ชอปของมือสองเพลินใจ ไหว้หลวงพ่อโตที่ “วังหลัง”
(http://www.manager.co.th/asp-bin/Image.aspx?ID=2781888)
บรรยากาศ “ถนนวังหลัง”
“ย่านวังหลัง” ชื่อคุ้นหูและเป็นที่รู้จักของใครหลายคน ตรอกเล็กๆ แคบๆ ริมถนนวังหลังข้างโรงพยาบาลศิริราชแห่งนี้
เป็นที่ตั้งของร้านค้าต่างๆ มากมายหลากหลายชนิด ย่านแห่งนี้เป็นที่รู้จักของผู้คนมาตั้งแต่อดีตทุกยุคทุกสมัย อีกทั้งยังเป็น
ที่นิยมของทุกวัยตั้งแต่วัยรุ่นถึงรุ่นคุณป้าก็ว่าได้ อีกทั้งในพื้นที่บริเวณย่านแห่งนี้ก็มีสถานที่ท่องเที่ยวให้ไปแวะเที่ยวแวะชมได้อีกด้วย
แต่ก่อนที่จะมาเป็นตลาดวังหลังแหล่งเที่ยวแหล่งกินของใครหลายคนนนั้น ดั้งเดิมแล้วเมื่อครั้งอดีตเป็นส่วนหนึ่งของ
พระราชวังบวรสถานพิมุข หรือ วังหลัง พระราชวังของสมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระอนุรักษ์เทเวศร์ ในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธ
ยอดฟ้าจุฬาโลก และในเวลาต่อมาได้มีการจัดสร้างโรงเรียนสตรีแห่งแรกของประเทศ ชื่อว่า "โรงเรียนกุลสตรีวังหลัง" และ
ได้ย้ายไปอยู่ที่ซอยวัฒนา ถนนสุขุมวิท (ปัจจุบันคือโรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย) ซึ่งในเวลาต่อมา สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมหลวง
สงขลานครินทร์ (สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก) ทรงจัดตั้งเป็นโรงพยาบาลศิริราชขึ้นแทน
โดยขอพระราชทานที่แปลงใต้คือพระราชวังของสมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระอนุรักษ์เทเวศร์ มาเป็นพื้นที่สำหรับสร้างโรงพยาบาล
และมีการขยับขยายจนเต็มพื้นที่วังและถนนที่ใช้เดินทางเข้าวังนั้นจึงเรียกว่า “ถนนวังหลัง” ในส่วนตรงข้ามโรงพยาบาลนั้น
กลายมาเป็นตลาดวังหลังและเป็นที่รู้จักของผู้คนในเวลาต่อมาจนถึงปัจจุบัน
(http://www.manager.co.th/asp-bin/Image.aspx?ID=2781895)
ร้านค้าริม “ถนนวังหลัง”
จุดเด่นที่เรามองเห็นได้เมื่อมาถึงย่านนี้ คือร้านค้ามากมายที่เรียงรายอยู่ริมถนนวังหลังและในตรอกวังหลังตั้งแต่ต้นซอย
ถึงท้ายซอย เริ่มต้นด้วยร้านขายของกินที่มีอยู่มากมาย ขายอาหารหลากหลายชนิดให้ได้เลือกทั้งแบบแวะกินในร้านหรือจะซื้อ
กลับบ้าน ในส่วนของอาหารที่ขายนั้นมีทั้งอาหารคาว อาหารหวาน ผลหมากรากไม้ และของกินเล่น ใครจะลองแวะซื้อแวะชิม
ตามร้านที่เราสนใจก็ทำได้ไม่ยาก
(http://www.manager.co.th/asp-bin/Image.aspx?ID=2781896)
ร้านค้าเรียงรายใน “ตรอกวังหลัง”
ถัดมาคือร้านขายสินค้า ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า กระเป๋า เครื่องสำอาง สินค้าเวชภัณฑ์ และอื่นๆ อีกมากมาย ร้านค้าเรียงราย
สลับกับร้านขายอาหาร นอกจากสินค้ามือหนึ่งแล้ว ที่นี่ก็ยังขึ้นชื่อเรื่องสินค้ามือสอง โดยเฉพาะรองเท้าและกระเป๋า จะเป็นที่นิยม
กันมากและยังมีสินค้ามือสองอีกมากมายหลากหลายสไตล์ให้ได้เลือกซื้อ สินค้าส่วนมากมาจากตลาดโรงเกลือ และสินค้ามือสอง
ส่วนมากจะมาลงใหม่ในช่วงวันพุธ บรรยากาศภายในตลาดนั้นคึกคักทุกวันซึ่งใครที่ได้มาแล้วก็จะรู้ว่า ย่านวังหลังแห่งนี้เป็นที่นิยม
ของคนทุกยุคทุกเพศทุกวัย ไม่ว่าจะเป็นเหล่าวัยรุ่น วัยทำงานหรือจะเป็นรุ่นคุณแม่ ที่สามารถมาจับจ่ายซื้อสินค้าตามใจฉันได้
อย่างสบายเพราะมีเกือบครบทุกอย่าง
(http://www.manager.co.th/asp-bin/Image.aspx?ID=2781710)
ตลาดวังหลังแหล่งรวมของกินนานาชนิด
ความวุ่นวายในเมืองคงเป็นเสมือนสิ่งหนึ่งที่อยู่คู่คนเมืองไปเสียแล้ว แต่บางครั้งความวุ่นวายแบบนี้แหละ ก็คือเสน่ห์ในการใช้ชีวิต
ในกรุงเทพฯ ยิ่งเมื่อไปเดินเล่นในย่านการค้า หรือแหล่งช้อปปิ้งต่างๆ แล้ว ความวุ่นวายของผู้คนก็คือสีสันการดำเนินชีวิตของคนเมือง
ซึ่งแหล่งช้อปปิ้งแบบที่ว่านี้ก็หาได้ไม่ยากนัก เรียกได้ว่าแทบจะทุกๆ ย่านของกรุงเทพมหานครนั้นต่างมีแหล่งให้ช้อปปิ้ง จับจ่ายใช้สอย
กันอยู่มากมายทีเดียว
(http://www.manager.co.th/asp-bin/Image.aspx?ID=2781711)
“ข้าวโพดทอด” เมนูอร่อยร้านคูลิขเฮง
เช่นเดียวกันกับฝั่งธนบุรี ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ใกล้ๆ กับโรงพยาบาลศิริราช ยังมีอีกสถานที่หนึ่ง ที่เรียกได้ว่าใครที่ผ่านไปมาแถวนี้นั้น
จะต้องเคยมาจับจ่ายใช้สอยกันที่นี่เป็นแน่ และที่แห่งนี้จะรู้จักกันดีในชื่อว่า “ตลาดวังหลัง” หรือ “ตรอกวังหลัง”
(http://www.manager.co.th/asp-bin/Image.aspx?ID=2781712)
อาหารอีสานร้าน “น้ำตกสีดา”
“ตลาดวังหลัง” เป็นตลาดเล็กๆ ที่มีผู้คนมาเดินจับจ่ายกันอย่างคึกคัก ไม่ว่าจะสูงวัย วัยกลางคน หรือกระทั่งวัยรุ่น เด็กมหาวิทยาลัย
หรือเด็กมัธยม ก็ต้องมาเดินกันที่นี่ บ้างก็เดินเล่นช้อปเสื้อผ้า ของใช้ บ้างก็หาของกินอร่อยๆ รองท้อง และสิ่งเหล่านี้ก็กลายเป็นเสน่ห์ของ
ตรอกวังหลังไปเสียแล้ว
(http://www.manager.co.th/asp-bin/Image.aspx?ID=2781713)
อรทัยซูชิวังหลัง
และเมื่อมาถึงถิ่นของกินเยอะแยะมากมาย เราก็ไม่เคยพลาดที่จะนำร้านอาหาร หรือของอร่อยมาแนะนำกัน โดยเริ่มกันที่ร้าน “คูลิบเฮง”
เมื่อมาถึงที่ร้านก็ต้องรีบเข้าไปจับจองที่นั่งกันเสียก่อน หากไปช่วงเที่ยงก็จะเป็นช่วงเวลาที่คนเยอะแยะเลยทีเดียว และที่ร้านนี้จะขายอาหาร
อีสานรสแซบมากมายหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น ส้มตำ ข้าวโพดทอด ตับหวาน ต้มแซบกระดูกอ่อน คอหมูย่าง น้ำตกหมู ยำเห็ดสามอย่าง
เป็นต้น อาหารของที่ร้านนี้เสิร์ฟมาแบบพอดีกิน รสชาติจัดจ้าน ถ้าใครชอบกินอาหารอีสานก็ต้องมาที่ร้านนี้ สนนราคาชามละ 40 - 70 บาท
(ขึ้นอยู่กับแต่ละเมนู)
(http://www.manager.co.th/asp-bin/Image.aspx?ID=2781714)
ผลไม้แช่บ๊วย แช่อิ่ม ร้าน “คุณอี๊ดฝรั่งแช่บ๊วยวังหลัง”
ถัดจากร้านคูลิบเฮงมาอีกนิด ก็จะมีร้านขายอาหารอีสานอีกหนึ่งร้านที่ขึ้นชื่อไม่แพ้กันกับร้าน “น้ำตกสีดา” ที่ร้านนี้จะขายอาหารจำพวก
ส้มตำ น้ำตก คอหมูย่าง ฯลฯ ส่วนเรื่องรสชาตินั้นก็เรียกได้ว่าอร่อยไม่แพ้กัน หากใครที่ไม่ชอบกินอาหารรสจัด มาเดินตรอกวังหลังอยากจะกินซูชิ
ทาโกะยากิ สไตล์ญี่ปุ่นแต่รสชาติถูกปากคนไทย และราคาไม่แพงก็ต้องไปกันที่ร้านนี้เลย “อรทัยซูชิวังหลัง”
(http://www.manager.co.th/asp-bin/Image.aspx?ID=2781715)
หมูทอดวังหลัง
ที่ร้านอรทัยฯ จะขึ้นชื่อเรื่องของทาโกะยากิและซูชิ ในส่วนของซูชิจะมีให้เลือกหลากหลายหน้า ไม่ว่าจะเป็นหน้าไข่กุ้ง หน้าแซลมอนสด
หน้าแซลมอนย่าง หน้าปลาไหลญี่ปุ่นย่าง หน้ายำแมงกะพรุน หน้าหมึก และอีกหลายหลายหน้าในราคาตั้งแต่ 5 บาทขึ้นไป นอกจากซูชิแล้ว
ยังมีซาชิมิปลาดิบ แคลิฟอร์เนียมากิ แคลิฟอร์เนียโรล และเมนูเด็ดของที่ร้านอีกอย่างหนึ่งที่อร่อยไม่แพ้กันก็คือ ‘ทาโกะยากิ’ ทางร้านจะมีไส้
ให้เลือกถึง 6 ชนิด ได้แก่ ไส้กุ้ง ไส้หมึก ไส้แซลมอน ไส้ทูน่า ไส้แฮม และไส้ปูอัด สนนราคาลูกละ 5 บาท
(http://www.manager.co.th/asp-bin/Image.aspx?ID=2781716)
ร้านน้ำปั่นวังหลังมีเมนูน้ำปั่นหลากหลายชนิด
จากนั้นเดินไปหาผลไม้กินเล่นกันที่ร้าน “คุณอี๊ดฝรั่งแช่บ๊วยวังหลัง” ที่นี่จะขายผลไม้จำพวกแช่บ๊วยและผลไม้แช่อิ่มหลายชนิด
ได้แก่ ฝรั่งแช่บ๊วย ฝรั่งดองบ๊วย มะม่วงแช่บ๊วย มะม่วงแช่อิ่ม พุทราแช่บ๊วย พุทราดองบ๊วย มะกอกแช่อิ่ม มะดันแช่อิ่ม กระท้อนแช่อิ่ม
มะขามแช่อิ่ม และมะปรางแช่อิ่ม โดยจำหน่ายทั้งปลีกและส่ง (ราคาขึ้นอยู่กับขนาดและน้ำหนัก)
(http://www.manager.co.th/asp-bin/Image.aspx?ID=2781717)
ขนมปังเจ้าอร่อย “วังหลังเบอเกอรี่”
นอกจากนี้แล้วตรอกวังหลังยังมีของกินอร่อยๆ ขึ้นชื่ออีกมายมาย ไม่ว่าจะเป็น วังหลังเบอเกอรี่ หมูทอดวังหลัง ก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟ
ถั่วแปบสีลม น้ำปั่นวังหลัง และอีกหลากหลายชนิด เรียกได้ว่าหากใครที่ชื่นชอบแหล่งของกินหลากหลายชนิดในตลาดเดียว ที่ “ตลาดวังหลัง”
แห่งนี้ก็เป็นอีกทางเหลือกหนึ่งที่ดีไม่น้อย นอกจากจะได้หาของกินอร่อยๆ ลงท้องแล้ว ยังซื้อติดไม้ติดมือกลับบ้านได้ และยังเป็นแหล่งช้อปปิ้ง
เสื้อผ้า ของใช้ราคาไม่แพงอีกด้วย (คลิกอ่านเรื่องเที่ยวย่านวังหลัง)
(http://www.manager.co.th/asp-bin/Image.aspx?ID=2781897)
หอระฆังทั้งห้า “วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร”
ย่านวังหลังไม่ได้มีเพียงร้านค้ามากมายเท่านั้น ไม่ไกลกันนั้นเป็นที่ตั้งของ “วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร” โดยวัดแห่งนี้เป็นวัดโบราณ
สร้างในสมัยอยุธยา เดิมชื่อ “วัดบางหว้าใหญ่” ในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ได้ทรงบูรณปฏิสังขรณ์และได้ขุดพบ
ระฆังลูกหนึ่ง จึงโปรดเกล้าฯ ให้นำไปไว้ที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม โดยทรงสร้างระฆังชดเชยให้วัดบางหว้าใหญ่ 5 ลูก จากนั้นได้พระราชทาน
นามวัดใหม่ว่า “วัดระฆังโฆสิตาราม” วัดระฆังแห่งนี้ ได้รับความนิยมมากในการเดินทางทำบุญ เป็น 1 ใน 9 วัดของเส้นทางเดินทางทำบุญ 9 วัด
ในเขตกรุงเทพมหานคร
(http://www.manager.co.th/asp-bin/Image.aspx?ID=2781898)
ภาพจิตรกรรมและหลวงพ่อยิ้มรับฟ้า ภายในพระอุโบสถวัดระฆังฯ
ภายในพระอุโบสถวัดระฆังฯ แห่งนี้มีภาพจิตรกรรมฝาผนังที่ได้รับการยกย่องว่าฝีมืองดงามมาก ซึ่งเขียนโดยพระวรรณวาดวิจิตร จิตรกรเอก
ในสมัยรัชกาลที่ 6 เป็นภาพพระพุทธเจ้าแสดงยมกปาฏิหาริย์ก่อนเสด็จขึ้นไปจำพรรษาบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์โดยมี "หลวงพ่อยิ้มรับฟ้า" เป็นพระประธาน
ในพระอุโบสถ นับเป็นสถานที่สำหรับผู้ที่ต้องการมาทำบุญใกล้ย่านวังหลัง อีกทั้ง สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมฺรังสี) พระมหาเถระรูปสำคัญของ
ประเทศไทย เคยดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสในสมัยรัชกาลที่ 4-5 ซึ่งปัจุบันมีรูปหล่อเหมือนของสมเด็จพระพุฒาจารย์โตให้ได้สักการะภายในวัดระฆังแห่งนี้อีกด้วย
******************************************************************************
การเดินทาง
เรือข้ามฟาก - จากท่าช้างและท่าวัดมหาธาตุไปลงท่าวังหลัง
เรือด่วยเจ้าพระยา - ขึ้นที่ท่าพรานนก (วังหลัง)
รถประจำทาง - สาย 19, 57, 81, 146, 149, 169, ปอ.91, ปอ.157 และอีกหลายสายที่ผ่านโรงพยาบาลศิริราช (ลงป้ายหน้าโรงพยาบาล)
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
นำมาจาก http://www.manager.co.th/Food/ViewNews.aspx?NewsID=9560000104994 (http://www.manager.co.th/Food/ViewNews.aspx?NewsID=9560000104994)