เพลงพักใจดอทเน็ต

สัพเพเหระ => เป็นนักเลงกลอนอย่านอนเปล่า => ข้อความที่เริ่มโดย: อภัย ที่ 01/ต.ค./13 23:01น.

หัวข้อ: แม้รอย ก็เลือนหาย (รอยไทย)
เริ่มหัวข้อโดย: อภัย ที่ 01/ต.ค./13 23:01น.
จากวูบหนึ่งของความรู้สึกสิ้นหวังต่อสังคมไทยครับ

แม้รอย ก็เลือนหาย (รอยไทย)

เมืองเอ๋ย เมืองไทย       ศิวิไลซ์ศิวลึงค์
รุ่งเรืองปานประหนึ่ง       อารยประเทศก็มิปาน

ตึกรามงามสง่า             คมนา.ยอดยวดยาน
มากมายข่ายสื่อสาร       เครื่องไฟฟ้าก็มากมี

แต่งองค์ทรงสมัย          ล้ำสไตล์ฉายบารมี
ลุคเจแปนเกาหลี           ฝรั่งมังกี้เกลื่อนเมือง

ทุกสิ่งที่แลเห็น            ว่าดีเด่นว่ารุ่งเรือง
มีสิ่งใดเล่าเรื่อง            อัตลักษณ์ความเป็นไทย

มีใดให้ชูเชิด               ว่าก่อเกิดจากภายใน
จากภูมิปัญญาไทย        อวดโลกได้โปรดเฉลย

รอยไทยใกล้สูญแล้ว      พี่น้องแก้วลูกหลานเอย
รากเหง้าเจ้าละเลย        ว่าชั่วเชยมิชูชม

เห่อหองแต่ของนอก      ของไทยบอกว่าต่ำตม
เหยียบย่ำซ้ำทับถม        ผู้ใฝ่ฝักอนุรักษ์ไทย

อนิจจาน่าอนาถ            มิสิ้นชาติก็เหมือนใช่
แม้เลือดเนื้อเชื้อไทย      แต่หัวใจไม่ใช่เลย
______________
พอ 09 ต.ค. 2553
หัวข้อ: Re: แม้รอย ก็เลือนหาย (รอยไทย)
เริ่มหัวข้อโดย: ภูวดี ที่ 02/ต.ค./13 00:08น.
จากกลอนมาเป็นกาพย์    ได้รับทราบมิอยู่เฉย
ขอตอบ..ชอบจังเลย    ที่ท่านเปรยมาบทนี้

กล่าวถึงความเป็นไทย    ที่ใครใครควรรู้ดี
ว่าไทยมีศักดิ์ศรี   ความเป็นไทยอยู่ในตัว

เลียนแบบชาติอื่นเขา    ความเป็นเราเริ่มสลัว
เทรนเกาหลีเข้ามาทั่ว จนน่ากลัวจะลืมไทย

คำว่าอนุรักษ์  ควรรู้จักกันเอาไว้
ว่าเรานั้นเป็นใคร  อย่าลืมไทยนะท่านเอย
กาพย์ ไม่ค่อยจะมีใครเขาเล่นกันนะครับ  หายาก
ขอบคุณครับคุณอภัย ที่ช่วยรื้อขึ้นมาให้ได้เห็นกันอีก :'e:94
หัวข้อ: Re: แม้รอย ก็เลือนหาย (รอยไทย)
เริ่มหัวข้อโดย: ชบาบาน ที่ 02/ต.ค./13 03:51น.
มีฝีมือทั้งคู่ ขอบคุณขอรับ
หัวข้อ: Re: แม้รอย ก็เลือนหาย (รอยไทย)
เริ่มหัวข้อโดย: จังโก้ ที่ 02/ต.ค./13 14:27น.
เห็นด้วยกับท่านอภัยครับ ผมเองก็รำพึงในใจดังๆมานานแล้ว แต่ผมไม่เห็นด้วยกับคุณภูวดีอย่างยิ่ง ที่ว่ากาพย์ไม่มีใครเล่นกัน ถ้าคิดกันแบบนี้ ลิเกก็ไม่มีใครเล่นกัน ลำตัด โขน ดนตรีไทย ก็ไม่มีใครเล่นกัน ต่อไปก็สูญพันธ์ ต่อไปเราคงได้เรียนรู้ศิลปะพวกนี้จากภาพวาดกัน ต่อไปคนไทยก็คงจะรู้จักแต่กลอนแปด โคลง กาพย์ก็สูญพันธ์ไปตามระเบียบ
หัวข้อ: Re: แม้รอย ก็เลือนหาย (รอยไทย)
เริ่มหัวข้อโดย: บุญเทิด ที่ 02/ต.ค./13 20:45น.
แหม .. คุณอภัยนี่สุดยอดจริง ๆ ครับ คมคายที่สุด ... ชอบมากครับ ... :'e:133 :'e:133 :'e:133
หัวข้อ: Re: แม้รอย ก็เลือนหาย (รอยไทย)
เริ่มหัวข้อโดย: บุญเทิด ที่ 02/ต.ค./13 20:46น.
คุณภูวดี ก็ไม่ใช่ย่อย เห็นลงเพลงเพราะ ๆ ให้พวกเราฟังก็มาก แม๊ ..ยังมากความสารถด้านสำนวนกลอนซะด้วย สุดยอดครับ ... :'e:133 :'e:133 :'e:133
หัวข้อ: Re: แม้รอย ก็เลือนหาย (รอยไทย)
เริ่มหัวข้อโดย: ชบาบาน ที่ 02/ต.ค./13 21:02น.
ไม่ต้องห่วงหรอกนะขอรับว่าต่อไปจะเหลือแต่กลอนแปด  อันที่จริงเวบอื่นๆที่เขาเน้นในเรื่องนี้ก็ยังคงทำกันอยู่อย่างทะมัดทะแมง
ผู้บริหารเวบหลายคนที่กระผมคุ้นเคยก็เคยคิดและปรารภกันในเรื่องนี้   เลยส่งเสริมชักขวนให้เขียนโคลงฉันท์กาพย์กันอยู่ ได้ผลเป็นที่น่าพอใจ
เช่นท่าน"อัลมิตรา" ผู้บริหารเวบเกี่ยวกะการร้อยกรองแห่งหนึ่ง
สำหรับห้องนี้  ก็มียอดปรมาจารย์อยู่ท่านหนึ่ง แต่งำประกายไม่ค่อยเห็นรอย  ท่านนี้คือท่าน"สหัสวรรษ" เฉียบคมแลลึกซึ้งทางกาพย์แลฉันท์
เป็นอย่างยิ่ง  ท่านนำวรรณกรรมจีนโบราณหรือบางทีก็เพลงเพราะมากำนัลกระผมหลายครั้งหลายครา  นี่ก็อยากกราบกรานให้ท่าน
สำแดงสีมืออีก  เพราะกระผมคิดถึงท่านเป็นกำลัง....
หัวข้อ: Re: แม้รอย ก็เลือนหาย (รอยไทย)
เริ่มหัวข้อโดย: ลุงชัย นรา ที่ 06/ต.ค./13 00:31น.
...เห็นด้วย กับทุกท่านเลยครับ...สุดยอดทุกคน น้องภู สงขลา ก็มีความสามารถ ท่านอภัย ก็เก่ง บ้านนี้คงไม่้เงียบเหงาแล้วหละ....