หนังกลางแปลง > ภาพยนตร์ในอดีต
เชิญชมภาพโปสเตอร์ภาพยนตร์ไทยในอดีตกันครับผม
ทนาย:
เรื่อง : อ้อมอกเจ้าพระยา (2515)
กำกับโดย : ร้อยคำ
นำแสดงโดย : ยอดชาย เมฆสุวรรณ, อรัญญา นามวงศ์, สายัณห์ จันทรวิบูลย์, จีราภา ปัญศิลป์, จินฟง
เรื่องราวของ "กล้า" กัปตันเรือสินค้า พบรัก "เซาะไน" หญิงชาวจีนในฮ่องกงซึ่งเธอแอบหนีเตี่ยมาใช้ชีวิตตามลำพังเมื่อเตี่ยมาตามจึงพาเธอกลับไป โดยที่กล้าไม่รู้สาเหตุกล้าเสียใจกลับมากรุงเทพก็ลาออกจากงาน เซาะไนก็เสียใจเธอจึงหนีเตี่ยมาตามหากล้าที่เมืองไทย
ขณะเธอนำรูปถ่ายกล้าเที่ยวถามคนไปทั่วเธอก็ถูกชายคนหนึ่งหลอกไปปล้ำหมายข่มขืน แต่เคราะห์ยังดีมีคนมาช่วยให้หนีรอดมาได้ จากนั้นก็คิดฆ่าตัวตายด้วยการกระโดดลงน้ำ "จิระพร" มาห้ามเธอไว้และได้พาเธอมาอาศัยอยู่บ้าน "เก่ง" เพื่อนชายของจิรพร เมื่อได้เห็น เซาะไน ก็คิดรักต่อมาเขารู้ความจริงว่าเซาะไนมาตามหากล้าพี่ขายของเขาเองในที่สุด เซาะไนได้พบกันกล้าอีกครั้ง เป็นครั้งที่ทั้งสองคนสมหวังที่สุดในชีวิต
ทนาย:
ยั่วรัก (2514)
กำกับการแสดง : จิตติน
นำแสดงโดย: ไชยา สุริยัน, เพชรา เชาวราษฎร์, อดุลย์ ดุลยรัตน์, เมตตา รุ่งรัตน์, ชุมพร เทพพิทักษ์
ทนาย:
เลือดสุพรรณ (2524)
ผู้กำกับ - เชิด ทรงศรี
นำแสดงโดย - ไพโรจน์ สังวริบุุตร, ลลนา สุลาวัณย์, ส อาสนะจินดา
ภูฤดู ปักซัว:
ภาพสวยๆ ชัดๆ มาอีกแล้ว
ขอบคุณกันอีกครั้งครับ
ชอบครับ ชอบ
ทนาย:
สันติ-วีณา (2497)
กำกับการแสดงโดย : มารุต
นำแสดงโดย : พูนพันธ์ รังควร, เรวดี ศิริวิไล
สันติ-วีณา เป็นภาพยนตร์ไทย ที่ออกฉายในปี พ.ศ. 2497 ระบบ 35 ม.ม. ไวด์สกรีน สีอีสต์แมน เสียง(จริงขณะถ่ายทำ) ผลงานชิ้นแรกของบริษัท หนุมานภาพยนตร์ โดย รัตน์ เปสตันยี ซึ่งเป็นทั้งผู้อำนวยการ ถ่ายภาพ และ ลำดับภาพ สร้างเพื่อส่งประกวด ในงานภาพยนตร์นานาชาติแห่งเอเชีย-แปซิฟิก ครั้งที่ 1 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อ พ.ศ. 2497 บทประพันธ์โดย โรเบิร์ด จี นอร์ท เขียนบทโดย คุณาวุฒิ กำกับโดย มารุต และบันทึกเสียงโดย ปง อัศวินิกุล
จุดเด่นนอกจากเรื่องราวของความรักแล้ว การถ่ายภาพเพื่อแสดงวิถีชีวิตในชนบทไทยยังงดงามตื่นตา สะท้อนความเชื่อทางสังคม ขนบประเพณีและศาสนา เคยฉายทางโทรทัศน์ปลายยุคทีวีขาวดำ และทางช่อง 7 สี ช่วงแรกของสถานี ต่อมาฟิล์มต้นฉบับเรื่องนี้หายสาบสูญไป
บทความในนิตยสาร investor ฉบับเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2513 กล่าวว่าอาจจะเป็นภาพยนตร์ไทยที่ดีที่สุดที่มีการสร้างมา สิ่งที่เกิดเป็นความสูญเสียอันใหญ่หลวงที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น
สร้างใหม่อีกครั้งเมื่อ พ.ศ. 2519 กำกับโดย มารุต เช่นเดิม นำแสดงโดย นาท ภูวนัย, นัยนา ชีวานันท์, สมภพ เบญจาธิกุล และ พูนพันธ์ รังควร รับบทเป็นพ่อ
สันติ-วีณา เป็นเสมือนทูตทางวัฒนธรรม เพื่อผูกมิตรกับประเทศสังคมนิยมในขณะนั้น ในช่วงเวลานั้น จอมพล ป.พิบูลสงคราม มีนโยบายที่จะถ่วงดุลทางการทูตกับสหรัฐอเมริกา ที่พยายามเข้ามาแผ่อำนาจเพื่อต่อต้านลัทธิคอมมิวนิสต์ แม้ทางไทยจะต้องพึ่งพาความช่วยเหลือจากอเมริกา แต่ก็พยายามที่จะเป็นมิตรกับประเทศในภูมิภาคอย่างโซเวียตด้วย เมื่องทางสถานทูตรัสเซียขอซื้อภาพยนตร์ สันติ-วีณาไปฉาย เนื่องจากมีรางวัลที่ญี่ปุ่นการันตี ทางรัฐบาลไทยก็ยินดี และข่าวที่เผยแพร่ออกมาเป็นรูปแบบของการเผยแพร่ทางวัฒนธรรม และเป็นไปในรูปของเอกชน
หลังจาก สันติ-วีณา ไปฉายในต่างประเทศแล้ว วงการภาพยนตร์ไทยก็มีแนวโน้มถ่ายทำในระบบ 35 มม. มากขึ้น เพื่อสะดวกในการนำไปฉายในต่างประเทศ ต่อมารัสเซียติดต่อซื้อภาพยนตร์ 16 มม. เช่น สาวเครือฟ้า ศรีปราชญ์ (เนื่องจากช่วงนั้นส่วนใหญ่ยังนิยมถ่ายทำด้วยฟิล์ม 16 มม.)
ภาพยนตร์ได้รับรางวัลจากการประกวดที่ประเทศญี่ปุ่น 3 รางวัล คือ ถ่ายภาพยอดเยี่ยม (รัตน์ เปสตันยี) กำกับศิลป์ยอดเยี่ยม (อุไร ศิริสมบัติ) และรางวัลพิเศษเป็นกล้องถ่ายภาพยนตร์ จากสมาคมผู้สร้างภาพยนตร์แห่งอเมริกา สำหรับภาพยนตร์ที่มีการเผยแพร่วัฒนธรรมดีเด่น และได้ไปฉายประกวดในงานชุมนุมสัปดาห์ภาพยนตร์เอเชีย (Asian Film Week) ที่กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อเดือนกันยายน พ.ศ. 2500
ภายหลังการประกวด รัตน์นำฟิล์มต้นฉบับของภาพยนตร์กลับประเทศไทย แต่กลับถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้าฟิล์มภาพยนตร์ จึงจำเป็นต้องทิ้งฟิล์มเนกาทีฟไว้ที่ประเทศญี่ปุ่น เพื่อที่จะส่งกลับไปเก็บรักษาที่ห้องแล็บของบริษัทแรงค์ แลบอราทอรี่ส์ ประเทศอังกฤษ แต่ก็เกิดอุบัติเหตุ ฟิล์มภาพยนตร์ได้รับความเสียหายระหว่างการขนส่งทางเรือ ทำให้ฟิล์มภาพยนตร์เรื่อง “สันติ-วีณา” ไม่มีฟิล์มเนกาทีฟหลงเหลืออยู่ในประเทศไทย แต่มีหลักฐานว่าเมื่อปี พ.ศ. 2500 ทาง สหภาพโซเวียต และ สาธารณรัฐประธิปไตยประชาชนจีน ได้ซื้อก๊อปปี้ไปฉาย จึงอาจจะยังหลงเหลือฟิล์มภาพยนตร์เหลืออยู่ในโลกก็เป็นได้
นำร่อง
[0] ดัชนีข้อความ
[#] หน้าถัดไป
[*] หน้าที่แล้ว
Go to full version