เพลงพักใจดอทเน็ต

สัพเพเหระ => เป็นนักเลงกลอนอย่านอนเปล่า => ข้อความที่เริ่มโดย: หมู ที่ 14/ก.ค./11 20:29น.

หัวข้อ: เป็นนักกลอนอย่านอนเปล่า
เริ่มหัวข้อโดย: หมู ที่ 14/ก.ค./11 20:29น.


เป็นนักกลอนอย่านอนเปล่าดูเขาว่า
นอนทำไมเล่าหนาอยู่เฉยๆ
หิดกลากเกลื้อนมีให้เกาอีกเยอะเลย
อย่านอนเฉยเกาให้มันฉันจะดู

เกาเสร็จแล้วหยิบปากกาขึ้นมาจรด
แล้วกำหนดตัวอักษรอันสวยหรู
เป็นกลกลอนเชิงชั้นขั้นคุณครู
แล้วประกาศให้โลกรู้ว่าครูมี

เชิญหญิงชายหลายหลากมากใบหน้า
เชิญแวะเวียนเข้ามาอ่านที่นี่
เชิญนะครับถ้าใครมีกลอนดีๆ
เชิญนะครับบทกวีที่ถูกใจ

เอามาแบ่งให้เพื่อนอ่านเป็นทานเถิด
ให้รอยยิ้มบังเกิดโลกสดใส
อ่านเสร็จแล้วยิ้มสักนิดก่อนจะไป
คนโพสก็ได้บุญใหญ่ใจเบิกบาน





ขอบคุณทีมงานเพลงพักใจที่กรุณาจัดห้องนี้ให้ครับ
:'e:92
หัวข้อ: Re: เป็นนักกลอนอย่านอนเปล่า
เริ่มหัวข้อโดย: chomm ที่ 14/ก.ค./11 20:31น.
ขอมาอ่านและให้กำลังใจค่ะ  เพราะแต่งไม่เป็น
หัวข้อ: Re: เป็นนักกลอนอย่านอนเปล่า
เริ่มหัวข้อโดย: เฒ่าแก่ ที่ 14/ก.ค./11 20:34น.
จะต่อก็ต่อไม่เป็น ขอเป็นกำลังใจเล็กๆแระกัน
หัวข้อ: Re: เป็นนักกลอนอย่านอนเปล่า
เริ่มหัวข้อโดย: ฺbest cheangrai ที่ 14/ก.ค./11 20:36น.


ซิ่งมาแว้ว กลัวมะทัน  ทั่นสมภพ
เดี๋ยวจะจบ  กันซะหรอก จะบอกหนา
เป็นนักเลง เพลงจัดจ้าน  ย่าน"ยุธยา
จำแซงหน้า  มาเล่นก่อน ตอนนี้เลย

ส่วนตัวผม  ยังไม่คม  เรื่องคำปราชญ์
จึงไม่อาจ  ต่อต้านย้ำ   นำเฉลย
หากผิดบ้าง  ขออภัย  ใช่ละเลย
อยากคุ้นเคย  เป็นมิตรกัน  บรรเลงกลอน
 
หัวข้อ: Re: เป็นนักกลอนอย่านอนเปล่า
เริ่มหัวข้อโดย: chomm ที่ 14/ก.ค./11 20:55น.
มาให้กำลังใจค่ะ  แต่งไม่เป็น :'e:82
หัวข้อ: Re: เป็นนักกลอนอย่านอนเปล่า
เริ่มหัวข้อโดย: ฺbest cheangrai ที่ 14/ก.ค./11 21:07น.
:'e:77 :'e:77 :'e:77
ช้าอยู่ใย ได้ยินเสียง สำเนียงก้อง
มีใหม่ห้อง กลอนเสนาะ เพราะหนักหนา
ท่านผู้ใหญ่  ใจดี  มีเมตตา
เปิดห้องท้า  อย่านอนเฉย กันเลยเรา

คนรูปหล่อ  น่าใส  ใจสปอร์ต
ขออ้อนออด  นำคำหวาน  น้ำตาลเฉา
ยิ่งกว่าอ้อย ยิ่งกว่าตาล  หวานไม่เบา
โถ่ตัวเรา ดันลืมไป แต่งไม่เป็น
หัวข้อ: Re: เป็นนักกลอนอย่านอนเปล่า
เริ่มหัวข้อโดย: หมู ที่ 14/ก.ค./11 21:22น.
แต่งไม่เป็น หรือว่า ไม่กล้าแต่ง
หรือว่ากลัว ออกแรง ถ้ามีคู่
อายุก็ ขนาดนี้ น่าลองดู
มองหาคู่ สักคน มาเคียงกาย

จะได้รู้ ว่ามีสุข อย่างสร้างสรรค์
จะได้รู้ ว่าสวรรค์ อยู่ตรงไหน
จะได้รู้ ว่านรก อยู่ถัดไป
จะได้เป็น ชาติชาย ที่ปวดกบาล


  นะน้องเบส :'e:37 :'e:37 


พี่ๆ เขาผ่านมาเยอะแล้ว ซาบซึ้่งดี

หัวข้อ: Re: เป็นนักกลอนอย่านอนเปล่า
เริ่มหัวข้อโดย: ประสิทธิ์ ที่ 14/ก.ค./11 21:23น.
สองโกลบอล มาก่อน ไม่นอนเปล่า
ทำให้เรา มัวนอนเกา อยู่ไม่ได้
แม้นวิชา ยังมีน้อย ด้อยกว่าใคร
ก็จำใจ ต้องออกมา ว่าเป็นกลอน

แหมจารย์ชิน ช่างใจดี ที่เปิดห้อง
รู้ว่าต้อง มีคนพัก เหมือนนักสอน
ช่างรู้ใจ ว่าบ้านเรา มีนักกลอน
ที่มาก่อน นั่นแหละพี่ มีวิชา

แม้นซือแป๋ เรียกอาจารย์ นั่นแหละเขา
พี่สมภพ ของเรา ใช่ใครหนา
มีฝีมือ เรื่องเพลงเก่า เล่ากันมา
เรื่องเขียนกลอน ก็ใช่ว่า ด้อยกว่าใคร

อาจารย์เบส ก็ใช่ย่อย เรื่องเจ้าชู้
บอกว่าครู ก็เป็นมา อย่าสงสัย
ใช้บทกลอน ร่ายเพลงยาว ผูกมัดใจ
สาวบ้านไกล ยังยอมรับ จับแต่งงาน

:'e:77 :'e:77 :'e:77
หัวข้อ: Re: เป็นนักกลอนอย่านอนเปล่า
เริ่มหัวข้อโดย: ฺbest cheangrai ที่ 14/ก.ค./11 22:10น.

แต่งไม่เป็น ก็ไม่ใช่  จะไม่รู้
เคยไปอยู่ มาแล้ว  แหละสวรรค์
นรกใหญ่  ก็เคยไป  มาเหมือนกัน
เพราะผมนั้น พาหนีมา จะบ้าตาย

เธอเคยเป็น  เทพธิดา แสนน่ารัก
ถึงมุกหัก  เปลี่ยนไปเป็น เช่นมารร้าย
บีบบังคับ คอยกำหนด  หมดเชิงชาย
เป็นดังไฟ ที่คอยเผา  เร่าร้อนรน

ตัดสินใจ  เดินห่าง  ต่างทางฝัน
เราคบกัน  เพราะชิดไกล้ รักไม่สน
อยู่กับเรา  เธอมีเขา   อีกทั้งคน
จึงดั้นด้น  หนีมาตาย  ที่ปลายทาง

หากวันนั้น  ไม่ได้มี  พี่ทุกท่าน
ช่วยผลักดัน  ให้ยืนอยู่ สู่รุ่งสาง
คงไม่มี  วันฟ้าใส  ให้ส่องทาง
ชีวิตดัง ล่องลอยไป ไม่หวนคืน

:'e:92 :'e:92 :'e:92 :'e:92 :'e:92 :'e:92
หัวข้อ: Re: เป็นนักกลอนอย่านอนเปล่า
เริ่มหัวข้อโดย: บางนรา ที่ 14/ก.ค./11 22:13น.
 :'e:69 มาเป็นกองเชียร์คร่า..แต่งมายเป็นแต่ชอบอ่าน 55.. :'e:68
หัวข้อ: Re: เป็นนักกลอนอย่านอนเปล่า
เริ่มหัวข้อโดย: หมู ที่ 15/ก.ค./11 21:22น.


โอดติเลงเต่งตุมกลุ้มเสียนัก
โธ่! เจ้าเบสอกหักมาหรือนี่
โดนผู้หญิงกระทำเขาย่ำยี
จนป่นปี้เสียหายหลายกิโล

มานั่งพักให้สบายหัวใจเถิด
อย่าเตลิดเดี๋ยวบานปลายไปอักโข
จะผ่ายผอมตรอมใจไปใหญ่โต
ตาลึกโบ๋ดูไม่ดีพี่ขอปราม

นั่งพักให้สบายจิตคิดกันใหม่
จะรักชอบหญิงใดอย่าผลีผลาม
เข้าตามตรอกออกประตูให้ดูงาม
ทุกเขตคามจะสรรเสริญจำเริญใจ

จะรักชอบหญิงใดจงได้คิด
ให้หลวงสิทธิ์เป็นเถ้าแก่ก็ยังไหว
ถ้าไม่ยอมจะช่วยดันให้แกไป
เงินสินสอดก็ให้หลวงช่วยออกที

:'e:39 :'e:39


หัวข้อ: Re: เป็นนักกลอนอย่านอนเปล่า
เริ่มหัวข้อโดย: ประสิทธิ์ ที่ 17/ก.ค./11 10:42น.
ยังสองจิต สองใจ เรื่องไปขอ
เจ้าบ่าวก็ ตอบไม่แน่ นานแค่ไหน
คบกันอยู่ ไม่รู้ซึ้ง ถึงจิตใจ
ว่าจะเลือก เธอคนไหน เป็นคู่ครอง

เกิดมาหล่อ หากเลือกได้ จะกลายกลับ
ต้องยอมรับ เขาเป็นต่อ ไม่พอสอง
ยังจะเลือก สามสี มีมาครอง
เราจะต้อง ดูต่อไป ใครตัวจริง

เรื่อสู่ขอ ไม่ต้องท้อ หากเงินหมด
ไม่ต้องกด ก็เบิกให้ ไปขอหญิง
ขอให้ไป หารักแท้ มาจริงๆ
อย่าประวิง ถ่วงเวลา หาเศษเลย

อยากขอเตือน ไว้สักหน่อย พ่อร้อยชั่ง
มัวแต่นั่ง คิดเอาเอง โดยวางเฉย
ไม่สานต่อ ก่อสัมพันธ์ เหมือนดังเคย
เธอเมินเฉย แล้วจะเศร้า เราเจ็บเอง

:'e:71 :'e:77 :'e:98 :'e:100
หัวข้อ: Re: เป็นนักกลอนอย่านอนเปล่า
เริ่มหัวข้อโดย: แดง เจดีย์ ที่ 18/ก.ค./11 15:03น.
ร้อยมะลิ เป็นมาลัย ให้มวลมิตร
ด้วยดวงจิต หรรษา มาพบเห็น
ท่านประสิทธิ์ สมภพ ช่วยเติมเต็ม
ท่านเบสเป็น เรือจ้าง ช่างเด็ดดี

ส่วนเฒ่าแก่ แก่จริงไหม ใคร่วานบอก
บางนรา ไม่หลอก เหมือนอย่างผี
Chomnad น่ารัก ดูสวยดี
ขอจบที่ น้องใหม่ รายงานตัว



หัวข้อ: Re: เป็นนักกลอนอย่านอนเปล่า
เริ่มหัวข้อโดย: ฺbest cheangrai ที่ 18/ก.ค./11 19:41น.

      รักมีรัก ร่วมอยู่ เป็นคู่สอง
แม้นเขามอง เราห่างเหิน  ก็เชิญเขา
รักมีรัก  อยู่ข้างใน  หัวใจเรา
สุขไดเท่า  เราเข้าใจ  ในรักจริง

  ถึงไม่ได้  มั่นขอ รอสังสรรค์
แต่ทุกวัน  ใจเราอยู่ คู่ชายหญิง
คอยไถ่ถาม  เปิดหัวใจ  ให้พักพิง
เป็นเพียงสิ่ง เล็กน้อย คอยเติมใจ

   รู้มั้ยว่า  สิ่งนี้  มีค่ามาก
คำจากปาก  แสนดียิ่ง  กว่าสิ่งไหน
เพียงหนึ่งคำ  ที่เธอย้ำ จากข้างใน
ไม่มีใคร  รักเสมอ  เธอนิรันดร์

  วันเวลา  ล่วงไป  ใจจงรัก
อุปสรรค  ให้ผ่านไป  ดั่งในฝัน
เธอยังอยู่  ฉันยังอยู่ คู่เคียงกัน
ชั่วนิรันดร์ มอบหัวใจ ให้เธอครอง
   


หัวข้อ: Re: เป็นนักกลอนอย่านอนเปล่า
เริ่มหัวข้อโดย: โรส เมืองน่าน ที่ 18/ก.ค./11 20:45น.
 :'e:82  :'e:98เก่งจังเลยคร้า ให้100คะแนนเรยยยย :'e:93
หัวข้อ: Re: เป็นนักกลอนอย่านอนเปล่า
เริ่มหัวข้อโดย: ภูฤดี ที่ 25/พ.ย./11 23:25น.
เอากลอนมาฝากครับ   :'e:37

(http://upic.me/i/zg/2554-11-23044m.jpg) (http://upic.me/show/30602451)
หัวข้อ: Re: เป็นนักกลอนอย่านอนเปล่า
เริ่มหัวข้อโดย: เซี๊ยะ(นพดล) ที่ 26/พ.ย./11 09:27น.
ขอฝากตัว   หัวใจ    ในห้องนี้

ห้องที่มี   นักกลอน   อยู่พร้อมหน้า

คุณสมภพ คุณประสิทธิ์  "เบส" น้องยา

สุขภาษา   กวีศรี    นี้สำคัญ


ภาษาไทย    รักษาไว้   อย่าให้หาย

อย่าให้ตาย   สลายดับ    เหมือนกับฝัน

คนรุ่นใหม่    ขอชวนเชิญ   แต่งกลอนกัน

ให้เฉิดฉันท์    ไฉไลไป      ตลอดกาล


เอกกวี    สุนทรภู่     ครูภาษา

เรารู้มา   ท่านสร้างสรรค์    เราสืบสาน

ให้บทกลอน   ภาษาสวย   อยู่คงนาน

อย่าให้ผ่าน    ไหลล่องลอย   กับเวลา


ขอเป็นหนึ่ง    ซึ่งรักษา    กวีศิลป์

ได้โบยบิน    ต่อไปได้     นานนักหนา

อย่านิ่งเฉย    เมยดูอยู่    ช่วยนำพา

มาเถิดมา    แต่งกลอนกัน   พลันสุขใจ


 :'e:31    :'e:31    :'e:31    :'e:31    :'e:31    :'e:31    :'e:31    :'e:31    :'e:31    :'e:31    :'e:31    :'e:31


ขอเชิญเป็นส่วนหนึ่งร่วมอนุรักษ์ "ภาษาไทย" ด้วยการ "แต่งกลอน" กันครับผม
หัวข้อ: Re: เป็นนักกลอนอย่านอนเปล่า
เริ่มหัวข้อโดย: ภูฤดี ที่ 27/พ.ย./11 18:55น.
กลอนนี้..เพื่อเธอครับ  :'e:108

(http://upic.me/i/rz/51hrb.jpeg) (http://upic.me/show/28329773)
หัวข้อ: Re: เป็นนักกลอนอย่านอนเปล่า
เริ่มหัวข้อโดย: ภูฤดี ที่ 29/พ.ย./11 13:03น.


กลอน ขายยังไงครับ แม่ค้า  โอ๊ยยย  แพงจัง  ลดราคาหน่อยได้ไม๊ครับ  น่านะ  น่านะ... 

ต่อกลอนไงครับ   :'e:37 เดี๋ยวจะว่า เอารูปกลอนมาหากินอย่างเดียว ต่อกลอนไม่เป็น
วันนี้มาต่อกลอนให้เห็นจะจะเลยครับ :'e:106
หัวข้อ: Re: เป็นนักกลอนอย่านอนเปล่า
เริ่มหัวข้อโดย: ภูวดี ที่ 30/พ.ย./11 00:17น.
ขอด้วยคน สิหนา มาต่อแถว
ตั้งใจแน่ว ดรงดิ่ง มาจนได้
รีบต่อกลอน เร็วพลัน ให้ทันใจ
ก่อนใครๆ จะมาแรง แย่งแซงคิว
หัวข้อ: Re: เป็นนักกลอนอย่านอนเปล่า
เริ่มหัวข้อโดย: ภูวดี ที่ 30/พ.ย./11 00:28น.
สระ อิว ค่อนข้างจะยาก งั้นต่อให้อีกบทครั๊บ
เห็นเพื่อนๆ เขาแข่งขัน ใช้สมอง
มาประลอง ด้วยบทกลอน จากปลายนิ้ว
จิ้มคีย์บอร์ด เป็นอักษร กลอน New New...(ใหม่ ๆ) :'e:56
ใจหวิว หวิว กลัวพิมพ์ มาไม่ทัน
หัวข้อ: Re: เป็นนักกลอนอย่านอนเปล่า
เริ่มหัวข้อโดย: Rapee ที่ 30/พ.ย./11 00:55น.
ขอด้วยคน สิหนา มาต่อแถว   (พี่ภูวดี)
ตั้งใจแน่ว ดรงดิ่ง มาจนได้
รีบต่อกลอน เร็วพลัน ให้ทันใจ
ก่อนใครๆ จะมาแรง แย่งแซงคิว


อยากต่อกลอน พี่ภู ดูสักหน่อย  (ใบตอง)
แต่น้องน้อย มีนงง คงเพราะหิว
เรื่องเขียนกลอน นั้นหนา ใครว่าชิว
โอ้ยยย..ตะคริว กินขา แล้วหนาเอย

จึงนั่งจิ้ม มั่วไป ให้ได้อ่าน
เพราะกลับบ้าน ดึกแล้ว พี่แก้วเอ๋ย
ครั้นไม่ตอบ เดี๋ยวอ้าง ว่าร้างเลย
ครูคนเชย ตอบเสร็จ ระเห็จนอน

ขอบคุณนะคะพี่ภู เข้ามาต่้อกลอน เล่นลงสระ อิว ก็ต่อยากเหมือนกันเนาะ
ว่าง ๆ เข้ามาต่อกลอนกันใหม่ค่ะ แต่คืนนี้ขอตัวนอนก่อนค่ะ พรุ่งนี้ทำบุญเช้า
สำหรับท่านที่จะต่อกลอนบทต่อไป ก็ลงที่สระ ออน นะคะ (อิอิ มีมั้ยอ่า สระอิว สระออน น่ะ)



 :'e:121 :'e:121 :'e:121 :'e:121
หัวข้อ: Re: เป็นนักกลอนอย่านอนเปล่า
เริ่มหัวข้อโดย: ประสิทธิ์ ที่ 30/พ.ย./11 08:20น.
อ้างถึง
จึงนั่งจิ้ม มั่วไป ให้ได้อ่าน
เพราะกลับบ้าน ดึกแล้ว พี่แก้วเอ๋ย
ครั้นไม่ตอบ เดี๋ยวอ้าง ว่าร้างเลย
ครูคนเชย ตอบเสร็จ ระเห็จนอน

เรื่องนั่งจิ้ม คำวอน เป็นกลอนฝาก
มันก็ยาก กว่าคิดได้ ลายอักษร
ยิ่งต้องนั่ง ร้อยคำ ทำเป็นกลอน
คิดก่อนนอน กว่าจะได้ สายอีกวัน

ครานี้สระอันครับ อิอิ
หัวข้อ: Re: เป็นนักกลอนอย่านอนเปล่า
เริ่มหัวข้อโดย: น้องเบส เชียงราย ที่ 30/พ.ย./11 11:50น.
เรื่องนั่งจิ้ม คำวอน เป็นกลอนฝาก
มันก็ยาก กว่าคิดได้ ลายอักษร
ยิ่งต้องนั่ง ร้อยคำ ทำเป็นกลอน
คิดก่อนนอน กว่าจะได้ สายอีกวัน

ครานี้สระอันครับ อิอิ

หลงเข้ามา  ปะนักกลอน  เครื่องร้อนผ่าว
โอ้แม่เจ้า  ต่อกันแล้ว  ช่างสุขสันต์
คนนั้นนิด คนนี้หน่อย  เรียงร้อยกัน
สื่อสัมพันธ์ บทกวี  ดีจริงๆ


สระอิงครับ
หัวข้อ: Re: เป็นนักกลอนอย่านอนเปล่า
เริ่มหัวข้อโดย: เซี๊ยะ(นพดล) ที่ 01/ธ.ค./11 00:12น.
ขอด้วยคน สิหนา มาต่อแถว   (คุณภูวดี)
ตั้งใจแน่ว ดรงดิ่ง มาจนได้
รีบต่อกลอน เร็วพลัน ให้ทันใจ
ก่อนใครๆ จะมาแรง แย่งแซงคิว


อยากต่อกลอน พี่ภู ดูสักหน่อย  (คุณใบตอง)
แต่น้องน้อย มีนงง คงเพราะหิว
เรื่องเขียนกลอน นั้นหนา ใครว่าชิว
โอ้ยยย..ตะคริว กินขา แล้วหนาเอย

จึงนั่งจิ้ม มั่วไป ให้ได้อ่าน  (คุณครูระพี)
เพราะกลับบ้าน ดึกแล้ว พี่แก้วเอ๋ย
ครั้นไม่ตอบ เดี๋ยวอ้าง ว่าร้างเลย
ครูคนเชย ตอบเสร็จ ระเห็จนอน

เรื่องนั่งจิ้ม คำวอน เป็นกลอนฝาก  (คุณพี่ประสิทธิ์)
มันก็ยาก กว่าคิดได้ ลายอักษร
ยิ่งต้องนั่ง ร้อยคำ ทำเป็นกลอน
คิดก่อนนอน กว่าจะได้ สายอีกวัน

หลงเข้ามา  ปะนักกลอน  เครื่องร้อนผ่าว  (น้องเบส)
โอ้แม่เจ้า  ต่อกันแล้ว  ช่างสุขสันต์
คนนั้นนิด คนนี้หน่อย  เรียงร้อยกัน
สื่อสัมพันธ์ บทกวี  ดีจริงๆ


สุขใจนัก   มีมิตรรัก  แต่งอักษร
เรียงเป็นกลอน  ช่างสอดคล้อง  ทั้งชายหญิง
ท่านผู้ใด  ผ่านเข้ามา  อย่าประวิง
อย่าดูนิ่ง  ผ่านเลยไป  ไม่ใส่ใจ

ของกระผมลงท้ายด้วย  "สระใอ"(ใจ) ไม่ม้วน(อีกแล้วครับผม) ขอเชิญร่วมแต่งกลอนกันต่อนะครับ



 :'e:31     :'e:31      :'e:31      :'e:31     :'e:31      :'e:31

(http://upic.me/i/eb/j..0008.jpg) (http://upic.me/show/30790451)

ขอมอบ  "กลอนสแตนเลส" (จะได้ไม่เป็นสนิมไงล่ะครับ)

หัวข้อ: Re: เป็นนักกลอนอย่านอนเปล่า
เริ่มหัวข้อโดย: ภูวดี ที่ 01/ธ.ค./11 00:43น.
จึงนั่งจิ้ม มั่วไป ให้ได้อ่าน
เพราะกลับบ้าน ดึกแล้ว พี่แก้วเอ๋ย
ครั้นไม่ตอบ เดี๋ยวอ้าง ว่าร้างเลย
ครูคนเชย ตอบเสร็จ ระเห็จนอน
....น้องใบตอง
ขอบใจจ้า น้องตัวกลม ขอชมหน่อย       ด้วยเรื่องถ้อย คำ ขอบอก ไม่หลอกหลอน
สัมผัสนอก สัมผัสใน ไม่ขาดตอน      ตรงแน่นอน ตามหลัก รูปลักษณ์ไทย
 :'e:82 :'e:82สระ อิว ก็ยาก มิใช่ย่อย       แต่น้องก็ ตอบถ้อย คำนี้ได้
นี่แหละครู สอนลูกหลาน ให้ร่วมใจ       จรรโลงไว้ ครรลองไทย อันดีงาม
หัวข้อ: Re: เป็นนักกลอนอย่านอนเปล่า
เริ่มหัวข้อโดย: Rapee ที่ 01/ธ.ค./11 18:36น.
สุขใจนัก   มีมิตรรัก  แต่งอักษร    (คุณนพดล)
เรียงเป็นกลอน  ช่างสอดคล้อง  ทั้งชายหญิง
ท่านผู้ใด  ผ่านเข้ามา  อย่าประวิง
อย่าดูนิ่ง  ผ่านเลยไป  ไม่ใส่ใจ

กลับมาบ้าน ครานี้ มีคึกคัก    (ครูรพี)
เห็นมิตรรัก ตอบกลอนกัน พลันสดใส
ห้องที่เคย เงียบเหงา กลับเร้าใจ
ช้าอยู่ใย มาเรียงร้อย ถ้อยอักษรา


คราวนี้ลง สระอา นะคะ  :'e:72



หัวข้อ: Re: เป็นนักกลอนอย่านอนเปล่า
เริ่มหัวข้อโดย: Rapee ที่ 01/ธ.ค./11 18:38น.
จึงนั่งจิ้ม มั่วไป ให้ได้อ่าน
เพราะกลับบ้าน ดึกแล้ว พี่แก้วเอ๋ย
ครั้นไม่ตอบ เดี๋ยวอ้าง ว่าร้างเลย
ครูคนเชย ตอบเสร็จ ระเห็จนอน
....น้องใบตอง
ขอบใจจ้า น้องตัวกลม ขอชมหน่อย       ด้วยเรื่องถ้อย คำ ขอบอก ไม่หลอกหลอน
สัมผัสนอก สัมผัสใน ไม่ขาดตอน      ตรงแน่นอน ตามหลัก รูปลักษณ์ไทย
 :'e:82 :'e:82สระ อิว ก็ยาก มิใช่ย่อย       แต่น้องก็ ตอบถ้อย คำนี้ได้
นี่แหละครู สอนลูกหลาน ให้ร่วมใจ       จรรโลงไว้ ครรลองไทย อันดีงาม


ขอบคุณค่ะพี่ภู แต่เห็นข้างบนเค้าตอบเลยมาแล้ว น้องก็เลยไปต่อที่คุณเซี็ยะ เขียนไว้แล้วอ่า เด๋วพี่ภูค่อยต่อน้องใหม่แล้วกันเนาะ บรมกวีศรีสงขลา อิอิ
หัวข้อ: Re: เป็นนักกลอนอย่านอนเปล่า
เริ่มหัวข้อโดย: ภูวดี ที่ 01/ธ.ค./11 23:30น.
กลับมาบ้าน ครานี้ มีคึกคัก    (ครูรพี)
เห็นมิตรรัก ตอบกลอนกัน พลันสดใส
ห้องที่เคย เงียบเหงา กลับเร้าใจ
ช้าอยู่ใย มาเรียงร้อย ถ้อยอักษรา



      เมื่อวานนี้ ที่จดจ่อ ต่อบทกลอน
ยามง่วงนอน ตอนเที่ยง คืนหวา หวา....เอ๊ย!  กว่ากว่า :'e:37  (ผมเอง)
เมื่อได้พิม เสร็จสรรพ จับเวลา
ก็รีบปรี่ ตรงมา หาที่นอน
มาวันนี้ ลองเข้า มาดูใหม่
ว๊า...า..มีคน ตอบกัน ไม่กี่ท่อน
เลยพิมต่อ เพื่อรอ นักบทกลอน
ที่จะร่อน เข้ามา หาดูกัน
หัวข้อ: Re: เป็นนักกลอนอย่านอนเปล่า
เริ่มหัวข้อโดย: พ่อใหญ่คำแสง ที่ 02/ธ.ค./11 01:43น.
มองเห็นคน ล้นทะลัก ชักสงสัย
เลยแอบย่อง ลงกะได ไปมุงหงอ
เสียงพูดคุย ดังโครมคาม ผมตามคลอ
มีทั้งหมอ มีทั้งครู ดูลานตา

แอบย่องไป ใกล้ๆ ให้ชิดๆ
ในใจคิด ว่าต้องรู้ ดูให้เห็น
เขาพากัน มุงอะไร ทุกเช้าเย็น
ที่เห็นๆ เป็นกลุ่มๆ ซุ่มดูนาน

คราวนี้คลาน ทะยานเคร่ง เร่งฝีเท้า
มีเสียงลอด มาเบาๆ ว่าสุขสันต์
ของดีๆ เก่าแบบนี้ เราแบ่งกัน
อะไรนั้น ปันของดี ผมงี้...งง

อ๋อ..!!!! เขามา  รวมตัวกัน  แบ่งปันเพลง
ดูครื่นเครง และฉับเฉ่ง เท่งๆทุม
ไม่แปลกใจ ที่ใครๆ ก็มารุม
เป็นกลุ่มๆ คลุมครอบรอบ เพลงพักใจ

แต่งมาเดือนกว่าแล้ว ได้แค่นี้เอง  :'e:56
หัวข้อ: Re: เป็นนักกลอนอย่านอนเปล่า
เริ่มหัวข้อโดย: Rapee ที่ 02/ธ.ค./11 19:40น.




      เมื่อวานนี้ ที่จดจ่อ ต่อบทกลอน
ยามง่วงนอน ตอนเที่ยง คืนหวา หวา....เอ๊ย!  กว่ากว่า :'e:37  (ผมเอง..พี่ภูวดี)
เมื่อได้พิม เสร็จสรรพ จับเวลา
ก็รีบปรี่ ตรงมา หาที่นอน
มาวันนี้ ลองเข้า มาดูใหม่
ว๊า...า..มีคน ตอบกัน ไม่กี่ท่อน
เลยพิมต่อ เพื่อรอ นักบทกลอน
ที่จะร่อน เข้ามา หาดูกัน





งั้นตกลง ตอบกลอน กันสองบท  (รพี)
ได้ทุกรส หวาน เศร้า ซึ้ง เหงา ขัน
ขอจงร่วม บรรเลง  ครื้นเครงพลัน
ให้ครบครัน เนื้อหา พาเพลิดเพลิน

อาจมีแซว  กันหน่อย อย่าพลอยขึ้ง
หรือหน้าบึ้ง งอนง้ำ ทำขวยเขิน
นั่นเป็นเพราะ รักดอก จึงหยอกเิอิน
หากหมางเมิน คนเกี้ยว คงเหี่ยวใจ



จบที่ สระไอ เจ้าค่า  :'e:72


หัวข้อ: Re: เป็นนักกลอนอย่านอนเปล่า
เริ่มหัวข้อโดย: พ่อใหญ่คำแสง ที่ 03/ธ.ค./11 02:43น.


ใครนะใคร ช่างคบคิด ชนิดสร้าง
ห้องที่ว่าง มีคนตรึม ครึ้มสดใส
ล้วนนักกลอน มาสะลอน ออนซอนใจ
คุณระพี ส่งสละไอ ไปอีกคน

ผมก็สน แถมนั่งวน ฝนคำกลอน
ยังไม่นอน ป้อนคำสันต์ ไม่หวั่นไหว
กลอนบทนี้ ยากตรงที่ มีสละไอ
ผมจะไป ได้ยังไง ใครบอกที
 
ขนาดกลอน ที่ลงท้าย สละอุ
ผมยังปุ กรุอักษร นอนไม่ไหว
แต่นี่ท่าน เอามาได้ สละไอ
แล้วใครๆ จะแต่งตรง ลงคำกลอน

วอนท่านคุณ และท่านพี่ ระพีพราว
หากงวดหน้า เร่งฝีเท้า ก้าวพ้นแล้ว
สละไอ อย่าเอามา ส่งตามแนว
ผมพอแล้ว แต่งไม่ได้ ไปไม่เป็น

โอ้ย...เกือบตาย สละไอ ต่อไป...สละเอ็นครับท่าน
หัวข้อ: Re: เป็นนักกลอนอย่านอนเปล่า
เริ่มหัวข้อโดย: เซี๊ยะ(นพดล) ที่ 04/ธ.ค./11 00:22น.
วอนท่านคุณ และท่านพี่ ระพีพราว
หากงวดหน้า เร่งฝีเท้า ก้าวพ้นแล้ว
สละไอ อย่าเอามา ส่งตามแนว
ผมพอแล้ว แต่งไม่ได้ ไปไม่เป็น    (พ่อใหญ่คำแสง)



ใคร่ขอฝาก    ตัวด้วยครับ   กับ "พ่อใหญ่"(คำแสง)

เพราะตรึงใจ   ลีลากลอน   ที่ได้เห็น

แถมทิ้งท้าย   ยังถ่อมตน   แต่งไม่เป็น

คงซ่อนเร้น  เขี้ยวเล็บไว้   ไม่อวดตน



ลงท้ายด้วย  "ตน"  สระ  "อน" (มีด้วยหรือ?) ครับผม
ขออนุญาตต่อกลอนจากกลอน ของ "คุณพ่อคำแสง" เพียงบทเดียวนะครับ แบบว่า "ง่วงนอน" คิดอะไรไม่ออกครับ
ขอกล่าว.. "ราตรีสวัสดิ์" ไปเข้านอนก่อนล่ะกันครับผม รอให้ท่านต่อไปมาต่อกลอนต่อด้วยครับผม ไปละครับ


 :'e:31       :'e:125    :'e:125     :'e:125
หัวข้อ: Re: เป็นนักกลอนอย่านอนเปล่า
เริ่มหัวข้อโดย: ภูวดี ที่ 04/ธ.ค./11 13:02น.
ใคร่ขอฝาก    ตัวด้วยครับ   กับ "พ่อใหญ่"(คำแสง)

เพราะตรึงใจ   ลีลากลอน   ที่ได้เห็น

แถมทิ้งท้าย   ยังถ่อมตน   แต่งไม่เป็น

คงซ่อนเร้น  เขี้ยวเล็บไว้   ไม่อวดตน(จากคุณเซี๊ยะ นพดล)


มีหน้าสาม ตามมา ให้ได้เห็น(ภูวดี)
พอจะเป็น แรงใจ ให้ดั้นด้น
คิดต่อกลอน ย้อนความ ตามทุกคน
ที่ช่วยค้น คิดคำ มาร้อยกรอง

รายล่าสุด น้องคำแสง แถลงถ้อย
ครูใบตอง ก็มาบ่อย ร้อยคำพร้อง
คุณเซี๊ยะต่อ จากคำแสง เป็นทำนอง
ใครอยากลอง เชิญพิมได้ ไม่ต้องเกรง
หัวข้อ: Re: เป็นนักกลอนอย่านอนเปล่า
เริ่มหัวข้อโดย: หมู ที่ 04/ธ.ค./11 18:44น.

ต้องทนอ่านมาหลายวันชักคันแล้ว
โธ่น้องแก้ว ใยจะให้พี่นอนเขลง
เหลือบดูชื่อข้างบนคนกันเอง
เป็นนักเลงกลอนใหญ่หลายคนมา

ต้องออกตัวก่อนว่ายังอ่อนหัด
ไม่สันทัดเหมือนเด็กไร้เดียงสา
ที่เขียนไปก็ตามแต่กลอนจะพา
อย่าเพิ่งหาว่าผมบ้า ก็แล้วกัน

ไปว่ายน้ำเสียหลายวันฉันไม่ว่าง
พอเข้ามาเห็นกลอนวางอย่างสร้างสรรค์
ผมต้องติดตามอ่านอยู่หลายวัน
กำลังมันมาจบที่ “ภูวดี”

ยังมีอีกหลายคนที่แอบซุ่ม
ยังหลบมุมอยู่ตามซอกอย่าคิดหนี
ออกมาช่วยต่อกลอนเสียโดยดี
ถ้าไม่มาจะตามจี้เป็นรายตัว

:'e:73  :'e:73

หัวข้อ: Re: เป็นนักกลอนอย่านอนเปล่า
เริ่มหัวข้อโดย: โชค นรา ที่ 04/ธ.ค./11 22:02น.
ยังมีอีกหลายคนที่แอบซุ่ม
ยังหลบมุมอยู่ตามซอกอย่าคิดหนี
ออกมาช่วยต่อกลอนเสียโดยดี
ถ้าไม่มาจะตามจี้เป็นรายตัว (สมภพ)


อิ อิ อิ ไอ้เรา ก็เท่านั้น (โชค นรา)
อยากสร้างสรรค์  กลอนบ้าง ช่างน่าหัว
ปากกาถือ มือไม่มั่น สั่นระรัว
ด้วยว่ากลัว มั่วคำ ดำน้ำเดิน

พี่สมภพ ชวนว่า มาต่อกลอน
เราก็คอน ปากการ่าย ใจยังเขิน
อายก็อาย สำนวน ล้วนขาด-เกิน
จะเพลิดเพลิน เหมือนใครใคร อย่างไรกัน

อีกหลวงสิทธิ์ น้องเบส ล้วนเก่งกาจ
ระพีวาด ลายอักษร กลอนสวรรค์
ภูวดี มีลีลา มาจำนรร
พ่อใหญ่นั้น น่ารัก ยอดนักกลอน

ก็ขอฝาก เนื้อตัว และหัวใจ
พี่-น้องได้ ฟูมฟัก จักค่อยสอน
ให้กลอนมั่น ให้กลอนดี ให้มีกลอน
ฝากสุนทร วอนกู่ ทุกผู้นาม

หัวข้อ: Re: เป็นนักกลอนอย่านอนเปล่า
เริ่มหัวข้อโดย: ประสิทธิ์ ที่ 04/ธ.ค./11 22:23น.
อ้างถึง
ก็ขอฝาก เนื้อตัว และหัวใจ(พี่โชค)
พี่-น้องได้ ฟูมฟัก จักค่อยสอน
ให้กลอนมั่น ให้กลอนดี ให้มีกลอน
ฝากสุนทร วอนกู่ ทุกผู้นาม

นี่แหละคือ นักกลอน ไม่นอนเปล่า
โดนกระเซ้า ก็ออกมา น่าเกรงขาม
ได้เห็นชื่อ โชคนรา อันลือนาม
ไม่มองข้าม ทัศนา ภาษากลอน

บอกฝากเนื้อ ฝากตัว ยั่วให้หลง
อ่านแล้วคง จะไม่กล้า ไปสั่งสอน
ผมต่างหาก จะขอฝาก เป็นเชิงกลอน
พี่อย่านอน รีบออกมา ว่ากวี
หัวข้อ: Re: เป็นนักกลอนอย่านอนเปล่า
เริ่มหัวข้อโดย: หมู ที่ 04/ธ.ค./11 22:39น.


อาจารย์โชคออกมาว่ากลอนสด
ประสิทธิ์จรดปลายนิ้วจิ้มอักษรศรี
บอกอย่านอนมาต่อกลอนเสียโดยดี
โธ่อย่างนี้จะไปนอนได้อย่างไร

แล้วลุงเริญของฉันไปไหนเล่า
สำนวนแกไม่เบาจะบอกให้
ทั้งคุณปูผู้ชำนาญกวีไทย
อยู่ที่ไหนหลายคนรอขออ่านกลอน

:'e:125

หัวข้อ: Re: เป็นนักกลอนอย่านอนเปล่า
เริ่มหัวข้อโดย: พ่อใหญ่คำแสง ที่ 05/ธ.ค./11 01:05น.
ว่าจะนอน ตอนตีหนึ่ง อยู่แล้วเชียว
เบียร์ขวดเดียว เล่นเอามิด คิดถึงหมอน
เข้ามาต่อ อีกสักหน่อย แล้วค่อยนอน
ต่อให้กลอน เป็นบานพับ งับคามือ....(ฮิฮิ)

พี่สมภพ พังทำนบ สาดอักษร
มาเป็นกลอน ตอนทิ้งท้าย ให้ขยัน
ว่าลุงเริญ เพลินอุรา อยู่ใหนกัน
ตั้งหลายวัน ไม่เข้ามา ว่าเรื่องกลอน

หรือว่าลุง ติดหน้าที่ มีงานเยอะ
มาเสียเถอะ มามานะ จ๊ะ๊จ๊ะจี๋
มาแต่งกลอน ต่อเลยนะ พ่อคนดี
ถึงสิ้นปี แล้วจะมี ของรางวัล

ของรางวัล ที่ว่านี้ ไม่ใช่แปลก
คือกระสอบ ทรายบิ๊กแบ็ก แพ็คใสใส
กองเรียงราย อยู่ดอนเมือง เยอะแยะไป
ชอบใบไหน เชิญยกไป ได้ทุกอัน.......(ฮะฮ่า)


หัวข้อ: Re: เป็นนักกลอนอย่านอนเปล่า
เริ่มหัวข้อโดย: แดง เจดีย์ ที่ 05/ธ.ค./11 01:07น.
ดึกสงัด ลมพัด สาดเป็นสาย
หนาวเพียงกาย ใจอุ่น ละมุนหา
เห็นผองเพือน ประดิษฐ์กลอน ย้อนคืนมา
เจรจา หาวันวาน ยังซ่านใจ

ทั้งประสิทธิ์ สมภพ เคารพรัก
แจ้งประจักษ์ ศักดิ์ศรีื ที่ยิ่งใหญ่
เป็นนักกลอน อย่านอนเปล่า เข้ามาไว
นักกลอนใหม่ อย่างเรา เข้าใจดี

ครูรพี ชมนาด ขาดไม่ได้
เบสเชียงราย ยังคม สมศักดิ์ศรี
อีกลุงเริญ นักกลอนใหญ่ ภูวดี
ทั้งคุณเซี๊ยะ คนดี พี่ก็มา

ผมวันนี้ นอนหนาว เข้าอีสาน
อยู่เชียงคาน ริมโขง หลงชิวหา
พี่สมภพ สะกิด ให้กลับมา
ผมศรัทธรา แต่มือใหม่ อภัยกัน

ดึกคืนนี้ มีสุข ทุกถ้วนหน้า
หากกลับมา วันไหน คงหายฝัน
จะมาร่วม ขบวนการ ทุกคืนวัน
เพลงพักใจ ดอทเน็ตนั้น สวรค์เรา



(http://www.huaydethuaydunk.com/uppic/files/41b7efc11dd56da4.jpg)

(http://www.huaydethuaydunk.com/uppic/files/4e20ef6600c7747a.jpg)






หัวข้อ: Re: เป็นนักกลอนอย่านอนเปล่า
เริ่มหัวข้อโดย: ภูวดี ที่ 07/ธ.ค./11 01:25น.
ดึกคืนนี้ มีสุข ทุกถ้วนหน้า...(คุณปู)
หากกลับมา วันไหน คงหายฝัน
จะมาร่วม ขบวนการ ทุกคืนวัน
เพลงพักใจ ดอทเน็ตนั้น สวรค์เรา

อ่านบทกลอน จากคุณปู ดูตอนดึก
ก็ให้นึก กระหยิ่มใจ คงไม่เหงา
เพราะฝีมือ คุณปูท่าน นั้นไม่เบา
ร่ายกลอนเข้า มาวาง อย่างชำนาญ

ส่วนคำแสง แรงดี ไม่มีถอย
ก็มาบ่อย ตอบถ้อย อย่างฉาดฉาน
พี่สมภพ กลอนเก่งกล้า มาช้านาน
พี่ประสิทธิ์ ก็พื้นฐาน ท่านแน่นอน

เห็นพี่โชค นรา มาอีกท่าน
บทกลอนนั้น จริงใจ ไม่หลอกหลอน
แถมทิ้งท้าย ด้วยคำ อันพร่ำวอน
ฝากสุนทร เรียกกู่ ทุกผู้นาม...(บรรทัดนี้ หยิบมาจากพี่โชค นรา)

น้องใบตอง (ครูRapee) นี่อีกท่าน
ก็มีชั้น เชิงเก่ง น่าเกรงขาม
อีกท่านเซี๊ยะ นพดล คนลือนาม
ก็คอยตาม เสริมต่อ อยู่เรื่อยมา

นักกลอนเก่ง ก็ยังมี อีกหลายท่าน
ช่วยแต้มฝัน แต่งต่อ กันเถิดหนา
นี่ก็ดึก แล้วหนอ ต้องขอลา
ไว้คราวหน้า พบกัน ฝันดีเอย
หัวข้อ: Re: เป็นนักกลอนอย่านอนเปล่า
เริ่มหัวข้อโดย: เซี๊ยะ(นพดล) ที่ 12/ธ.ค./11 07:55น.
นักกลอนเก่ง ก็ยังมี อีกหลายท่าน     ("คุณภูวดี")
ช่วยแต้มฝัน แต่งต่อ กันเถิดหนา
นี่ก็ดึก แล้วหนอ ต้องขอลา
ไว้คราวหน้า พบกัน ฝันดีเอย


**ข้อความเมื่อ: 7 ธันวาคม ค.ศ. 2011, 01:25:28**



เห็นหลายวัน    ผันผ่านมา   วันที่ห้า
ไม่นำพา     หาผู้ใด?    มาเอื้ยนเอ่ย
หรือเพราะว่า  ติดภาระ   จึงละเลย
ครั้นนิ่งเฉย    ไม่ดูเบา   ไม่เข้าที   


จึงขอมา     ร่วมสานต่อ   ก่อคำสวย
อีกทั้งด้วย    ใจยังรัก     อักษรศรี
ทั้งขอบคุณ  ในคำชม   "ภูวดี"
มีไมตรี      กล่าวถึงเรา   เฝ้าแวะเวียน

หรือเป็นว่า    ช่วงนี้    อากาศหนาว
จึงนอนร้าว   หนาวเหน็บ  ไม่อยากเขียน(แต่งกลอน)
ถึงหนาวกาย   ขอจง   อย่าเลิกเพียร
อย่าเพิ่งเอียน   เขียนกลอน   เหมือนก่อนเคย

ใกล้ปีใหม่    แล้วหนอ    ช่างเร็วรี่
ขอให้มี   ความสุข   นะคุณเอ๋ย
ขอให้รวย  อีกด้วย   นะทรายเชย
อย่าละเลย   ทำดี    ย่อมได้ดี


(http://upic.me/i/v7/407223_12074227_4.jpg) (http://upic.me/show/3534125)


หัวข้อ: Re: เป็นนักกลอนอย่านอนเปล่า
เริ่มหัวข้อโดย: โชค นรา ที่ 24/ธ.ค./11 11:50น.
หลายเพลา มานี้ ไม่มีใคร
มาจ้ำจี้ จ้ำไช ให้สุขศรี
มาฝากกลอน ฝากคำ ย้ำวจี
เบื่อเต็มที่ เลยเขียนเอง เพลง ณ กาล

ครึ่งปีแล้ว เพลงพักใจ ได้เดินมา
ปวงประชา พาชื่นสุข สนุกสนาน
มวลพรรคเพลง เครงครื้น ชื่นวันวาน
และอีกนาน เพลงพักใจ ให้รื่นรมย์

มาเถิดมา พวกเรา ชาวรักเพลง
อย่านอนเขรง คว้าฝันไว้ ให้สุขสม
ร่วมกันสร้าง รักษ์เพลงเก่า เร้าภิรมย์
ให้ลูกหลาน ได้ชื่นชม ตลอดกาล ..
หัวข้อ: Re: เป็นนักกลอนอย่านอนเปล่า
เริ่มหัวข้อโดย: ประสิทธิ์ ที่ 27/ธ.ค./11 13:20น.
(http://upic.me/i/oq/r4763.jpg)
เพลงพักใจ อยู่มาได้ ถึงวันนี้
ก็อยู่ที่ เพื่อนทั้งหลาย ช่วยสร้างสรร
นำสาระ สิ่งบันเทิง มาครบครับ
แล้วแบ่งปัน ด้วยน้ำใจ ไม่ลืมคุณ

เราจะเดิน กันต่อไป ไม่หยุดยั้ง
หากเพื่อนยัง ให้แรงใจ ช่วยเกื้อหนุน
หาสาระ สิ่งดีดี มาเพิ่มพูน
ช่วยกันหนุน ให้เวปเรา ก้าวต่อไป
หัวข้อ: Re: เป็นนักกลอนอย่านอนเปล่า
เริ่มหัวข้อโดย: โชค นรา ที่ 28/ธ.ค./11 14:24น.
ให้สัญญา ว่าจะอยู่ คู่เวปนี้
จะกี่เดือน กี่ปี มิหวั่นไหว
จะร่วมสร้าง ร่วมก่อ มิท้อใจ
ขอเพียงกาย กล้าแกร่ง แรงมีแรง

กลัวแต่เพียง โรคภัย ที่ใกล้ตัว
มาทำชั่ว ทำลายจิต ที่เข้มแข็ง
ให้อ่อนเพลีย  อ่อนล้า มาเปลี่ยนแปลง
หากสิ้นแรง คงสิ้นไกล ไร้ฝันเอย ....
หัวข้อ: Re: เป็นนักกลอนอย่านอนเปล่า
เริ่มหัวข้อโดย: ภูฤดี ที่ 21/ม.ค./12 13:53น.
ไม่ได้เห็น ต้องถึือเป็น วาสนา
หากผัสสะนั้นพา..ใจหม่น
ทางอ้างว้างหนาวเย็นเบื้องหน้าโพ้น
อย่างน้อยคง ทรมาน..น้อยกว่าเดิม

ไม่น่าเชื่อครับ เกิดมา ไม่เคยแต่งกลอน นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตหนุ่ม(เหลือน้อย)เลยนะนี่
ประมาณว่ากรีดใจกลายเป็นกลอนหรือไงเนี่ย(อ้วก...)

หมายเหตุ วรรคแรกมาจากคำในนิยายกำลังภายใน ศึกสายเลือด ผลงานของเซียงกัวเตี้ย แปลโดย ว. ณ เมืองลุง
           วรรคที่สาม ได้เค้าโครงจากนิยาย สร้อยสุคันธา ของ มาลา คำจันทร์ครับ
หัวข้อ: Re: เป็นนักกลอนอย่านอนเปล่า
เริ่มหัวข้อโดย: ประสิทธิ์ ที่ 17/ก.พ./12 09:18น.
อ้างถึง
ไม่น่าเชื่อครับ เกิดมา ไม่เคยแต่งกลอน นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตหนุ่ม(เหลือน้อย)เลยนะนี่
ประมาณว่ากรีดใจกลายเป็นกลอนหรือไงเนี่ย(อ้วก...)

เขียนเองอ้วกเองหรือน้องเจ  :'e:56
เขียนไปเรื่อยๆจะเก่งเองล่ะ ผมก็ไม่ได้เขียนนานแล้ว ไม่ค่อยมีเวลาเขียนอยากให้เพื่อนๆมาเขียนกันมากขึ้นนะ
หัวข้อ: Re: เป็นนักกลอนอย่านอนเปล่า
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำตาลขม ที่ 18/พ.ค./12 20:01น.
ให้สัญญา ว่าจะอยู่ คู่เวปนี้
จะกี่เดือน กี่ปี มิหวั่นไหว
จะร่วมสร้าง ร่วมก่อ มิท้อใจ
ขอเพียงกาย กล้าแกร่ง แรงมีแรง

กลัวแต่เพียง โรคภัย ที่ใกล้ตัว
มาทำชั่ว ทำลายจิต ที่เข้มแข็ง
ให้อ่อนเพลีย  อ่อนล้า มาเปลี่ยนแปลง
หากสิ้นแรง คงสิ้นไกล ไร้ฝันเอย ....

จะแต่งต่อซะหน่อยลงเอย... ซะแล้ว^_^
หัวข้อ: Re: เป็นนักกลอนอย่านอนเปล่า
เริ่มหัวข้อโดย: น้องเบส เชียงราย ที่ 19/พ.ค./12 22:59น.


มาเถอะมา พี่น้อง  ร่วมแต่งแต้ม
เชิิญร่วมแย้ม แก่นความคิด  มิตรสหาย
ความผิดพลาด อาจะมี  โปรดผ่อนคลาย
เราทั้งหลาย  มาร่วมสร้าง  ทางจีรัง
   
จะทิฐิ กันไป ทำไมเล่า
ก็คนเรา เกิดและตาย ได้เพียงครั้ง
มัวมึนเมา  ริษยา พาชิงชัง
จะพลาดพลั้ง เพราะเพียงคิด  มิตร-ศัตรู

จะเดินดิน  กินอะไร  ไม่สนหรอก
มีรถนอก   ขับขี่   มีบ้านหรู
สิ้นสุดท้าย  เหลืออะไร  ไว้ให้ดู
สิ่งคงอยู่  กองขี้เท่า  เขาเผาไฟ

หัวข้อ: Re: เป็นนักกลอนอย่านอนเปล่า
เริ่มหัวข้อโดย: ลุงกบ ที่ 19/พ.ค./12 23:04น.
ตุ๊เจ้าเบส สาธุ  :'e:92 แก่นธรรมโดยแท้
หัวข้อ: Re: เป็นนักกลอนอย่านอนเปล่า
เริ่มหัวข้อโดย: ภูฤดี ที่ 01/มิ.ย./12 20:06น.

...แล้วสอนว่าอย่าไว้ใจมนุษย์
มันแสนสุดลึกล้ำเหลือกำหนด
ถึงเถาวัลย์พันเกี่ยวที่เลี้ยวลด
ก็ไม่คดเหมือนหนึ่งใน น้ำใจบัง.. :'e:7  :'e:7 :'e:7
หัวข้อ: Re: เป็นนักกลอนอย่านอนเปล่า
เริ่มหัวข้อโดย: ภูฤดี ที่ 09/มิ.ย./12 00:36น.
พูดตรง ฟังแล้วตรอมใจตาย

พูดฟังสบาย ต้องพูดตอแหล ???
หัวข้อ: Re: เป็นนักกลอนอย่านอนเปล่า
เริ่มหัวข้อโดย: กิจ ที่ 09/มิ.ย./12 04:20น.
แวะมาอ่านทั้ง 4 หน้าแล้ว
เด็ด ๆ ทั้งนั้น
เขาว่ากันว่า เมืองใดข้าวยากหมากแพง
เศรษฐกิจขัดสน โจรขโมยเยอะจะมีนักกวีเกิดมาก
เอ หรือจะจริง
อิ๊ อิ๊
หัวข้อ: Re: เป็นนักกลอนอย่านอนเปล่า
เริ่มหัวข้อโดย: ภูวดี ที่ 15/ก.ค./12 23:59น.
พูดตรง ฟังแล้วตรอมใจตาย

พูดฟังสบาย ต้องพูดตอแหล ???
พูดตรง ฟังแล้วตรอมใจตาย

พูดฟังสบาย ต้องพูดตอแหล (ยกมาจากคุณเจ เหน่งบา)
พูดตรง สาวเจ้า ไม่เหลียวแล
กลับหลงกล คนตอแหล ว่าพูดดี
เขาโกหก เพื่อสิ่งใด ในตัวเจ้า
ไปเชื่อเขา หาว่าเรา พูดเซ่าซี้
ที่เฝ้าเตือน เฝ้าบอก อยู่ทั้งปี
เพราะหวังดี ดอกหนา ใช่หาความ
หัวข้อ: Re: เป็นนักกลอนอย่านอนเปล่า
เริ่มหัวข้อโดย: ภูฤดี ที่ 16/ก.ค./12 21:21น.
เล่าลือกันว่า มีพระอภัยมณีฉบับหนึ่ง ใจความสำคัญไม่เหมือนกับฉบับใดที่เคยตีพิมพ์มา
คือ..โยคีในฉบับนี้ อ้วน ครับ ไม่น่าเชื่อ
เห็นได้จากบทกลอนที่นำมาลงให้อ่าน ต่อไปนี้..

...เสียงระฆังหง่างเหง่งวังเวงแว่ว
สะดุ้งแล้วเหลียวแลชะแง้หา
เห็นโยคีขี่รุ้งพุงออกมา
ประคองพาขึ้นไปจนบนบรรพต..

 :'e:39 :'e:39 :'e:39 :'e:39

ข้อมูลจากนิยาย ชาวเขื่อน ของคุณมนันยาครับ  :'e:92
หัวข้อ: Re: เป็นนักกลอนอย่านอนเปล่า
เริ่มหัวข้อโดย: ภูวดี ที่ 16/ก.ค./12 21:50น.
ท่าทางเล่มนั้นน่าจะพิมผิดนะครั๊บ บทต่อไปละครั๊บ
จะผิดอีกหรือเปล่า :'e:37

แล้วสอนว่าอย่าไว้ใจพวกตุ๊ด
มือไวสุดแกว่งไกวไร้กำหนด
เห็นอะไรเป็นแง่ง มันคลำ โม๊ดดด
ถึงจะคดยังงัยมันก็คลำ
หัวข้อ: Re: เป็นนักกลอนอย่านอนเปล่า
เริ่มหัวข้อโดย: แม็ท ที่ 23/ส.ค./12 17:37น.
แล้วสอนว่าอย่าไว้ใจพวกตุ๊ด (ภูวดี)
มือไวสุดแกว่งไกวไร้กำหนด
เห็นอะไรเป็นแง่ง มันคลำ โม๊ดดด
ถึงจะคดยังงัยมันก็คลำ


ท่าน 'ภูวดี' ทิ้งท้าย ให้ขบคิด
แง่งเลยติด ที่คอ ก็..ขำขำ
ท่านเล่นลง ทิ้งไว้ สะ-หระ-อำ
นั่งหาคำ ที่จะต่อ เลยพอดี

เข้ามาเจอ เป็นนักกลอน อย่านอนเปล่า
เข้ามาเล่า แต่งกันมา อย่าได้หนี
เห็นบทกลอน ที่เรียงร้อย ถ้อยวจี
ล้วนแต่มี ระดับชั้น ขั้นอาจารย์

เพลงพักใจ เหมือนแหล่งพัก พำนักจิต
มวลหมู่มิตร มากน้ำใจ ให้ลูกหลาน
เป็นผู้ให้ เหมือนหนึ่ง ในตำนาน
ช่วยสืบสาน อนุรักษ์ และสืบไป

เสียงเพลงเก่า เล่าภูมิหลัง เมื่อครั้งเด็ก
โลกใบเล็ก ได้ย้อนคืน อย่างสดใส
การแบ่งปัน ในสังคม โลกออนไลน์
เชิญแวะมา 'เพลงพักใจ' เพื่อ..ผ่อนคลาย
หัวข้อ: Re: เป็นนักกลอนอย่านอนเปล่า
เริ่มหัวข้อโดย: คิ้ว คารวะ ที่ 23/ส.ค./12 22:00น.
    ขอส่งเสริม เติมกลอน สุนทรถ้อย
จากผู้น้อย น้องใหม่ ให้ความหมาย
ดีใจนัก "เพลงพักใจ" ให้ประกาย
ช่วยส่องฉาย ภาพความหลัง ครั้งก่อนมา   

  ขอขอบคุณ ผู้สร้างเว็บ เก็บจารึก
ได้บันทึก หมื่นพันเพลง บรรเลงค่า 
แม้วันคืน เปลี่ยนไป ไม่กลับมา
ยังรักษา หาฟังได้ ไม่หายลับ

   ทั้งขอบคุณ สมาชิก ช่วยพลิกฟื้น
ให้หวนคืน ชื่นโปรด โสตสดับ
ด้วยน้ำใจ ให้เพลงมา คณานับ
ขอประทับ คำนับค้อม น้อมขอบคุณ.....
หัวข้อ: Re: เป็นนักกลอนอย่านอนเปล่า
เริ่มหัวข้อโดย: ภูฤดี ที่ 27/ส.ค./12 18:16น.
ทำดีเห็นชาติหน้า  เสนอหน้าเห็นชาตินี้

 :'e:106 :'e:106
หัวข้อ: Re: เป็นนักกลอนอย่านอนเปล่า
เริ่มหัวข้อโดย: รุ่นโบราณ ที่ 07/พ.ย./12 00:14น.
...อย่าใจน้อยน้อยใจในวาสนา
เสนอหน้าทำไมให้ขบขัน
ทำดีไปใช่สูญคนรู้กัน
ดีชั่วนั้นในใจใช่ต้องโชว์
ทำดีไปใจสุขเย็นทุกอย่าง
ทำชั่วกลางใจขัดดังมัดโซ่
ดีเป็นสุขทำไปไม่วางโต
ชั่วอักโขไม่ช้าสิ้นท่าเอย.
 :'e:89
หัวข้อ: Re: เป็นนักกลอนอย่านอนเปล่า
เริ่มหัวข้อโดย: อเล็กส์ ณ อุบล ที่ 07/พ.ย./12 21:44น.
มามอบตัว  ขอนบนอบ  หมอบกราบไหว้
ด้วยหัวใจ  รักกลอนไทย  ให้หวงแหน
แต่งไม่เก่ง  บรรเลงกลอน  ต้องคลอนแคลน
เพราะเป็นแฟน  สุนทรภู่  ผู้ปรีชา
     ชื่ออเล็กส์  ณ อุบล  คนไม่หล่อ
หน้าตาพอ  จีบเล่น  นักศึกษา
อายุนั้น  ห้าสิบสาม   มีกำลัง
มีความหวัง  อยู่ได้อีก  แปดสิบปี
     :'e:92
หัวข้อ: Re: เป็นนักกลอนอย่านอนเปล่า
เริ่มหัวข้อโดย: รุ่นโบราณ ที่ 11/พ.ย./12 23:59น.
..มามอบตัว ดีแล้ว น้องแก้วเอ๋ย
ขืนทำเฉย วิสามัญ นั้นโดนแน่
ยื่นประกัน เข้ามา อย่าเชือนแช
สุดแล้วแต่ ท่านไซร้ ให้ประกัน
หกวรรคแรก ดูดี ไร้ที่ติ
วรรคเจ็ดแปด นั่นสิ ไยแปรผัน
สัมผัสหาย หลบเร้น ไม่เห็นมัน
เล่นแบบนั้น ไม่ได้ ใช่ก่อกวน
ขอลองแก้ ให้ใหม่ ใช่อวดเก่ง
เพียงแต่เกรง นาน ไปไม่ถี่ถ้วน
ฉันทลักษณ์ ลักลั่น ไม่เป็นขบวน
ใครเห็นชวน งุนงง จนสงกา
ชื่ออเล็กส์ ณอุบล คนไม่หล่อ
หน้าตาพอ จีบเล่น นักศึกษา
อายุห้า สิบสาม ตามตำรา
ขอต่ออา ยุไป แปดสิบปี
แก้พอให้ ต้องตาม ตำราท่าน
ควรตรวจทาน สัมผัส ให้ถ้วนถี่
กลอนเป็นกลอน ได้ด้วยคำ สัมผัสมี
ตำราชี้ ชัดให้ ใส่ใจเอย
:'e:31  ขออภัยน้องอเล็กส์ด้วยครับ  เห็นน้องมีแววว่าจะเขียนกลอนได้ดี  แต่สองวรรคท้ายกลับแหวกแนวออกไป  เลยเข้ามาหยอกล้อบ้างคงไม่ถือโทษ  เพียงอยากให้ได้สนุกกับโคลงฉันท์กาพย์กลอนร่วมกันครับ

หัวข้อ: Re: เป็นนักกลอนอย่านอนเปล่า
เริ่มหัวข้อโดย: ลุงชัย นรา ที่ 24/พ.ย./12 00:35น.
....ขอเข้ามาร่วมแจมด้วยคน นะครับลุงหมู เป็นกลอนที่แต่งไว้นานแล้ว ขอนำมารีไซเคิลใหม่ ชอบมากที่มีห้องนี้ จะได้เคาะสนิมให้ร่วงพรู

(http://image.ohozaa.com/i/f75/dEH5em.jpg)


 
สิ้นตะวันลับกรอบของขอบฟ้า
จินตนาพร่าหม่นข้ามพ้นฝัน
มิเหลือรอยจารึกนึกผูกพัน
เหมือนบ่มวันเวลาให้ชาชิน
เปรียบบันทึกหมื่นพันของวันวาร
อันตรธานเงียบงันต่อกันสิ้น
ความคิดถึงวางสยบลงซบดิน
หรือโบยบินหายวับจนลับตา
หวังทุกเช้า..เหงาทุกคืน..ที่ตื่นอยู่
ไกลสุดกู่เคยเพรียกร่ำเรียกหา
ดั่งแนบอยู่ในหว่างที่ค้างคา
ผลาญวิญญาบางส่วนให้ด่วนดับ
 การ"จากเป็น"เว้นห่วงในช่วงท้าย
เหมือน"จากตาย"พรากขวัญไร้วันกลับ
คร่ำครวญถึงสิ่งดี...อันลี้ลับ
มันหายวับเหมือนภาพลวง...ในดวงใจ. . . . . .. . . .



. . . .มีใครก็ไม่ทราบ เคยเอ่ยมานานนักหนา ว่า..คราใดที่มีความผิดหวัง เกิดปัญหารุมเร้าเข้ามาในชีวิต อกหัก ห่างบ้าน ห่างคนรัก เหงา เศร้า ซึม แฮ้งค์ อย่ามองดวงตะวัน ยามลับฟ้าเพียงเดียวดาย อาจจะทำให้ น้ำไหลออกตา โดยไม่รู้ตัว ซึ่งในกรณีนี้เคยเกิดขึ้นกับตัวเองมาแล้วในอดีต จึงทำให้เกิดบทกลอน ที่กลั่นมาจากเบื้องลึกของความรู้สึกนี้ขึ้นมา ขอบคุณ บ้านเพลงพักใจ ที่ทำให้ได้ย้อนอดีต ความทรงจำอีกครั้ง ขอบคุณครับลุงหมู ที่ได้ก่อม็อบขึ้นมา ในอารมณ์อีกครั้ง



หัวข้อ: Re: เป็นนักกลอนอย่านอนเปล่า
เริ่มหัวข้อโดย: กิตติศักดิ์ วังผา ที่ 04/ธ.ค./12 06:58น.
(http://hot.ohozaa.com/uploads/789f91874a0babde49eda37a8bf26778.jpg)

ชีวิตเรา ก้าวเดิน ไปข้างหน้า
ถึงแม้นว่า จะเดียวดาย และเปลี่ยวเหงา
ชีวิตนี้ มันเป็น ของๆเรา
ใช่ใครเขา มากำหนด หรือกฏเกณฑ์

กิตติ  วังผา  
หัวข้อ: Re: เป็นนักกลอนอย่านอนเปล่า
เริ่มหัวข้อโดย: หนุ่มบางแค ที่ 25/ก.พ./13 17:09น.
สักวาเพลงพักใจถูกใจนัก
 ได้รู้จักเพื่อนใหม่หลายคนเหวย  
หากวันใดไม่ได้เข้าเศร้าจังเลย  
โธ่เน็ทเอ๋ยเน็ทเราเต่าจริงจริง  
หนุ่มบางแคแพ้รักโดนหักอก
 กินบัวบกก็ไม่หายคลายช้ำได้  
พลันได้ฟังเพลงพักใจแล้วผ่อนคลาย
 อกก็หายชอกช้ำระกำเอย....
หัวข้อ: Re: เป็นนักกลอนอย่านอนเปล่า
เริ่มหัวข้อโดย: แอ๊ด ลำพูน ที่ 06/ก.ย./13 17:52น.
คงเป็นบุญหนุนนำเคยทำไว้
พาคนไร้ทางพึ่งมาถึงที่
แหล่งรวมผู้ผ่านมาบรรดามี
ให้น้องพี่บรรเลง "เพลงพักใจ"
หัวข้อ: Re: เป็นนักกลอนอย่านอนเปล่า
เริ่มหัวข้อโดย: รัตน กทม ที่ 14/พ.ค./14 00:35น.
       ชีวิตอยู่ก็เหมือนไร้ซึ่งความหมาย
ชีวิตเหมือนตายไปแล้วทั้งเป็น
ไร้ซึ่งความรัก... รักใครไม่เป็น
เหมือนคนเลือดเย็น... ไม่เห็นใจใคร
       เกิดมาเหมือนคนโดนสาปซ้ำร้าย
ชีวิตวอดวายสิ้นความฝันใฝ่
ดังเดินอยู่บนขอบเหวหัวใจ
จะทำเช่นไร... รักใครไม่เป็น
       เจอะแต่เคราะห์ซ้ำระกำอกร้าว
ผ่านเรื่องราวทุกข์แสนลำเค็ญ
ดั่งนรกเผาใจทั้งเป็น
อยากหยุดซ่อนเร้นหัวใจและวิญญาณ
       เมื่อเจอความรักอันมีค่า
สูงเกินกว่าจะไขว่คว้าได้
อนาถตัวเองเหลือเกินหัวใจ
อยากจะรักใคร... สักคน
หัวข้อ: Re: เป็นนักกลอนอย่านอนเปล่า
เริ่มหัวข้อโดย: รัตน กทม ที่ 16/พ.ค./14 06:37น.
     หรีดหริ่งเรไรระงมร้อง
กึกก้องทั่วไปในไพรสัณฑ์
โกลิกากู่ร้องเรียกชู้มัน
เพ็งจันทร์แจ่มฟ้ากลางอัมพร
     เก้ง...กวาง...เนื้อทรายเยาะย่าง
บ้างลิ้มน้ำค้างยอดหญ้า
บ้างขุดโป่งดินกินโกลา
หรรษาเกิดในพงไพร
     เสียงน้ำซ่าซ่า...เซาะโขดหิน
เย็นเหยียบเข้าถึงหทัยเหงา
ตัวเรานั้งดูแต่เพียงเงา
เร้าโรจน์ป่าเขาลำเนาไพร
หัวข้อ: Re: เป็นนักกลอนอย่านอนเปล่า
เริ่มหัวข้อโดย: ลูกศร ที่ 27/พ.ย./14 12:44น.
เด็กๆเคยแต่งส่งครู

ปัจจุบันห่างหายไปนาน ให้กลับไปแต่งคงยาก

ได้แต่เข้ามาอ่านหวังว่าสักวันจะกลับไปแต่งเองได้มั่ง

ปล.โดยส่วนตัวชื่นชอบกาพย์ยานี11 และกลอน8
หัวข้อ: Re: เป็นนักกลอนอย่านอนเปล่า
เริ่มหัวข้อโดย: อ้น อภิรักษ์ ที่ 07/ธ.ค./14 15:44น.
ชอบครับแต่แต่งแบบนี้ไม่ได้เลย ไม่มีความสามารถจริงๆ
หัวข้อ: Re: เป็นนักกลอนอย่านอนเปล่า
เริ่มหัวข้อโดย: ธนู ที่ 09/ม.ค./15 17:43น.
     สมาชิกใหม่ ขอรายงาน ผ่านอักษร
เป็นบทกลอน กล่าวนำ คำปราศรัย
ได้พบเพื่อน พี่พี่ มีหลายวัย
ผมสุขใจ เวปดีดี มีครับครัน
     ทั้งบทเพลง ไพเราะ เสนาะหู
ทั้งกลอนดู มากมี ที่สร้างสรรค์
ทั้งสาระ นานา ค่าอนันต์
ท่านร่วมกัน สร้างไว้ ให้ชมฟัง
     หวังว่าจะ ไม่หันหลัง รังเกียจผม
ขอกราบก้ม ด้วยใจ ให้ฝากฝัง
ไม่รู้ท่าน ได้ยินเสียง สำเนียงยัง
ขอตะโกน ดังดัง สวัสดี
 :'e:77

สวัสดีครับทุกท่านมาเจอพวกท่านต่อกลอนกันสนุกสนานยังไงผมขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยคนนะครับ