เพลงพักใจดอทเน็ต

สัพเพเหระ => รูปภาพสวยๆ แปลกๆ เอามาโชว์ครับ => ข้อความที่เริ่มโดย: วิทยา ที่ 17/ก.ค./13 11:42น.

หัวข้อ: ขึ้นเขา เข้าถ้ำ ดื่มด่ำธรรมชาติ 3 อ่าว เมืองประจวบฯ
เริ่มหัวข้อโดย: วิทยา ที่ 17/ก.ค./13 11:42น.

ขึ้นเขา เข้าถ้ำ ดื่มด่ำธรรมชาติ 3 อ่าว เมืองประจวบฯ
   
(http://www.manager.co.th/asp-bin/Image.aspx?ID=2734413)   
ยามเช้าที่อ่าวประจวบฯ

       พูดถึงจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ความคิดของหลายๆ คนมักหยุดอยู่แค่หัวหิน เมืองตากอากาศยอดฮิต
ทุกยุคทุกสมัย แต่แท้จริงแล้วประจวบฯ มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย โดยเฉพาะในตัวอำเภอเมือง
ประจวบฯ ที่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่หลากหลายให้เลือกสนุกกัน
       
       ประจวบคีรีขันธ์ได้ชื่อว่าเป็น “เมือง 3 อ่าว” เพราะทางทิศตะวันออกของตัวจังหวัดที่ติดทะเลอ่าวไทย
นั้นมีอ่าว 3 อ่าวทอดตัวยาวติดกันโดยมี “อ่าวน้อย” เป็นอ่าวที่อยู่ทางตอนเหนือสุดของตัวเมืองประจวบฯ
อ่าวน้อยมีหาดเล็กๆ วาดโค้งมาจดกับเขาตาม่องล่าย อีกฟากหนึ่งของเขาตาม่องล่ายเป็นจุดเริ่มต้นของ
“อ่าวประจวบคีรีขันธ์” ซึ่งยาวโค้งมาจนจดกับเขาล้อมหมวก ถัดจากเขาล้อมหมวกจึงเป็นพื้นที่ของ
“อ่าวมะนาว” ซึ่งเป็นพื้นที่ทหารของกองบินที่ 5 มีชายหาดโค้งกลมไปจดกับเขาคลองวาฬ

(http://www.manager.co.th/asp-bin/Image.aspx?ID=2734410)
ทิวทัศน์ตัวเมืองประจวบฯ มองจากบนเขาช่องกระจก

       “ตะลอนเที่ยว” ขอเริ่มพาเที่ยวที่อ่าวที่ใหญ่ที่สุดคือที่ “อ่าวประจวบฯ” กันก่อน อ่าวแห่งนี้เป็นที่ตั้งของ
ตัวเมืองประจวบฯ มีความยาวของชายหาดประมาณ 8 กิโลเมตร ที่อ่าวประจวบฯเป็นที่ตั้งของ “เขาช่องกระจก”
ภูเขาขนาดย่อมซึ่งตั้งอยู่ริมทะเล เขาลูกนี้ถือเป็นสัญลักษณ์ของเมืองประจวบฯ ก็ว่าได้ เพราะด้านบนยอดเขา
เป็นที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทจำลอง อีกทั้งยังมีองค์เจดีย์ซึ่งบรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่พระบาทสมเด็จ
พระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระบรมราชินีนาถเสด็จมาทรงประกอบพิธีบรรจุพร้อมทั้งทรงปลูกต้นพระศรีมหาโพธิ์
ไว้ตั้งแต่ปี 2501
       
       เขาช่องกระจกถือเป็นส่วนหนึ่งของวัดธรรมิการาม ซึ่งตั้งอยู่บริเวณตีนเขา นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไป
กราบรอยพระพุทธบาทพร้อมทั้งสักการะพระบรมสารีริกธาตุได้อย่างสะดวกเพราะทางวัดทำบันไดคอนกรีตขึ้น
ไปสู่ยอดเขาอย่างดี จะไม่สะดวกก็เฉพาะสำหรับคนที่กลัวลิง เพราะเขาช่องกระจกนี้เป็นที่อยู่อาศัยของฝูงลิงแสม
หลายร้อยตัว การเดินขึ้นไปสู่ยอดเขาก็ต้องฝ่าฝูงลิงที่นั่งจับกลุ่มคอยมองดูว่าเราถืออะไรที่กินได้มาบ้างหรือเปล่า
แต่โดยส่วนใหญ่แล้วลิงเขาช่องกระจกค่อนข้างจะมีมารยาท ไม่ก้าวร้าวเหมือนที่อื่นๆ แต่หากใครไม่แน่ใจก็หา
ไม้ยาวๆ ซักท่อนติดมือขึ้นไป ไม่ใช่ให้เอาไม้ไปตีทำร้ายลิง แค่ไว้ใช้เคาะขอทางพี่ลิงก็เข้าใจ

(http://www.manager.co.th/asp-bin/Image.aspx?ID=2734411)
เรือประมงลอยลำในอ่าวประจวบฯ

       นอกจากจะได้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์บนยอดเขาแล้ว ด้านบนของเขาช่องกระจกยังเป็นจุดชมวิวทะเลและ
ตัวเมืองประจวบฯ ที่งดงามมากอีกด้วย มองไปด้านหน้าเห็นเกาะเล็กเกาะน้อยในอ่าวประจวบฯ ทั้งเกาะหลัก
เกาะไหหลำ เกาะร่ม มองเห็นสะพานปลายื่นยาวไปในทะเล หันหน้าไปทางแผ่นดินมองเห็นวัดธรรมิการาม
ศาลากลางจังหวัดและตัวเมืองประจวบฯ อยู่เบื้องล่าง ขอแนะนำให้ขึ้นเขามาช่วงเย็นๆ ที่แดดร่มลมตก
เพราะนอกจากจะไม่ร้อนไม่เหนื่อยมากแล้ว ยังจะได้เห็นแสงสีทองอาบทั่วตัวเมือง และหากใครอยู่ถึงพลบค่ำ
ก็จะได้เห็นแสงไฟจากในเมืองและจากเรือประมงในทะเล เป็นภาพที่สวยงามน่าประทับใจไม่น้อยเลย

(http://www.manager.co.th/asp-bin/Image.aspx?ID=2734412)
ขึ้นมากราบพระบรมสารีริกธาตุบนเขาช่องกระจก

       ลงจากเขาไปเดินเล่นชายหาดกันบ้างดีกว่า เนื่องจากชุมชนแถบนี้ยังทำการประมงอยู่เป็นส่วนมาก ชายหาด
ของอ่าวประจวบฯ ในช่วงกลางวันจึงเต็มไปด้วยเรือประมงจอดลอยลำอยู่ และชายหาดก็อาจจะไม่สวยใสเท่าไรนัก
จึงไม่ค่อยมีผู้คนลงเล่นน้ำให้เห็น แต่ถ้าสำหรับการเดินเล่นชิลๆ ริมหาดแล้วล่ะก็ถือว่าเหมาะมาก เพราะมีทางเดิน
คอนกรีตเลียบหาดยาวตลอดเกือบทั้งอ่าว และบริเวณนี้ก็เป็นที่ตั้งของโรงแรมและร้านอาหารมากมาย ช่วงเย็นๆ
ไปจนค่ำจึงมีบรรยากาศคึกคักเป็นพิเศษ

(http://www.manager.co.th/asp-bin/Image.aspx?ID=2734414)
ปูม้าสดๆ เพิ่งขึ้นจากเรือ
       แต่สำหรับคนชอบถ่ายรูปและชมวิวสวยๆ ต้องมาตอนช่วงเช้าตรู่เพื่อชมพระอาทิตย์ขึ้นที่อ่าวประจวบฯ ถ้าสภาพ
อากาศเป็นใจก็จะได้เห็นพระอาทิตย์ลูกกลมโตค่อยๆ โผล่ขึ้นจากน้ำ พร้อมๆ กับที่เรือประมงเริ่มทยอยกลับเข้าฝั่งมุ่งหน้า
เข้ามาที่สะพานปลา “ตะลอนเที่ยว” ตามไปดูที่สะพานปลาเห็นเขากำลังคัดปูม้าสดๆ เป็นๆ ตัวสีฟ้าใส และปลาต่างๆ
ที่ติดอวนมา ซึ่งสัตว์ทะเลเหล่านี้ก็จะถูกส่งไปตามร้านอาหารและตลาดเป็นอาหารของคนต่อไป

(http://www.manager.co.th/asp-bin/Image.aspx?ID=2734415)
อุโบสถวัดอ่าวน้อย

       จากอ่าวใหญ่ที่สุด มาที่อ่าวเล็กที่สุดคือ “อ่าวน้อย” กันบ้าง แม้จะเป็นอ่าวเล็กๆ ของชุมชนหมู่บ้านชาวประมง
แต่อ่าวน้อยมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจคือ “วัดอ่าวน้อย” หรือ “วัดถ้ำพระนอน” ที่อาจจะยังไม่มีคนรู้จักมากนัก
แต่มีความงามไม่เป็นรองใครด้วยอุโบสถไม้สักทองทั้งหลัง เพิ่มความอลังการด้วยพญานาค 9 เศียร 2 ตน
ที่เลื้อยล้อมตัวโบสถ์ไว้ “ตะลอนเที่ยว” เข้าไปกราบพระพุทธรูปหินอ่อนด้านในอุโบสถ ก่อนจะเดินชมภาพเรื่องราว
พุทธประวัติที่แกะสลักไม้ลอยตัวด้วยฝีมือประณีต

(http://www.manager.co.th/asp-bin/Image.aspx?ID=2734416)
ภายในอุโบสถมีภาพแกะสลักไม้เป็นเรื่องพุทธประวัติ

       นอกจากนั้น ที่วัดอ่าวน้อยยังมีอีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญคือ “ถ้ำพระนอน” ที่ตั้งอยู่บนเขา ทางวัดได้ทำทางเดิน
บันไดให้ขึ้นไปชมอย่างสะดวก ภายในถ้ำมีพระนอนขนาดใหญ่ 2 องค์ ความยาว 14 เมตร และ 20 เมตร โดย
ข้อมูลของทางวัดกล่าวว่าเป็นพระนอนที่เก่าแก่และใหญ่ที่สุดในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นศิลปะร่วมสมัยอู่ทอง
-รัตนโกสินทร์ อายุราว 300-500 ปี บรรยากาศในถ้ำทั้งมืดและเย็น แต่ “ตะลอนเที่ยว” ก็อิ่มบุญและอิ่มใจที่
ได้ขึ้นมากราบพระในถ้ำพระนอนแห่งนี้

(http://www.manager.co.th/asp-bin/Image.aspx?ID=2734417)
พระนอนในถ้ำที่วัดอ่าวน้อย

       ส่วนอ่าวสุดท้ายที่จะพาไปเที่ยวกันก็คือ “อ่าวมะนาว” ซึ่งตั้งอยู่ในเขตกองบิน 5 ของกองทัพอากาศ
เหตุที่ชื่อว่าอ่าวมะนาวไม่ใช่เพราะน้ำทะเลแถวนี้เปรี้ยว แต่เป็นเพราะลักษณะของอ่าวโค้งกลมเหมือนผลมะนาว
ชายหาดของอ่าวมะนาวนี้ทั้งสะอาดและเป็นระเบียบเนื่องจากอยู่ในความดูแลของกองบิน 5 ในช่วงวันหยุดเสาร์
อาทิตย์คนประจวบฯ และจังหวัดใกล้เคียงรวมถึงนักท่องเที่ยวจึงพากันมาพักผ่อนนอนเล่นเก้าอี้ชายหาด
พาลูกหลานลงเล่นน้ำทะเลกันอย่างสบายใจ เพราะที่นี่มีห้องอาบน้ำไว้บริการ มีร้านอาหารเครื่องดื่มพร้อม

(http://www.manager.co.th/asp-bin/Image.aspx?ID=2734426)
บรรยากาศชายหาดอ่าวมะนาว

       ไม่เพียงชายหาดสะอาดน่าลงเล่นน้ำเท่านั้น แต่ในกองบิน 5 ยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดอีกมาก
ไม่ว่าจะเป็น “พิพิธภัณฑ์อุทยานประวัติศาสตร์กองบิน 5” พิพิธภัณฑ์ซึ่งแสดงเรื่องราวเมื่อครั้งสงครามมหาเอเชีย
บูรพาที่ทหารญี่ปุ่นได้ยกพลขึ้นบกในบริเวณอ่าวมะนาวแห่งนี้เพื่อใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่านไปยังประเทศพม่า
ทหารไทยได้ต่อสู้อย่างเข้มแข็งแม้จะมีกำลังพลเพียง 120 คน ต่อสู้กับทหารญี่ปุ่นซึ่งมีกำลังพลถึง 3,000 คน
ซึ่งสุดท้ายแล้วฝ่ายไทยเสียชีวิต 42 คน ซึ่งประกอบด้วยทหารอากาศ 38 คน ตำรวจ 1 คน ยุวชนทหาร 1 คน
และครอบครัวทหาร 2 คน โดยตัวพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงเดิมเป็นบ้านพักนายทหารชั้นสัญญาบัตร เป็นเรือนแถวไม้
สีฟ้าชั้นเดียวยกพื้น ภายในจัดแสดงเรื่องราวประวัติศาสตร์สมัยญี่ปุ่นยกพลขึ้นบกซึ่งจัดทำอย่างทันสมัย ใครอยาก
ชมต้องมาวันหยุดเสาร์อาทิตย์หรือวันหยุดนักขัตฤกษ์เท่านั้น

(http://www.manager.co.th/asp-bin/Image.aspx?ID=2734427)
เรือนไม้สีฟ้า ที่ตั้งพิพิธภัณฑ์อุทยานประวัติศาสตร์กองบิน 5

       สัญลักษณ์สำคัญอีกอย่างหนึ่งของอ่าวมะนาวก็คือ “เขาล้อมหมวก” ซึ่งเป็นภูเขาที่กั้นระหว่างอ่าวประจวบฯ
และอ่าวมะนาว บริเวณเชิงเขาล้อมหมวกเป็นที่ตั้งของ “ศาลเจ้าพ่อเขาล้อมหมวก” ที่ชาวเมืองประจวบฯ ต่างเคารพ
ศรัทธาว่าเป็นดวงวิญญาณอันศักดิ์สิทธิ์คอยดูแลปกปักรักษาประชาชนและสรรพสัตว์ในแถบนี้ ไหว้เจ้าพ่อเขา
ล้อมหมวกแล้ว อย่าลืมแวะถ่ายรูปและให้อาหารฝูงค่างแว่นถิ่นใต้ที่อาศัยอยู่บริเวณนั้นนับร้อยตัว ค่างเหล่านี้นิสัย
ไม่ดุร้ายและคุ้นเคยกับคน เนื่องจากจะมีนักท่องเที่ยวมาชมและให้อาหารบ่อยๆ ค่างแว่นตัวโตเต็มวัยจะมีลักษณะเด่น
คือมีวงรอบดวงตาและรอบปากเป็นสีขาวเหมือนใส่แว่น เป็นที่มาของชื่อค่างแว่น มีขนตามตัวเป็นสีเทา ส่วนค่างเด็กๆ
จะมีขนสีเหลืองทองจนอายุได้ 3 เดือน จึงค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีเทา

(http://www.manager.co.th/asp-bin/Image.aspx?ID=2734428)
ค่างแว่นถิ่นใต้ อาศัยอยู่ที่เชิงเขาล้อมหมวก

       แหล่งท่องเที่ยวที่อ่าวมะนาวยังไม่หมดเพียงเท่านี้ สำหรับคนที่แรงเหลือและชอบผจญภัยจะลองปีนขึ้นไปบน
ยอดเขาล้อมหมวกก็ได้เช่นกัน (คลิกอ่าน ชมวิว 5 อ่าวสวยสุดใจ ปีนป่ายเขาหินปูนสุดมัน เจอกันที่ “เขาล้อมหมวก”)
โดยบนยอดเขาจะเป็นที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาท และเป็นจุดชมวิวอ่าวเมืองประจวบฯ ได้ถึง 5 อ่าว สวยงามอย่างยิ่ง
แต่การปีนป่ายค่อนข้างลำบาก เป็นทางบันไดครึ่งหนึ่งและต้องปีนป่ายไปตามภูเขาหินปูนอีกครึ่งหนึ่ง จึงควรเตรียมร่างกาย
และรองเท้าให้พร้อม แต่รับรองว่าวิวด้านบนสวยคุ้มค่ามากๆ

(http://www.manager.co.th/asp-bin/Image.aspx?ID=2734429)
ทิวทัศน์เมื่อมองลงมาจากยอดเขาล้อมหมวก

       และนี่ก็คือแหล่งท่องเที่ยวทั้ง 3 อ่าว ของจังหวัดประจวบฯ ที่แม้ช่วงนี้จะเป็นหน้าฝนแต่ก็สามารถไปเที่ยวกันได้
แบบชิลๆ ไม่อันตรายแต่อย่างใด


       * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
นำมาจาก http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9560000087080 (http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9560000087080)

หัวข้อ: Re: ขึ้นเขา เข้าถ้ำ ดื่มด่ำธรรมชาติ 3 อ่าว เมืองประจวบฯ
เริ่มหัวข้อโดย: หนุ่มน้อย เมืองพิจิตร ที่ 17/ก.ค./13 14:30น.
ขอบคุณ คุณวิทยา มาก มาก ครับ เมืองประจวบคีรีขันธ์ เมืองที่หน้าเที่ยวอีกเมืองหนึ่ง ครับ