-
ความเชื่อ คำสอนในศาสนา ปรัชญาในการดำรงชีวิต แม้กระทั่งพิธีกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับศาสนา เข้ามาเกี่ยวข้องในชีวิตประจำวันของพวกเรา
ตั้งแต่เกิดยันตาย เข้าไปแทรกซึมอยู่ในสังคมทุกระบบ ทุกชนชั้น แม้แต่วงการเพลงก็ไม่มีการยกเว้น ไม่ว่าจะศาสนาไหน ก็จะมีปรัชญาคำสอนใน
ศาสนานั้นๆ แทรกไว้เป็นคติ เป็นความเชื่ออยู่ด้วยเสมอ มีคำกล่าวว่า เมื่อมีทุกข์ คนมักหันไปพึ่งคำสอนในศาสนาเพื่อบรรเทาทุกข์ ความร้อนรนในจิตใจ
ต้องยอมรับว่าแรงบรรดาลใจของนักประพันธ์เพลง ก็มีความทุกข์เป็นตัวผลักดันให้สื่อฯ สิ่งนี้ออกมาในบทเพลง ผิดหวังก็เป็นทุกข์ เช่น เพลงผิดทางรัก
รักพี่มีบาป, รักต้องห้าม ฯลฯ หรือเป็นเพลงสื่อฯ ออกมาว่าผู้ร้องอยู่ในอารมณ์รักที่ไม่แน่นอนกับความสมหวัง ก็เป็นทุกข์ เช่น อีแมะ (อิสลาม) พระอินทร์เจ้าขา, ยมบาลเจ้าขา เป็นต้น
จะมีบ้างที่สื่อฯ ออกมาเป็นคำสอนโดยตรงแสดงความศรัทธา หรือกระตุ้นให้ผู้ฟังได้ตรึกได้คิดถึงคำสอนในศาสนา หรือเรื่องบาป บุญ คุณ โทษ
ตามวัตถุประสงค์ที่นักประพันธ์ต้องการสื่อฯ นั้นเอง เช่น เพลงพระรัตนตรัย, องคุลีมาล, หนี้กรรม, ทำบุญด้วยอะไร เป็นต้น
ทั้งนี้คำว่าความเชื่อนั้น ก็จะรวมไปถึงเรื่องเทพ ภูต ผี ปีศาจ ซึ่งเรื่องเหล่านี้ทางพระท่านถือว่าเป็นหนึ่งในทิฏฐิ คือ เชื่อว่า โลกนี้มี โลกหน้ามีนั่นเอง
แต่ก็ไม่ต้องไปวิจารณ์ละเอียดอะไรกันอย่างนั้น เราก็แค่อยากจะดู อยากจะรวบรวมว่า ครูเพลงในยุคก่อน ท่านแทรกปรัชญาทางศาสนาต่างๆ เข้าไว้ใน
บทเพลงอย่างไร จึงทำบทเพลงสื่อฯ ออกมาได้ไพเราะทั้งเนื้อร้องและทำนองเพลง
ดังนั้น ผมขอพื้นที่กระทู้ไว้นิดนึงครับ เพื่อศึกษาลีลาการแทรกคำสอน ความเชื่อลงไปในบทเพลงของครูเพล่งยุคเก่า
เริ่มต้นด้วยบทไหว้ครูก่อนครับ
https://www.youtube.com/v/pRKDT5ATUmA?hl&autoplay=0
พระรัตนตรัย - สุเทพ วงศ์กำแหง
คำร้อง - ชาลี อินทรวิจิตร
ทำนอง - สมาน กาญจนผลิน
พุทธัง สะระณัง คัจฉามิฯ |
ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิฯ |
สังฆัง สะระณัง คัจฉามิฯ |
| องค์ใดพระสัมพุท | -ธ วิสุทธิ์ ผุดผ่องใส |
| ตัดมูลกิเลสไกล | หลีกละในสิ่งเริงรมย์ |
| ธรรมใด ท่านตรัสแล้ว | เหมือนดวงแก้ว น่าชื่นชม |
| สัตว์โลก ที่โศรกตรม | ดับระทม ด้วยพระธรรม |
| ฮา...ฮา...ฮา...ฮา | ฮา... ฮา... ฮา... ฮา |
| ธรรมนั้น พวกท่านทั้งหลาย | จงเปล่งวาจา ว่า สาธุสะ (สาธุ) |
| ภาวนา ดุจสรณะ | คือพระ รัตนตรัย |
-
องคุลีมาลสำนึกบาป - โรม ศรีธรรมราชอง..คุลี..มาล อง..คุลี..มาล
อง..คุลี..มาล
พุทธัง สรณัง คัจฉามิ
ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ
สังฆัง สรณัง คัจฉามิ
องคุลีมาล เหี้ยมหาญดังพรานในป่า ไร้ศีลธรรมไร้ความเมตตา
เกิดมาแห่งฤกษ์ดาวโจร
ใจทมิฬสิ้นอาย มุ่งหมายแม่และมิตรคิดโค่น
เว้นบุญหนุนบาปหยาบโลน สมญาว่าโจรองคุลีมาล
พระสัมมาสัมพุทธกล่าวพจน์ ให้งดเป็นพาล
แสดงธรรมวิจารณ์ ให้คุลีมาลสำนึกบาปกลับใจ
เตือนสาธุชนฝึกฝนตั้งต้นกันใหม่
ใครเป็นโจรจงโน้มโอนกลับใจ เช่นชีวิตใหม่องคุลีมาล
ดนตรี... พระสัมมาสัมพุทธกล่าวพจน์ ให้งดเป็นพาล
แสดงธรรมวิจารณ์ ให้คุลีมาลสำนึกบาปกลับใจ
เตือนสาธุชนฝึกฝนตั้งต้นกันใหม่
ใครเป็นโจรจงโน้มโอนกลับใจ เช่นชีวิตใหม่องคุลีมาล
องคุลีมาล องคุลีมาล อง..คุลี..มาล
-
องคุลีมาลย์ - สุมิตร สัจจะเทพพุทธัง สรณัง คัจฉามิ
ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ
สังฆัง สรณัง คัจฉามิ
(บทสรรเสริญภาษาฮินดี)
หยุดก่อกรรม ตั้งมั่นในสัมพุทธ
จงหยุดก่อเวรหันมาทำคุณ
เกื้อหนุนทำบุญอยู่ร่ำไป
***
เกิดเป็นคน จนมี ผู้ดีหรือเลวก็ตาม
เคยได้ก่อกรรมติดตามน้อมนำชาตินี้
เป็นสิ่งบอกชีวีว่าเคยมีกรรม
ดูอย่างขุนโจรตามรอยพุทธพจน์
ยึดกฎบัญญัตินึกพระธรรมคุณ
เกื้อหนุนทำคุณอยู่ร่ำไป โห่..โฮ
(ดนตรี)
หยุดก่อนปวงชนจงพ้นบ่วงมารชำระจิตใจ
ทุกข์ผ่อนคลายห่างไกลโลภหลงโกรธเคือง
หลงโกรธเคือง โห่ โฮ ........
กรรมดีที่ใครสร้างนั้นผลจะรอตอบแทน
สืบเนื่องต่อกรรมชั่วนาตาปี
***
เกิดเป็นคน จนมี ผู้ดีหรือเลวก็ตาม
เคยได้ก่อกรรมติดตามน้อมนำชาตินี้
เป็นสิ่งบอกชีวีว่าเคยมีกรรม
ดูอย่างขุนโจรตามรอยพุทธพจน์
ยึดกฎบัญญัตินึกพระธรรมคุณ
เกื้อหนุนทำคุณอยู่ร่ำไป โห่..โฮ
(ดนตรี)
หยุดก่อนปวงชนจงพ้นบ่วงมารชำระจิตใจ
ทุกข์ผ่อนคลายห่างไกลโลภหลงโกรธเคือง
หลงโกรธเคือง โห่ โฮ ........
กรรมดีที่ใครสร้างนั้นผลจะรอตอบแทน
สืบเนื่องต่อกรรมชั่วนาตาปี
สาธุชนจะมีหรือจนก็ตาม
ถ้าก่อกรรมทำดีเหมือนดั่งว่า
ก็จะพาชีวิตพ้นหมู่พาล
ดูอย่างขุนโจรองคุลีมาลย์
ล้างผลาญชีวิตเหมือนผักปลา
ยังน้อมรับฟังคำพุทธองค์.
-
(http://upic.me/i/sj/9ca88b2abeba7d61.jpg)
http://www.divshare.com/flash/audio_embed?data=YTo2OntzOjU6ImFwaUlkIjtzOjE6IjQiO3M6NjoiZmlsZUlkIjtzOjg6IjE2NjI0MDExIjtzOjQ6ImNvZGUiO3M6MTI6IjE2NjI0MDExLTY3NiI7czo2OiJ1c2VySWQiO3M6NzoiMjUwOTc4NSI7czoxMjoiZXh0ZXJuYWxDYWxsIjtpOjE7czo0OiJ0aW1lIjtpOjEzMjcyMzU1NDk7fQ==&autoplay=default
องคุลีมาล - สุเทพ วงศ์กำแหง
พระหยุดก่อน พระหยุดก่อน
พระจะรีบจรไปไหน
เราหยุดแล้ว เธอซิไยไม่ยอมหยุดรุดเข่นฆ่า
พระหยุดก่อน พระหยุดก่อน ไยกล่าวสุนทรมุสา
เรามีสัจจธรรมวาจา ฟังเราว่าเถิดองคุลีมาล
ผู้ใดมุ่งเอาชีวิตสัตว์ หมายกำจัดชีวิตเป็นประมาณ
ผู้นั้นได้ชื่อกล่าวขาน เป็นคนพาลไม่หยุดยั้ง
พระหยุดก่อน พระหยุดก่อน
สงสัยคำที่พระสอนสั่ง
ผู้ใดยึดถือ ได้ชื่อว่ายังไม่หยุดยั้งลองคิดดู
สา...ธุ
สัมมาสัมพุทโธ ภควา .... สัมมาสัมพุทโธ ภควา
สัตถา เทวมนุสสานัง ... สัตถา เทวมนุสสานัง
สัมมาสัมพุทโธ ภควา
สัตถา เทวมนุสสานัง ...
นักร้องอีกท่านหนึ่งคาดว่า น่าจะเป็นมีศักดิ์ นาครัตน์
-
(http://upic.me/i/eh/12689906591268991864l.jpg)
http://www.divshare.com/flash/audio_embed?data=YTo2OntzOjU6ImFwaUlkIjtzOjE6IjQiO3M6NjoiZmlsZUlkIjtzOjg6IjE2NjI0MDE1IjtzOjQ6ImNvZGUiO3M6MTI6IjE2NjI0MDE1LTEzOSI7czo2OiJ1c2VySWQiO3M6NzoiMjUwOTc4NSI7czoxMjoiZXh0ZXJuYWxDYWxsIjtpOjE7czo0OiJ0aW1lIjtpOjEzMjcyMzU4MjY7fQ==&autoplay=default
องคุลีมาลย์ - เพลิน พรหมแดน
อดีตยาวนาน พุทธกาลมีเรื่องร้ายเกิด
ชีวิตหนึ่งกำเนิดใต้ฤกษ์ดาวโจรโหรทายว่าร้าย
บิดรมารดาสรรหาชื่อเปลี่ยนความหมาย
ตั้งชื่อบุตรชายว่าอหิงสกะกุมาร
อหิงสกะแปลว่าผู้ไม่เบียดเบียน
กุมารเล่าเรียนรอบรู้เร็วพลันแตกฉาน
รู้ศิลปะวิชาแทบทุกประการ
ศิษย์ร่วมอาจารย์เกิดอิจฉาหาเรื่องใส่ร้าย
ว่าอหิงสกะลูกศิษย์จะคิดล้างครู
อาจารย์ตรองดูจึงคิดวางกลอุบาย
ให้อหิงสกะไปหานิ้วมือหญิงชาย
มาร้อยมาลัยครบพันได้จะให้วิชา
จึงเกิดเรื่องโจรองคุลีมาลย์อันแสนเหี้ยมโหด
มืดโลภหลงโกรธเที่ยวไล่ฆ่าฟันคนตายหนักหนา
ฆ่าคนตายเกลื่อนลืมแม้กระทั่งมารดา
ที่เที่ยวตามหาเพราะความรักลูกห่วงใย
***
มหาบุรุษพุทธองค์ทรงรู้โดยญาณ
องคุลีมาลย์วันนี้จะก่อกรรมร้าย
คร่าชีวิตแม่ผู้ก่อกำเนิดกาย
จึงเสด็จไปก่อนที่คมดาบจะบั่นมารดา
ทรงตรัสเทศน์โปรดให้เห็นโทษแห่งเวรกรรม
ที่พลาดถลำเที่ยวฆ่าฟันคนล้มหนักหนา
จนยอมทิ้งดาบก้มกราบบาทศาสดา
เอาศาสนาชุบวิญญาผ่านพ้นเวรกรรม
ดนตรี (ซ้ำ ***)
-
(http://upic.me/i/nw/reply953111_436.jpg)
แหล่องคุลีมาล - ยอดรัก สลักใจ
| ฟังผมแหล่เรื่องราวของชาวพุทธ | ที่เป็นจุดเริ่มต้นคนเลื่อมใส |
| เป็นชีวิตโลดโผนของโจรไพร | ที่เกรียงไกรดังโด่งองคุลีมาล |
| อยู่กลางป่าฆ่าคนปล้นชีวิต | ไม่รู้ผิดรู้ถูกฆ่าลูกหลาน |
| เป็นโจรไพรไล่ฆ่ามาช้านาน | เพราะต้องการอยากเป็นใหญ่ในโลกา |
| ถูกคนพาลเสริมส่งจนหลงผิด | ผลาญชีวิตก่อกรรมทำบาปหนา |
| เพราะเพื่อนร่วมสำนักตักศิลา | คิดอิจฉาขับไล่ไปเป็นโจร |
| เที่ยวฆ่าคนเยี่ยงสัตว์แล้วตัดนิ้ว | ฆ่าเรียงคิวเหี้ยมโหดอย่างโลดโผน |
| เก้าสิบเก้านิ้วน้อยห้อยคอตน | ต้องฆ่าคนอย่างน้อยถึงร้อยราย |
| เหลือเพียงหนึ่งนิ้วน้อยครบร้อยนิ้ว | เอิง...เอย |
| เหลือเพียงหนึ่งนิ้วน้อยครบร้อยนิ้ว | เหมือนคนหิวชั่วโฉดไม่โหดหาย |
| ยังฆ่าไม่ถึงอีกหนึ่งราย | นิ้วสุดท้ายเหลือบแลเห็นแม่ตน |
| จึงเงื้อดาบมาแต่ไกลด้วยใจห้าว | พระพุทธเจ้าเข้ามาขวางยั้งสักหน |
| จงหยุดก่อนเถิดหนาอย่าฆ่าคน | เจ้าขุนโจรหันมาจะฆ่าฟัน |
| พระพุทธเจ้าก้าวเดินแล้วเมินหนี | โจรวิ่งรี่ด้วยความโกรธโหดมหันต์ |
| ร้องให้หยุดหมายกระหน่ำแต่ตามไม่ทัน | ท่านจึงหันมาเฉลยเอ่ยวาจา |
| เราหยุดแล้วเหตุไฉนท่านไม่หยุด | เป็นมนุษย์อย่างสร้างกรรมทำบาปหนา |
| องคุลีมาลเชื่อคำพระสัมมา | บรรพชาเป็นอรหันต์ด้วยมั่นใจ |
| พุทธประวัติเรื่องนี้มีคุณค่า | คนชั่วช้าอย่าก่อกรรมทำเหลวไหล |
| องคุลีมาลเคยเข่นฆ่าไม่ว่าใคร | โจรกลับใจดีกว่าคนปล้นแผ่น....ดิน |
*** จริงๆ แล้วเพลงองคุลีมาล ยังมีอีกหลายเวอร์ชั่นเช่น เวอร์ชั้นคุณเด๋อ ดอกมะเดื่อ (คนละคนกับเด๋อ ดอกสะเดา) เพลงแหล่ของหลวงอาพร ภิรมย์ ซึ่งชุดนี้เป็นเพลงซีรี่ย์ ถ้าจะเอามาโพสท์ก็ยาวววแน่ คงจะพอไว้เพียงเท่านี้ก่อนครับ ***
-
เพลง : บุพเพสันนิวาส
ศิลปิน : ประพนธ์ สุนทรจามร
เนื้อเพลง : สุรัฐ พุกกะเวส
ทำนอง : เวส สุนทรจามรเมื่อคิดให้ดีโลกนี้ประหลาด
บุพเพสันนิวาสที่ประสาทความรักภิรมย์
คู่ใครคู่เขารักยังคอยเฝ้าชม
คอยภิรมย์เรื่อยไป
ขอบน้ำขวางหน้า ขอบฟ้าขวางกั้น
บุพเพยังสรรค์ประสบให้ได้พบสบรักกันได้
ห่างกันแค่ไหนเขาสูงบังกั้นไว้
รักยังได้บูชา
* ความรักศักดิ์ศรี รักไม่มีพรมแดน
รักไม่มีศาสนา
แม้นใครบุญญาได้ครองกันมา
พรหมลิขิตพาชื่นใจ
** รักเหมือนโคถึกที่คึกพิโรธ
ความรักเช่นนั้นให้โทษ
จะไปโกรธโทษรักไม่ได้
ไม่ใช่บุพเพสันนิวาสแน่ไซร้ รักจึงได้แรมลา
( *,** )
-
เพลง : บุพเพสันนิวาส
ศิลปิน : ศรคีรี ศรีประจวบ
คำร้อง/ทำนอง : ไพบูลย์ บุตรขันเนื้อคู่กันแล้วก็คงไม่แคล้ว...กันไปได้
ถ้าเคยทำบุญร่วมไว้ ถึงจะยังไงก็ต้องเจอะกัน
เขาเรียกบุพเพสันนิวาส สร้างสรรค์
คงเคยตักบาตรร่วมขัน สร้างโบสถ์ร่วมกันไว้เมื่อชาติก่อน
น้องสบตาพี่ ไม่หลบตาหนี...พี่รู้แน่
หัวใจของพี่พ่ายแพ้ รักน้องศรีแพรเสียแล้วแน่นอน
รักเกิดจากใจ ใครมิได้เสี้ยมสอน
มิใช่ภาพลวงภาพหลอน พี่รักบังอรคงเพราะบุพเพฯ
พี่เป็นคนจริง พูดจริงทําจริง
น้องหญิง อย่าพึ่งสนเท่ห์
อย่าเพิ่งขว้างทิ้ง พี่คือเพชรจริง มิใช่เพชรเก๊
เมื่อรักพี่แล้ว อย่ารวนอย่าเร นะน้องจ๋า..
เนื้อคู่กันแล้วก็คงไม่แคล้ว...คงไม่คลาด
ถ้าเราทำบุญร่วมชาติ ขอยอมเป็นทาสแม่ดวงสุดา
เพราะว่าบุพเพสันนิวาส เรียกหา
พี่จึงมั่นใจแน่นหนา ว่าขวัญชีวาคงไม่ตัดรอน
เนื้อคู่กันแล้วก็คงไม่แคล้ว...คงไม่คลาด
ถ้าเราทำบุญร่วมชาติ ขอยอมเป็นทาสแม่ดวงสุดา
เพราะว่าบุพเพสันนิวาส เรียกหา
พี่จึงมั่นใจแน่นหนา ว่าขวัญชีวาคงไม่ตัดรอน.
-
เพลง: หนี้กรรม
คำร้อง: สุรินทร์ ภาคศิริ
ขับร้อง: สุมิตร สัจจเทพ & ยุพิน แพรทองซันชารกี ฮารีเชคา อิสตานาฮี พาซานาแฮ
เอกะดุน เตเชยานาแฮ เอกะดุน ดะมียานาแฮ
อนิจจา... เกิดมาเป็นมนุษย์ ดังคำพุทธาเตือนให้อาวรณ์
จนมีผู้ดี...ไหม้ไฟฟอน เมื่อตอนถึงวันสิ้นลมปราณ
เวลามีชีวิตวายวุ่น ทำบุญเป็นกุศลให้คงมั่น
ดับขันธ์..เราจะไปไหนกัน ขึ้นสวรรค์หรือนรกให้เลือกเอา
เกิดมาต้องตาย...ใครจะค้ำฟ้า วัฏฏะสังขารา...อย่ามัวเมา
บารมีนั้นมีไม่นานเนา ถูกเผาแล้วได้อะไรไป
อวดศักดิ์บารมีจึงหลงคิดทำชั่ว เมามัวลืมตนหลงอำนาจ
ขาดคุณธรรมค้ำคอยเจือจุน กรรมจึงหนุนให้ต้องได้เป็นไป
ซันชารกี ฮารีเชคา อิสตานาฮี พาซานาแฮ
เอกะดุน เตเซยานาแฮ เอกะดุน ดะมียานาแฮ
เกิดแก่ดับจิตเป็นนิมิตฝัน ใครจะสรรหาได้ดังใจ
เกิดทำไม..ต้องตายไม่จีรัง ถูกฝังแล้วไปที่ใดกัน??
หยุดพนมมือยึดถือพระธรรมมั่น เบียดเบียนกัน..สวรรค์ไม่คอยท่า
หลับตาลงฟังพุทธวาจา กิเลสหนาขอจงจางไป ........
พุทธัง สรณัง คัจฉามิ
ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ
สังฆัง สรณัง คัจฉามิ
เดตุลทิยา ปายานีนาฮี .......
-
เพลง วันพระอย่าเว้น
นักร้อง สุรพล สมบัติเจริญ เกิดมาเป็นคนไทย น้องเอยจำไว้
หมั่นทำบุญใส่บาตร วันโกนวันพระอย่าให้ขาด
ทำบุญใส่บาตรให้ทุกทุกวัน นี่ก็จวนวันพระ
น้องจ๊ะ แกงเนื้อมัสหมั่น หูฉลามนั่นสำคัญ
สาเกต้มน้ำตาล อย่าลืมเอาไป
เกิดชาติหน้าจะได้สวย ผลบุญคงช่วย
ให้เจอะกันทุกชาติ อธิษฐานทำใจให้สะอาด
เวลาใส่บาตร เจ้าอย่าไปนึกถึงใคร
ตั้งใจให้มันดี น้องถือทัพพี พี่จะถือขันให้
อย่าไปมองหน้าพระ เดี๋ยวพระจะอาย
มองหน้าพี่ไว้ คนเดียวก็พอ
เกิดมาเป็นคนไทย น้องเอยจำไว้
หมั่นทำบุญใส่บาตร วันโกนวันพระอย่าให้ขาด
ทำบุญใส่บาตรให้ทุกทุกวัน นี่ก็จวนวันพระ
น้องจ๊ะ แกงเนื้อมัสหมั่น หูฉลามนั่นสำคัญ
สาเกต้มน้ำตาล อย่าลืมเอาไป
เกิดชาติหน้าจะได้สวย ผลบุญคงช่วย
ให้เจอะกันทุกชาติ อธิษฐานทำใจให้สะอาด
เวลาใส่บาตร เจ้าอย่าไปนึกถึงใคร
ตั้งใจให้มันดี น้องถือทัพพี พี่จะถือขันให้
อย่าไปมองหน้าพระ เดี๋ยวพระจะอาย
มองหน้าพี่ไว้ คนเดียวก็พอ
-
เพลง รำวงปิดทองพระ
ศิลปิน ชาวคณะสุนทราภรณ์
คำร้อง แก้ว อัจฉริยะกุล
ทำนอง เอื้อ สุนทรสนาน (สร้อย)
พร้อม) วันนี้วันปิดทองพระสาวเอยสวยสะ
แม่ปิดทองพระตรงไหนเล่าเอย
ซ้ำ (สร้อย)
ชาย) ชาติก่อนน้องคงปิดตรงพระพักตร์
จึงงามยิ่งนักในชาตินี้
งามเอ๋ยงามงามเอ๋ยงามสดศรี
ตัวพี่นี้รักยิ่งนักเอย
ซ้ำ (สร้อย)
หญิง) แต่พี่ปิดลงตรงโอษฐ์พระศาสดา
วาจาจึงหวานมหานิยม
หวานเอ๋ยหวานหวานเอ๋ยหวานชื่นชม
วาจาคารมขำคมเอย
ซ้ำ (สร้อย)
ชาย) วันนี้ตัวน้องปิดทองพระ
ปิดตรงอุระด้วยความตั้งใจ
หวังเอยหวังจะได้
สุขกายสุขใจสุขตลอดเอย
ซ้ำ (สร้อย)
หญิง) ถ้าแม้นตัวน้องอยากจะสุขใจ
ปิดทองพระทำไมให้เสียเวลา
อยู่กับพี่นี่เถิดบุญจะเกิดหนักหนา
สุขทั้งชาติหน้าชาตินี้เอย
ซ้ำ (สร้อย) 2 เที่ยว
-
เพลง ทาสอารมณ์
ขับร้องโดย สุรพล สมบัติเจริญ นี่ผีตนใด สิงใจของข้า
จึงเป็นได้เยี่ยงสัตว์ป่า โหดร้ายชั่วช้าสามานย์
ลืมลูกลืมเมียที่เคยเคลียเคล้า หลงมัวเมาเหล้าเสียจนลืมบ้าน
หลงการพนัน จนลืมครอบครัว
ตื่นเช้าเมามาย ปล่อยใจให้เศร้า
เป็นทาสอารมณ์ของเหล้า คลุกเคล้าแต่ความหมองมัว
ลืมสิ้นความดีที่เราเคยรัก เห็นวงกงจักรที่เคยว่าชั่ว
กลายเป็นดอกบัว เสียแล้วเจ้าเอย
***หลงมัวเมาเหล้า เมาการพนัน
เมียถึงต้องอายุสั้น เพราะฉันไม่มองไม่เงย
ลืมสิ้นคำพระ ว่าจงละบาปเถิดปวงชนเอ๋ย
อย่าไปสร้างเวรกรรมเลย ผลจะสะท้อนคือกรรม
เพื่อนพ้องที่ฟัง รุ่นหลังรุ่นพี่
อย่าเอาเยี่ยงอย่างผมนี่ เดี๋ยวจะไม่มีศีลธรรม
อย่าคบเหล้ายามันจะพาล่ม อย่าปล่อยอารมณ์ให้อยู่เบื้องต่ำ
โปรดจงจดจำ ผมเป็นบทเรียน..
-
เพลง หมาป่ากับลูกแกะ
ขับร้องโดย สุรพล สมบัติเจริญ+สมศรี ม่วงศรเขียว
[ช.] เจ้าหมาป่าตาไวเหลือบมอง เห็นลูกแกะย่อง เดินท่ิองลุยธารน้ำมา (ชะ ชะ ช่า)
ด้วยสันดานพาลแต่ไรมา พลันทักขึ้นว่า เออนี่แน่ะเจ้าแกะน้อย (ชะ ชะ ช่า)
ตัวของข้ากำลังดื่มน้ำ เจ้าไยมาย่ำ ให้ขุ่นเป็นตมมิคอย (ชะ ชะ ช่า)
[ญ.] แกะน้อยกลัวตัวสั่นพลันถอย ตอบว่าข้าน้อย มิได้มีเจตนา (ชะ ชะ ช่า)
กระแสน้ำไหลมาทางข้านี้ เหตุใดจะมีน้ำขุ่นขึ้นมา (ชะ ชะ ช่า)
[ช.] ไม่เป็นไรน้ำขุ่นไม่ว่า ปีก่อนด่าข้า แล้วเจ้าจะว่ายังไง (ยังไง ยังไง)
[ญ.] ปีนั้นข้ายังไม่เกิดเลย แล้วใครเล่าเอ่ย ด่าท่านให้เคืองแค้นใจ (ชะ ชะ ช่า)
[ช.] พ่อของเองเคยด่าข้าไว้ โธ่เจ้ามารร้าย ข้าจะต้องจับเจ้ากิน (ชะ ชะ ช่า)........
[ช.] เจ้าหมาป่าตาไวเหลือบมอง เห็นลูกแกะย่อง เดินท่ิองลุยธารน้ำมา (ชะ ชะ ช่า)
ด้วยสันดานพาลแต่ไรมา พลันทักขึ้นว่า เออนี่แน่ะเจ้าแกะน้อย (ชะ ชะ ช่า)
ตัวของข้ากำลังดื่มน้ำ เจ้าไยมาย่ำ ให้ขุ่นเป็นตมมิคอย (ชะ ชะ ช่า)
[ญ.] แกะน้อยกลัวตัวสั่นพลันถอย ตอบว่าข้าน้อย มิได้มีเจตนา (ชะ ชะ ช่า)
กระแสน้ำไหลมาทางข้านี้ เหตุใดจะมีน้ำขุ่นขึ้นมา (ชะ ชะ ช่า)
[ช.] ไม่เป็นไรน้ำขุ่นไม่ว่า ปีก่อนด่าข้า แล้วเจ้าจะว่าอย่างไร (ยังไง ยังไง)
[ญ.] ปีนั้นข้ายังไม่เกิดเลย แล้วใครเล่าเอ่ย ด่าท่านให้เคืองแค้นใจ (ชะ ชะ ช่า)
[ช.] พ่อของเองเคยด่าข้าไว้ โธ่เจ้ามารร้าย ข้าจะต้องจับเจ้ากิน ฮื่อ..ฮื่อ..
[ญ.พูด] นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า การโต้เถียงกับอันธพาล มีโทษฉะนี้แล (ชะ ชะ ช่า)...*** เรื่องราวของหมาป่ากับลูกแกะ ปรากฏทั้งในนิทานอิสป, และนิทานชาดก และนี่เป็นที่ของคำพังเพยที่ว่า ห่างสุนัขให้ห่างศอก ห่างวอกให้ห่างวา ห่างพาล ให้ห่างหลายๆ โยชน์ ***
-
เพลง ชูชกสองกุมาร
ขับร้องโดย สุรพล สมบัติเจริญ/ด.ช.จ้อย(เทวิน ศรีรัตนวิทยา)
คำร้อง-ทำนอง สุรพล สมบัติเจริญ(บันทึกแผ่นเสียงไว้ในราวเดือนตุลาคม พ.ศ.2496)กุมาร] แม่เจ้า โอ้แม่มัทรี
ลืมอยู่ที่ช่วยปรานี มาช่วยลูกทีแม่คุณทูนหัว
พ่อสิ้นเอ็นดู ให้หนูไปกับชูชกชั่ว
เพราะมันมาขอตัว หากแม้นไม่ไปมันก็เฆี่ยนตี
ปากร้องเรียกหา แม่จ๋าอยู่ไหน
มาช่วยเร็วไว เพราะหนูกำลังโดนเฆี่ยนตี
โอ๊ย แม่จ๋า แม่จ๊ะ แม่จ๋าแม่มัทรี
สิ้นรักแล้วหรือนี่ จึงปล่อยเขาตีหนูแทบตาย
[ชูชก] ชิชะ เจ้าเด็กน้อย อย่าทำสำออย
เดี๋ยวจะโดนรอยหวาย อื้อ..
*[กุมาร] โอ๊ยโอย แทบว่าจะสิ้นใจตาย
ลุงจ๋า อย่าทำหนูเลย
โธ่ ลุงเอ๋ย จงปล่อยหนูไป
[ชูชก] นี่แน่ะ..อื้อไอ้วายร้าย
เดี๋ยวตีเสียตาย ละยังมาทำสำออย
[กุมาร] โธ่ ลุงจ๋า
อย่าเตะตีด่า หรือว่าลูกน้อย
ป่านนี้ แม่หนูคงคอย
โอ้พ่อผมน้อย จงปล่อยหนูไป
[ชูชก] หนอยแน่ะ ไอ้ตัวดี
มาว่ากูนี้ หัวล้านได้
มานี่ อื้อ อื้อ ตีให้ตาย
จะเอาไว้ไย ไอ้เด็กสันดาน
จะเอาไว้ไย ไอ้เด็กสันดาน..อื้อ
[กุมาร] โอ๊ย.
-
เพลง เสียงกระซิบจากอิศวร
ขับร้องโดย สุรพล สมบัติเจริญ
คำร้อง-ทำนอง สุรพล สมบัติเจริญ ผมนี้เป็นใหญ่ เหนือเทวดา
อยู่บนวิมานชั้นฟ้า ปกครองเทวาให้สุขสบาย
ผมครองตำแหน่ง จอมเทพแห่งผู้ยิ่งใหญ่
ปกครองพวกเทวดาทั่วไป ให้ได้รับความสุขสำราญ
ผมเป็นหัวหน้าเทวดา ตำแหน่งมีค่ายิ่งนัก
ไม่ว่าใครๆรู้จัก เรียกผมพระอินทร์กันทั้งนั้น
ผมมีนิสัยซื่อตรง ไม่ชอบคนโกงคนกิน
พูดถึงเรื่องเหล้าเรื่องฝิ่น ผมไม่เคยกินละทั้งนั้น
ผมเป็นเจ้าเมืองบนฟ้า ปกครองเทวามากมาย
ต้องคอยอบรมนิสัย พวกเทวดาทุกวัน
ไม่ชอบประจบสอพลอ ไม่ชอบให้ใครคลอเคลีย
ถึงแม้จะมีคนเลีย ผมไม่ซูเอี๋ยละทั้งนั้น
ต้องคอยดูแลทุกอย่าง ไม่ว่าคนไหนทำผิด
ต้องปราบกันให้ใกล้ชิด โดยเฉพาะพวกคอรัปชั่น
พวกเทวดาพวกนี้ ชอบทำนาบนหลังคน
ต้องปราบกันเสียให้ป่น ไม่งั้นแล้วกินกันสะบั้น
อีกทั้งเทวดาชีกอ ไม่ว่าลูกเขาเมียใคร
ไม่มีหางเป็นใช้ได้ พ่อจีบมันดะไปทั้งนั้น
พวกเทวดาพวกนี้ ต้องปราบกันเสียให้สิ้น
ต้องให้มันปีนต้นงิ้ว แล้วเอาหอกสวนก้นมัน
ต้องคอยสำรวจบนฟ้า ว่าเทวดาองค์ไหน
ที่ชอบกินอิฐกินทราย เพราะกินละไม่เหมือนชาวบ้าน
ผมเป็นเจ้าเมืองบนฟ้า เคี่ยวเข็ญเทวดาให้ดี
แต่วันนี้มาเมืองมนุษย์ เพื่อจะพบปะกับท่าน
ได้ข่าวว่าเมืองมนุษย์ นั้นยังมีคนทำชั่ว
ไม่เคยคิดกลัวเรื่องบาป มีแต่จะโกงกันทั้งนั้น
จึงอยากจะเตือนพี่น้อง ที่อยู่ในเมืองมนุษย์
หมั่นสร้างความดีให้ถึงที่สุด จะได้ไปผุดบนสวรรค์
อย่าได้แก่งแย่งชิงดี แบ่งพวกแบ่งสีกันเลย
ไม่ช้าหรอกนะท่านเอ๋ย เราก็ต้องตายกันทั้งนั้น
อย่านึกว่ามียศถา นั่งบนสภาทำโก้
วางกามภูมิฐานใหญ่โต ชูคอบนเก๋งโอฬาร
แต่แท้ที่จริงเบื้องหลัง นั่นทำในทางที่ผิด
จึงอยากจะเตือนสักนิด เพือนสติของท่าน
เดี๋ยวจะต้องไปใช้หนี้ ในอเวจีโลกันต์...
-
เพลง - มะเหมี่ยวสวดมนต์
ขับร้องโดย - สุรพล สมบัติเจริญ เมื่อมะเหมี่ยว หาชุดจุดเทียนไข
ยกขึ้นไว้ตรงหน้า [บักโกละหย่า บักโกละหย่า หย่าเล]
ก่อนนอนค่ำคืนนั่งสวดมนต์ ด้วยกุศลของข้า [เหล่ เล เล้ เล เล เหล่]
โลกนี้อนิจจังวะตะสังขารา ตั้งนะโมโกละช่า
อะระหังสัมมาสัมพุทโธ กุสะลาธัมมาปลาท่องโก๋
เวียนมาหาทุคคะโตทุคคะถานัง ทุคคะตึงทุคคะตังทุคคะถาโน
ทุกข์ไม่มีสตังค์ ทุกข์จนหัวโต
เมื่อเสร็จากสวดมนต์ บ่นคาถา
แล้ววางท่าให้โก้ [บักโกละหย่า บักโกละหย่า หย่าเล]
ดับเทียนแล้วค่อยมองย่องขึ้นเตียง ได้ยินเสียงโบเลโร่ [เหล่ เล เล้ เล เล เหล่]
จะล้มตัวนอน คว้าเอาหมอนใบโต
มะเหมี่ยวโค้งยงโย่ ใครเอาหมอนใบโตข้าไป
เอามือคลำซอกซอนยอนเข้าใน เอ๊ะนี่มันขาของใครบนหัวนอน
นั่งยองๆจ้องไปใจอาวรณ์ อ๋อนี่มันขางามงอนเมียข้าเอง...
-
(http://upic.me/i/xg/prajan_1280459519_8494.jpg)
http://www.onmvoice.com/player/player.swf?a=75393&ap=0&color=red
กฎแห่งกรรม - ประภาศรี ศรีคำภา
*** ทำดีดีส่งให้ เห็นผล
ทำชั่วชั่วก็ดล ชั่วให้
ชั่วดีดุจตราตน ตีบอก ไว้นา
ใครชั่วใครดีไซร้ สืบได้ ด้วยกรรม***
มวลมนุษย์ในโลกนี้ เกิดมาต่างมีบุญกรรมประจำตน
ไพร่ผู้ดี มีหรือจน มนษย์ปุถุชนไม่อาจหลุดพ้นตัณหา
คอยเบียดเบียนต่อกันเรื่อยมา ใช้เล่ห์ต่างๆ นานา ไม่นำพาผลกรรมความดี
*** มนุษย์เอย อย่าเห็นกงจักรเป็นดอกบัว ***
กลัวเวรกรรมกันเถิดหนา แผ่ความเมตตา ให้กันด้วยไมตรี
โปรดได้คิดชีวิตคน ไม่เห็นใครจะทนหลีกให้พ้นเป็นผี
ควรเร่งคิดสร้างสรรสิ่งดี เพิ่มบุญเพิ่มบารมี เพราะความดีเหมือนเงาตามติดตัว
*** รอยโครอยเกวียน วงเวียนแห่งกรรม
ดีชั่วตัวเราทำ เป็นกฎแห่งกรรมของปุถุชน ***
-
กฎแห่งกรรม
คำร้อง - ทำนอง …. จงรัก จันทร์คณา
ขับร้อง …. พิทยา บุญยรัตนพันธุ์น่าเห็นใจ น่าเห็นใจ
น่าเห็นใจที่ใจเธอต้องเจ็บช้ำ
โดนลมคำรักลวงจนระกำ
โดนถูกเขาทำจนช้ำใครนะทำได้
หากคิดไปถึงครั้งหนึ่ง
รักครั้งหนึ่งซึ่งฉันเคยถูกทำลาย
เธอเป็นคนทำให้ฉันช้ำใจ
ฉันก็ช้ำใจไม่ผิดที่เธอช้ำอยู่
เหตุการณ์จะผ่านไป
ฉันยังจำได้ ความอัปยศอดสู
ฉันเคยเรียกเธอให้เธอมาดู
ให้เธอมาดูรอยช้ำเธอกลับหนำใจ
บัดนี้เธอเจอเข้าบ้าง
รู้หรือยังว่ามันเจ็บปวดแค่ไหน
ยามเรารักเขา เขากลับทำลาย
เขากลับทำลาย มันเจ็บใช่ไหมคนดี
-
ชาติหน้าถ้ามี - ก้าน แก้วสุพรรณชาติหน้าถ้ามี ให้พี่ได้พบรักเธอ
อยู่เรียงเคียงขวัญบำเรอ
จะรักเธอไม่รู้เสื่อมคลาย
ให้เราเคียงรักร่วมรักกันมิรู้แหนงหน่าย
รักกันจวบจนวันตายอย่ามีมารร้ายคอยตามลามม
ชาติหน้าถ้ามีให้พี่ได้พบดวงใจ
ให้เราครองรักกันไป
ให้รักกันไม่รู้เสื่อมทราม
อย่าได้แรมร้างสมอย่างใจรักในชาติหน้า
รักเอยอย่าทรมา รักเอยอย่าพาให้ร้าวระทม
มีกรรมขอทนแต่เพียงชาตินี้
มารแย่งรักมาตามราวี มารยังมีคนนิยม
มารเหยียดหยาม มารใจทรามข้าระทม
สาปแช่งมารเพราะข้าซานซม ระทมฤทัยเหลือทน
***
ชาติหน้าถ้ามีอย่ามีมารร้ายรังควาน
อย่าให้ความรักร้าวราน
อย่าพบมารตามผลาญผจญ
ตั้งจิตอธิษฐานขอเทพไท้เห็นใจข้าหม่น
แม้นชาติหน้ามีจงดล อย่าพ้นกันทุกชาติไปเลย
ซ้ำ ***
-
(http://upic.me/i/fu/17a54.jpg)
http://www.4shared.com/embed/780897489/a9f994b9
มนต์ปาริชาติ - กังวาลไพร ลูกเพชร
ช) โอ้ปาริชาติผ่องพรรณพิลาศดั่งสวนสวรรค์ อบอวลชวนฝันวันคืนตื่นตา
ญ) เธอเหมือนเทพบุตร
ช) เธอดุจเทพธิดา ลอยล่องท่องฟ้าอำไพ
ญ) กลิ่นปาริชาติให้รำลึกชาติ เป็นจริงแน่หรือ ก็เรานี้หรือคือใครต่อใคร
ช) เธอนั้นคือผู้สร้าง ปางก่อนเป็นขวัญใจ เคยทุกข์ยากไร้ได้แนบเนื้อนอน
***
ญ) ฉันอาจเป็นปลา
ช) ฉันถ้าจะเป็น....อุทก
ญ) ฉันอาจเป็นนก
ช) ฉันอาจเป็นไม้ ให้เธอจับคอน
ญ) ฉันอาจเป็นดิน
ช) ฉันอาจเคยเป็น..สิงขร โอ้ดวงสมรอย่าแหนงแคลงใจ
ญ) โอ้ปาริชาติ บุพเพสันนิวาส เราสร้างปางหลัง
ช) จึงมีมนต์ขลังฝังตรึง หทัย
ญ) ปาริชาติชวนชื่น
ช) เรารื่นรมย์สมใจ
พร้อม) บุญหลังสร้างไว้จึงไม่แคล้วกัน
*** ซ้ำ
กล่าวกันว่า ปาริชาติ เรียกกันอีกชื่อหนึ่งว่า "ทองหลาง" แต่ที่ปรากฎอยู่ในวรรณคดี กามนิต-วาสิฏฐี ภาคสวรรค์นั้น เป็นคนละชนิด เทพบุตรเทพธิดาผู้จุติใหม่ในสวรรค์เมื่อได้ดมกลิ่นดอกปาริชาติ ในสวนสวรรค์นันทวัน จะทำให้รำลึกถึงบุญกุศลที่เป็นเหตุให้ตนได้บังเกิดในสวรรค์ได้
แต่ในคัมภีร์พระพุทธศาสนา จะไม่เรียกว่าปาริชาติ จะใช้คำว่า ปาริฉัตร ตามรูปทรงของต้นไม้ที่เป็นชั้นๆ ขึ้นไปเหมือนเศวตฉัตรนั่นเอง
-
ปาริชาติ
ขับร้องโดย เอื้อ สุนทรสนาน, มัณฑนา โมรากุล
คำร้อง แก้ว อัจฉริยะกุล
ทำนอง เอื้อ สุนทรสนานช. กลิ่นล่องลมมาหอมปาริชาตสวรรค์ (ฮัม...)
....กลิ่นเจ้าเท่านั้นสัมพันธ์ชาติที่ผ่าน (ฮัม...)
....ดอกเจ้าก็งาม สมนามเขากล่าวขาน
ญ.สีแดงงามตระการ
ช. พิศเพียงแก้วประพาฬ
พ. ดอกไม้วิมานสุขาวดี
ญ.กลิ่นล่องลม พลิ้มพรมมาแห่งนี้ (ฮัม...)
....กลิ่นเจ้ายวนยีฤดีให้ป่วนปั่น (ฮัม...)
...กลิ่นเจ้าดลใจโน้มในฤทัยฝัน
ช. ภพชาติแต่เบื้องพรรพ์
ญ.นึกได้โดยฉับพลัน
พ. กลิ่นทิพย์ผูกพัน สวรรค์ดลใจ
ช. โอปาริชาตเอย ชื่นเชยชีวิตให้
ญ.ชาติหลังปางใด (ฮัม...) เข้าใจทุกปาง
ช. เกิดชาติปางไหน (ฮัม...) ขอได้ร่วมใจทุกทาง
ญ.ปางรักร่วมใจไม่จืดจาง ปางร้างไม่จางเลย
ช. ศักดิ์สิทธิ์หนักหนาโอปาริชาติเอย (ฮัม...)
....กลิ่นเจ้ารำเพยชิดเชยไม่ขาดกลิ่น (ฮัม...)
พ. เจ้าอยู่เมืองแมน มิใช่ของแดนดิน
....สมบัติวิมานชื่นบานประทิน มิใช่ของชาวแผ่นดิน...ชม...เชย...
-
(http://upic.me/i/x4/20100401_acc7b704a73de8c53f34mkakvapg1lxm.jpg)
รอยกรรม - ก้าน แก้วสุพรรณ
หวนอาลัยเมื่อไปจากน้อง
ป่านนี้ดวงใจคงต้อง เหม่อมองคอยด้วยน้ำตา
เจ้าตรอมตรมระทมยังน้อยไปกว่า
พี่เพ้อครวญถึงกานดาเศร้าวิญญาแทบจะม้วยมอญ
หรือเคยทำบาปกรรมชาติไหน
ชาตินี้จึงบันดาลให้ ห่างไกลสุดจะร้าวรอน
เฝ้ารำพึงคะนึงถึงน้องยามก่อน
เคยเย้าหยอกโฉมบังอร อกสะท้อนเมื่อยามไกลกัน
คอยก่อนอย่าด่วนเปลี่ยนใจ
พี่รักน้องเพียงหทัยมั่นหมายมาร่วมเคียงขวัญ
อย่าเปลี่ยนใจให้พี่ต้องตรมชีวัน
ห่างไกลโอ้ใจไหวหวั่น ต้องโศกศัลย์ร่ำไป
รักเพียงใดห่วงใยเพียงนั้น
ยิ่งคิดยิ่งพาใจสั่นตื้นตันจนเปี่ยมฤทัย
พี่มีกรรมรักจึงต้องช้ำหมองไหม้
ขาดน้องดังเหมือนดวงใจ แหลกสลายไม่คลายอาดูร
-
พรรษานี้พี่ขอบวช - ก้าน แก้วสุพรรณพอเสร็จจากนา อุราผมให้ไหวหวั่น
ต้องจากจอมขวัญบวชเรียนเสียหนึ่งพรรษา
เพื่อหวังทดแทนพระคุณบิดรมารดา
ที่เลี้ยงดูมาเพียงว่าประหนึ่งดวงใจ
เพียงหนึ่งพรรษานวลจ๋าอย่าลืมพี่ก่อน
อย่าด่วนตัดรอนสัญญาเก่าก่อนจำไว้
น้องอย่าหลงลืมมอบรักให้แก่ชายใด
รักเดียวจากใจมอบให้แก่พี่เท่านั้น
พอออกพรรษาสึกมาพี่จะขอแต่ง
สินสอดน้องแพงพี่จะหาให้จอมขวัญ
น้องอย่าได้ลืมสัญญาที่มีต่อกัน
รักน้องคงมั่นมอบให้พี่นั้นคนเดียว
ชายอื่นหมื่นแสนที่แม้นหมายปองน้องเจ้า
อย่าหลงเชื่อเขาน้องเจ้าอย่าไปข้องเกี่ยว
อย่าลืมท้องนาทิ้งควายทิ้งงอบทิ้งเคียว
โปรดจงเฉลียวรักเดียวคือหนุ่มบ้านนา
-
(http://upic.me/i/z7/stk09.jpg)
กาเหว่าลาบวช - กาเหว่า เสียงทอง
โอ้ว่ายี่สิบปีกว่า ลืมตาดูโลก ผ่านความทุกข์โศกวิโยคนานา
พระพรหมลิขิตชีวิตผมมา เป็นลูกกำพร้าไม่มีคนแล
พอร้องอุแว้ เอิง..... เอย
พอร้องอุแว้ แม่ก็ตายจาก ผมต้องลำบากเป็นลูกขาดแม่
ขาดแม่อุปถัมถ์เวรกรรมแท้ๆ ชีวิตย่ำแย่ พ่อตายจากลา
ต้องจากบ้านมารดร อืม.. นครนายก เหมือนกับลูกนกปีกหักถลา
โซซัดโซเซ ร่อนเร่เรื่อยมา เหมือนบุญหนุนพาช่วยชุบชีวัน
มาเป็นนักร้องต้องใจคนดู เพราะได้เพลงครูไพบูลย์ บุตรขัน
แฟนเพลงทั่วไปเอาใจช่วยกัน จนตัวผมนั้นเป็นกาเหว่า เสียงทอง
คุณแม่สวง คุณพ่ออุทัยท่านตั้งวงให้ควบคุมนักร้อง
ชื่นชมสมหวังชื่อดังกึกก้อง บัดนี้ผมต้องลาบวชเสียที
ว่าสามพฤษภา เอิง..
ว่าสามพฤษภา เปลื้องผ้าปลงผม ผ้าขาวนุ่งห่มเป็นนาควันนี้
ว่าสี่พฤษภานั้นเป็นวันฤกษ์ดีแห่นาคไปที่วัดสว่างอารมณ์
กาเหว่าขอร้องพี่น้องทั่วไป กาเหว่าขอร้องพี่น้องทั่วไป ช่วยอุ้มผ้าไตรแห่ไปบวชผม
ชาวบ้านองครักษ์เขาจะชื่นชมว่าแฟนเพลงผมใจบุญแท้ๆ
ผมบวชเป็นพระก็สละเป็นสงฆ์สีกาสีกง จะไม่ขอแล
ได้ห่มผ้าไตรดีใจแท้ๆ วิญญาณพ่อแม่อยุ่ไหนเชิญมา
รับอานิสงส์จากองค์ผ้าไตร ลูกขอบวชให้พ่อแม่แทนคุณ
กาเหว่าคนตรงก็ยังคงเหมือนเดิมไม่เห่อไม่เหิมลืมกายวายวุ่น
แผ่นเสียงงวดใหม่โปรดได้อุดหนุน สึกมาพบคุณจะมาร้องให้ฟัง
-
(http://upic.me/i/8q/2yu06.jpg)
http://www.4shared.com/embed/197507524/e7fc5c8c
เสือสำนึกบาป
คำร้อง/ทำนอง - พยงค์ มุกดา
ขับร้องโดย คำรณ สัมปุณณานนท์
โลกวะโลกเหวย ฮืม โลกเอ๋ยใครสร้าง
พระพรหมองค์ใดจับวางข้าไว้บนทางที่เลวแสนเลว
สิ่งใดหมายมั่นกลับพลันต้องคว้าน้ำเหลว
เหมือนข้าปิดทองเปลว เบื้องหลังพระปฏิมา
ข้าทิ้งเขี้ยวเล็บ ฮึ เจ็บแล้วลืมสิ้น
หวังหาอาชีพอยู่กินเพื่อล้างมลทินที่เป็นเสือมา
โซ่แหนห้อมข้ายอมทนรับมายา
เพราะลูกรักและเมียข้า ยอมให้คุกพาไปสู้เคราะห์กรรม
แต่พอพ้นโทษออกมา โธ่เอ๋ยเมียข้า
เจ้ากลับมาเปลี่ยนคำ
เสนียดตะรางทุกคำเจ้าช่างเหยียบย่ำ
เเนะนำข้าสู้เวรกรรม หนอยเจ้ากลับทำหลงตัวมัวเมา
ถ้าเหมือนก่อนแล้ว ฮึฮึ ไม่แคล้วเลือดหลั่ง
เคราะห์ดีที่ข้าได้ฟังคำพระสอนสั่งดับเวรหนอเรา
คืนความร้ายกาจ ใส่บาตรพระสงฆ์องค์เจ้า
โหสิเวรและกรรมเก่าจะโกนหัวเราเข้าพึ่งพระธรรม
-
(http://upic.me/i/y9/56627545.jpg)
http://www.onmvoice.com/player/player.swf?a=82485&ap=0&color=yellow
อายบาป อายบุญ - ขวัญจิต ศรีประจันต์
จะสาธกยกเรื่องเก่า นำมาเล่าเอาไหมจ๊ะ
เรื่องเบาๆ เคล้าธรรมะ อย่าเพิ่งผละหนีไปกัน
มีหญิงหนึ่งชื่อยายนุ่ม แกคว้าสุ่มรีบรุดพลัน
สะพายข้องคล้องไหล่พลัน นุ่งเตี่ยวสั้นลงสุ่มปลา
แกลืมไปในวันนั้น ว่าเป็นวันเข้าพรรษา
ปากตวัดลืมวัดวา มัวสุ่มปลาจนเพลินไป
แต่หลักแหลกแปลกจริงเชียว ปลาตัวเดียวสุ่มไม่ได้
เกือบปลายคลองต้องแข็งใจ กระทั่งใกล้เวลาเพล
พวกทำบุญหิ้วสำรับพายเรือกลับบ้านกุ่มเอน
ฝ่ายยายนุ่มสุ่มชายเลน ถกเขมรจะเอาปลา
อีกหญิงหนึ่งชื่อยายเหลือแกพายเรือจากวัดมา
พบยายนุ่มลงสุ่มปลาจึงทักว่าอย่ากระทำ
เป็นวันพระนะยายจ๋าเข้าพรรษาอย่าสร้างกรรม
จงละบาปอาบพระธรรม ขึ้นจากน้ำเสียเถิดยาย
ฝ่ายยายนุ่มฟังยายเหลือ เกิดความเชื่ออย่างเหลือหลาย
ลืมวันพระเกิดละอาย จึงตะกายขึ้นจากคลอง
ครั้นถึงบ้านแล้วยายนุ่ม เผาทั้งสุ่มเผาทั้งข้อง
ถือศีลนั่งตามทำนอง ตามคำของยายเหลือเตือน
รักยายเหลือผู้อารีย์ โดยไม่มีรักใครเหมือน
กตัญญูไม่รู้เลือน อีกสองเดือนตกตะลึง
ทั้งยายเหลือและยายนุ่มชาวบ้านกุ่มคาดไม่ถึง
ถูกล็อตเตอรีรางวัลที่หนึ่ง เพราะใจถึงพระธรรมเอย
-
(http://upic.me/i/y9/56627545.jpg)
http://www.onmvoice.com/player/player.swf?a=83456&ap=0&color=blue
ทำบุญกันเถิด - ขวัญจิต ศรีประจันต์
ฟังขวัญจิต ศรีประจันต์ ร้องรำพันใช่ลำพอง
ขับลำนำตามทำนอง ให้พี่น้องฟังจำนรร
โลกเดี๋ยวนี้ มีนานา ต้องผวาสุดไหวหวั่น
ดูเกรียวกราว อื้อฉาวกัน ดุจโลกหันให้ตัณหา
จึงอื้อฉาว ข่าวลือโฉ่ เห็นเป็นโก้ทำแก่นกล้า
น่าอ่อนใจ ในสัจจา สวมความกล้า หน้ากากกัน
คนทำดี ไม่มีดี เพราะอัปรีย์ พาป่วนปั่น
โลภลาภา สารพัน ต่างดื้อดัน ด้านกว่าดิน
เดินทางบาป หยาบทางบุญ ตัวเหมือนหุ่น ใจเหมือนหิน
กราดเกรี้ยวแกร่ง แย่งกันกิน ใจบ้าบิ่น เพราะบาปบัง
ขาดหิริ โอตตัปปะ คนห่างพระ จึงพลาดพลั้ง
ไม่กลัวเวร เว้นระวัง ต้องหน้าตั้ง เข้าซังเต
โมหะ คือความหลง จิตต่ำลง จนร่อนเร่
จิตมนุษย์ สุดคะเน ไม่ถ่ายเท หล่งอธรรม
อันโทสะ ถือโทสา ความโกรธกล้า ฆาตกรรม
ไม่สำคัญ ขันติธรรม สร้างแต่กรรม บาปไม่กลัว
อันราคะ คือความใคร่ เมียนอกใจ ผู้เป็นผัว
ผัวใจผี หนีเมียตัว โลกจึงรั่ว ราคะเริง
หลงอบาย ไม่อายบาป ไม่เข็ดหลาบ อาบใจเหลิง
เพื่อนฆ่าเพื่อน เหมือนแรงเพลิง บุญกระเจิง โลภกระจาย
มาทำทุน บุญกันเถิด ชาติหน้าเกิด มาเป็นกาย
จะสุขจริง ทั้งหญิงชาย อยากสบาย ต้องทำบุญ
-
น้ำตานาคตก - แสงสุรีย์ รุ่งโรจน์เสียงแตรแว่วมาน้ำตาไหลหลั่ง
อกเอยใจแทบจะพัง เหมือนดังจะสิ้นชีวี
อนาถนักหนาโธ่เกิดมาพ่อแม่ไม่มี
บวชเรียนกับเขาชาตินี้ เรามีแต่ความน้อยใจ
ไม่เหมือนเช่นคนเขามีพ่อแม่
บวชเขาสนุกกันแท้มีแตรดนตรีเครื่องไฟ
แต่ว่าบ้านเราโถเงียบเหงาเศร้าใจ
ไม่มีร่าเริงเหมือนใคร น้อยใจในวาสนา
ปวดร้าวมีเพียงข้าวหม้อกินหม้อ
นาคกำพร้าขาดพ่อ อนาถจริงหนอเกิดมา
ตามมีตามเกิดไม่เลอเลิศเหมือนใครหรอกหนา
ทำบุญไปด้วยศรัทธานาคกำพร้า เกิดมายากจน
***
พอถึงเวลาแห่นาคเข้าโบสถ์
ใจเอ๋ยใจเศร้ารันทด อดกล้้นน้ำตาของตน
พ่อจ๋าแม่จ๋าขอให้มารับเอากุศล
ลูกขอบวชอุทิศตน แผ่กุศลให้พ่อแม่เอย
ซ้ำ ***
-
(http://upic.me/i/y9/56627545.jpg)
http://www.onmvoice.com/player/player.swf?a=83947&ap=0&color=blue
ทำบุญสร้างวัด - ขวัญจิต ศรีประจันต์
ฉันขอเชิญสาธุชน ทุกทุกคน ที่เคร่งครัด
เมื่อยามว่าง ร่วมสร้างวัด ไว้ต่างฉัตรคุ้มครองตน
บ้านจะดีต้องมีวัด ช่วยขจัดอกุศล
วัดจะดีอยู่ที่คน ช่วยผดุง บำรุงดี
สร้างศาลา แล้วมาโบสถ์ อุโบสถเป็นศักดิ์ศรี
ใบเสมา ประดามี ลูกนิมิต ทิศละใบ
สร้างกุฎีมีระเบียง ห้องน้ำเรียงรายไว้ใช้
กำแพงแก้ว เป็นแนวไป ใกล้หรือไกล งามตระการ
หากศรัทธาปสาทะ ก็ควรจะสร้างวิหาร
และมีพระอธิการ ผู้เชี่ยวชาญ ศาสน์ช่ำชอง
อบรมพระ อบรมเณร ตามกฎเกณฑ์อันแคล่วคล่อง
ปฏิบัติไม่ขัดคลอง ลูกวัดต้องเชื่อวาที
วัดนี้หรือ คือถิ่นทิพย์ ทำคนดิบเป็นคนดี
คนเกิดมาโรคามี ต้องหาหมอเพื่อขอยา
เปรียบวัดเป็นสถาน พยาบาล สุขศาลา
คนทุกข์ใจ ให้เข้ามา เอาศาสนารักษาใจ
แม้แต่ลิง เขายังสอน เล่นละครให้ดูได้
เกิดเป็นคนไม่สนใจ สร้างบุญไว้ ควรอายลิง
สาธุชน ฟังฉันชี้ โลกเดี๋ยวนี้ ผีร้ายสิง
สร้างบุญไว้ได้พักพิง อย่าประวิงสร้างวัดเอยฯ
-
(http://upic.me/i/hr/ro127.jpg)
http://www.4shared.com/embed/423369298/5285c36d
ขอยืมเงินบวช - แสงสุรีย์ รุ่งโรจน์
คิดคิดไป ตัดสินใจ เข้าโบสถ์บวชเสียที
คนรักสิ้นไมตรี เขามีแฟนใหม่ไปแล้ว
ต้องจากแล้วหนีหน้า บวชแทนคิดเรื่องบุญดีกว่า
ด้วยกุศลเจตนา ลดไว้ดีกว่าเรื่องคู่ครอง
ช้ำเหลือทน แม่ผมจนขาดคนเหลียวมอง
ใครนั่งกอดเงินทอง เหลียวมองจงอย่าทำขรึม
ใคร่ขอยืมเงินก่อน สึกเมื่อใดผมจะใช้เงินก่อน
จะหาบไถนาดอนขอยืมเงินก่อนได้ไหม
ใช้ล้างบาตร เพียงญาติถือบาตรและถือผ้าไตร
ขอแผ่กุศลทั่วไป นาคกำพร้าคนไทยขอจงอย่าได้ตัดรอน
**--***
ทุกข์ทิ้งไป ตัดสินใจบวชจริงบวชแน่นอน
ใครก็อย่าตัดรอน ขอวอนมาร่วมกุศล
บวชคนจนกันได้ แว่วเสียงแตรผมจะแลหาใคร
บวชทีนี้วันใดขอเชิญชาวไร่ชาวนา
-
(http://upic.me/i/y9/56627545.jpg)
http://www.onmvoice.com/player/player.swf?a=85079&ap=0&color=yellow
ปิดทองลูกนิมิต - ขวัญจิต ศรีประจันต์
ขอบอกบุญหนุนสถิตย์ ลูกนิมิตคือเครื่องหมาย
อันใหญ่ยิ่งทั้งหญิงชาย จำอย่าคลายความสำคัญ
ลูกนิมิตดังจิตใจ โบสถ์อยู่ไหนต้องอยุ่นั่น
สาธุชนคนทุกชั้น ทราบความกันทั้งใกล้ไกล
ใบเสมามีแปดทิศ ลูกนิมิตก็แปดใบ
ใบที่เก้าเขาเอาไว้ ที่กลางใจของโบสถ์กัน
ลูกนิมิตหรือเครื่องหมาย เขาใช้หวายหิ้วเหหัน
ปิดทองแล้วงามแพรวพรรณ เพราะสุวรรณหุ้มศิลา
พุทธศาสนิกชน สร้างกุศลสุดหรรษา
ต่างประชุมเป็นกลุ่มมา ตั้งศรัทธปณิธาน
เข็มด้ายเข็ดเม็ดโป่งข่าม ถ้วยจานชามงามตระการ
ทั้งเงินทองกองใส่พาน ฝังใต้ฐานใบเสมา
ฝังนิมิตเป็นเค้ามูล ความสมบูรณ์เต็มอัตรา
กุลบุตรบรรพชา อุปสมบทนิตินัย
ร่วมงานฝังลูกนิมิต บุญประสิทธิจิตผ่องใส
ลูกนิมิตเปรียบจิตใจ อันวิไลของอาราม
วัดสมบูรณ์ต้องมีโบสถ์ ขอได้โปรดทราบเนื้อความ
แม้โบสถ์ใหญ่ในอาราม ก็ต้องมีลูกนิมิต
จึงจะบวชพระเป็นองค์ ตามประสงค์ศาสนกิจ
เชิญปิดทองลูกนิมิต ร่วมงานฝังหวังบุญเอย.
-
สามเณรกำพร้า - แสงสุรีย์ รุ่งโรจน์ จุดธูปเทียนนั่งลงขมา กราบลงตรงศพบิดา
น้ำตาของลูกรินไหล พ่อตายเพื่อชาติ
ศาสนา มหากษัตริย์ไทย ชีวิตยอมพลีให้
ชาติไทย ได้อยู่คู่ฟ้า .สิ้น ร่มโพธิ์โถน่าใจหาย
อกเอ๋ย เหลือแต่ร่มไทร ต้องกลาย เป็นลูกกำพร้า
ลูกขอลาบวช กรวดน้ำ อุทิศไปหา
พ่อเป็นทหารกล้า ตายเพื่อรักษาชาติเรา
.ตัดสินใจ โกนหัวบวชเณร จูงศพพ่อขึ้นสู่เมรุ
ชีวิต ของเณรแสนเศร้า โอ้โอ๋ คุณพ่อวันนี้จะต้องถูกเผา
ร่างกายพ่อต้องเป็นเถ้า ถูกไฟเผาแน่พ่อจ๋า
.ลูกจะขอทำบุญเจ็ดวัน นิมนต์พระเทศหนึ่งกัณฑ์
อุทิศผลทานไปหา ขอให้วิญญาณ พ่อสู่สวรรค์ชั้นฟ้า
สามเณรกำพร้า จะทำบุญหา พ่อเอย
ดนตรี.....>>> .ลูกจะขอทำบุญเจ็ดวัน
นิมนต์พระเทศหนึ่งกัณฑ์ อุทิศผลทานไปหา
ขอให้วิญญาณ พ่อสู่สวรรค์ชั้นฟ้า สามเณรกำพร้า
จะทำบุญหา พ่อเอย ...
-
(http://www.onmvoice.com/audioimgs/85630.png)
http://www.onmvoice.com/player/player.swf?a=85630&ap=0&color=blue
จูบก่อนบวช - คำภีร์ แสงทอง
ขอจูบนิดเถิดจอมขวัญ ก่อนวันพี่โกนหัว
ครองไตรจีวรเฮ้อเออเออเอยอย่าเล่นตัว
ขอจูบเพียงนิดชิดใกล้ทูนหัว
ทำเล่นตัวไปได้ใจอย่าร้ายทำเชือนแช
หอมหนึ่งครั้งเพื่อตั้งใจ บวชไปให้กับแม่
ขอหอมเบาเบา เฮ้อเออเออเอย แก้มสีแพร
ขอจูบฝากไว้ด้วยใจแน่
เพื่อรักแท้มั่นคง บวชเป็นสงฆ์จงรอคอย
บวชเรียนสึกแล้วจะมา วิวาห์กับน้องคนดี
ไม่ถึงปีโปรดคอยหน่อย รักกันตั้งปีขอหอมแก้มที
ได้ไหมจ๊ะกลอย
น้องอย่าทำเหนียว หน่วงเหนี่ยวให้คอย
คอยจูบน้อยแก้มเจ้า อย่างอนเง้าแกล้งทรมาน
***
ขอจูบนิดแล้วปิดฉากรัก หยุดพักรักเรานั้น
พรุ่งนี้ต้องลาเฮ้อเออเออเอย ไปหลายวัน
เข้าบวชเป็นพระ นะแม่จอมขวัญ
ขอจูบนั้นให้พี่หน่อย จูบค่อยค่อยเพียงเบาเบา
***
-
เพลง นาคอนาถานักร้อง สัญญา พรนารายณ์
คำร้อง-ทำนอง ธงชัย เล็กกำพล
โห่...โห้...โห่...ฮิ้ว
ดูทุกคน เขาบวชลูกหลาน
ชื่นบาน เขามีขบวนแสนโก้
เราหรือมอง แทบร้องไห้โฮ
หลับตานั่งท่องนะโม เสียงไชโยโห่ร้องก้องมา
ดูทุกคน เขาปลื้มยินดี
เขามีทั้งพ่อและแม่ แตรวงนำหน้า
ชวนหญิงชาย มากหลายเกลื่อนตา
แล้วมองตัวข้า เห็นมีหลวงตาองค์เดียว
มือที่จะถือใบตอง
ประคับประคอง จะล้างเท้าแม่สุดแลสุดเหลียว
ดังเรือน้อย ลอยน้ำเชี่ยว
เหลือตัวคนเดียว เหลียวหาแม่จ๋าอยู่ไหน
ฟังเสียงคน เขาสั่งเวียนเทียน
เขาเวียนเห็นควัน ฉันมองร้องไห้
บุญแม้นมี ลูกนี้ตั้งใจ
อุทิศกุศลดลให้ วิญญาณแม่ได้สุขเอย...
:'e:31
-
เพลง คนรกโลก
นักร้อง สมยศ ทัศนพันธ์
คำร้อง-ทำนอง สมยศ ทัศนพันธุ์
โบราณก่อนโน้น เขาว่ารกคนดีกว่ารกหญ้า
ด้วยคนนั้นกำเนิดมา สูงเลิศล้ำค่ากว่าใดในสากล
สัตว์อันล้ำเลิศ สุดแสนประเสริฐวิมล
ปราชญ์ท่านเปรียบเทียบแล้วคือคน ปฏิสนธิ์สวรรค์สรรสร้าง
คนเดียวหัวหาย แม้นสองเพื่อนตาย ชี้ให้เห็นว่า
มากคนนั้นดีหนักหนา ไว้พึ่งไว้พาดีกว่าจะเหินห่าง
แต่คนทุกคน ใช่ล้นเลิศไปทุกทาง
ต่างดีชั่วมั่วสุมอำพราง สุดเชื่อทางสุดไว้วางใจ
ในห้วงวิถี มากมายไปเพราะผงคลี
เหมือนคนชั่วดี นั้นมีเกลื่อนไป
ขยะมูลฝอย ใหญ่น้อยนั้นพอกวาดได้
คนเลวที่รกโลกไย กวาดเท่าไรไม่หมดไปพ้น
โบราณก่อนโน้น เขาว่ารกคนดีกว่ารกหญ้า
แต่ถ้ารกคนชั่วช้า ฉันว่ารกหญ้าดีกว่าจะรกคน
เกิดมาแม้นใครสิ้นไร้คุณธรรมเหลือทน
สร้างแต่บาปหยาบช้าเล่ห์กล นั่นแหละคือคนรกโลกเอย...
sp4632
-----------------------------------------------------------------------
-
เพลง โลกอนิจจังขับร้องโดย ชรินทร์ นันทนาครดัดแปลงทำนองไทย “กลันตันรันทด”อยู่เดียว ฉันเปลี่ยวผวา
จันทร์เด่นลอย ฟ้าสว่าง
เมฆลอยบังจันทร์ นั้นกระจ่าง
มืดมัวเหนือกลางเบื้องบน ฟ้าก็หม่นลมพัดเยือกเย็น
เปรียบจันทร์ ฉันหวั่นชีวิต
เคยอยากจะคิด ดีเด่น
ก้าวถลำ เคราะห์กรรมพาลำเค็ญ
ยากเย็นมิเคยวิตก คล้ายวิหคลอยฟ้าล่องลม
มองตัวฉัน บางวันก็ชื่นบาน
สุกสกาวเหมือนชาววิมาน ถึงกาลวิมานถล่ม
ขาดความภิรมย์ สังคมใดใดไม่พะวง
มองโลกงง ฉันคงมีแต่ความหวัง
มืดมน เหมือนอยู่ห้วงลึก
มองโลก ยิ่งนึกนิจจัง
สับสน เวียนวนเหลือจนจะหยั่ง
ดุจเรานิจจังไม่แน่ เพราะมีแต่ความทุกข์โศกเอย...
psi306
------------------------------------------------------
-
เพลง จงทำดี
นักร้อง ร้องหมู่ วงสุนทราภรณ์ กรมประชาสัมพันธ์
คำร้อง ศรีสวัสดิ์ พิจิตรวรการ
ทำนอง เอื้อ สุนทรสนาน
***จงทำดี จงทำดี
ต่อกรณีย์ที่ดี ที่ควรกระทำ
จงทำดี มีศีลธรรม
เพื่อผลกรรมดีงาม ตามสนอง
จงทำดี จงทำดี
สร้างทางชีวี ที่มีมาลีลาตรอง
พลางดำเนิน เชิญขวัญครอง
โลกสีทอง ลำยองมองชื่นตา
จงทำดี จงทำดี
เสียแต่วันนี้ ดีกว่า
คุณธรรม นั้นล้ำค่า
ธรรมย่อมรักษา ผู้ประพฤติธรรม
จงทำดี จงทำดี
ต่อกรณีย์ที่ดี ที่ควรกระทำ
กรรมทำมา จะน้อมนำ
ให้ผลกรรมดีงาม ตามตอบแทน...
:'e:78
ช--------------------------------------------------------------