ผู้เขียน หัวข้อ: ผลไม้เพื่อสุขภาพ  (อ่าน 2290 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ผลไม้เพื่อสุขภาพ
« เมื่อ: 14/เม.ย./13 17:14น. »


                                  
"มังคุด ลำไย ลองกอง"ยอดผลไม้เพื่อสุขภาพ


                                                                                                
                                                  

มังคุด...ลองกอง...ลำไย เป็นผลไม้ไทยๆ ที่มีรสชาติอร่อยลิ้น มีประโยชน์มากมาย รวมถึงสรรพคุณทางยาสมุนไพร ในช่วงที่ผลไม้มีปัญหาผลผลิตล้นตลาด ทำให้ราคาแสนถูกอย่างไม่น่าเชื่อ การหันมาบริโภคผลไม้ไทย จึงถือเป็นการได้กำไร 2 ต่อ คือนอกจากจะเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรแล้ว ยังทำให้สุขภาพดีอีกด้วย

อ.สง่า ดามาพงศ์ นักโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข บอกถึงคุณประโยชน์ของผลไม้ไทยๆ อย่างมังคุด ลองกอง และลำไยว่า สำหรับ “มังคุด” นั้นเป็น “ราชินีผลไม้” หรือ Queen of fruit เนื่องจากรสชาติของมังคุดอร่อยมาก มีเอกลักษณ์ หอมหวาน แต่ไม่หวานจัด แบบอมเปรี้ยวอมหวาน รสชาติกินขาดผลไม้ทุกชนิด ขณะที่คุณประโยชน์ทางสารอาหารก็มีวิตามินซีสูง ช่วยต้านมะเร็งไม่ให้เกิดอนุมูลอิสระ และมีแคลเซียมซึ่งปกติมีมากในนม เนื้อสัตว์ ในผลไม้ไม่ได้มีมากมายแต่มีในมังคุด อีกทั้งยังมีฟอสฟอรัส โพแทสเซียม ช่วยให้เผาผลาญพลังงานได้เป็นปกติ

แต่ที่โดดเด่นมากที่สุด คือ ในมังคุดมีไฟเบอร์หรือเส้นใยอาหาร หากอาหารไม่ย่อยหรือดูดซึม เมื่อรับประทานมังคุดเส้นใยอาหารตัวนี้ก็จะไปเกาะเป็นก้อนอมน้ำมีน้ำหนัก ดึงเอาสารก่อมะเร็งในไขมัน น้ำตาล ที่อยู่ระหว่างมื้อออกไปทางอุจจาระ ดังนั้น หากใครที่ท้องผูกเป็นประจำหรืออยากลดน้ำหนักจึงขอแนะนำให้กินมังคุด

ส่วนลองกองและลำไยนั้น อ.สง่า ชี้ให้เห็นความแตกต่างกับมังคุดว่า ลองกองจะมีวิตามินสูงกว่ามังคุด มีไฟเบอร์ แคลเซียม คล้ายมังคุด แต่มีเสน่ห์ที่เนื้อใส รสชาติอมเปรี้ยวอมหวาน ขณะที่ลำไย นอกจากมีรสหวานกรอบแล้ว ยังมีแคลเซียมสูงกว่าเมื่อเทียบมังคุดและลองกอง อีกทั้งให้พลังงานสูงกว่าผลไม้อีก 2 ชนิดด้วย

อย่างไรก็ตามในการกินลำไยซึ่งเป็นผลไม้ที่มีน้ำตาลมากกว่าผลไม้ทั้ง 2 ชนิด การกินลำไย จึงต้องระวังสำหรับผู้ที่กำลังควบคุมน้ำหนัก เป็นเบาหวาน อ้วนลงพุง แต่ในคนที่มีสุขภาพปกติสามารถกินลำไยได้ แต่ก็ไม่ควรกินมากจนเกินไป

นอกจากจะอธิบายคุณประโยชน์ผลไม้ 3 ชนิดเสร็จสรรพแล้ว อ.สง่า ยังแนะนำวิธีการรับประทานผลไม้ง่ายๆ ด้วย 3 ข้อ คือ 1.ควรกินผลไม้ให้หลากหลายชนิด อย่าซ้ำซากจำเจ ทั้งมังคุด ลองกอง ลำไย สามารถกินได้ใน 1 วัน สลับกัน การซื้อมังคุดกิน 3 กิโลกรัม ในวันเดียวคงไม่ถูกต้องนัก 2.ควรเลือกกินผลไม้ตามฤดูกาล ฤดูกาลมังคุดก็กินมังคุด ฤดูกาลลำไยก็กินลำไย แม้ว่าสมัยนี้ผลไม้จะสามารถออกผลได้เกือบทุกฤดูกาล แต่สารอาหารคุณค่าความสดสู้ในฤดูกาลของผลไม้ชนิดนั้นๆ ไม่ได้ และ 3.ควรกลับมากินผลไม้ไทยมากขึ้น เพราะผลไม้ไทยอร่อย สด ราคาถูก และให้คุณค่าทางโภชนาการมากกว่าผลไม้นอก เช่น ผลไม้นำเข้าจากต่างประเทศที่ต้องใส่รังไว้นานๆ ใช้เวลาในการขนส่ง วิตามินซีที่ควรได้รับอาจหายไปแล้วกว่าครึ่ง ต่างจากผลไม้ที่เด็ดเมื่อวานซึ่งมีวิตามินซีมากกว่าอยู่แล้ว

นอกจากนี้ หากต้องการกินผลไม้เพื่อช่วยควบคุมน้ำหนัก อ.สง่า บอกว่า ควรเลือกรับประทานผลไม้ที่รสไม่หวานจัด ไม่มีแป้งมาก ซึ่งผลไม้ที่มีแป้งมากเช่น มะม่วงดิบ มะละกอ และหากจะกินลดน้ำหนัก ลดพุง ให้กินข้าวมื้อเย็นแต่น้อยแล้วกินผลไม่เป็นอาหารว่าง หรือกินผลไม้ก่อนอาหารมื้อหลัก โดยเฉพาะมื้อเย็นโดยให้กินผลไม้ก่อนอาหารเย็นประมาณครึ่งชั่วโมง แล้วกินน้ำประมาณ 2 แก้ว จะทำให้ความอยากกินอาหารเย็นน้อยลง

ด้าน พญ.ลลิตา ธีระสิริ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญธรรมชาติบำบัด ศูนย์ธรรมชาติบำบัดบัลวี เสริมว่า นอกจากผลไม้อย่างมังคุดจะมีรสชาติอร่อยแล้วยังมีสรรพคุณทางยาด้วย โดยเนื้อใช้เป็นยาแก้ร้อนใน บำรุงกำลัง จะเห็นได้ว่า หากกินลำไย หรือทุเรียนซึ่งเป็นผลไม้ร้อน ให้กินแก้ด้วยมังคุด ส่วนยางที่มีสีเหลืองๆ ที่ปนกับเนื้อจะช่วยแก้ท้องเสีย ส่วนเปลือกมังคุดตากแห้งฝนกับน้ำปูนใสสามารถใช้ในการรักษาแผลหนองพุพอง กำจัดแบคทีเรีย หรือนำเปลือกมังคุดฝนกับน้ำกินแก้ท้องเสีย

ส่วนลำไย เป็นผลไม้ที่ถือเป็นยาบำรุงหัวใจร่างกาย บำรุงเลือดลม ระบบประสาท ช่วยในเรื่องความจำ ในตำราแพทย์แผนจีนมักนำลำไยอบแห้งมาต้มกับโสม ช่วยให้ผู้สูงวัยไม่หลงลืม ส่วนในตำราแพทย์แผนไทย มักนำไปต้มแช่เหล้า ใช้เป็นยาบำรุงเลือด ระบบประสาท ป้องกันโรคหลงๆ ลืมๆ

เรียกว่าสรรพคุณที่คนโบราณเรียนรู้ประโยชน์จากลำไยทั้งไทยและจีนใกล้เคียงกัน

อย่างไรก็ตาม นอกจากเนื้อของลำไยจะให้ประโยชน์ทางยาอย่างยิ่งแล้ว คนไทยยังนำรากของต้นลำไยต้มกินแก้เสมหะมาก ส่วนผู้ที่ควรกินลำไย เช่น ผู้ที่มีอาการท้องเสีย อาหารไม่ย่อย ท้องอืดแน่น ฝ้าบนลิ้นสีขาว และหนา หรือเป็นหวัด ไม่ควรกินลำไยสดมากจนเกินไป เพราะลำไยมีคุณสมบัติร้อน จะทำให้เกิดอาการเจ็บคอ และเป็นร้อนในภายในปากได้

พญ.ลลิตา บอกอีกว่า สุดท้ายลองกอง นับว่าเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินบี และฟอสฟอรัส มีสรรพคุณในการลดความร้อน ที่เกิดขึ้นภายในร่างกาย เมื่อกินเป็นประจำ จะช่วยป้องกันไม่ให้เป็นไข้ตัวร้อน และช่วยไม่ให้เกิดอาการร้อนในขึ้นในปากได้อีกด้วย รวมถึงแก้ปวดท้อง ท้องเสีย เม็ดลองกองใช้ขับพยาธิ เปลือกใช้ไล่ยุง

สุดท้าย อ.สง่า บอกว่า อย่างไรก็ดี รัฐบาลควรถือโอกาสนี้ในการรณรงค์ให้คนไทยหันมากินผลไม้เพื่อสุขภาพมากขึ้น โดยการรับประทานผลไม้เป็นอาหารว่างแทนขนมหวาน เพื่อควบคุมโรคอ้วน มีประโยชน์มากกว่า นอกจากนี้ควรปลูกฝังให้ทุกคนเลือกบริโภคผลไม้ไทยมากขึ้น เนื่องจากตั้งแต่มีระบบการค้าเสรี ผลไม้นอกทะลักเข้าประเทศเป็นจำนวนมาก ทำให้คนแห่ไปกินผลไม้ต่างชาติ ทิ้งผลไม้ไทยไว้เบื้องหลัง และที่สำคัญอีกประการหนึ่ง คือ หากจะกินผลไม้ควรกินผลไม้สดๆ มากกว่าแปรรูปเป็นน้ำผลไม้ที่ไม่ให้คุณค่าทางโภชนาการ เพราะผลไม้สดย่อมมีคุณค่าทางโภชนาการสูงกว่ามาก

ขอขอบคุณข้อมูลจาก  www.manager.co.th
ขอขอบคุณภาพจาก อินเตอร์เน็ต

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=14690
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14/เม.ย./13 17:23น. โดย ลุงชัย นรา »

ออฟไลน์ แม็ท

  • Global Moderator
  • *
  • ออฟไลน์
  • 763
    717
  • เพศ: ชาย
Re: ผลไม้เพื่อสุขภาพ
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: 21/เม.ย./13 14:25น. »

ได้รับความรู้เกี่ยวกับผลไม้ทั้ง 3 อย่างเพิ่มขึ้นมาอีก ขอบคุณลุงชัยมากครับที่นำข้อมูลดีๆมาฝาก

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=14690

ออฟไลน์ สมศักดิ์ กทม

  • มืออาชีพ
  • **
  • ออฟไลน์
  • 65
    10
Re: ผลไม้เพื่อสุขภาพ
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: 13/พ.ค./13 22:12น. »

ประโยชน์มากมายจริงๆครับ

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=14690