เพลงพักใจดอทเน็ต

สัพเพเหระ => เรื่องเล่าต่างๆ อยากเล่าให้เพื่อนๆฟังเชิญครับ => ข้อความที่เริ่มโดย: chin khalang ที่ 16/ต.ค./11 19:49น.

หัวข้อ: วาวา อยี๋ ปลาที่เนื้อแพงที่สุดในโลก หน้าตาเป็นอย่าไรมาดูกันครับ
เริ่มหัวข้อโดย: chin khalang ที่ 16/ต.ค./11 19:49น.
ปลาอะไรเอ่ย มีราคาแพงที่สุดในโลก ?
(http://image.free.in.th/z/iq/salamander01.gif) (http://image.free.in.th/show.php?id=14b1cb9e25269c7af3278033d6ba73b6)
ผมชื่อ ต้าหนี ชื่อเล่น วาวา อยี๋ เป็นไงฮับ
ความหล่อเหลาของผม เนื้อผมก็อร่อยนะ
   
        วาวา อยี๋ (娃娃鱼) เป็นชื่อที่ชาวจีนเรียกกันทั่วไปว่า ปลา วาวา มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า ต้าหนี (大鲵) ซึ่งแท้จริงแล้วหาใช่ปลาไม่ แต่เป็นสัตว์สะเทินบกสะเทินน้ำดึกดำบรรพ์ชนิดหนึ่งที่เริ่มต้นวิวัฒนาการกลายมาเป็นสัตว์เลื้อยคลานกึ่งบกกึ่งน้ำที่มีชื่อเรียกเป็นภาษาอังกฤษว่า Giant Salamander ชื่อทางวิชาการก็คือ Andrias davidianus แต่ชาวจีนนับเป็นปลานั้น เพราะว่ามันเป็นสายพันธุ์ที่ยังต้องอาศัยอยู่ในน้ำเกือบตลอดเวลานั่นเอง 
ต้าหนี มีลักษณะพิเศษเฉพาะตัวของมัน ขนาดใหญ่ที่เคยพบเห็นนั้นมีความยาว 1.3 เมตร น้ำหนัก 40 กิโลกรัม ลำตัวเป็นสีดำ หรือออกแดงสีอิฐ หัวกลมแบน มีดวงตาขนาดเล็กที่ใช้งานไม่ดีหนึ่งคู่ ปากกกว้าง มีฟันบนเรียงกัน 2 แถว แต่มีฟันล่างเพียงแถวเดียว มีหางแบน มีขาที่ค่อนข้างสั้นเต่อ 4-2 คู่ ขาคู่หน้ามี 4 นิ้ว แต่ขาคู่หลังกลับมีถึง 5 นิ้ว ต้าหนีอาศัยมีชีวิตรอดอยู่ได้ในลำธารน้ำไหลเย็นภายในถ้ำที่มีความชื้นที่ไม่ค่อยมีแสงในเวลากลางวัน อุณหภูมิ 18 – 22 องศา C มันกินอาหารน้อย วันละ 200 – 300 กรัม ต่อวันก็เพียงพอสำหรับตัวมันแล้ว มันมีการเลื่อนไหวเชื่องช้า จึงถูกกจับได้ง่าย 
(http://image.free.in.th/z/iw/salamander02.gif) (http://image.free.in.th/show.php?id=2f6b8b6d22644ad131f40431c3597cbf)
 นี่คือรูปร่างเต็มตัวของผมครับ
ยังไม่โตเต็มที่นะครับ
(http://image.free.in.th/z/io/salamander03.gif) (http://image.free.in.th/show.php?id=5e90d83ab4c37be336e3c425975d91d9)
คุณหวัง กวั๋วซิ่ง เจ้าของบริษัท จินหนี
ผู้บุกเบิกการเพาะเลี้ยง ต้าหนี เป็นการค้า
ทางการจีนขึ้นทะเบียน วาวา อยี๋ เป็นสัตว์คุ้มครองชั้น 2 ที่ยังคงมีหลงเหลืออยู่แต่ในประเทศจีนเท่านั้น มันเป็นสัตว์สมัยดึกดำบรรพ์ที่ยังคงรูปลักษณ์เหมือนเดิมเมื่อครั้ง 350 ล้านปีที่แล้วมา มันได้รับสมญานามว่าเป็น ฟอสซิลที่มีชีวิต และกำลังจะสูญพันธุ์ไปในไม่ช้านี้ เนื่องจากราคามันสูงลิ่วจูงใจเป็นอย่างยิ่ง ราคาอย่างต่ำไม่น้อยกว่า 5,000.00 บาท จนกระทั่งเป็น 10,000.00 บาท ต่อกิโลกรัมเลยทีเดียว จึงทำให้มีการลักลอบจับมาขายกันจนเกือบไม่เหลือหรอ แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ปัจจุบันได้มีภัทตราคารที่จำหน่ายเมนูอาหารจานปลาชนิดนี้อย่างถูกกฏหมายเสียด้วย เอ๊ะ คงสงสัยละซีว่า เป็นสัตว์ที่ขึ้นบัญชีคุ้มครองแล้ว ทำไมจึงอนุญาตให้ฆ่าขายเป็นอาหารได้ด้วยเล่า ? มาดูความลึกลับของมันดีกว่า
(http://image.free.in.th/z/ip/salamander04.gif) (http://image.free.in.th/show.php?id=0e7b5a6fb397a7f7af8e1932a8864a4e)
บ่อเพาะเลี้ยงภายในถ้ำ
(http://image.free.in.th/z/ib/salamander05.gif) (http://image.free.in.th/show.php?id=a6b84d54e588b1b8af25504cde4c3505)
ภัตตาคาร จินหนี หรูหรา สุดอลังการณ์ในป่าลึก
ที่มีแต่บรรดาผู้มีอันจะกินเท่านั้นที่เข้ามาอุดหนุน
ก่อนอื่นมาทำความเข้าใจกับชื่อเสียงเรียงนามของมันเสียก่อนว่า มีความเป็นมาอย่างไร แรกสุดที่ได้มีการค้นพบสัตว์ชนิดนี้นั้น ชาวบ้านที่พำนักพักอยู่ใกล้กับแหล่งที่อยู่อาศัยของมัน ซึ่งเป็นลำธารในป่าลึก มักจะได้ยินเสียงร้อง อุ๊แว้ อุแว๊ เหมือนเสียงเด็กร้องในเวลาตอนกลางคืน (หูคนจีนได้ยินเสียงเป็น วา วา และเรียกเด็กทารกหรือตุ๊กตาเด็กเล่นว่า วาวาเหมือนกัน) อันเป็นช่วงที่มันออกมาจากซอกหลืบก้อนหินเพื่อจับหาอาหารกิน ชาวบ้านจึงให้ชื่อมันว่า ปลา วาวา (ปลาทารกหรือปลาอุแว๊ก็คงได้กระมัง) และสาเหตุที่ทำให้ วาวา อยี๋ มีราคาสูงถึงปานนี้นั้น เกิดจากแรงหนุนส่งความเชื่อจากคำบรรยายสรรพคุณทางยาของมันในตำหรับยาสมุนไพรจีน “เปิ่นฉ่าวกังมู่” (本草纲目) ที่เขียนรวบรวมโดย หลี่ สือเจิน นั้น (李时珍) บรรยายสรรพคุณทางยาของ วา วา อยี๋ ไว้ว่าสามารถใช้เป็นยารักษา โรคอหิวาห์ โรคบิด โรค好科病 โรค冷血病 เป็นยาสงบอารมณ์ ทำให้นอนหลับได้ลึก เจริญอาหารบำรุงกำลัง เสริมสร้างภูมิต้านทานของร่างกาย  มีไขมันแต่ไม่เลี่ยน ใช้เป็นยารักษาแผลอันเกิดจากไฟไหม้น้ำร้อนลวกได้อย่างวิเศษ สารคอลลาเจนที่ขับออกมาจากผิวหนังเป็นเมือกรอบตัวมันนั้นเป็นเครื่องประทินโฉมรักษาผิวได้วิเศษยิ่ง เนื้อของมันละเอียดนุ่ม รสชาติอร่อย อุดมไปด้วยคุณค่าทางอาหาร เป็นยาบำรุงที่ดียิ่งสำหรับผู้ที่มีร่างกายอ่อนแอ เหงื่อแตกในยามกลางคืน เลือดลมไม่ปกติในเพศหญิง บำรุงไตและสร้างเชื้อสเปิร์มในเพศชาย ถือเป็นยาบำรุงสุขภาพที่ดีเลิศสำหรับชายหญิงทุกรุ่นทุกวัยทุกอายุเลยทีเดียว นั่นคงเป็นสาเหตุที่ทำให้มันมีราคาแพงและกล้าลักลอบจับกันโดยไม่เกรงกลัวกฏหมายแต่อย่างใด
(http://image.free.in.th/z/ie/salamander06.gif) (http://image.free.in.th/show.php?id=0f06d5a3bbfc83912687f7e84857d40b)
ภายในห้องอาหาร – จัดเลี้ยง เมนูต้าหนี ขึ้นชื่อ ปาป่าว วาวา อยี๋
ในเมื่อต้าหนี (วาวา อยี๋) เป็นสัตว์ที่รัฐบาลให้การคุ้มครองแล้วทำไมจึงได้มีภัตตาคารจำหน่ายสัตว์ชนิดนี้เหมือนร้านอาหารป่าที่ผิดกฏหมายได้เล่า ? อันนี้ต้องมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับกฏหมายคุ้มครองสัตว์ป่าของทางการจีนเสียก่อน สัตว์ป่าที่ได้ขึ้นทะเบียนให้ความคุมครองแล้วนั้น ถ้าเอกชนที่มีความประสงค์ทำการเลี้ยงขยายพันธุ์เพื่อทำเป็นธุรกิจการค้าโดยที่สามารถเพาะเลี้ยงได้เองแล้ว (ไม่ใช่ลักขโมยจับมาจากแหล่งธรรมชาติ) ต้องทำเรื่องยื่นขอและแสดงกรรมวิธีการเพาะเลี้ยงและผลงานการขยายพันธุ์ต่อเจ้าหน้าที่ที่ดูแลเรื่องนี้ เมื่อสามารถตรวจสอบความเป็นจริงได้แล้ว จึงออกหนังสืออนุญาตให้ทำการผู้จำหน่ายสัตว์ป่าที่ทำการเพาะเลี้ยงขยายพันธุ์ขึ้นมาเองได้ (ซึ่งผิดกับกฏหมายไทยที่ห้ามเลี้ยงเด็ดขาด เพาะเลี้ยงขยายพันธุ์ก็ไม่ได้ ซึ่งวิธีการดังกล่าวเท่ากับเป็นการเร่งให้สัตว์ป่าสูญพันธุ์เร็วขึ้น เนื่องจากมีแต่การลักลอบจับฆ่าทำลายลดจำนวนลง ไม่มีการเพาะเลี้ยงขยายพันธุ์เพิ่ม เป็นการปิดกั้นหนทางสืบสายพันธุ์โดยสิ้นเชิง แต่ถ้ามีการเปิดให้ทำการเพาะเลี้ยงได้ ก็จะเป็นหนทางอนุรักษ์สืบสายพันธุ์อย่างถูกฏหมาย แต่ต้องมีการดำเนินการด้วยความเข้มงวดบริสุทธิ์ใจทั้งฝ่ายผู้ดำเนินการและผู้รักษากฏหมาย ไม่ใช่เป็นการสวมสิทธิ์บังหน้าลวงหลอกของผู้เพาะเลี้ยงหรือแกล้งปิดหูปิดตาทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นจากเจ้าหน้าที่)
(http://image.free.in.th/z/ia/salamander07.gif) (http://image.free.in.th/show.php?id=382ee296feadd3180ddf35d7381faecf)
ต้าหนี (วาวา อยี๋) ตัวใหญ่เท่าที่เคยพบ ลำตัวยาว 1.3 เมตร น้ำหนัก 43 กิโลกรัม
บุคคลคนแรกที่ประสบความสำเร็จในการเพาะเลี้ยงขยายพันธุ์ ต้าหนี นั้นเป็นชายชื่อว่า หวัง กวั๋วซิ่ง (王国兴) เดิมมีอาชีพขับรถส่งสินค้า หลังจากนั้นหันมาเลี้ยงตะพาบน้ำเนื่องจากราคาดี ต่อมามีผู้เลี้ยงมากขึ้นเรื่อยๆจนไม่มีกำไร จึงได้หันมาสนใจ วาวา อยี๋ ซึ่งในขณะนั้นยังไม่มีผู้ใดเพาะเลี้ยงขยายพันธุ์ได้สำเร็จ จึงพาตัวเองเข้าไปในดงป่าลึกแห่งหนึ่งในเมือง จังเจียเจี้ย (张家界) มณฑลหูหนาน (湖南) อันเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ชนิดนี้ โดยหมกตัวเองกินนอนอยู่ภายในถ้ำอันเป็นที่พักอาศัยของมันเป็นเวลา 5 ปีเต็มๆโดยไม่ได้ไปไหนเลย ในช่วงเวลาห้าปีนี้ คุณหวังได้ทำการศึกษาความเป็นอยู่ของมัน เฝ้าสังเกตุการสืบพันธุ์ ตลอดจนการกินอยู่ของมันอย่างละเอียด ทำการทดลองผสมเทียมจนกระทั่งพบกับความสำเร็จ จึงได้ทุ่มทุนทั้งหมดขออนุมัติจากทางการขุดอุโมงค์เป็นถ้ำขนาดใหญ่ มีความยาวร่วม 600 เมตร ก่ออิฐสร้างบ่อเพาะเลี้ยงขึ้นภายในถ้ำ มีอัตราการพาะเลี้ยงรอดสูง จนสามารถจำหน่ายมีรายได้ร่ำรวยมหาศาล หลังจากนั้นจึงได้สร้างภัตตาคารหรูขึ้นจำหน่ายอาหารเมนูต้าหนีที่หน้าถ้ำ อันเป็นสถานที่ที่เพาะเลี้ยง วาวา อยี๋นั่นเอง หลังจากนั้นยังได้เปิดบริษัททำการวิจัยค้นคว้านำมาผลิตเป็นยา ผลิตภัณฑ์เสริมความงาม รวมทั้งเปิดโรงเรียนอบรมการเพาะเลี้ยง วาวา อยี๋ แก่บุคคลทั่วไปอีกด้วย ผู้ที่สนใจสามารถเปิดเข้าไปดูรายละเอียดเว็บไซท์ จินหนี (金鲵) ได้ที่  http://www.jinni.cn/

เป็นไงครับหน้าตาผม น่าทานไหมครับ :'e:56 :'e:56
หัวข้อ: Re: วาวา อยี๋ ปลาที่เนื้อแพงที่สุดในโลก หน้าตาเป็นอย่าไรมาดูกันครับ
เริ่มหัวข้อโดย: นักเพลงคนจน ที่ 17/ต.ค./11 08:15น.
เฮ้อ... กินซาราแมนเดอร์ ไม่ไหวจริงๆครับ
หัวข้อ: Re: วาวา อยี๋ ปลาที่เนื้อแพงที่สุดในโลก หน้าตาเป็นอย่าไรมาดูกันครับ
เริ่มหัวข้อโดย: chinda ที่ 17/ต.ค./11 09:50น.
อ่านจบแล้วค่ะอาจารย์ เป็นเรื่องที่น่ารู้และแปลกค่ะ เป็นสัตว์ คุ้มครอง แต่สามารถ เพาะเลี้ยงขยายพันธ์เอง แล้วเอามาขายได้
ตั้งร้านอยู่กลางป่าเลย คนจนไม่มีสิทธ์กินแต่กว่าเขาจะทำสำเหร็จได้ก็ ต้องทุ่มทั้งตัวเองใข้เวลายาวมากและทุนทรัพย์อีกมากมาย
เรื่องนี้สุดยอดจริงๆอาจารย์ สมควรรวยค่ะ ขอขอบคุณอาจารย์มากที่นำเรื่องดีๆมาฝาก   
                                                                                            :'e:95
หัวข้อ: Re: วาวา อยี๋ ปลาที่เนื้อแพงที่สุดในโลก หน้าตาเป็นอย่าไรมาดูกันครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ภูฤดู ปักซัว ที่ 18/ต.ค./11 02:48น.
ต้องปรบมือคารวะให้คุณหวังละครับ อ.ชิน
5 ปี สำหรับการทุ่มเทศึกษา ไม่ธรรมดาครับ
หัวข้อ: Re: วาวา อยี๋ ปลาที่เนื้อแพงที่สุดในโลก หน้าตาเป็นอย่าไรมาดูกันครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Rapee ที่ 18/ต.ค./11 14:34น.
ขอบคุณมากค่ะคุณชิน ที่สรรหาเรื่องแปลก ๆ มาให้อ่าน
จะว่าไปมนุษย์เรานี่ก็สุดยอดนะคะ พยายามที่จะขยายพันธุ์เพื่อนำมาเลี้ยงขายจนได้
ดูตัวปลาแล้ว ก็ไม่น่าจะรับทานสักเท่าไร แต่สรรพคุณนี่สิ น่าสน 


:'e:121 :'e:121 :'e:121
หัวข้อ: Re: วาวา อยี๋ ปลาที่เนื้อแพงที่สุดในโลก หน้าตาเป็นอย่าไรมาดูกันครับ
เริ่มหัวข้อโดย: chomm ที่ 18/ต.ค./11 14:37น.
เห็นตัวแล้วไม่กล้ากินค่ะ
หัวข้อ: Re: วาวา อยี๋ ปลาที่เนื้อแพงที่สุดในโลก หน้าตาเป็นอย่าไรมาดูกันครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ลมละเมอ ที่ 05/พ.ย./11 13:56น.
เห็นรูปแล้วไม่ไหวจริงๆ ขอบคุณนะคะสำหรับเรื่องแปลกๆที่นำมาให้อ่านกัน  :'e:92
หัวข้อ: Re: วาวา อยี๋ ปลาที่เนื้อแพงที่สุดในโลก หน้าตาเป็นอย่าไรมาดูกันครับ
เริ่มหัวข้อโดย: น้องดา ที่ 06/พ.ย./11 22:48น.
คงไม่กล้ากินและคงแพงน่าดู สิ่งที่เราไม่เคยกินคงไม่กล้าค่ะ ขอบคุณ สำหรับภาพสวยๆค่ะ