โดนหลอกทั้งประเทศ! “ปลาดอร์ลี่” ที่แท้คือปลาสวาย
(http://www.noohom.com/images/column_1328073531/%BB%C5%D2%B4%CD%C5%C5%D5%E8%B7%D31%A1%BE55.jpg)
กลายเป็นกระแสที่น่าตกใจกับคนชอบรับประทานปลาหลายๆคน เมื่อความจริงปรากฎว่า ปลาดอร์ลี่
เนื้อขาวน่ารับประทานที่มีชื่อหรูหราจนหลายคนชื่นชอบนั้น แท้จริงแล้วคือปลาสวายขาว ไม่ใช่ปลาดอร์ลี่
อย่างที่ถูกตั้งชื่อ และทุกคนเข้าใจตามนั้น
จากการเปิดโปงโดย สรรค์สนธิ บุณโยทยาน ผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์การเกษตร และข้าราชการ
บำนาญ สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่เขียนบทความถึงความเป็นมาจากปลาสวายเนื้อขาว
สู่ปลาดอร์ลี่ในปัจจุบัน
ใจความโดยสรุปนั้น เขาเผยว่า ผู้ขายระบุชื่อว่าเป็น "ปลาดอร์ลี่แล่" กำกับภาษาอังกฤษว่า
Pangasius Fillet (Pangasius Hypopthalmus) เป็นการให้ข้อมูลแบบไม่ครบถ้วนอาจสร้าง
ความเข้าใจผิดว่าเป็นปลาทะเล หรือปลาชนิดใหม่ เปรียบเทียบกับสินค้าชนิดเดียวกันที่อเมริกามี
การระบุรายละเอียดชัดเจนว่าเป็นปลาเลี้ยงจากฟาร์มในประเทศเวียดนาม ใช้ชื่อการค้าว่า Swai
“จริงๆแล้วคนขายเขาก็ไม่ได้หลอกเพราะเขียนภาษาอังกฤษ พร้อมกำกับด้วยศัพท์วิทยาศาสตร์
ไว้เห็นชัดๆว่าPangasius hypophthalmusแต่ผู้บริโภคทั่วไปไม่ทราบว่านี่คือ ปลาสวายธรรมดา”
(http://img.21food.com/20110609/product/1211507625031.jpg)
ทั้งนี้ ความเป็นมาของการแปลงปลาสวายให้กลายเป็นปลาเลิศหรูในชื่อ ปลาดอร์ลี่นั้น มาจากที่ว่า
โดยปกติแล้ว เนื้อของปลาดอร์ลี่นั้นจะมีสีเหลืองไม่น่ากิน แต่ปลาดอร์ลี่จากประเทศเวียดนามกลับมีสีขาว
อมชมพูน่ารับประทาน ซึ่งเคยมีการเข้าใจผิดในหมู่เกษตกรเพาะเลี้ยงด้วยว่า ปลาดังกล่าวนั้นคือปลาเผาะ
(http://www.thalassa-seafoods.com/pictures/cms1/Pangasius%20whole%20gutted.jpg)
เขาเผยว่า เมื่อก่อนนั้น รองนายกรัฐมนตรี พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ เคยมีไอเดียการเลี้ยงปลาสวายเนื้อขาว
(โดยคิดว่านั่นคือปลาเผาะ) เลยเอามาส่งเสริมที่จังหวัดนครพนมภายใต้แผนยุทธศาสตร์พัฒนาจังหวัดผู้ว่าฯ
ซีอีโอ เมื่อปี 2547 - 49 เพื่อการส่งออกไปประเทศสเปน ทั้งนี้ตัวเขาเองในฐานะที่เป็นเกษตกรก็ยอมรับว่า
เข้าใจผิดว่าปลาสวายเนื้อขาวที่ชาวเวียดนามเลี้ยงคือ "ปลาเผาะ"(Pangasius bocourti) ที่เป็นปลาธรรมชาติ
อยู่ในแม่น้ำโขง ปลาชนิดนี้ชาวนครพนมรู้จักดีมีเนื้อสีขาวอมชมพู เพราะจับมากินเป็นอาหารชั้นเลิศ เช่น ผัดฉ่า
ต้มยำ ขายราคาแพงๆในร้านอาหารดังๆ
(http://www.tochau.vn/images/stories/Ca-tra-nguyen-con.jpg)
แต่โครงการดังกล่าวก็ขาดทุนด้วยเหตุผลด้านรายละเอียดของวิธีการเลี้ยง และความจริงก็เปิดเผยให้รู้โดย
ทั่วกันว่า ปลาเนื้อขาวนั้นแท้จริงแล้วคือปลาสวาย ทว่าความเข้าใจนั้นก็ยังคงถูกใช้เป็นเครื่องมือโดยพ่อค้าหัวใส
ที่ตั้งชื่อเนื้อปลานั้นว่า ปลาดอร์ลี่
(http://img.dooyoo.co.uk/GB_EN/orig/0/6/5/2/0/652060.jpg)
“คนไทยโดยทั่วไปรังเกียจปลาสวายเพราะเนื้อเหลืองไม่น่ากิน แต่พอไปเจอปลาดอร์ลี่เนื้อออกสีขาว
อมชมพูดูสวยงามน่ากิน ก็ยอมจ่ายเงินราคาแพงๆ เพราะคิดว่านี่แหละของดี แต่ที่ไหนได้เข้าใจผิดยิ่งกว่า
ผู้ใหญ่ลีตีกลองประชุม เมื่อปี 2504”
(http://img.21food.com/20110609/product/1306803595773.jpg)
เขาเผยถึงประสบการณ์การไปดูงานที่เมือง Can Tho ประเทศเวียดนาม ในคราวประชุม 17th
Annual Meeting of MRC Fisheries Program 25-26 November 2010 ซึ่งมีผู้เชี่ยวชาญด้าน
ประมงจากหลายประเทศไปประชุมกัน โดยฝ่ายไทยมีผู้เชี่ยวชาญจากกรมประมง และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ทั้งนี้ทุกคนต่างยืนยันว่าที่เขาเลี้ยงในบ่อดินริมแม่น้ำ และเข้าโรงงานแร่เป็นชิ้นเนื้อสีขาวอมชมพู คือ
"ปลาสวายธรรมดา" โดยชื่อวิทยาศาสตร์ Pangasius Hypopthalmus แต่ชาวเวียดนามมีวิธีทำให้
ปลาสวายมีเนื้อสีขาวด้วยเทคนิค 2 ข้อ คือ
1.เลือกอาหารที่ไม่ก่อให้เกิดสีเหลืองเข้าไปแทรกในไขมัน เช่น อย่าให้มีอาหารที่เป็นข้าวโพด และ
เนื่องจากเมืองนี้อยู่ใกล้ปากแม่น้ำ (ใกล้ทะเล) จึงสามารถหาซื้ออาหารโปรตีนจำพวกปลาป่นราคาถูกๆ
2.มีการถ่ายเทน้ำให้สะอาดอยู่ตลอดเวลา พวกเขาโชคดีที่เมืองนี้อยู่ใกล้ทะเลทำให้มีน้ำขึ้นและน้ำลง
จึงสามารถถ่ายน้ำเข้าและออกจากบ่อดินได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องใช้เครื่องสูบน้ำให้สิ้นเปลืองพลังงาน
(http://202.67.224.132/pdimage/59/1397359_whitefilletbeforeglazing.jpg)
“ด้วยเหตุผลที่ว่าทำให้ปลาสวายธรรมดามีเนื้อสีขาวอมชมพู ในต้นทุนที่ต่ำ สามารถส่งออกตีตลาดได้
ทั่วโลก เฉพาะตลาดอเมริกาแห่งเดียวพี่แกก็รับทรัพย์ไปแบบเต็มๆ”
(http://www.yclsakhon.com/images/sub_1367075163/Slide1.jpg)
นอกจากนี้ เขายังเผยถึงความเห็นของ ดร.นฤพล สุขุมาสวิน จากสำนักผู้เชี่ยวชาญกรมประมง เมื่อ
วันที่ 9 พฤษภาคม 2556 ในการประชุมเกี่ยวกับตัวชี้วัดเพื่อประเมินโครงการเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำ ที่จังหวัด
อุดรธานี เผยว่ากรมประมงได้ขอความร่วมมือกับ อย. เพื่อสั่งให้เอกชนที่นำเข้าปลาสวายเนื้อขาวจากเวียดนาม
ภายใต้ชื่อการค้าว่า "ปลาดอร์ลี่" ให้ระบุในฉลากว่านี่คือ "ปลาสวายธรรมดา" แต่เอกชนหัวการค้าใส่เพียง
ชื่อวิทยาศาสตร์ในฉลากว่า Pangasius hypopthalmus
(http://www.biztrademarket.com/User/183762/bb/allinnoneup_wqz.jpg)
“แล้วพี่ไทยตาดำทั่วไปจะรู้หรือว่าเจ้าชื่อวิทยาศาสตร์นี่คือปลาสวายธรรมดาๆ ผิดกับกฎหมายอเมริกัน
ที่เขาให้ระบุในฉลากว่า "ปลาเลี้ยงในฟาร์ม นำเข้าจากเวียดนาม" (Farm Raised......Product of Vietnam)”
(http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/b/b6/Zenopsis_conchifera.jpg)
(http://www.fishwisepro.com/pics/JPG/117955F000446W000007.jpg)
จากปลาสวายธรรมดากลายเป็นอาหารชั้นดี ดูไฮโซขึ้นโต๊ะอาหารฝรั่ง ทั้งนี้ ปลาดอร์ลี่ตัวจริงที่มี
ราคาสูงนั้น แท้จริงแล้วอยู่ในทะเลลึกที่มหาสมุทแอตแลนติก และทะเลเมดิเตอร์เรเนียน มีเนื้อแน่น น่ากิน
และมีชื่อเล่นว่า "จอห์น ดอร์ลี่" (John Dory) ชื่อวิทยาศาสตร์ Zenopsis conchifera เขาเผยว่า
เปรียบเทียบกันแล้ว สเต๊กปลาดอร์ลี่ตัวจริงจะมีรูปร่างกลมๆ ป้อมๆ ส่วนสเต๊กปลาดอร์ลีปลอม รูปร่างจะยาวๆ
เพราะเป็นปลาสวาย ผู้บริโภคสเต๊กนั้นถูกแหกตามาโดยตลอด
(http://pics.manager.co.th/Images/556000007620502.JPEG)
(https://fbcdn-sphotos-g-a.akamaihd.net/hphotos-ak-frc3/s403x403/1000553_595932383772868_117043139_n.jpg)
(http://www.yclsakhon.com/images/sub_1367075163/Slide4(2).jpg)
>>>>>>>>>>>>>>>>>
นำมาจาก http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9560000072691 (http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9560000072691)