'บ้านโคกไคร' หมู่บ้านโอทอปท่องเที่ยว หาดทรายร้อน-ปูมดแดง อันซีนทะเลอันดามัน
(http://mpics.manager.co.th/pics/Images/556000012702501.JPEG)
หาดตั้งเลน
คำว่า “โอทอป” ใช่ว่าจะต้องเป็นสินค้าเสมอไป เพราะหากชุมชนนั้นมีสถานที่ท่องเที่ยวเด็ดไม่เหมือนใครก็กลายเป็น
'หมู่บ้านโอทอปท่องเที่ยว' ได้ อย่างบ้านโคกไคร อ.ทับปุด จ.พังงา ที่ได้รางวัลแชมป์เปี้ยนมาครอง จากธรรมชาติสวยงาม
หาชมยาก นักท่องเที่ยวน้อยคนนักที่เคยไปสัมผัสกับหาดทรายร้อน และตื่นตากับกองทัพปูมดแดง แถมยังมีผลิตภัณฑ์
อาหารแปรรูปจากทะเลคุณภาพเยี่ยมอีกด้วย
(http://mpics.manager.co.th/pics/Images/556000012702502.JPEG)
หาดโคลนร้อน นักท่องเที่ยวนิยมมาพอกโคลนอุ่นๆ
หลังจากที่กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย จัดโครงการประกวดหมู่บ้าน OTOP Village Champion :
OVC ตั้งแต่ปี 2549 ที่ผ่านมา โดยต้องการสร้างความเข้มแข็งแก่ชุมชน ใช้กระบวนการพัฒนาผลิตภัณฑ์โอทอป ควบคู่
การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว “ชุมชนบ้านโคกไคร” ต.มะรุ่ย อ.ทับปุด จ.พังงา เป็นหนึ่งในนั้นที่คว้ารางวัลหมู่บ้านโอทอป
เพื่อการท่องเที่ยวมาครอง
(http://mpics.manager.co.th/pics/Images/556000012702503.JPEG)
เชื่อว่าโคลนบริเวณนี้ช่วยแก้โรคเหน็บชา และปวดเมื่อยได้
จากการที่หมู่บ้านดำเนินการจัดการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์มานาน กอรปกับสถานที่ท่องเที่ยวไม่ซ้ำใคร นักท่องเที่ยว
ได้สัมผัสธรรมชาติอย่างแท้จริง หรืออาจพูดได้ว่าการมาสัมผัสธรรมชาติที่บ้านโคกไครต้องขึ้นอยู่กับ 'ดวง' เพราะชาวบ้าน
ไม่สามารถไปบังคับธรรมชาติได้...แล้วธรรมชาติที่ว่ามันคืออะไรล่ะ?
(http://mpics.manager.co.th/pics/Images/556000012702504.JPEG)
น้ำบริเวณหาดทรายร้อนจะอุ่น แต่หากยามเช้ามืดจะเห็นไอร้อนลอยขึ้นมา
หลายคนคงแปลกใจขณะนั่งเรือไปตามท้องทะเลสีฟ้าคราม แต่จู่ๆ กลับเห็นควันสีขาวลอยพวยพุ่งขึ้นมาบริเวณสันดอน
ทรายกลางทะเล ซึ่งนั่นไม่ใช่ผลงานของมนุษย์ แต่เป็นสิ่งอัศจรรย์ที่ธรรมชาติสร้างสรรค์ขึ้นจากรอยแยกของเปลือกโลก
ทำให้มีพลังงานความร้อนจากใต้ผืนดินแทรกตัวขึ้นมา ก่อเกิดเป็น “หาดทรายร้อน” หรือ “หาดโคลนร้อน”
(http://mpics.manager.co.th/pics/Images/556000012702505.JPEG)
ร่องน้ำอุ่นที่ไหลลงสู่ทะเล บริเวณหาดทราบร้อน
นายนิกร สาระการ มัคคุเทศท้องถิ่นประจำชุมชนบ้านโคกไคร อธิบายถึงสรรพคุณโคลนอุ่น ที่บรรดานักท่องเที่ยวกำลัง
พอกอยู่ที่เท้าว่า ช่วยบำบัดโรคเหน็บชา ปวดเมื่อย โดยพอกโคลนไว้ประมาณ 10 นาที จะรู้สึกว่าผิวนุ่มขึ้น และเบาสบายเท้า
ซึ่งการสัมผัสความสบายนี้ใช่ว่าจะมาได้ทุกวัน ทุกเวลา เพราะหาดทรายร้อนจะปรากฎกายให้เห็นเฉพาะช่วงน้ำลง เวลาเช้ามืด
ราวตีห้าไปถึงช่วงสายๆ ของวันแรมหรือขึ้น 3-5 ค่ำของทุกเดือนเท่านั้น
(http://mpics.manager.co.th/pics/Images/556000012702506.JPEG)
"ลากูน" สถานที่แห่งนี้พบเห็นได้จากการล่องเรือลอดถ้ำมืดเข้ามา
หลังจากเพลิดเพลินกับโคลนอุ่นๆ แล้ว มัคคุเทศน์ท้องถิ่น แนะนำอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่ธรรมชาติรังสรรค์ขึ้นอีกเช่นกัน
กับหาดตั้งเลน หาดทรายขาวบริสุทธิ์ แต่ทีเด็ดอยู่ที่กองทัพ “ปูมดแดง” ที่จะออกมาอวดโฉมแก่บรรดานักท่องเที่ยวในวันที่มีอากาศ
ปลอดโปร่ง แสงแดดตกกระทบผืนทรายเต็มที่ ฝนไม่ตก และเป็นช่วงที่น้ำทะเลลด เมื่อนั้นเราจะเห็นปูตัวเล็กๆ สีแดง ขนาดเท่าหัวแม่มือ
ออกมาตากแดดเดินเล่นบนสันดอนทรายนับหมื่นนับแสนตัว ทำให้บริเวณนั้นกลายเป็นสีแดงตามลักษณะปูท้องถิ่นที่จะหาชมได้ที่หาดตั้งเลนเท่านั้น
(http://mpics.manager.co.th/pics/Images/556000012702507.JPEG)
แต่หากนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการผจญภัยเพื่อเข้าถึงธรรมชาติอย่างใกล้ชิด ทริปการท่องเที่ยวของชุมชนบ้านโคกไครก็จัดเตรียม
ไว้เช่นกัน โดยให้นักท่องเที่ยวได้ออกกำลังกายเล็กๆ น้อยๆ กับการพายเรือคายัคเลาะถ้ำ โขดหิน ชมความงามของหินงอก หินย้อย
และเวิ้งหุบเขา หรือที่เรียกกันว่า “ลากูน” ที่ต้องพายเรือคายัคลอดผ่านหุบเขาเข้าไปภายในเงียบสงบ จนสามารถได้ยินเสียงธรรมชาติได้อย่างชัดเจน
(http://mpics.manager.co.th/pics/Images/556000012702509.JPEG)
เข้าสู่ป่าโกงกาง
“ถ้ำมืด” หรือ “ถ้ำลอดเหนือ” อีกหนึ่งไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาด เพราะการที่ได้พายเรือคายัคไปตามถ้ำที่มืดสนิท มีเพียง
แสงไฟจากไฟฉายส่องด้านหลังจากเพื่อนร่วมทาง แต่เมื่อลอดผ่านออกไปสู่แสงสว่างอีกครั้ง กลับประทับใจไม่รู้ลืม ประหนึ่ง
ก้าวเข้าสู่อีกโลก ภาพเวิ้งหุบเขาที่รายล้อมไปด้วยป่าโกงกางขนาดใหญ่ขึ้นครึ้ม ผาหินปูนที่สวยงาม สัมผัสได้ถึงอุณหภูมิที่ลดลง
1-2 องศา จากเมื่อนาทีที่แล้วยังร้อนระอุกับแสงแดดกลางทะเล
(http://mpics.manager.co.th/pics/Images/556000012702510.JPEG)
เตรียมลอดถ้ำมืด
ถัดมาเป็น “ถ้ำลอดใต้” สัมผัสความอัศจรรย์ของธรรมชาติอัน่าพิศวง กับหินงอกหินย้อยบนเพดานถ้ำ และพืชพันธุ์ที่รายล้อม
คอยอวดโฉมแก่บรรดานักท่องเที่ยว และเมื่อลัดเลาะมาตามผืนน้ำอันเงียบสงบ ก็มาถึง “ถ้ำผีหัวโต” หรือ “ถ้ำหัวกะโหลก”
ขึ้นชื่อในเรื่องภาพเขียนโบราณบนผนังถ้ำกว่า 100 ภาพ ที่บอกเล่าเรื่องราว พิธีกรรม ความเชื่อและวิถีชีวิตในอดีตเมื่อ 3,000 ปีที่แล้ว
(http://mpics.manager.co.th/pics/Images/556000012702511.JPEG)
นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวในแบบอันซีนแล้ว ชุมชนบ้านโคกไคร ยังมีสินค้าโอทอปให้ชอปปิ้งกันต่อ อย่าง กุ้งย่างทรัพย์สมุทร
(กุ้งเสียบ) ผลิตภัณฑ์โอทอปเลื่องชื่อ , กะปิตำมือ และกุนเชียงปลา หรือจะเป็นสินค้าประเภทเครื่องประดับจากไข่มุกก็มีให้เลือกสรร
(http://mpics.manager.co.th/pics/Images/556000012702512.JPEG)
เหมือนอยู่อีกโลกเมื่อลอดถ้ำออกมา
ใครสนใจจะเดินทางไปสัมผัสธรรมชาติพร้อมเรียนรู้วิถีชุมชนฝั่งอันดามัน ทางชุมชนบ้านโคกไครก็มีโฮมสเตย์ไว้คอยต้อนรับ
พร้อมแพคเกจท่องเที่ยว แบบ 2 วัน 1 คืน ชมวิถีชาวประมงพื้นบ้าน ผจญภัยป่าชายเลน และถ้ำภาพเขียนโบราณ ส่วนแพคเกจ 1 วัน
เป็นการนั่งเรือคายัค สำรวจถ้ำงามตา และภูผาแปลก
(http://mpics.manager.co.th/pics/Images/556000012702513.JPEG)
แต่อย่างไรก็ดีโปรแกรมท่องเที่ยวที่เอ่ยมาข้างต้นควรสอบถามและวางแผนก่อนเดินทาง เพราะช่วงแวลาที่เหมาะสมทั้ง 2 แพคเกจ
คือ ช่วงที่ระดับน้ำทะเลลด ระหว่างวันขึ้น-แรม 3-15 ค่ำ เท่านั้น
(http://mpics.manager.co.th/pics/Images/556000012702514.JPEG)
(http://mpics.manager.co.th/pics/Images/556000012702515.JPEG)
(http://mpics.manager.co.th/pics/Images/556000012702516.JPEG)
(http://mpics.manager.co.th/pics/Images/556000012702517.JPEG)
ถ้ำผีหัวโต ขึ้นชื่อเรื่องภาพเขียนโบราณ
(http://mpics.manager.co.th/pics/Images/556000012702518.JPEG)
ภาพนี้ชาวบ้านเชื่อว่าเป็นภาพหญิงสาวที่อยู่ในชุดแต่งงาน
(http://mpics.manager.co.th/pics/Images/556000012702519.JPEG)
ปูมดแดง นับหมื่นตัวขึ้นมาอาบแดด
***สนใจไปสัมผัสหมู่บ้านโอทอปเพื่อการท่องเที่ยว “ชุมชนบ้านโคกไคร” ติดต่อ 08-7886-0465***
>>>>>>>>>>>>>
นำมาจาก http://www.manager.co.th/iBizchannel/viewNews.aspx?NewsID=9560000121155 (http://www.manager.co.th/iBizchannel/viewNews.aspx?NewsID=9560000121155)