เพลงพักใจดอทเน็ต
มาดูแลสุขภาพกัน => สมุนไพรพืชอันทรงคุณประโยชน์ => ข้อความที่เริ่มโดย: สุบิน ที่ 10/ธ.ค./11 21:13น.
-
(http://upic.me/i/wj/466b1.jpg) (http://upic.me/show/31110466)(http://upic.me/i/kv/za622.jpg) (http://upic.me/show/31110479)(http://upic.me/i/10/e2bl3.jpg) (http://upic.me/show/31110487)(http://upic.me/i/01/wgkd4.jpg) (http://upic.me/show/31110533)
ใครที่เคยสั่ง "เกาเหลาเลือดหมู" มาทาน เคยสงสัยกันไหมว่า ในชามเกาเหลาของเราจะมีผักสีเขียวชนิดหนึ่ง ที่ไม่ใช่ผักกาดหอม ขึ้นฉ่าย หรือใบตำลึงใส่ชามมาด้วย หลายคนไม่ทราบว่าเจ้าผักชนิดนี้มีชื่อเรียกว่าอะไร แล้วมีสรรพคุณอย่างไร เอ้า...ใครที่ไม่รู้ ตามกระปุกดอทคอมมาเลยค่ะ
เจ้าผักชนิดนี้เรียกว่า "จิงจูฉ่าย" ค่ะ หรือที่ชาวต่างชาติเรียกว่า "เซเลอรี่" (Celery) เป็นผักสมุนไพรชนิดหนึ่งของจีน มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Apium graveolens L. ลักษณะต้น "จิงจูฉ่าย" จะเป็นกอคล้ายใบบัวบก สามารถเจริญงอกงามได้ดีในที่ที่มีแสงแดดรำไร ชื้น ดินโปร่งแต่ไม่แฉะ ชอบอากาศเย็นมากกว่าอากาศร้อน
คุณค่าทางโภชนาการของ "จิงจูฉ่าย" มีไม่น้อยทีเดียวค่ะ เพราะ "จิงจูฉ่าย" 100 กรัม ให้พลังงาน 392 กิโลแคลอรี ประกอบด้วยสารอาหารนานาชนิด คือ โปรตีน, ไขมัน, คาร์โบไฮเดรต, เส้นใย, แคลเซียม, เหล็ก, ฟอสฟอรัส, วิตามินเอ, วิตามินบี6, วิตามินซี และวิตามินอี
มาที่สรรพคุณทางยากันบ้างดีกว่า จุดเด่นของ "จิงจูฉ่าย" คือมีกลิ่นหอม คล้าย ๆ กับตั้งโอ๋ ยิ่งโดนความร้อนจะยิ่งหอม และยิ่งเพิ่มสรรพคุณมากขึ้น โดยกลิ่นหอมของ "จิงจูฉ่าย" มาจากน้ำมันหอมระเหยที่มีอยู่ในลำต้นและใบนั่นเอง ประกอบด้วยสารไลโมนีน ซิลนีน และสารกลัยโคไซด์ที่มีชื่อว่า อะปิอิน ซึ่งสารเหล่านี้มีสรรพคุณช่วยปรับสมดุลความดันโลหิต จึงเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาเรื่องความดัน แถมยังช่วยขับลมในกระเพาะอาหารและลำไส้ได้ด้วย ส่วนต้นสด และเมล็ดของ "จิงจูฉ่าย" มีโซเดียมต่ำ จึงดีต่อผู้ป่วยโรคไต
นอกจากนี้ ในทางการแพทย์เชื่อว่า "จิงจูฉ่าย" เป็นยาเย็น จึงช่วยบำรุงปอด ช่วยฟอกเลือด เลือดลมหมุนเวียนได้สะดวก คนจีนจึงนิยมนำผักชนิดนี้มาปรุงเป็นอาหารรับประทานในหน้าหนาว เพื่อช่วยในเรื่องการไหลเวียนของโลหิต ปรับสมดุลให้ร่างกายได้ดีนั่นเอง
ส่วนที่หลายคนสงสัยว่า ทำไมเราจึงมักเห็น "จิงจูฉ่าย" อยู่ในเกาเหลาเลือดหมู นั่นก็เพราะ "จิงจูฉ่าย" มีสรรพคุณช่วยดับกลิ่นคาวเลือดได้ดีด้วยค่ะ แต่จริง ๆ แล้ว "จิงจูฉ่าย" ไม่ได้ใช้ทำอาหารได้เพียงแค่ต้มเลือดหมูเท่านั้นนะ เพราะอาหารประเภทแกงจืดทั้งหลาย หรือผัดผัก ผัดฉ่าก็สามารถใช้ "จิงจูฉ่าย" เป็นส่วนผสมที่ลงตัวน่ารับประทานไม่แพ้กัน
เห็นสรรพคุณดี ๆ ของ "จิงจูฉ่าย" ขนาดนี้แล้ว ลองไปหาเมนูเด็ด ๆ มาทำรับประทานกันดูนะคะ
:'e:92ขอบคุณข้อมูลจากเนตครับ :'e:92
-
ที่นครสวรรค์ ผมเห็นเขาปลูกแบบเป็นล่ำเป็นสันเลยนะครับ
ต้มเลือดหมู หลายๆเจ้าก็ไม่นิยมใส่กัน
แต่ถ้าจะกินต้มเลือดหมูทั้งที ผมว่าต้องหาแบบมี จิงจูฉ่ายอยู่ด้วย หอมดีครับ
-
:'e:133โชคดีของตัวเองที่เป็นคนกินผักเกือบทุกชนิด มาดูแต่ละอย่างมีประโยชน์มหาศาลดีแท้ :'e:134 :'e:134
-
:'e:92 :'e:92 :'e:92 ชอบทานเลยเหล่ะ พี่สุบิน อิอิ :'e:94 :'e:94
-
ที่บ้าน เพิ่งได้มาปลูกเลยค่ะ มันก็อร่อยดีนะคะ psi106
-
ชอบทาน ค่ะเกาเหลา เลือดหมูอร่อย ที่ขอนแก่น
-
:'e:72 ขอบคุณมากๆครับคุณตุ๊กตาที่เข้าชมและโพสตอบทุกกระทู้ของทุกท่าน ขอบคุณอีกครั้งที่ห้องนี้ให้ทั้งความรู้และมีประโยชน์นำไปใช้ได้เลย :'e:133
-
เห็นแล้วนึกถึงข้าวสวยร้อนๆกับ เกาเหลาเลือดหมูใส่จิงจูฉ่าย....ตอนเช้าๆ...ขอบคุณที่คุณลุงที่บอกเรื่องสรรพคุณทางยา ให้ฟังอ่านแล้วได้ความรู้เยอะครับ :'e:92 :'e:92
-
อร่อยและมีประโยชน์ครับ แต่เวลาไปกินต้มเลือดหมูจะได้แค่เศษ ๆใบจิงจูฉ่ายแค่ไม่กี่ใบ ถ้าจะกินให้ได้ประโยชน์คงต้องหามากินเองครับ
-
ขอบคุณมากครับ คุณสุบิน
แกงจืดหมูสับใบจิงจูฉ่าย แกงจืดยอดฮิตของที่บ้านตั้งแต่รู้ความ
ส่วนแกงจืดเลือดหมู แม่จะทำให้รับประทานเฉพาะตอนเช้าวันอาทิตย์
เพราะทุกคนไม่ต้องรีบเร่งออกจากบ้านไปทำงาน ไปโรงเรียน สมาชิกครอบครัวอยู่กันพร้อมหน้า
-
ชอบทานมากครับอร่อยดี
-
ต้มเลือดหมูหลายร้านใช้ผักอันนี้ หวานอร่อยดี คนทําบอกต้องเข้าไปซื้อที่เยาวราชเลย :'e:56
-
:'e:38 ของโปรดผมเลยครับ ตอนเช้าๆชอบทาน
-
ชอบมากครับ เกาเหลาเซี่ยงจี๊ถ้าไม่มีจิงจูฉ่ายถือว่าไม่ครบสูตรครับ
-
ผมมีอยู่สองกระถาง ไม่ค่อยได้กินบางครั้งต้องตัดทิ้งให้แตกใหม่ ปลูกง่ายซื้อมาต้นเดียว10บาทแยกปลูกสองกระถาง
-
ถ้าถามว่าอร่อยไหม ขอตอบว่าไม่ แต่ถ้าประโยชน์คงเยอะแน่ๆอย่างที่ว่าครับ
-
จูจิงฉ่าย เดี๋ยวนี้อยากทาน ก็ยังหาทานไม่ค่อยได้เลย
ร้านขายต้มเลือดหมูทั่วไป ก็ไม่เคยเห็นมีการใส่เลย
แถวไหนมีขาย แนะนำกันด้วยครับ
-
ที่เชียงรายเยอะแยะ มาเมื่อไรโพสบอกนะ จะหาให้ทั้งต้นกล้า และต้มเลือดหมูจ้าอร่อย