“ยิ้มถาวร” ศัลยกรรมยอดฮิตสาวเกาหลี
(http://mpics.manager.co.th/pics/Images/556000011213401.JPEG)
ขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศแห่งการศัลยกรรม แต่ใครจะคิดว่าจะทำหนักถึงขึ้นมีศัลยกรรมรอยยิ้ม!
(http://blu.stb.s-msn.com/i/AA/E0B041487696E24FD108370A9ACEC_h316_w628_m5_cDutLWFSG.jpg)
ล่าสุด ข่าวฮัฟฟิงตัน โพสต์ รายงานว่ามีศัลยกรรมรูปแบบใหม่เกิดขึ้นในเอเชีย เรียกว่า “Smile Lipt”
(สมาย ลิปต์) เป็นคำผสมมาจากคำว่า “Lift” ที่แปลว่า “ยก” และคำว่า “Lip” ที่แปลว่า “ปาก” หมายถึงการ
ศัลยกรรมที่ทำให้รูปปากยกขึ้น เสมือนหนึ่งกำลังยิ้มอยู่นั่นเอง
(http://img.gawkerassets.com/img/18xvwgjgkihpqjpg/ku-xlarge.jpg)
เว็บไซต์ Business Insider ระบุว่า มีคลินิกชื่อ “เอวัน” (AONE) ในเกาหลีใต้รับทำศัลยกกรมลักษณะ
ดังกล่าว เพื่อให้คนไข้มีรอยยิ้มแบบถาวรบนใบหน้า โดยการสร้างรอยโค้งที่มุมปากทั้งสองข้างให้มีลักษณะยกขึ้น
ทำให้เหมือนยิ้มอยู่ตลอดเวลาโดยไม่ต้องเสียแรงยก
(http://www.sickchirpse.com/wp-content/uploads/2013/08/korea1.jpg)
ดร.ควอน แต็ก เคือน ผู้ก่อตั้งคลีนิคเอวัน เคยพูดถึงเรื่องศัลยกรรม “ยกมุมปาก” เอาไว้ในวาระการประชุม
นานาชาติของศัลยแพทย์ศัลยกรรมพลาสติกเมื่อปี 2555 ว่าหลังการทำศัลยกรรม มุมปากจะยกขึ้นเองอย่างเป็น
ธรรมชาติ ถึงแม้ว่าใบหน้าจะไม่ได้แสดงอารมณ์อะไร มุมปากก็จะยกแสดงอาการยิ้มเล็กๆ อยู่อย่างนั้น และจะยิ่ง
ยิ้มมากขึ้นอีก เมื่อผู้ทำศัลยกรรมยิ้มจริงเสริมเข้าไป
(http://4-ps.googleusercontent.com/x/www.trendhunter.com/cdn.trendhunterstatic.com/phpthumbnails/209/209491/209491_1_468.jpeg.pagespeed.ce.7uHGfHHxjN.jpg)
นอกจากนี้ข้อมูลจากสมาคมศัลยแพทย์ศัลยกรรมพลาสติกเสริมความงามนานาชาติ ยังระบุอีกว่าเกาหลีใต้
กลายเป็นผู้นำโลกในเรื่องศัลยกรรมพลาสติกไปแล้ว คือมีจำนวนประชากรที่ผ่านมีดหมอมาแล้วมากที่สุดในโลก
วัดแค่จำนวนผู้หญิงในเกาหลีใต้ มีคนสวยด้วยมีดหมอไปแล้วคิดเป็น 20 เปอร์เซ็นต์ของประชากรทั้งประเทศ
(http://img.ibtimes.com/www/data/images/full/2013/08/23/401930.jpg)
การศัลยกรรมที่นิยมที่สุดคือการทำตาสองชั้นและเสริมจมูก ส่วนศัลยกรรมที่กำลังได้รับความนิยมมากขึ้น
เรื่อยๆ คือการทำขากรรไกรสองชั้น เพื่อให้ได้หน้ารูปตัววี หรือที่เรียกว่า V-Shape เหลาให้คางและกรามเรียวมน
แต่การศัลยกรรมลักษณะนี้ ยังมีความเสี่ยงสูงอยู่ พบว่า 52 เปอร์เซ็นต์ของคนที่ทำ จะทำให้เกิดอาการไร้ความรู้สึก
ที่ใบหน้าและอาจส่งผลต่อการเคี้ยวและกลืนอาหารด้วย
(http://media.tumblr.com/256b4781831482dc06d366bb0041fc67/tumblr_inline_mrydabEXWz1qz4rgp.jpg)
ส่วน “ยิ้มถาวร” นี้ ยังไม่มีผลการวิจัยออกมารายงานผลกระทบทั้งระยะสั้นและระยะยาว รู้แค่ว่าใครจะศัลยกรรม
แบบใหม่นี้คงต้องคิดให้หนัก เพราะถึงเวลาที่คุณอารมณ์บ่จอย อยากอยู่นิ่งๆ รอยยิ้มถาวรบนใบหน้าอาจทำให้คนรอบข้าง
ตีความความรู้สึกไปผิดๆ ก็เป็นได้... ยิ้มให้กันมันคงไม่ยากเท่าไหร่ ยิ้มออกมาจากใจ ยิ้มอย่างเป็นธรรมชาติอาจเหมาะกว่า
(http://www.sickchirpse.com/wp-content/uploads/2013/08/joker-640x350.jpg)
CLipS
[youtube=650,450]https://www.youtube.com/watch?v=OP3sZljmSvg&feature=player_embedded[/youtube]
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
นำมาจาก http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9560000106777 (http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9560000106777)