ถั่งเช่า - เห็ดเทวดา
(http://www.ตังถั่งเช่า.com/wp-content/uploads/2012/04/สมุนไพรตังถั่งเช่า1.jpg)
“ถั่งเช่า” หรือ “ดอง ชอง โช” มีความหมายว่า “หญ้าหนอน” (ฤดูหนาวเป็นหนอน ฤดูร้อนเป็นหญ้า)
ถั่งเช่านั้นเป็นเห็ดรา อีกทั้งถือเป็นสมุนไพรจีนชนิดหนึ่ง และเนื่องจากถั่งเช่ามีปริมาณน้อยมาก การเก็บจึง
ค่อนข้างลำบาก ทำให้ราคายิ่งแพงมากขึ้นและกลายเป็นยาที่มีค่าสูงมากดุจดังทองคำ ตามที่ได้รับขนานนาม
ว่าเป็นทองละมุน (Soft gold) ส่วนที่มาของเห็ดเทวดาถั่งเช่า ดร.อานนท์ เอื้อตระกูล ผู้เชี่ยวชาญด้านเห็ด
องค์การสหประชาชาติ ปี พ.ศ. 2524-2548 เกริ่นให้ฟังว่า แท้จริงแล้ว เห็ดถั่งเช่าที่วางขายในเมืองไทยนั้น
ไม่ใช่เห็ดของแท้ส่งตรงจากทิเบตมาแต่อย่างใด แต่เกิดขึ้นจากกระบวนการผลิตของเทคโนโลยีไม่ใช่กระบวน
การทางธรรมชาติ ถ้าของจริงต้องไปซื้อของภูฏาน เพราะที่นั่นรัฐบาลเขาจะออก Certificated ให้ทุกตัวหนอน
แต่อย่างเมืองจีนขายแบกะดิน กิโลฯ ละสองล้านอย่างนี้ มันเป็นของปลอม
(http://image.ohozaa.com/i/d95/id9s5.jpg)
“ถั่งเช่าจะแท้ จะปลอม ก็เอามาจากจีนทั้งนั้นแหละครับ แต่ว่าถั่งเช่าแท้เนี่ย ส่วนใหญ่แล้วจะอยู่ที่ความสูง
กว่าระดับน้ำทะเล 4,000 เมตรขึ้นไป อย่างประเทศภูฏาน ซึ่งเป็นประเทศที่มีเห็ดชนิดนี้มากที่สุด มันจะเกิดขึ้นตาม
ตัวหนอนที่มันอยู่ใต้ดิน เวลาหิมะตกมันก็จะอยู่จำศีลอย่างนั้น ยกเว้นเวลาหิมะละลาย แต่ว่าบางปีที่หิมะมันไม่ละลาย
มันก็จะจำศีลอยู่ พอหิมะละลายมันก็จะออกมาเพื่อจะกินน้ำค้าง ใบไม้ รากไม้
ขณะที่มันโผล่ออกมา ถ้าเกิดมันบาดเจ็บ มันก็จะเป็นเชื้อรา ทีนี้ถึงมันเป็นโรคที่เกิดจากเชื้อราเนี่ย มันก็จะ
ไม่ตายทันที เพราะฉะนั้นมันก็จะผลุบๆ โผล่ๆ อยู่ หิมะตกก็จำศีล หิมะละลายก็โผล่ขึ้นมา แล้วผ่านไปประมาณ 6 ปี
มันถึงเกิดออกมาเป็นผีเสื้อ เพราะฉะนั้นขณะที่มันมีเชื้อราอยู่ในตัวมันเอง มันจะป่วย พอป่วยแล้วมันก็ยังฟักตัว
เนื่องจากว่ามันยังอยู่ใต้ความเย็นสูง พอมันอุ่นขึ้นมา ถ้ามันบาดเจ็บ หรือโดนเชื้อราเข้าไป มันก็จะขึ้นมาตาย
ไม่กลายเป็นผีเสื้อ พอออกมาตายปุ๊บ ร่างกายข้างในมันมีเชื้อรา ไอ้เชื้อราตัวนี้มันก็จะกินตับไตไส้พุงจนทะลุปรุโปร่ง
หมดแล้วก็ออกมาเป็นดอกเห็ด เพราะฉะนั้น ข้างในมันจะเป็นเส้นใยของเห็ดทั้งนั้น แต่ข้างนอกจะเป็นปลอกหุ้มของ
ตัวหนอน เพราะฉะนั้น ทั้งหมดมันคือเชื้อเห็ดถั่งเช่า”
(http://s.exaidea.com/upload/1/20110801/ded651d60c5b3123f9ff2cc54b478277.jpg)
ส่วนความนิยมของเห็ดถั่งเช่า หรืออีกชื่อคือ หญ้าหนอน นั้น ดร.อานนท์ กล่าวต่อไปว่า คาดว่าน่าจะเกิดใน
ช่วงราวปี 1993 หลังนักกีฬาจีนทำสถิติโลกในการแข่งขันกรีฑาโลก โดยกินเห็ดถั่งเช่าก่อนการแข่งขัน ผู้คนมากมาย
ที่อยากอึดทนทายาดเลยให้ความสนใจและเรียกร้องหาเห็ดวิเศษชนิดนี้
(http://thaishopdb.com/UploadImages/Topic/50000/17543/20120208_180603269.jpg)
“ในปี 1993 เนี่ย นักกีฬาของจีนไปแข่งที่ประเทศเยอรมนี แข่ง Indoor Athlete สรุปว่านักกีฬาหญิงเข้าไป
ทำลายสถิติถึง 9 คน แล้วโค้ชของนักกรีฑา เขาก็บอกว่า เขากินเห็ดถั่งเช่า แล้วทีนี้ในปี 1994 มีการประชุมกันที่โทรอนโต
ประเทศแคนาดา ของคณะกรรมการโอลิมปิก เพื่อที่จะประชุมกันว่า คนที่กินเห็ดถั่งเช่าจะแบนได้มั้ย ถือเป็นการเอาเปรียบ
คนอื่นมั้ย ปรากฏว่าแบนไม่ได้ เพราะมันเป็นอาหารชนิดหนึ่ง ไม่ใช่ยา พอหลังจากนักกรีฑาเอาไปกินแล้ว เนื่องจากมัน
ใช้ออกซิเจนได้ดี วิ่งแล้วไม่เหนื่อย หลังจากปี 1994 ที่ว่าแบนไม่ได้ จากไอ้ตัวหนอนสกปรกๆ น่ารังเกียจ มันก็กลายเป็นของที่มีราคา”
(http://www.magnumpj.com/images/news_img_97999_1.jpg)
เรื่องอันดีของคนไทยคือการเพาะเห็ดเถ่าชั่งได้เอง เรียกว่า “เห็ดถั่งเช่าสีทอง” ผลงานการวิจัยของ ดร.อานนท์ นั่นเอง
ซึ่งเห็ดถั่งเช่าสีทองนั้น เกิดจากการเพาะเลี้ยงทั้งดอกและเส้นใยเห็ด โดยเห็ดถั่งเช่าสีทอง Cordyceps militaris ซึ่งเป็นเห็ด
ตระกูลเดียวกับเห็ดถั่งเช่า แต่คนละเหล่าพันธุ์(Species) เป็นเห็ดที่พบอยู่ทั่วไป ในระดับที่มีอุณหภูมิระหว่าง 10-28 องศาเซลเซียส
เป็นเห็ดที่มีส่วนประกอบของสารอาหาร วิตามิน เกลือแร่และยาหลายชนิดที่สูงกว่า เห็ดถั่งเช่าแท้ๆ
(http://img822.imageshack.us/img822/250/50518379.jpg)
“เห็ดถั่งเช่าสีทองก็เหมือนเห็ดถั่งเช่าแท้ แต่ไม่ได้เกิดในระดับสูงกว่าน้ำทะเล แล้วมันโตไวกว่า เพาะได้ง่ายกว่า มีสาร
คอร์ไดซิปิน (Cordycepin) สูงกว่า เดี๋ยวนี้ทั้งโลกก็หันมาเพาะเห็ดถั่งเช่าสีทอง เพราะมันเพาะได้ง่ายกว่า” ดร.อานนท์ระบุ
(http://www.livewell.co.th/upload/images/Image/ตังทังเช้า.jpg)
แจง “ถั่งเช่า” ไม่ใช่ไวอากร้า
สรรพคุณอวดอ้างมากมายบนหน้าอินเทอร์เน็ตเมื่อค้นหาคำว่า “ถั่งเช่า” ไม่ว่าจะเป็น ป้องกันไข้, ป้องกันหวัด, แก้อาการ
ภูมิแพ้, แก้อาหารหอบหืด, แก้ไอเรื้อรัง, บำรุงปอด, บำรุงไต พูดง่ายๆ ว่า ถั่งเช่าเป็นยาเทวดา ยาบำรุงร่างกายขนานเยี่ยมที่
ช่วยแก้เรื่องสมดุลร่างกายให้ปกติและใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
(http://board.postjung.com/data/649/649049-topic-ix-0.jpg)
“สรรพคุณเด่นของมันก็จะมีสารคอร์ไดซิปิน (Cordycepin) หรือ คอร์ไดซิปิค แอซิด (Cordycepic acid)
สารตัวนี้มีความสามารถช่วยดึงเอาออกซิเจนมาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงขึ้น นั่นก็หมายถึงเวลาเราหายใจ มีอาการเหนื่อยล้า
หรือต้องขึ้นที่สูง มันจะช่วยให้เราไม่เหนื่อย ไม่หอบ ลักษณะมันก็จะเป็นอย่างนั้นเราอาจเรียกว่าการบูสท์ (Boost) ทำให้ร่างกาย
ใช้ออกซิเจนได้สูงขึ้น นั่นหมายถึงผู้ป่วยหรือผู้อะไรต่างๆ ที่หายใจลำบาก หรือกำลังพักฟื้น ร่างกายอยู่ในสภาพอ่อนแอ
สารคอร์ไดซิปิน (Cordycepin) มันก็จะช่วยดูดออกซิเจนมาใช้ได้ดียิ่งขึ้น ตัวนี้ตัวเด่น
(http://www.thaiblogonline.com/members/promoter/ถั่งเช่า.jpg)
จากนั้นก็เป็นเรื่องที่ถั่งเช่ามันมีสารโพลิแซกคาไรด์ (Polysaccharide) หรือที่เราเรียกว่า เบต้ากลูแคน (Beta glucan)
โดยปกติ พืชทั่วไปเนี่ย พวกข้าว อะไรต่างๆ มันจะเป็นเบต้ากลูแคน 14 แต่ว่าเห็ดถั่งเช่าเนี่ยมันจะเป็นเบต้ากลูแคน 13 กับ 16
เวลาเรากินเห็ดเข้าไปแล้วเนี่ย มันจะไปกระตุ้นให้ร่างกายของเราสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงมากขึ้น ซึ่งถ้าหากเรามีภูมิคุ้มกันที่ดี
เวลาเราไม่สบาย เป็นหวัด หรืออะไรก็ดี การมีสิ่งแปลกปลอมเข้าไปในร่างกาย มันก็ต่อสู้ได้ โดยการกระตุ้นให้เกิดการสร้าง
เม็ดเลือดขาวขึ้นมา อันนี้คือสรรพคุณที่สำคัญในเห็ดถั่งเช่า” ดร.อานนท์อธิบาย
(http://www.anonbiotec.com/images/Buddha_Mushroom/1.jpg)
อีกหนึ่งสรรพคุณเด็ดที่ไม่กล่าวถึงไม่ได้ สมุนไพรที่เหล่าชายต้องการ “ไวอากร้าธรรมชาติ” คำอวดโอ้ที่หนุ่มๆ หลายคนเห็น
แล้วตาลุกวาว ซึ่งแท้จริงหาใช่เช่นนั้นไม่ เห็ดถั่งเช่าไม่ได้สามารถกระตุ้นกำหนัดของท่านชายได้แต่อย่างใด ดร.อานนท์ อธิบายต่อไปว่า
มันเป็นเพียงผลพลอยได้ เมื่อร่างกายแข็งแรง มีเรี่ยวแรงพลังเหลือเฟือ อะไรๆ ก็ดูฟิต ปึ๋งปั๋งดั่งใจไปหมด
“มันเป็นผลส่วนรวมไงครับ ปกติการดึงออกซิเจนไปใช้ได้มากขึ้น เพราะฉะนั้นสมรรถภาพทางเพศหรือทางร่างกาย หรือผู้ป่วยต่างๆ
ที่กำลังพักฟื้นเนี่ย ก็จะดีขึ้นและเร็วขึ้น แล้วส่วนใหญ่คนก็ชอบมุ่งไปทางยาโป๊ว หรือยาเพิ่มพลังทางเพศ แต่ว่าความจริงมันไม่ได้ไปเร่ง
ฮอร์โมนทางเพศ ไม่ได้เป็นอะไรแบบนั้น แต่มันทำให้สมดุลในร่างกายมันดีขึ้น คือหมายถึงว่าทุกส่วนในร่างกายมันจะดีขึ้น ร่างกายก็จะมี
กำลังฮึกเหิมขึ้น ความอ่อนเพลียก็น้อยลง ทำนองนี้ ไม่ได้เหมือนกับไวอากร้า ไม่ใช่ลักษณะนั้น”
เคาะราคา “ถั่งเช่า”
เอ่ยอ้างสรรพคุณถั่งเช่า สมุนไพรอัศจรรย์แก้สารพัดโรค จากการลงสำรวจร้านขายยาจีน-สมุนไพรจีน
ย่านเยาวราชและพื้นที่ใกล้เคียง พบว่า พอมีร้านจำหน่ายถั่งเช่าอยู่บ้างเป็นบางร้าน และทุกร้านพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ณ ตอนนี้ ยอดขาย
ไม่สูงมากนัก เนื่องจากราคาที่สูงขึ้นนั่นเอง ซึ่งราคาที่ว่าแพงนั่นก็สูงถึงกิโลกรัมละ 2,500,000 บาทเลยทีเดียว
ร้านเอี๊ยะแซ
“มันก็มีทั้งถูกทั้งแพง ตามแต่คุณภาพ แล้วผมว่าสรรพคุณมันก็ไม่เท่าไหร่หรอก แต่ราคาแพงเพราะมันหายาก ปลูกไม่ค่อยขึ้น
อีกอย่างช่วงหลังๆ คนหันมานิยมกินมากขึ้น เป็นที่ต้องการในตลาด ราคาเลยปรับสูงขึ้น ซึ่งทางร้านเราไม่ได้เอามาขาย แต่ถ้ามีลูกค้า
ต้องการก็สามารถสั่งซื้อให้ได้ เพราะผมไม่อยากสนับสนุนสักเท่าไหร่”
ร้านกุยลิ้มฮึ้ง
“ถั่งเช่าที่ร้านเราไม่ได้นำเข้าจากจีนครับ จะนำเข้ามาจากทางทิเบต เกรดเดียวกันหมด ต่างกันแค่ที่ไซส์ ก็จะมีเล็ก กลาง ใหญ่
ที่ร้านเราจะขายเป็นตำลึงครับ เริ่มตั้งแต่ตำลึงละ 28,000-40,000 บาท” (1 ตำลึง เท่ากับ 60 กรัม)
ร้านเวชพงษ์โอสถ
“ถั่งเช่าที่นี่นำเข้ามาจากประเทศจีน มันก็จะมีอยู่หลายเกรดค่ะ เริ่มต้นจากกรัมละ 950 บาท ไปจนถึง 2,500 บาท ส่วนลูกค้า
ก็มักจะเป็นเจ้าเดิมๆ ลูกค้าประจำค่ะ”
ร้านถงเยิ๋นถัง
“มีขายค่ะ เต็มตัวสวยๆ เลย ไม่มีหาง มีหลายไซส์ให้เลือก ถ้าจำนวนเส้นน้อย ไซส์ใหญ่ เต็มตัว ก็จะราคาสูงหน่อย
ส่วนบางที่เขาขายแบบที่หักๆ ไม่ครบตัว ราคาก็จะถูกกว่านี้ อย่างราคาร้านเราก็จะตามนี้
ไซส์ 4,000 เส้น ต่อกิโลกรัม ราคากรัมละ 1,200 บาท
ไซส์ 3,800 เส้น ต่อกิโลกรัม ราคากรัมละ 1,400 บาท
ไซส์ 2,500 เส้น ต่อกิโลกรัม ราคากรัมละ 1,600 บาท
ไซส์ 2,000 เส้น ต่อกิโลกรัม ราคากรัมละ 1,900 บาท
ไซส์ 1,200 เส้น ต่อกิโลกรัม ราคากรัมละ 2,500 บาท
แต่เดี๋ยวนี้คนซื้อน้อยหน่อย เพราะราคามันแพงขึ้น”
(http://image.free.in.th/z/io/t2rutvxxlnxxxxxxxx_801384124.jpg)
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
นำมาจาก http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9560000083368 (http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9560000083368)