‘พืชสมุนไพร’ ภูมิปัญญาไทย เสริมแรง ‘ไล่ยุง’ ไร้สารเคมี
(http://www.dailynews.co.th/sites/default/files/imagecache/620x245/photos/218021/1.jpg)
ด้วยความหลากหลายของพืชพรรณไม้ในเมืองไทย โดยเฉพาะพืชสมุนไพรที่แวดล้อมอยู่ใกล้ตัวเคียงคู่
กับวิถีชีวิตไทยมายาวนาน นอกเหนือจากประโยชน์ด้านอาหารแล้วยังมีสรรพคุณทางยาโดยบางชนิดช่วย
กำจัดแมลงมีฤทธิ์ “ไล่ยุง”
ถึงช่วงฤดูฝนหนึ่งในปัญหาที่มักตามมาคือ โรคไข้เลือดออก ซึ่งมียุงลายเป็นพาหะนำโรค นอกจากป้องกัน
ไม่ให้ถูกยุงกัด หมั่นดูแลสุขอนามัยภายในบ้านอย่างเคร่งครัดด้วยการกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงนับแต่ต้นตอ
การเกิดยุง ทั้งการคว่ำถ้วย กระถาง โอ่งใส่น้ำทั้งที่ไม่ได้ใช้และมีน้ำขัง หรือนำปลามาเลี้ยงช่วยกำจัดลูกน้ำ
เปลี่ยนน้ำในแก้ว แจกันภาชนะบรรจุต้นไม้โดยไม่ปล่อยให้กลายเป็นแหล่งกำเนิดยุงร้าย ฯลฯ ตามวิธีการต่าง ๆ
ที่มีคำแนะนำ
การป้องกันยุงด้วยพืชสมุนไพร นับเป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยเพิ่มความปลอดภัย โดยเฉพาะช่วงเวลานี้ที่
ไข้เลือดออกกำลังระบาด อาจารย์ขนิษฐา มีประดิษฐ์ อาจารย์ประจำสาขาวิชาการแพทย์แผนไทยประยุกต์
วิทยาลัยการแพทย์แผนไทย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ให้ความรู้ว่า พืชสมุน ไพรที่มีน้ำมัน
หอมระเหยหลายชนิดสามารถนำมาใช้ไล่ยุงป้องกันไม่ให้ยุงเข้ามาใกล้รบกวนเราได้อย่างที่รู้จักกันทั่วไปได้แก่
ตะไคร้หอม นำมาใช้ประโยชน์ได้ตั้งแต่เหง้าถึงใบใช้ได้ทันที ทั้งการนำใบมาขยี้หรือทุบทั้งต้น อีกทั้งสามารถ
นำไปหมักกับเอทิลแอลกอฮอล์ทำเป็นสเปรย์ใช้ฉีดพ่นไล่ยุงได้อีกด้วย
(http://www.dailynews.co.th/sites/default/files/imagecache/620x245/photos/218021/8.jpg)
(http://www.ceyloncinnamonsticks.com/images/Ceylon%20Cinnamon%20Sticks.jpg)
อบเชย (cinnamon)
นอกจากนี้ยังมีพืชสมุนไพรไทยชนิดอื่น ๆ ที่มีฤทธิ์ไล่ยุง อย่าง กะเพรา ไม้พุ่มเตี้ยที่คุ้นเคยกับการนำ
มาปรุงอาหาร สรรพคุณของกะเพรานอกจากช่วยขับลม แก้ท้องเสีย ฆ่าเชื้อราเชื้อแบคทีเรียแล้ว ใบกะเพรา
ซึ่งมีน้ำมันหอมระเหยมีสารประกอบสำคัญ Methyl eugenol เมื่อนำมาบดขยี้ยังช่วยไล่ยุงได้ดี ไม่ต่างกับ
พืชตระกูลส้มทั้งส้มโอ มะกรูด ฯลฯ ที่สามารถใช้ประโยชน์ได้จากผิว
“พืชสมุนไพรที่ใช้นอกจากเป็นสมุนไพรเดี่ยวยังสามารถนำมาผสมรวมกับสมุนไพรชนิดอื่นได้ซึ่งจะช่วย
เสริมฤทธิ์กันให้ผลดียิ่งขึ้น อย่างยาดมสมุนไพร ที่สถาบันฯ ปรุงไว้มีพืชสมุนไพรหลายชนิดเป็นส่วนผสม
ไม่ว่าจะเป็น กานพลู โกฐหัวบัว อบเชย เปลือกส้มโอ พิมเสน เมนทอล การบูร ฯลฯ จากเดิมทำขึ้นเพื่อใช้
สูดดม บรรเทาอาการวิงเวียนหน้ามืดแต่พบว่าเมื่อนำไปวางไว้ในห้องมุมต่าง ๆ สามารถไล่ยุงได้ร่วมด้วย”
(http://www.dailynews.co.th/sites/default/files/imagecache/620x245/photos/218021/2.jpg)
ไพล
(http://www.dailynews.co.th/sites/default/files/imagecache/620x245/photos/218021/5.jpg)
ยูคาลิปตัส
อีกทั้งในกลุ่มของ ขมิ้น ไพล จันทน์หอมและยูคาลิปตัส พืชสมุนไพรดังกล่าวสามารถนำมาใช้ฆ่าแมลง
และไล่แมลงได้เป็นอย่างดี เช่น ขมิ้น พืชล้มลุกใช้เป็นเครื่องเทศมีวิตามินสูง พืชดังกล่าวยังเป็นยาประจำบ้าน
มีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย แก้การบวมอักเสบ ใช้ประคบคลายกล้ามเนื้อ บำรุงผิว ฯลฯ อีกทั้งในขมิ้นยังมีส่วน
ประกอบสำคัญน้ำมันหอมระเหย Tumerone ส่วนยูคาลิปตัส มีส่วนประกอบสำคัญ Citronellal มีฤทธิ์ต้าน
เชื้อโรคเชื้อไวรัส เชื้อราและแบคที เรียแล้วยังใช้ไล่แมลง ดับกลิ่นได้ด้วย
(http://www.dailynews.co.th/sites/default/files/imagecache/620x245/photos/218021/3.jpg)
ดร.ไฉน น้อยแสง อาจารย์ประจำวิทยาลัยการแพทย์แผนไทย ผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาผลิตภัณฑ์สุขภาพ
และความงามเพื่อวิสาหกิจชุมชน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า สมุนไพรหลาย
ชนิดนอกจากนำมาใช้ป้องกันยุงยังรักษาอาการอักเสบแก้ผื่นคันหลังจากยุงกัด ซึ่งที่ผ่านมาได้ถ่ายทอดความรู้
การกลั่นน้ำมันหอมระเหยในพืชสมุนไพรโดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ต่อยอดสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ
ให้กับชุมชนซึ่งสมุนไพรที่มีฤทธิ์ไล่ยุงหลัก ๆ คือ ตะไคร้หอม ขณะที่ ขมิ้นชันช่วยในเรื่องการแพ้ผื่นคัน
และยังช่วยบำรุงผิว ฯลฯ
(http://www.dailynews.co.th/sites/default/files/imagecache/620x245/photos/218021/7.jpg)
“การใช้พืชสมุนไพรป้องกันยุงเป็นหนึ่งในวิธีดูแลตนเองซึ่งความโดดเด่นของสมุนไพรนอกจากราคาถูก
ปลอดภัยจากสารเคมีแล้วยังไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม และด้วยกลิ่นฉุนในพืชซึ่งเป็นสิ่งที่ยุงไม่ชอบจึงช่วยป้องกัน
และในกรณีที่ยุงกัด ขมิ้นชัน ใบพลู ตำลึง ทองพันชั่ง ฯลฯ สมุนไพรเหล่านี้ยังช่วยลดอาการอักเสบแก้แพ้ผื่นคัน”
“การใช้พืชสมุนไพรไล่ยุงนอก จากใช้การตำขยี้ได้น้ำมันหอมระเหยยังสามารถนำไปหมักกับแอลกอฮอล์
ซึ่งจะได้สารสกัดที่มีกลิ่นหอมจากนั้นนำมาฉีดทำเป็นสเปรย์ได้โดยไม่ต้องกลั่นหรืออาจใช้วิธีการต้มสมุนไพร
กับน้ำแต่ต้องต้มด้วยไฟอ่อนเพื่อรักษาคุณสมบัติในเรื่องของกลิ่นให้คงอยู่
อีกวิธีหนึ่งที่ทำได้โดยง่ายคือ การปลูกพืชสมุนไพรที่มีฤทธิ์ไล่ยุงไว้รอบบ้านเพราะเพียงแค่เด็ดขยี้ก็จะ
ส่งกลิ่นช่วยไล่ไม่ให้ยุงมารบกวน ช่วยป้องกันตนเองไม่ให้ถูกยุงกัดเป็นการลดโอกาสเสี่ยงต่อการเจ็บป่วย
และลดการแพร่เชื้อไปยังบุคคลอื่นอีกด้วย”
นอกจากนี้ ในองค์ความรู้ข้อมูลจากสถาบันการแพทย์แผนไทย กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและ
การแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข ยังบอกเล่าแนะนำถึงการใช้สมุนไพรเพิ่มอีกว่า เมืองไทยมี
สมุนไพรหลายชนิดที่มีประโยชน์ นำมาใช้ในการไล่ยุงให้ห่างไกลได้ โดย ข้อดีของการใช้สมุนไพรไล่ยุง
คือไม่มีปัญหาสารเคมีตกค้างและปลอดภัย
(http://www.thaicrudedrug.com/userfiles/image/tcd061_Takraihom/tcd061_02.jpg)
ตะไคร้หอม
พืชสมุนไพรที่มีน้ำมันหอมระเหยนอกเหนือจากน้ำมันของพืชตระกูลส้ม น้ำมันจากตะไคร้หอม
ยูคาลิปตัส มหาหงส์ แล้วยังมี สะระแหน่ กะเพรา แมงลัก ว่านน้ำ มะกรูด ไพลเหลือง ขมิ้นชัน
ที่สามารถนำมาใช้ไล่ยุงได้เช่นกัน อย่างเช่น สะระแหน่ แมงลัก ขยี้ใบสด ทาถูที่ผิวหนังหรือวางไว้
ใกล้ตัวจะช่วยไล่ยุงไม่ให้เข้ามาใกล้
(http://www.nanagarden.com/Picture/Product/400/176198.jpg)
(http://www.magnoliathailand.com/webboard/index.php?action=dlattach;topic=6669.0;attach=76180;image)
ว่านน้ำ
ว่านน้ำ หั่นเหง้าสดเป็นชิ้นเล็ก ๆแล้วนำไปโขลกผสมกับน้ำ กรองส่วนที่เป็นน้ำใช้ทาผิวหนัง ส่วน
มะกรูด นำผิวสดหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ โขลกผสมกับน้ำกรองเอาแต่ส่วนที่เป็นน้ำมาใช้ฉีด พ่น หรือทา
ตามผิวหนัง ไพลเหลือง นำหัวไพลเหลืองสดโขลกผสมกับน้ำกรองเอาแต่ส่วนที่เป็นน้ำมาทาผิวหนัง
มีข้อพึงระวังสำหรับผู้ที่แพ้น้ำมันไพลต้องเพิ่มความระมัดระวังในการนำมาใช้
(http://image.ohozaa.com/i/9e5/gKnk9b.jpg)
ขมิ้นชัน
(http://www.dailynews.co.th/sites/default/files/imagecache/620x245/photos/218021/6.jpg)
(http://www.dailynews.co.th/sites/default/files/imagecache/620x245/photos/218021/4.jpg)
นอกจากนี้น้ำมันหอมระเหยที่กลั่นได้จากส่วนเหง้าของ ขมิ้นชัน ยังพบว่ามีประสิทธิภาพ
ในการป้องกันการกัดของยุงได้นาน ขณะเดียวกันสามารถกำจัดลูกน้ำยุง ป้องกันยุงวางไข่
ลดอัตราการฟักของไข่ยุงได้ อีกทั้งวิธีไล่ยุงด้วย การสุมหรือเผาเพื่อให้เกิดควัน ยังเป็นอีกวิธีหนึ่ง
ในการไล่ยุงได้โดยพืชสมุนไพรที่นำมาใช้ คือ เปลือกของพืชตระกูลส้ม เช่น ส้มโอ ส้มเขียวหวาน
มะกรูด มะนาว ตากแดดให้แห้งแล้วนำมาจุดไฟ น้ำมันหอมระเหยที่อยู่ในเปลือกจะช่วยออกฤทธิ์ไ
ล่ยุงไม่ให้มารบกวนได้อีกทางหนึ่ง.
‘ยุงลาย’ พาหะนำโรคไข้เลือดออก
(http://www.siamhealth.net/public_html/images/infection/Aedes_f.jpg)
ประเทศไทยมียุงลายมากกว่าร้อยชนิด แต่ที่เป็นพาหะนำโรคไข้เลือดออกมีอยู่ 2 ชนิด คือ ยุงลาย
เป็นพาหะหลัก และ ยุงลายสวน เป็นพาหะรอง ในวงจรชีวิตของยุงลายประกอบด้วย ระยะไข่, ระยะตัวอ่อน
(ลูกน้ำ) ระยะดักแด้หรือตัวกลางวัย (ตัวโม่ง), และระยะตัวเต็มวัย (ตัวยุง)
(http://www.dailynews.co.th/sites/default/files/imagecache/620x245/cover/188550.jpg)
โรคไข้เลือดออก ยุงลายบ้าน (Aedes aegypti) เป็นพาหะนำโรคที่สำคัญติดต่อโดยยุงตัวเมีย
ซึ่งกัดเวลากลางวันและดูดเลือดคนเป็นอาหาร ไปกัดดูดเลือดผู้ป่วยซึ่งในระยะไข้สูงจะเป็นระยะที่มีไวรัส
อยู่ในกระแสเลือด เชื้อไวรัสจะเข้าสู่กระเพาะยุง เข้าไปอยู่ในเซลล์ที่ผนังกระเพาะ เพิ่มจำนวนมากขึ้นแล้ว
ออกมาจากเซลล์ผนังกระเพาะ เดินทางเข้าสู่ต่อมน้ำลายพร้อมที่จะเข้าสู่คนที่ถูกกัดในครั้งต่อไป
ซึ่งระยะฟักตัวในยุง ประมาณ 8-12 วัน เมื่อยุงไปกัดคนอื่นอีก ก็จะปล่อยเชื้อไวรัสไปยังผู้ที่ถูกกัด
เมื่อเชื้อเข้าสู่ร่างกายคนและผ่านระยะฟักตัว ก็จะทำให้เกิดอาการของโรคได้
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
นำมาจาก http://www.dailynews.co.th/article/224/218021 (http://www.dailynews.co.th/article/224/218021)