รูปภาพเกี่ยวข้องกับบทเพลง > มาต่อเพลงกันเถอะ
บทเพลง...สารพัดสัตว์
จรีพร:
[ Invalid YouTube link ]
เพลง "ฝนเดือนหก"
คำร้อง/ทำนอง : ไพบูลย์ บุตรขัน
ผู้ขับร้อง : รุ่งเพชร แหลมสิงห์
โอ๊บ โอ๊บ ย่างเข้าเดือนหก ฝนก็ตก พรำพรำ
กบมันก็ร้องงึมงำ ระงมไปทั่วท้องนา
ฝนตกทีไรคิดถึงขวัญใจของข้า
แม่ดอกโสนบ้านนา
น้องเคยเรียกข้า พ่อดอกสะเดา
ย่างเข้าเดือนหก ฝนก็ตกโปรยโปรย
หัวใจพี่ร้องโอยโอย คิดถึงแม่ดอกบานเช้า
ฝนตกลงมาคิดถึงขวัญตาน้องเจ้า
ไม่เจอะหน้าน้องแม้เงา
หรือลืมรักเราเสียแล้วแก้วตา
ถามว่าฝนเอย ทำไมจึงตก
ตอบว่าฝนตก เพราะกบมันร้องเรียกฝนบนฟ้า
ถามว่าพี่เอยทำไมร้องไห้ และหลั่งน้ำตา
ตอบว่าหัวใจของข้าคิดถึงแก้วตาจึงร้องไห้
ย่างเข้าเดือนหก ฝนก็ตกปรอยปรอย
พี่ยังมาหลงยืนคอย น้องจนพี่ปวดหัวใจ
ฝนตกพรำพรำ พี่ยิ่ง ระกำหมองไหม้
พี่ต้องตากฝนทนหนาวใจ
น้องจากพี่ไปเมื่อเดือนหกเอย
:'e:111 :'e:111 :'e:111
จรีพร:
เพลง "กลิ่นโคลนสาบควาย"
คำร้อง/ทำนอง : ไพบูลย์ บุตรขัน
ผู้ขับร้อง :ชาญ เย็นแข
อย่าดูหมิ่นชาวนาเหมือนดั่งตาสี
เอาผืนนาเป็นที่พำนักพักพิงร่างกาย
ชีวิตเอยไม่เคยสบาย ฝ่าเปลวแดดแผดร้อนแทบตาย
ไล่ควายไถนาป่าดอน
เหงื่อรินหยดหลั่งลงรดแผ่นดินไทย
จนผิวดำเกรียมไหม้ แดดเผามิได้อุทรณ์
เพิงพักกายมีควายเคียงนอน สาบควายกลิ่นโคลนเคล้าโชยอ่อน
ยามนอนหลับแล้วใฝ่ฝัน
กลิ่นโคนสาบควาย เคล้ากายหนุ่มสาวแห่งชาวบ้านนา
ไม่ลอยเลิศฟ้าเหมือนชาวสวรรค์
หอมกลิ่นน้ำปรุงฟุ้งอยู่ทุกวัน
กลิ่นกระแจะจันทน์ หอมเอยผิวพรรณนั้นต่างชาวนา
อย่าดูถูกชาวนาเห็นว่าอับเฉา
มือถือเคียวชันเข่า เกี่ยวข้าวเลี้ยงเราผ่านมา
ชีวิตคนนั้นมีราคา ต่างกันแต่ชีวิตชาวนา
บูชากลิ่นโคนสาบควาย
:'e:135 :'e:135 :'e:135
จรีพร:
[ Invalid YouTube link ]
เพลง "ข้างขึ้นเดือนหงาย"
คำร้อง : แก้ว อัจฉริยะกุล
ทำนอง : เอื้อ สุนทรสนาน
ผู้ขับร้อง :เลิศ ประสมทรัพย์
ข้างขึ้นเดือนหงาย
เราขี่ควายชมจันทร์
เพลิดเพลินใจฉัน
โคมสวรรค์พราวพราย
ไขว่ห้างนั่งเฉย
เอ้อระเหยลอยชาย
เป่าขลุ่ยเพลงหนังบนหลังควาย
ชื่นพระพายโชยมา
แม้ว่าต้องการเพื่อนคุย
ฉันมีเจ้าทุยสนทนา
พูดจาตอบถามตามประสา
ลัดเลี้ยวคันนาตามชอบใจ
สุขใจจริงหนอ
เราไม่ง้อใครใคร
เจอะนางคนรักก็รับไป
เป่าขลุ่ยสอดคล้องเราร้องไป
ขี่ควายชมฟ้า
เพลินตาเพลินใจ
จันทร์แจ่มใสเต็มดวง
อยู่นาเดือนหงาย
เราขี่ควายพาควง
แต่หนุ่มชาวเมืองหลวง
พาคู่ควงเปลืองครัน
อยู่กรุงอยู่นา
ไอ้มันก็ฟ้าเดียวกัน
ขี่ควายขี่เก๋งก็เหมือนกัน
มันก็พระจันทร์ดวงเดียว
เขาว่ารถยนต์สบาย
แต่ฉันว่าแพ้ควายแท้เทียว
อยู่กรุงไปไหนให้หวาดเสียว
ปรู๊ดปร๊าดโครมเดียวเราก็ตาย
ต้นข้าวอ่อนพลิ้ว
ชูยอดริ้วเรียงราย
ค่อยชมแช่มช้อยค่อยเยื้องกราย
ขี่ควายแช่มช้าประสาควาย
อยู่นาสุขแสน
เมืองแมนกลายกลาย
เดือนก็หงายพอกัน
:'e:111 :'e:111 :'e:111
จรีพร:
[ Invalid YouTube link ]
เพลง "ควายหาย"
คำร้อง : สัมพันธ์ อุมากูล
ทำนอง : มงคล อมาตยกุล
ผู้ขับร้อง : สุรพล สมบัติเจริญ
ที่นาแห่งนี้ ก่อนเคยได้ไถอยู่เป็นประจำ
พื้นนาชุ่มฉ่ำ ทุกปีผมเคยไถทำไม่หน่าย
แต่ปีกลายนี้ ชั่งมีโชคร้าย
เหตุเพราะว่าเจ้าควายเกิดล้มเจ็บลงไป
ตกมาปีนี้ทุ่งนาได้น้ำ ชุ่มฉ่ำหนักหนา
ผมคิดไว้ว่า เช้าขึ้นไปนาไถให้สมใจ
ตื่นขึ้นตอนเช้า เจ้าควายหายไป
ไม่รู้ว่าผู้ใด แอบต้อนควายตอนกลางคืน
ชะชะช่า ใครวะ ขโมยควายไป
ชวนคิดแค้นเป็นฟืนไฟ ผมไม่อาจฝืน
ชะชะช่า ใครลักรีบเอามาคืน
ถ้ารู้ตัวเป็นโดนปืน รีบคืนเร็วไว
พวกหนังสือพิมพ์ ช่วยลงข่าวทีว่าควายตาสา
ขโมยใจกล้า ลักไปแล้วยังมิคืนมาให้
ช่วยลงแจ้งความ ข่าวด่วนเร็วไว
ให้รีบคืนควายไป ไม่สนใจเอาความเลย
:'e:111 :'e:111 :'e:111
จรีพร:
[ Invalid YouTube link ]
เพลง "เขมรไล่ควาย"
คำร้อง : สัมพันธ์ อุมากูล
ทำนอง : มงคล อมาตยกุล
ผู้ขับร้อง : สุรพล สมบัติเจริญ
เราชาวนาอยู่กับควาย พอหมดงานไถ
เราจูงฝูงควายเข้าบ้าน เฮ้ย เฮ้ย เฮ้ย
พออาบน้ำควายสำราญ แล้วเสร็จจากงาน
เบิกบานร้องเพลงรำวง ช่ะ ช่ะ ช่า
เราชาวนาสุขสบาย คืนค่ำเดือนหงาย
เราขี่หลังควายร้องส่ง เฮ้ย เฮ้ย เฮ้ย
ฉับฉิ่งทั้งกลอง ฆ้องโหม่ง
จ๊ะเท่งมง รำวงแสนเพลิดเพลินใจ ช่ะ ช่ะ ช่า
แม้นใครอิจฉา มันน่าหัวเราะ
จะเยาะพวกเรามิได้
ลมเย็น ๆ ร้องเขมรไล่ควาย
แปลกใจควายมันไม่อาทร
เจอคนงอนค่อนว่าคน ว่าโง่เป็นควาย
ไยไม่นึกอายคำค่อน ช่ะ ช่ะ ช่า
ควรชั่งงยั้งใจไว้ก่อน
โฉมแม่บังอร สิ้นงอนแล้วได้ขี่ควาย
:'e:111 :'e:111 :'e:111
นำร่อง
[0] ดัชนีข้อความ
[#] หน้าถัดไป
[*] หน้าที่แล้ว
Go to full version