จากกรณีที่มีการแชร์ต่อๆ กันไปในโลกออนไลน์ เกี่ยวกับอาหารเช้า 5 ประเภทที่เสี่ยงอันตรายถึงชีวิต ซึ่งประกอบไปด้วย “หมูทอดติดมัน”, “ธัญพืชอัดแท่ง”, “ปาท่องโก๋จิ้มนม”, “หมูปิ้ง” และ “ขนมครก” มาฟังความจริงกันดีกว่า ว่าถูกต้องหรือไม่?
ด้วยเหตุปัจจัยที่ว่า คนปัจจุบันมักเร่งรีบกับการไปทำงาน ไปเรียน ไม่มีเวลาในการที่จะรับประทานอาหารเช้า จึงเลือกที่จะรับประทานอาหารแบบรวดเร็ว สามารถซื้อไปรับประทานระหว่างในการเดินทาง และส่วนใหญ่ก็เป็นอาหารที่หาซื้อได้ง่ายตามร้านรวงริมทาง ซึ่งก็อย่างที่บอกว่า อาหาร 5 ประเภทนั้น หาซื้อได้ง่าย แต่มันอันตรายถึงชีวิตเชียวหรือ?
นายแพทย์สง่า ดามาพงษ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการ กระทรวงสาธารณสุข ได้ให้ความรู้ในเรื่องนี้ว่า
การบริโภคอาหารนี้ ไม่ว่าหมูทอดติดมัน ธัญพืชแท่ง ปาท่องโก๋จิ้มนมข้น หมูปิ้ง และขนมครก ไม่ได้มีการส่งผลอันตรายถึงแก่ชีวิต
แต่จะส่งผลในเรื่องของสุขภาพในระยะยาว
“เพราะอาหารเหล่านี้นั้นจัดอยู่ในประเภทอาหารไม่ครบ 5 หมู่ และมีส่วนประกอบของสารอาหารจำพวกโปรตีน ไขมันอยู่เป็นจำนวนมาก
“หากรับประทานกันบ่อยๆ ถี่ๆ ในปริมาณที่มาก จะส่งผลให้ร่างกายขาดสารอาหาร
ผลที่จะตามมาคือภูมิคุ้มกันในร่างกายตัวเองบกพร่อง ไม่สามารถต้านต่อโรคภัยต่างๆ ได้
จึงเป็นที่มาของโรคอ้วน และโรคต่างๆ แม้แต่โรคติดต่อเรื้อรังต่างๆ ที่จะตามมา”
ทั้งนี้ นายแพทย์สง่า ดามาพงษ์ ยังให้ข้อแนะนำอีกว่า
ถ้าจำเป็นที่จะต้องรับประทานอาหารพวกนี้จริงๆ ก็ควรจะมีการเพิ่มเติมเมนู
“อย่างเช่น เมื่อรับประทานข้าวเหนียวหมูปิ้ง หรือหมูทอด ควรรับประทานนมพร่องมันเนยสักกล่อง หรือผลไม้สักลูก เพื่อเพิ่มคุณค่าทางอาหารให้ครบในมื้อเช้า
“หรืออย่างขนมครก หรือปาท่องโก๋ ก็เลือกรับประทานเป็นอาหารว่างแทนอาหารเช้าที่เป็นอาหารหลัก
“เพราะอาหารเช้าที่ดีที่สุดนั้นคืออาหารที่ครบ 5 หมู่ มีทั้ง โปรตีน คาร์โบไฮเดรต เกลือแร่ วิตามิน และไขมัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของสมองในการทำงานในแต่ละวัน”
ด้วยเหตุนี้ การที่เราคิดว่าหากได้กินอาหารเช้าแล้ว ก็จะทำให้ร่างกายเราได้รับอาหาร แต่ความรีบเร่ง เร่งด่วนนั้นทำให้เราลิมฉุกคิดถึงผลที่จะได้รับจากอาหารที่เราทานข้าวไป เพราะมันมีแต่ปริมาณ คุณค่าอาหารได้รับเพียงน้อยนิด แถมยังได้รับสารพิษจากอาหารดังกล่าวที่เราทานเข้าไปอีก ตัวเรา ร่างกายของเรา เป็นสิ่งสำคัญหากเราไม่ดุแล มันก็จะเป็นผลเสียแก่ตัวเราเอง อาหารจึงเป็นสิ่งสำคัญที่เราควรจะต้องตระหนักให้มาก
ขอบคุณข้อความดีๆ จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์
http://www.manager.co.th/goodhealth/ViewNews.aspx?NewsID=9580000115196