เราทุกคนต้องมีการผายลมกันเป็นปกติธรรมดา ถ้าหากไม่มีการผายลมเลย ภายในท้องของคุณจะรู้สึกอึดอัด ไม่สบาย และในที่สุด ก๊าซในปอดของคุณก็จะถูกระบายออกมาทางปาก ดังนั้น การผายลมเป็นสิ่งสำคัญ ที่จริงแล้วมันมากกว่าสำคัญเสียอีก แต่มันเป็นสิ่งที่ดีมาก
และนี่คือ 5 ประโยชน์ที่ดีต่อสุขภาพของคุณ
1.อาการท้องอืด
หลายคนต้องเผชิญกับอาการท้องอืดได้ แม้ว่าจะรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ แต่ก็ไม่วายต้องเจอกับอาการท้องอืด โดยเฉพาะหากคุณรับประทานถั่วและถั่วฝักยาว ยิ่งทำให้ท้องอืด แต่โชคดีที่ร่างกายมนุษย์มาพร้อมกับวาล์วปล่อยความดัน ดังนั้น คุณต้องปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ
การผายลม เสมือนการปล่อยก๊าซ เมื่ออาหารไม่ได้ย่อยจะทำให้เกิดแก๊ส คุณสามารถแก้ไขด้วยวิธีการดังนี้ คือการนอนหงาย และดึงเข่าข้างหนึ่งไปยังหน้าอกของคุณ ตำแหน่งนี้เรียกว่า “pawanmuktasana” นั่นเอง
2.กลิ่นของการผายลม ทำให้รู้ว่าสุขภาพของคุณเป็นเช่นไร
หากคุณเป็นคนที่มีสุขภาพดี การผายลมส่วนใหญ่จะมีกลิ่นที่ไม่แย่ แต่หากเริ่มมีกลิ่นเน่าเหม็น คุณจะต้องเริ่มให้ความสนใจในสุขภาพของตัวเองแล้ว เพราะสิ่งเหล่ามันอาจจะเป็นสัญญาณการแพ้แลคโตส อาหารไม่ย่อย หรือการติดเชื้อระบบทางเดินอาหาร
3.การสูดดมกลิ่นผายลมเป็นเรื่องที่ดี
เพราะเวลาที่คุณผายลมออกมา จะมีสารไฮโดรเจนซัลไฟด์ออกมาด้วย ซึ่งมีการวิจัยได้พบว่าการสูดดมก๊าซไฮโดรเจนซัลไฟด์ในปริมาณน้อยๆ จะสามารถลดความเสียหายของเซลล์ได้ในระยะยาวได้ แถมยังสามารถป้องกันไม่ให้เกิดโรคไขข้อและโรคหัวใจด้วย
4.การผายลมเป็นจุลินทรีย์ที่ดีต่อสุขภาพ
จุลินทรีย์มีบทบาทสำคัญกับสุขภาพในหลายแง่มุมเพราะมันเป็นระบบภูมิคุ้มกันของคุณ อีกทั้งยังควบคุมสารเคมีในสมองและควบคุมน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น
แน่นอนว่า คุณไม่สามารถดูจุลินทรีย์ในลำไส้ของคุณได้ หรือแม้ว่าคุณจะสามารถดูได้ แต่จุลินทรีย์จะไม่สามารถแจ้งให้คุณทราบได้ว่าทุกอย่างในร่างกายคุณโอเค ซึ่งการรับประทานอาหารที่ทำให้เกิดก๊าซเป็นวิธีเดียวที่ทำให้จุลินทรีย์ในลำไส้จะได้รับสารอาหาร
5.การผายลมทำให้รู้ว่าคุณขาดสารอาหาร
ถ้าคุณไม่ค่อยผายลม นั่นก็เป็นเพราะ จุลินทรีย์ในลำไส้ของคุณไม่ได้รับสารอาหารที่พวกเขาต้องการ นั่นหมายความว่าคุณต้องกินคาร์โบไฮเดรตให้มากขึ้น เช่น ถั่ว เมล็ดธัญพืช กะหล่ำปลี หัวหอม เป็นต้น
ทั้งนี้ หากคุณอยู่ในวัยใกล้วัยหมดประจำเดือน คาดว่าความถี่ในการผายลมจะเพิ่มขึ้น การทานอาหารจำพวกโปรไบโอติกเป็นทางเลือกหนึ่งที่จะรักษาลำไส้ ให้คุณมีสุขภาพดีในระยะยาวได้
ขอขอบคุณข้อมูล จาก นสพ.ผู้จัดการ