เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ (Endometriosis)
โรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่หรือ โรค เอ็นโดเมททริโอซิส
หมายถึง ภาวะที่มีการเจริญเติบโตของเซลล์เยื่อบุโพรงมดลูกภายนอกมดลูก ซึ่งส่วนมากจะพบบริเวณอุ้งเชิงกราน
มี 2 ชนิด คือ
ชนิดที่พบภายนอกมดลูก (Endometriosis Externa) เป็นชนิดที่พบได้บ่อย มักพบพยาธิสภาพบริเวณอุ้งเชิงกราน รวมถึงรังไข่ ลำไส้ใหญ่ เยื่อบุช่องท้อง นอกจากนี้ยังพบได้ที่ ท่อไต ปอด และบริเวณผิวหนัง หรือ แผลผ่าตัด
ชนิดที่พบในกล้ามเนื้อมดลูก (Endometriosis Interna) เกิดจากเซลล์เยื่อบุโพรงมดลูกไปแทรกอยู่ในกล้ามเนื้อมดลูกทำให้มีอาการปวดประจำเดือน และทำให้มดลูกโตขึ้นได้
อาการ
ปวดประจำเดือนโดยเฉพาะสตรีที่ไม่เคยปวดประจำเดือนมาก่อน แล้วเริ่มมีอาการหรือมีปวดประจำเดือนมากขึ้นกว่าเดิม (Progressive Dysmenorthea)
ปวดขณะทีเพศสัมพันธ์ (Dyspareunia)
ปวดท้องน้อยเรื้อรัง (Chronic Pelvic Pain) ซึ่งจะต้องตรวจวินิจฉัยแยกโรคอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น การติดเชื้อในอุ้งเชิงกรานหรือโรคเกี่ยวกับลำไส้และระบบทางเดินอาหารก่อน
มีบุตรยาก
คลำก้อนได้ที่ท้องน้อย หรือมีเลือดออกผิดปกติจากช่องคลอดอาการอื่น ๆ ที่สัมพันธ์กับตำแหน่งของโรค เช่น ไอเป็นเลือด ในช่วงมีประจำเดือน หรือมีก้อน เจ็บบริเวณแผลผ่าตัด ซึ่งพบได้น้อยมาก
ไม่มีอาการผิดปกติ
การตรวจวินิจฉัย
ตรวจร่างกายและตรวจภายใน
การตรวจด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI)
การตรวจเลือด (CA 125)
การตรวจส่องกล้องผ่านหน้าท้องเพื่อดูพยาธิสภาพในอุ้งเชิงกราน (Laparoscopy) และตรวจชิ้นเนื้อทางพยาธิวิทยา พยาธิสภาพของเอ็นโดเมททริโอซิส จากการผ่าตัดส่องกล้องผ่านทางหน้าท้อง จะสามารถแบ่งชนิดได้ดังนี้
เป็นจุดสีน้ำเงินเข้ม จุดเลือดออก หรือถุงน้ำเล็ก ๆ ที่เยื่อบุช่องท้อง เป็นถุงซีสต์ของรังไข่ หรือที่เรียกว่า "Chocolate Cyst"
เป็นก้อนเนื้อแข็ง ซึ่งมักจะพบบริเวณเอ็นที่ยืดมดลูกทางด้านหลัง
นอกจากนี้ยังสามารถพบร่วมกับพังผืดในอุ้งเชิงกราน
การรักษา
1.การรักษาโดยการใช้ยาฮอร์โมน เช่น ยาเม็ดคุมกำเนิด, ยาฉีดคุมกำเนิด
2.การใช้ยาในกลุ่ม GnRH Agonist, GnRH Antagonist, Aromatase Inhibitor
3.การรักษาร่วมกัน ทั้งการผ่าตัด และการใช้ยา
ในการรักษาผู้ป่วยโรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ ยังมีข้อถกเถียงบางประการในการรักษา นอกจากนี้ยังต้องอธิบายให้ผู้ป่วยทราบถึงลักษณะการดำเนินโรค ซึ่งอาจสามารถกลัมาเป็นใหม่หลังได้รับการรักษาได้ สาเหตุของโรคที่แท้จริงยังไม่สามารถสรุปได้แต่มีความพยายามที่จะหาทฤษฎีการเกิดของโรคนี้อยู่
สัญญานเตือน ควรปรึกษาสูตินรีแพทย์ เมื่อท่านมีอาการดังต่อไปนี้
ปวดประจำเดือนเพิ่มขึ้นทุกเดือน
ปวดท้องน้อยเรื้อรัง
ปวดเวลามีเพศสัมพันธ์
มีบุตรยาก
มีเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอด