เพลงพักใจดอทเน็ต
มาดูแลสุขภาพกัน => บอกเล่าเก้าสิบหยิบยกเรื่องสุขภาพ => ข้อความที่เริ่มโดย: วิทยา ที่ 09/พ.ค./13 07:52น.
-
สมองผ่อนคลาย หลับสบาย ด้วย"ข้าวกล้องงอก"
(http://www.huaydethuaydunk.com/uppic/files/734931f7b798f8da.jpg)
คนรักสุขภาพและใส่ใจเรื่องอาหารการกิน ช่วง 3–4 ปีที่ผ่านมานี้ คงสังเกตเห็น
ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพจากข้าวกล้องงอก (GERMINATED BROWN RICE
: GBR) หรือที่เรียกว่า กาบา ไรซ์ กันบ่อยๆ ใช่ไหมคะ โดยผลิตภัณฑ์เหล่านั้น
มักชูว่า ข้าวชนิดนี้มีสารอาหารที่มีประโยชน์หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นคาร์โบไฮเดรต
ใยอาหาร โปรตีน ไขมัน วิตามินบี วิตามินอี กรดโฟลิค และที่ถูกเน้นให้โดดเด่น
เป็นพระเอกขึ้นมา คือ กาบา (GABA) และคงถึงเวลาแล้ว ที่คนรักสุขภาพอย่างเราๆ
จะมาทำความรู้จักกับสารกาบานี้ให้มากขึ้น
กาบา เป็นกรดอะมิโนที่มีบทบาทสำคัญในการทำหน้าที่เป็นสารสื่อประสาท
(neurotransmitter) ในระบบประสาทส่วนกลาง นอกจากนี้ กาบา
ยังถือเป็นสารสื่อประสาทประเภท สารยับยั้ง (inhibitor) โดยจะทำหน้าที่
รักษาสมดุลในสมองจากการกระตุ้น ซึ่งช่วยทำให้สมองเกิดการผ่อนคลาย
และนอนหลับสบาย ทั้งยังช่วยกระตุ้นต่อมไร้ท่อ (anterior pituitary)
ซึ่งทำหน้าที่ผลิตฮอร์โมนที่ช่วยในการเจริญเติบโต (HGH) ทำให้เกิดการสร้าง
เนื้อเยื่อ กล้ามเนื้อกระชับและเกิดสารไลโปโทรปิค (lipotropic) ซึ่งเป็นสาร
ป้องกันการสะสมของไขมัน
(http://www.huaydethuaydunk.com/uppic/files/194a4ecd775a25e3.jpg)
ในปัจจุบันวงการแพทย์มีการใช้สารกาบา รักษาโรคเกี่ยวกับระบบประสาท
หลายโรค เช่น โรควิตกกังวล เครียด นอนไม่หลับ โรคลมชัก และกาบา
ยังมีคุณสมบัติในการลดความดันโลหิต ลดปริมาณคลอเรสเตอรอล
ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ยับยั้งความเสี่ยงจากการเกิดอัลไซเมอร์
และใช้บำบัดโรคเกี่ยวกับระบบประสาทส่วนกลางด้วย
(http://www.huaydethuaydunk.com/uppic/files/191a542d57a8d861.jpg)
สารกาบาจากธรรมชาตินั้น มีอยู่ใน "คัพภะ ของข้าว" เผยชื่อนี้มา
ผู้อ่านอาจจะไม่รู้ว่าคืออะไร สำหรับ คัพภะ ของข้าว ก็คือส่วนของ
เม็ดข้าวที่รากจะงอก โดยคัพภะข้าว ประกอบไปด้วย โปรตีน
วิตามิน เกลือแร่ ใยอาหาร และสารกาบา
ข้าวกล้องหรือข้าวไม่ขัดสีทุกประเภททุกสายพันธุ์ ล้วนมีสารกาบา
แต่มากน้อยต่างกันตามสายพันธุ์ โดยในข้าวกล้องงอก มีสารกาบา
มากกว่าข้าวกล้องปกติถึง 15 เท่า เหตุนี้เองจึงทำให้ข้าวกล้องงอก
กลายเป็นข้าวที่มีบทบาทสำคัญสำหรับคนรักสุขภาพในปัจจุบัน
และทราบไหมคะว่า จริงๆ แล้วเราสามารถเพาะข้าวกล้องงอกเองได้...
(http://www.huaydethuaydunk.com/uppic/files/c05a8b805a09e3f2.jpg)
ก่อนจะเพาะข้าวกล้องงอก ให้เตรียมข้าวกล้อง (ข้าวกระเทาะเปลือก
ที่ไม่ขัดสี) ใช้ได้จากข้าวทุกประเภท เช่น ข้าวสีขาว จำพวกข้าวกล้อง
หอมมะลิขาว, ข้าวสีแดง เช่น ข้าวกล้องมันปู ข้าวกล้องหอมมะลิแดง
หรือข้าวหอมกุหลาบแดง และข้าวสีดำคือข้าวกล้องหอมนิล เคล็ดลับ
ที่แนะนำ คือ ข้าวที่จะนำมาเพาะ ต้องเป็นข้าวกล้องใหม่ๆ ที่สีเอาเปลือก
ออกมาไม่เกิน 2 สัปดาห์ ส่วนข้าวกล้องที่บรรจุในถุงขายตามศูนย์การค้า
ทั่วไปก็พอจะเพาะได้ แต่ก่อนจะเพาะ ควรทดลองเพาะแต่น้อยๆ
ประมาณ 5-10 เม็ด เพื่อตรวจสอบว่า เพาะแล้วจะขึ้นหรือไม่
วิธีการเพาะ นำข้าวกล้องจะเพาะเป็นข้าวงอกไปแช่น้ำทิ้งไว้ 1 คืน
เช้าวันรุ่งขึ้นจึงเทน้ำออก แล้วใช้ผ้าเปียกมาห่อข้าวนั้นไว้ให้ชื้น
พอตกเย็นกลับมาเปิดดู ถ้ามีการงอก จะสังเกตเห็นว่า ตรงจมูกข้าว
จะมีตุ่มสีขาวๆ นูนขึ้นมา นั่นแสดงว่าเพาะขึ้น กรณีเพาะในหน้าหนาว
อากาศที่เย็นมักจะงอกยาก หลังแช่น้ำไว้ 1 คืน อาจต้องห่อผ้าไว้ 2 วัน
(http://www.huaydethuaydunk.com/uppic/files/c528ccdb15eb25c9.jpg)
และจากผลวิจัยต่างๆ มักชี้ว่า จังหวะที่ดีที่สุดที่จะนำมาหุง คือ
ช่วงที่งอกได้ประมาณ 1 มิลลิเมตร ข้าวที่หุงจะนุ่มกว่าข้าวกล้องธรรมดา
แต่สำหรับคนที่ไม่สะดวกแช่ข้าวทุกครั้งที่จะทาน ก็สามารถทำเก็บไว้ได้
ด้วยการแช่ข้าวและห่อด้วยผ้าเปียกจนงอก พองอกได้ที่ก็นำไปตากจนแห้ง
ใส่โหลไว้เหมือนข้าวสารปกติ แต่การทำเก็บไว้คราวละมากๆ
ต้องระวังเรื่องของมอดแมลง เนื่องจากข้าวกล้องงอกมีกลิ่นหอมมาก
การรบกวนจากมอดแมลงจะมากกว่าข้าวสารทั่วไป
(http://www.huaydethuaydunk.com/uppic/files/49c612888d43521d.jpg)
ไม่ยากไปใช่ไหม กับการหาอะไรสนุกๆ ทำ เพื่อให้ได้ข้าวดีมีประโยชน์
โดยรวมๆ แล้วการทานข้าวกล้องงอก นอกจากจะได้ประโยชน์จากสารกาบา
ที่จะช่วยป้องกันโรคอัลไซเมอร์(ความจำเสื่อม) ช่วยผ่อนคลาย
ทำให้จิตใจสงบ หลับสบาย ลดความเครียดวิตกกังวล และลดความดันโลหิตแล้ว
ยังมีใยอาหารช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ป้องกันมะเร็งลำไส้ และลดอาการ
ท้องผูก มีวิตามินอี ลดการเหี่ยวย่นของผิว วิตามินบีที่จำเป็นต่อเส้นประสาท
และความสมบูรณ์ของอวัยวะต่าง ๆ
(http://www.huaydethuaydunk.com/uppic/files/1e2991530982f21d.jpg)
แสนจะมีประโยชน์ขนาดนี้ ทานข้าวกล้องงอกกันดีกว่านะ...
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
นำมาจาก http://www.dailynews.co.th/article/822/199910 (http://www.dailynews.co.th/article/822/199910)