24 สถานที่สุดหลอนบนโลก
24 Haunting & Abandoned Places That Will Give You Goose Bumps
สิ่งเดียวที่เป็น “นิจจัง” (ความถาวร) ในโลกนี้คือความเปลี่ยนแปลง บันทึกประวัติศาสตร์เป็นหนึ่งในหนทางที่ทำให้เราสามารถเข้าใจกาลเวลาได้มากขึ้น
ทว่า ในโลกใบนี้ยังมีสถานที่บางแห่งที่แฝงกลิ่นอายของกาลเวลาไว้ บ้างถูกสงวนไว้ บ้างถูกปล่อยปละรกร้าง ซึ่งอย่างหลังนี้เองที่ในที่สุดกลายเป็น
“สถานที่สุดหลอน”
1. I.M. Cooling Tower ประเทศเบลเยี่ยม
ปล่องระบายความร้อนของโรงไฟฟ้าพลังงานปรมาณู I.M. ที่ถูกทิ้งร้าง ในเมืองมองซู ประเทศเบลเยี่ยม ช่องเล็กๆ ที่เห็น คือ ทางผ่านของน้ำร้อนระอุที่ถูกทำให้เย็นด้วยลมธรรมชาติที่จะขึ้นมาจากอุโมงค์ยักษ์ตรงกลางพัดเอาความร้อนลอยขึ้นไปด้านบนในอดีตปล่องระบายความร้อนนี้มีความสามารถในการระบายความร้อนจากน้ำปริมาณถึง 480,000 แกลลอนต่อนาที
2. Kolmanskop ประเทศนามิเบีย
หมู่บ้านโกลมันสกอปในทะเลทรายรกร้างทางภาคใต้ของประเทศนามิเบีย ทวีปแอฟริกา ถูกสร้างขึ้นราวปี ค.ศ. 1900 โดยชาวเยอรมัน เพื่อทำเหมืองเพชร ต่อมาในปี ค.ศ. 1950 หมู่บ้านถูกทิ้งร้าง หลังขุดเพชรกันจนเกลี้ยงแล้ว
3. Floating Forest ประเทศออสเตรเลีย
ซากเรือ SS Ayrfield เรือพลังงานไอน้ำที่ถูกนำมาจอดไว้ในอู่เรือเพื่อเตรียมแยกชิ้นส่วน แต่อู่เรือดังกล่าวปิดกิจการไปก่อนในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ทำให้เรือหลายลำถูกทิ้งไว้ในอ่าวโฮมบุช นครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย มาจนถึงปัจจุบัน และกลายเป็นสัญลักษณ์ของความน่าทึ่งแห่งธรรมชาติ ในชื่อ “ป่าลอยน้ำ” อายุปาเข้าไป 102 ปีแล้ว
4. The Maunsell Sea Forts ประเทศอังกฤษ
ปราการกลางทะเลของฝ่ายอังกฤษที่สร้างขึ้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เพื่อป้องกันการรุกรานทางอากาศและทะเลของกองทัพเยอรมัน-นาซี ถูกปลดประจำการไปตั้งแต่ปี ค.ศ. 1950 มีเจ้าของพลัดเปลี่ยนกันมายึดเป็นที่อยู่อาศัยหลายมือ อาทิ พวกนักเลงวิทยุ ล่าสุด เป็นที่อยู่อาศัยของชาวซีแลนด์ ซึ่งอ้างสิทธิปกครองตนเอง อยู่ทางด้านตะวันออกเฉียงใต้ของสหราชอาณาจักร รู้จักกันในนาม ประเทศจำลอง “ซีแลนด์” หรือ รัฟ ทาวเวอร์
5. Last House on Holland Island ประเทศสหรัฐอเมริกา
บ้านหลังสุดท้ายบนเกาะฮอลล์แลนด์ เดิมเป็นเพียงบ้านหลังหนึ่งที่เป็นสัญลักษณ์ถึงความสำเร็จในการปลูกสร้างที่อยู่อาศัยบนเกาะแห่งนี้ในอ่าวชีสพีค ทว่า กาลเวลาผ่านไปเนื้อที่บนเกาะเริ่มเหลือน้อยลงเรื่อยๆ เนื่องจากภาวะตลิ่งพัง กระทั่งเหลือบ้านอยู่เพียงหลังเดียวที่ถูกทิ้งร้างไว้ ล่าสุดถล่มไปแล้วตั้งแต่ปี ค.ศ. 2010
6. Pripyat ประเทศยูเครน
เมืองร้าง “พริปยาต” ทางภาคเหนือของยูเครน ก่อสร้างในปี ค.ศ. 1979 กระทั่งทางการประกาศอพยพประชาชนทั้งหมด 49,360 คน ภายหลังเกิดโศกนาฏกรรมโรงไฟฟ้าเชอร์โนบิลล้มเหลวก่อให้เกิดกัมตภาพรังสีรั่วไหล ในปีค.ศ. 1986 และทางการกำหนดเขตหวงห้ามในรัศมี 30 กิโลเมตร รอบโรงไฟฟ้า
7. House of the Bulgarian Communist Party ประเทศบัลกาเรีย
สำนักงานพรรคคอมมิวนิสต์แห่งบัลกาเรีย เปิดทำการช่วงปี ค.ศ. 1981 – 1991 และปิดตัวลงภายหลังการล่มสลายของสหภาพโซเวียต
8. Nara Dreamland ประเทศญี่ปุ่น
พื้นที่รกร้างแห่งนี้เคยถูกใช้เป็นสวนสนุกที่ได้แรงบันดาลใจจากดิสนีย์แลนด์ ภายใต้ชื่อ นาระ ดรีมแลนด์ จังหวัดนาระ ประเทศญี่ปุ่น เปิดให้บริการปีค.ศ. 1961 ก่อนจะปิดกิจการลงในปีค.ศ. 2006 และกลายเป็นสถานที่ท้าทายสำหรับผู้รักสนุก โดยทางการญี่ปุ่นต้องประจำการเจ้าหน้าที่ไว้เพื่อห้ามไม่ให้เข้าไป หากพบเข้าก็จะจับกุมและระวางโทษปรับด้วย
9. Uninhabited Island ประเทศสหรัฐอเมริกา
เกาะร้างทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของรัฐฟลอริดา ซึ่งมีเอกลักษณ์พิเศษด้วยโดมคอนกรีตหลายหลังเรียงยื่นออกไปในทะเล ถูกสร้างขึ้นโดยนายบ๊อบ ลี ผู้กำกับภาพยนตร์ ในปี ค.ศ. 1981 ไว้เป็นสถานที่พักตากอากาศส่วนตัว แต่ถูกทิ้งร้างในที่สุด
10. Abandoned Mill ประเทศอิตาลี
โรงสีข้าวร้างในหุบเขาแห่งโรงสีข้าว เมืองโซร์เร็นโต ประเทศอิตาลี ถูกทิ้งร้างตั้งแต่ปี ค.ศ. 1866 เนื่องจากการก่อสร้างชุมชนตาซโซ ทำให้โรงนาทั้งหมดถูกแยกออกจากริมน้ำและทำให้ความชื้นในอากาศเพิ่มขึ้น ส่งผลร้ายต่อการปลูกข้าว
11. Michigan Central Station ประเทศสหรัฐอเมริกา in Detroit, U.S.A.
สถานีรถไฟมิชิแกน เมืองดีทรอยต์ ประเทศสหรัฐ สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1913 เพื่อเป็นจุดศูนย์กลางของระบบการขนส่งทางราง แต่สุดท้ายเสื่อมความนิยมลงจนปิดตัวลงในปี ค.ศ. 1988
12. Sunken Yacht ขั้วโลกใต้
ซากเรือยอร์ชหรูสัญชาติบราซิล อับปางลงในแอนตาร์ติกกา ภายหลังประสบกับคลื่นลมรุนแรง ในภารกิจถ่ายทำสารคดี ล่าสุด เรือลำนี้ถูกเคลื่อนย้ายกลับสู่มาตุภูมิแล้ว
ยังมีต่อครับ