ในบรรดาเครื่องดนตรีทั้งหลาย ไม่ว่าจะมีมาแล้วในอดีตหรือปัจจุบันของชนชาติต่างๆในโลก เราสามารถแบ่งออกเป็นสามพวกใหญ่ คืด
1. จำพวกเครื่องสาย มีสายขึ่งทำให้เกิดเสียงด้วยการ ดีด สี ตี หรือกระทำอย่างไรก็ได้ให้สายมันสั่นสะเทือน
2. จำพวกเครื่องลม เป็นครื่องดนตรี ที่ต้องใช้ลมอาจจากร่างกายมนุษย์(ลมหายใจ...ถ้าไม่หายใจก็เล่นไม่ได้ครับเครื่องดนตรีประเภทนี้)หรือจากลมธรรมชาติ
3. จำพวกเครื่องตี คือการที่เอาวัตถุอย่างน้อย 2 ชิ้นมากระทบกัน (ปรบมือข้างเดียวไม่ดังครับ)
ในคัมภีร์สังคีตรัตนากร อันเป็นคัมภีร์ภาษาสันสกฤตของพวกพราหมณ์ ได้เรียกเครื่องดนตรีว่า "เครื่องสังคีต" โดยในคัมภีร์ได้แบ่งเครื่องดนตรีออกเป็น 4 ประเภทคือ
1. ตะตะ.....เครื่องเครื่องดนตรีที่มีสายสำหรับดีดหรือสีเป็นเสียง
2. สุษิระ.....เครื่องดนตรีประเภทที่เป่าให้เป็นเสียง
3. อะวะนัทธะ..เครื่องดนตรีประเภทหุ้มด้วยหนังตีเป็นเสียง
4. ฆะนะ.....เครื่องดนตรีประเภทกระทบให้เป็นเสียง
เครื่่องดนตรีทั้ง 4 ประเภทนี้ในคัมภีร์สังคีตรัตนากร ยังได้อธิบายต่ออีกว่า เครื่่องดนตรีประเภท ตะตะ กับ สุษิระ นั้นใช้สำหรับเล่นเป็นลำนำหรือดำเนินทำนอง (เมโลดี) เครื่องดนตรีประเภท อะวะนัทธะ ใช่เล่นประกอบเพลง ส่วนเครื่องประเภท ฆะนะ ใช้เล่นทำจังหวะ
ส่วนเครื่องดนตรีไทยแบ่งออกได้ 4 ประเภทเช่นกัน แต่ของไทยเราจะแบ่งตามอาการหรือกริยาที่ทำให้ดนตรีชนิดนั้นเกิดเสียง คือ
1. เครื่องดนตรีประเภทดีด เช่น กะจับปี่ พิณเพี๊ยะ พิณน้ำเต้า จะเข้ ซึง เป็นต้น
2. เครื่องดนตรีประเภทสี เช่น ซอพุงตอหรือซอสามสาย ซอด้วง ซออู้
3. เครื่องดนตรีประเภทเครื่องตี อันนี้มีมากมายยังแบ่งย่อยออกไปอีก เครื่องตีที่ดำเนินทำนองได้ เช่นระนาด ฆ้องวง และเครื่องตีที่ดำเนินทำนองไม่ได้ ได้แก่ ฉิ่ง ฉาบ กรับ โหม่ง กลองชนิดต่าง
4. เครื่องดนตรีประเภทเครื่องเป่า ได้แก่เครื่องดนตรีประเภทปี่ต่าง ขลุ่ย แคน
วันนี้ขอแค่นี้ก่อนครับ มาติดตามการแแบ่งประเภทเครื่องดนตรีตามหลักการทางวิทยาศาสต์ที่เป็นสากลกันครับ :'e:125