ผู้เขียน หัวข้อ: RVS ไวรัสตัวร้าย ต้องระวัง โดย ผศ.นพ.จักรพันธ์ สุศิวะ  (อ่าน 5271 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ ภูฤดู ปักซัว

  • Administrator
  • *
  • ออฟไลน์
  • 4207
    3176
  • เพศ: ชาย
    • อีเมล์


    ไวรัส RSV หรือ Respiratory Syncytial Virus ชื่อนี้ฟังดูคุ้น ๆ เพราะเด็กเล็ก ๆ เป็นกันค่อนข้างบ่อย บางรายอาการที่เป็นอาจไม่มากนักก็คงไม่น่าห่วง แต่ในรายที่อาการหนัก ก็มีโอกาสเสียชีวิตอยู่เหมือนกัน วัคซีนป้องกันก็ไม่มีแบบนี้ต้องอาศัยการสังเกตมากสักหน่อย เพื่อปกป้องลูกน้อยให้ห่างไกลเจ้าวายร้ายนี้ครับ

    พบได้ตั้งแต่แรกเกิด

    มีการศึกษาพบว่าเด็กแรกเกิดก็เริ่มมีการรับหรือติดเชื้อตัวนี้กันเข้าไปแล้ว โดยเฉพาะเด็กเล็กที่อายุน้อยกว่า 2 ปี แต่ก็ใช่ว่าเด็กทุกคนจะมีอาการหนักจนต้องเข้าไอซียู ใส่ท่อหายใจเหมือนกันหมดหรอกนะครับ

    แตกต่างตรงหอบเหนื่อย

    เด็กที่เป็นหวัดธรรมดา ส่วนใหญ่จะมีอาการเป็นแบบหวัด มีไข้ ไอ จาม น้ำมูกไหล กินน้ำ กินนมได้ เป็นอยู 5-7 วัน ก็หายเป็นปกติ เด็กบางคนอาจจะกล่องเสียงอักเสบ หลอดลมอักเสบ ไอแบบมีเสมหะร่วมด้วย

    แต่อาการที่เป็นมากกว่าหวัดธรรมดาให้สังเกตอาการหอบ เหนื่อยเป็นสำคัญครับ บางคนหอบมากจนเป็นโรคปอดบวม หายใจแรงจนหน้าอก”ป่ง หายใจเร็วแบบปอดบวม หายใจออกลำบาก หรือหายใจมีเสียงวี้ดแบบหลอดลมฝอยอักเสบ บางรายไอมากจนอาเจียน ซึมลง ตัวเขียว กินข้าว กินน้ำ กินนมไม่ได้ ก็ต้องรีบไปหาหมอกันเลย

    อาการจากการติดเชื้อเกิดจากการกระตุ้นปฏิกิริยาอักเสบต่อเรื่องในระบบการหายใจ ผลก็คือทำให้มีอาการเหล่านี้แบบเรื้อรังและต่อเนื่อง การติดเชื้อตัวนี้จะถูกโทษเลยว่าเป็นเหตุให้เด็กป่วยเป็นโรคหอบหืดเมื่อโตขึ้น

    โอกาสเป็นซ้ำยังมี

    เด็กที่เป็นแล้วมีอาการแบบหลอดลมฝอยอักเสบ หมอรักษาหายแล้วก็อย่านอนใจ เรียกว่าชอบกลับมาเป็นซ้ำอีก เมื่อเป็นแล้วอาจทำให้เด็กมีภาวะภูมิไวเกินที่หลอดลม แค่ติดเชื้อหวัดธรรมดาก็อาจกระตุ้นให้อาการหอบ มีเสมหะและไอมากกลับมาได้ ก็คงต้องหาหมอ กินยาป้องกันเอสไว้

    ปัจจัยที่ทำให้อาการรุนแรง

    กลุ่มที่เป็นโรคหัวใจพิการแต่กำเนิด พวกคลอดก่อนกำหนด น้ำหนักตัวน้อย หรือมีภูมิต้านทานต่ำ แต่ถ้าเป็นเด็กที่แข็งแรง เลี้ยงดูง่าย ได้รับอาหารที่ดี ก็มักเป็นแบบไม่รุนแรง แต่ความรุนแรงก็มีระบุไว้นะครับว่าเป็นมากในเด็กผู้ชาย และเด็กเล็กที่มีพ่อแม่สูบบุหรี่นี่แหละครับ ยิ่งเด็กที่เป็นโรคหัวใจพิการแต่กำเนิดก็หายใจลำบากอยู่แล้ว พอหายใจวี้ดแบบหลอดลมฝอยอักเสบหรือเป็นปอดบวมร่วมไปด้วย แม้จะให้การรักษาแบบเต็มที่แล้วก็ยังเสียชีวิตได้

    ปลายฝนต้นหนาวช่วงเวลาระบาด

    ช่วงปลายฝนต้นหนาวที่อากาศมีการเปลี่ยนแปลง เป็นปัจจัยที่ให้มีการติดเชื้อระบบการหายใจได้ง่าย เชื้อนี้จึงเป็นเชื้อของระบบการหายใจที่เป็นกันบ่อย และระบาดมากช่วงเดือนสิงหาคม - พฤศจิกายน

    ไม่มีวัคซีนต้องรู้จักป้องกัน

    แม้จะมีการทดลองคิดค้นวัคซีนกันอยู่ แต่ในต่างประเทศมีการใช้แอนติบอดีเพื่อป้องกันไม่ให้ติดเชื้อตัวนี้ในกลุ่มเด็ก เด็กโรคหัวใจพิการมาแต่กำเนิด เด็กที่คลอดก่อนกำหนด น้ำหนักตัวน้อย เพื่อลดอันตรายของการป่วยรุนแรงได้

    ในเด็กปกติที่แข็งแรงดีแต่ยังป่วยเป็นหลอดลมฝอยอักเสบ เรามักคาดกันว่าเกิดจากการติดเชื้อ RSV มีอาการรุนแรงถึงขั้นต้องนอนโรงพยาบาล การให้ยาขยายหลอดลมเพื่อการรักษาก็ไม่อาจช่วยอะไรมากนัก ก็มีการให้ยาต้านการอักเสบ Montelukast อันนี้ไม่ใช่ทั้งยาปฏิชีวนะและยาสเตียรอยด์ ประมาณ 28 วัน ผู้ป่วยมักมีอาการดีขึ้น ลดโอกาสที่จะเกิดอาการรุนแรงได้

    เทคโนโลยีปัจจุบันก้าวหน้าไปอย่างมาก แม้ยังไม่มีการค้นพบวัคซีนป้องกันไวรัสชนิดนี้ แต่ก็มีวิธีการป้องกันด้วยการสังเกตและดูแลลูก เพื่อไม่ให้เจ้า RSV มากล้ำกลายได้ครับ

บทความโดย  ผศ.นพ.จักรพันธ์ สุศิวะ


+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=6737
<a href="http://www.clocklink.com/clocks/5032-orange.swf?TimeZone=GMT0700&amp;" target="_blank" class="new_win">http://www.clocklink.com/clocks/5032-orange.swf?TimeZone=GMT0700&amp;</a>

ออฟไลน์ ยายมดน้อย

  • สมาชิกใหม่
  • *
  • ออฟไลน์
  • 0
    357

 :'e:95 ลูกโตแล้ว ภูมิต้านทานค่อนข้างดี อิ อิ
ขอบคุณข้อมูลข่าวสารที่ ดี ดี ค่ะ...

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=6737

ออฟไลน์ chomm

  • เทพ
  • *****
  • ออฟไลน์
  • 1688
    729

ขอบคุณนะคะคุณภู  ที่มีข้อมูลเรื่องโรคภัยมาให้ได้อ่าน  บางครั้งแม้จะอยู่ในวงการ  บางเรื่องก็ไม่ค่อยทราบนะคะ

+0 โดย

ลิ้งค์หัวข้อ: https://www.plengpakjai.net/index.php?topic=6737