :'e:92  sp762

ที่ใต้เขาใช้ใส่ในแกงส้ม หรือไม่ก็แกงจืด ได้ทั้งสองอย่าง กินแล้วคล้ายๆกับฟักเขียวแระป้าเหมียว

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=12162
สมาชิกใหม่..ก่อนตั้งกระทู้แนะนำตัวให้ดูตัวอย่าง.แล้วไปอ่านประกาศการใช้งานบอร์ดและห้องโหลดเพลง เมื่ออ่านเข้าใจแล้วก็ตอบรับทราบทั้ง 2 กระทู้1.ห้ามเด็ดขาดการใช้เพียงอีโมตอบกระทู้เพื่อโหลดเพลง.2.ห้ามตอบเพียงขอบคุณครับ/ค่ะ โหลดเพลง 5:1 อ่านให้เข้าใจด้วย

ออฟไลน์ ภูแมว

  • MOD
  • *
  • ออฟไลน์
  • 1814
    546

ที่ใต้เขาใช้ใส่ในแกงส้ม หรือไม่ก็แกงจืด ได้ทั้งสองอย่าง กินแล้วคล้ายๆกับฟักเขียวแระป้าเหมียว

ขอบคุณสำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมค่ะถ้าได้ไปใต้อีกรอบจะถามหา ขอดูและลองกินซะแล้นอ่ะค่ะ แต่ตอนนี้ิเริ่มจินตนาการรสชาดได้ละถ้าคุณลุงสิทธิ์บอกว่า รสชาดคล้ายๆ ฟักเขียวอ่ะค่ะ  :'e:95

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=12162


 ขอเสริมต่อจากท่านประสิทธิ์สักหิ๊ด(คงไม่ผิดกฎ กติกานะ)  มีเพื่อนนำเมล็ดพันธ์มาให้ลองปลูกเขาเรียว่า"ลูกแก๊ก" ก็ยังสงสัย เข้าไปหา อากู๋ แกก็บอกมาว่า นี่เป็นภาษาเวียตนามส่วนภาษาไทยกลางเรียก"ฟักข้าว" พัดลุงเรียก"ขี้พร้าไฟ" ยังงี้ก็แล้วกัน ขอนำข้อมูลจากวิกิพีเดียมาฝากดีกว่า ทั้งชื่อ และประโยช์

                                                              ฟักข้าว
                                                  จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
                          ฟักขาว เป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิด ตั้งแต่ประเทศจีนตอนใต้ พม่า ไทย ลาว เขมร เวียดนาม มาเลเซีย บังกลาเทศ และ ฟิลิปปินส์
ฟักข้าวเป็นไม้ประเภทล้มลุก โดยเป็นเถาเลื้อย มีมือเกาะ แบบเดียวกับตำลึง ใบเป็นใบเดี่ยว รูปหัวใจ หรือรูปไข่ รูปร่างคล้ายใบโพธิ์ ความกว้างยาวเท่ากันประมาณ 6-15 เซนติเมตร ขอบใบหยักเว้าลึกเป็นแฉก 3-5 แฉก
ดอกลักษณะดอกจะออกบริเวณข้อต่อระหว่างใบ หรือ ซอกใบ โดยออกข้อละดอก ลักษณะ คล้ายดอกตำลึง ลักษณะกลีบดอก ขาวอมเหลือง หรือขาวแกมเหลือง ก้านเกสรและกลีบละอองมีสีม่วงแกมดำ หรือน้ำตาลแกมม่วง ใบเลี้ยงประดับมีขน โดยดอกจะเป็นดอกแบบ เพศไม่สมบูรณ์ แยกแป็นดอกดอกเพศผู้และดอกเพศเมีย และจะอยู่ต่างต้นกัน ดอกเพศผู้จะมีสีเหลือง มีกลีบดอก 5 กลีบ ส่วนดอกเพศเมียจะมีขนาดเล็กกว่า
ผลของฟักข้าวจะมีรูปร่างกลมรี มีหนามเล็ก ๆ อยู่รอบผล ผลอ่อนมีสีเขียวอมเหลือง เจริญได้เองโดยไม่ต้องถูกผสม เมื่อผลสุกจะมีสีแดง หรือแดงอมส้ม ภายในมีเมล็ดจำนวนมากเรียงตัวกันคล้ายเมล็ดแตง
สามารถขยายพันธุ์โดยใช้เมล็ดหรือแยกรากปลูก ในพื้นที่ชุ่มน้ำ เนืองจากเป็นไม้เถาที่ค่อนข้างต้องการน้ำมาก ฟักข้าวจะเริ่มมีดอกหลังจากปลูกไปได้แล้วประมาณ 2-3เดือน ดอกจะเริ่มออกในราวเดือนพฤษภาคมและให้ดอกจนถึงราวเดือนสิงหาคม ผลสุกใช้เวลาโดยประมาณ 20 วัน เก็บเกี่ยวผลได้ในช่วงเดือน กรกฎาคมถึงเดือนกุมภาพันธ์ และใน 1 ฤดูกาลจะเก็บเกี่ยวสามารถได้ผลมากถึง 30-60 ผล
ในประเทศไทยคนสมัยก่อนนำผลฟักข้าวอ่อนสีเขียวเป็นอาหาร เนื่องจากรสชาติเนื้อฟักข้าว เหมือนมะละกอ วิธีการนำมารับประทานโดยการนำมาลวกหรือต้มให้สุก จิ้มกินกับน้ำพริก หรือใส่แกง ส่วนยอดอ่อน ใบอ่อนนำมาเป็นผักได้ โดยการนึ่งหรือลวกให้สุก เช่นเดียวกับผลอ่อนนำไปปรุงเป็นแกง เช่น แกงแค หรือจิ้มน้ำพริกได้เช่นเดียวกัน
 
               นี่คือการลอกเค้ามาทั้งดุ้น(งานที่ถนัด)มาฝากเพื่อนๆ ชาวบ้านเพลงพักใจ ลองมาดูสรรพคุณด้านยาของมันมั่ง นำ "ฟักข้าว" มาใช้ประโยชน์ต่าง ๆ กัน อย่างเช่น

           ประเทศจีน นิยมนำเมล็ดแก่ของฟักข้าวมาบดให้แห้ง นำไปผสมน้ำมัน หรือน้ำส้มสายชูเล็กน้อย แล้วทาผิวหนังบริเวณที่มีอาการอักเสบ บวม จะช่วยรักษาอาการบวมได้ นอกจากนั้น ยังช่วยรักษาโรคกลาก เกลื้อน ฟกช้ำ แก้อาการผื่นคัน โรคผิวหนังต่าง ๆ ได้ด้วย

           ประเทศเวียดนาม ชาวเวียดนามนิยมนำฟักข้าวมาปรุงอาหารในเทศกาลปีใหม่ และงานมงคลสมรส โดยจากงานวิจัยของมหาวิทยาลัยฮานอย พบว่า น้ำมันจากเยื่อเมล็ดฟักข้าวมีประสิทธิภาพในการรักษามะเร็งตับ

           ประเทศฟิลิปปินส์ นำรากฟักข้าวมาบดแล้วนำไปหมักผม เพื่อช่วยให้ผมดกและยังสามารถกำจัดเหาได้ด้วย ซึ่งในประเพณีล้านนาของไทยก็มีการนำฟักข้าวไปสระผมเช่นกัน เพื่อช่วยแก้อาการคันศีรษะ แก้รังแค แก้ผมร่วง และช่วยให้ผมดกดำขึ้น

           ประเทศญี่ปุ่น มีการวิจัยพบว่า โปรตีนจากสารสกัดน้ำของผลฟักข้าวช่วยยับยั้งการเจริญของก้อนมะเร็งลำไส้ใหญ่ในหนูทดลอง
          สำหรับในประเทศไทยเองนั้น ขณะนี้มีนักวิจัยกำลังศึกษาสรรพคุณของฟักข้าวอย่างมากมาย อย่างเช่น คณะนักวิจัยจากคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยพายัพ ได้ร่วมกันศึกษาเรื่องการนำน้ำมันของเยื่้อหุ้มเมล็ดฟักข้าวในอนุภาคไขมันระดับนาโน มาพัฒนาเป็นเครื่องสำอางลดเลือนริ้วรอย ซึ่งจากการทดสอบก็ได้ผลเป็นที่น่าพอใจ และทำให้งานวิจัยชิ้นนี้ได้รับรางวัล "IFSCC Host Society Award 2011" จากงานประชุมสมาพันธ์นักเคมีเครื่องสำอางนานาชาติ 2011 (IFSCC 2011) 

          นอกจากนี้ ยังมีงานวิจัยของมหาวิทยาลัยมหิดล ที่พบว่า ในเมล็ดฟักข้าวมีโปรตีนที่มีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญของเชื้อเอชไอวี และยับยั้งเซลล์มะเร็งได้ด้วย ขณะที่นักวิจัยจากคณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ก็กำลังศึกษาวิจัย เพื่อปรับปรุงและพัฒนาพันธุ์ฟักข้าวให้มีปริมาณเบต้าแคโรทีนและสารไลโคปีนสูงขึ้น และมีผลผลิตของเยื่อหุ้มเมล็ดเพิ่มมากขึ้นด้วย

          เห็นแบบนี้แล้ว ต้องยกให้ "ฟักข้าว" เป็นพืชมหัศจรรย์อีกหนึ่งชนิด เพราะมีสรรพคุณทางยาและคุณค่าทางโภชนาการไม่น้อยเลยทีเดียว และเชื่อว่าหากมีการศึกษาวิจัยเพิ่มเติม เราคงได้ค้นพบถึงสรรพคุณเจ๋ง ๆ ของพืชพื้นบ้านชนิดนี้อีกแน่นอน
 ขอขอบคุณที่ให้ใช้พื้นที่ครับ ท่านประสิทธิ์ ข้อความตอนไหน หากมันเฝือ มันซ้าซากท่านประสิทธฺืิ์ตัดออกไปได้เลยครับ

 

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=12162

ออฟไลน์ โสภณ

  • ผู้ช่วยแอตมิน
  • *******
  • ออฟไลน์
  • 738
    59
  • เพศ: ชาย
    • อีเมล์

เพื่อนส่งเม็ดมาให้6เม็ดย้งไม่ได้ปลูกเลย

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=12162


 :'e:133  ฟักข้าวที่ทางเหนือมีเยอะค่ะ ชอบทานมากๆเลยแกงใส่ปลาแห้งและต้มจิ้มน้ำพริกก็อร่อย มีประโยชน์แบบนี้จะทานบ่อยๆ ขอบคุณพี่ประสิทธิมากนะคะที่นำสาระดีๆมาฝาก   :'e:92

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=12162

ออฟไลน์ โชค นรา

  • ผู้ช่วยแอตมิน
  • *******
  • ออฟไลน์
  • 2174
    858

ผมไม่รู้จักชื่อแฮะ ..แต่เคยได้เห็นตัวเป็น ๆ ด้วยนะ .. พวกเอามาจากพัทลุง .. เอามาฝาก ผมหัวเราะ ..ที่หัวเราะเพราะไม่รู้จักไม่รู้จะเอาไปทำอะไร .. เขาเอากลับ .. พอตกเย็นเอาแกงส้มมาฝาก ..ผมกินอร่อยดีแฮะ .. คราวนี้เขาหัวเราะผมมั่ง ..ไอ้ที่กินเข้าไปน่ะก็ไอ้ลูกแดง ๆ มีหนามนั่นแหละ .. เออ.. หายกัน .. ขอบคุณครับหลวง ...  :'e:92

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=12162

ออฟไลน์ หนุ่มบางแค

  • MOD
  • *
  • ออฟไลน์
  • 418
    191
  • เพศ: ชาย
    • อีเมล์

ผมปลูกไว้หน้าบ้าน 1 ต้น  ยังไมออกลูกเลยครับ

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=12162

ออฟไลน์ เวียงสา980

  • ผู้ช่วยแอตมิน
  • *******
  • ออฟไลน์
  • 2354
    1470

ฟักข้าว ที่บ้านเรียกว่า (ม่ะข้าว) เมื่อก่อน ที่บ้าน ปลูกไว้ กิน เยอะเลย ค่ะ ตอนนี้ไม่มี แล้ว ไม่ได้เก็บเมล็ดพันธ์ ไว้เลย แต่ที่บ้านคนอื่นเขายังมีอยู่
เดี๋ยวจะต้องไปขอ เมล็ดพันธ์ เอามาปลูก ใหม่ ล่ะ ที่แท้ (ม่ะข้าว)มีประโยชน์ มากมาย อย่างงี้ นี่เอง  แกงใส่ปลาแห้ง แกงจืดก็อร่อย ด้วยค่ะ
ขอบคุณมากมายค่ะ คุณประสิทธิ์ และ คุณลุงชัยด้วย สำหรับสาระดีๆ ที่นำมาฝาก

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=12162

ออฟไลน์ หนุ่มบางแค

  • MOD
  • *
  • ออฟไลน์
  • 418
    191
  • เพศ: ชาย
    • อีเมล์

ได้ชื่อว่าเป็นผลไม้จากสวรรค์   http://topicstock.pantip.com/jatujak/topicstock/2012/03/J11829316/J11829316.html

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=12162

ออฟไลน์ นายน้อย

  • ผู้ช่วยแอตมิน
  • *******
  • ออฟไลน์
  • 2716
    1111
  • เพศ: ชาย
  • nainoi ied

ฟักข้าว พืชพื้นบ้าน ช่วยต้านมะเร็งชั้นยอด ...บ้านข้อยยังไม่รู้จักเลยครับคุณพี่สิทธิ์   :'e:56 :'e:56 ไม่รู้ว่ามันขึ้นอยู่่แถวไหนของป่า สรรพคุณมากมายขนาดนี้น่าสนใจแระยิ่งต่อต้านมะเร็งด้วยต้องหามาไว้รับประทานแล้ว แต่ผมก็ทานผลไม้สีออกเหลืองๆแทนเผื่อมันจะต่อต้านมะเร็งไปในตัว555  ขอบคุณมากครับที่นำความรู้มาฝาก :'e:92

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=12162
ขอบคุณครับที่เข้าชม