สัพเพเหระ > เรื่องเล่าต่างๆ อยากเล่าให้เพื่อนๆฟังเชิญครับ

10 เกมส์ย้อนวัย..ไม่เก๋า(แก่)จริงไม่รู้จัก!!

(1/2) > >>

ทรงพล ลำพูน:


ด้วยความที่ทุกวันนี้เทคโนโลยีมันก้าวหน้าขึ้นมา โดยเฉพาะเรื่องของสมาร์ทโฟน ที่แม้กระทั่งเด็กตัวจ๋อย พูดยังไม่ชัดก็มาจับเจ้าเครื่องนี้ไปเล่นเกมส์ซะแล้ว
ถ้าเป็นรุ่นเราๆน้า คงมีเกมมากมายให้เล่นที่ไม่ต้องอยู่กับหน้าจอโทรศัพท์แบบนี้ ทางทีมงาน Toptenthailand จึงได้นำ 10 เกมส์ ยอดนิยมของคนสมัยเรา
 หรือเรียกได้ว่า "แก่" มาให้ระลึกความหลังวัยหวานไปด้วยกัน!!

10. ดีดลูกแก้ว
สมัยก่อนพอได้ตังค่าขนมหน่อยละก็ต้องเก็บไว้ซื้อลูกแก้วซะลูกสองลูก เอาให้ลายข้างในมันสวยๆจะได้เอามาเป็นลูกแก้วตัวเก่ง ที่พอพักเที่ยงเท่านั้นแหละ
แถวลานเด็กเล่นจะต้องเต็มไปด้วยเด็กๆนั่งดีดลูกแก้วกันเปาะๆแปะๆ ใครเก่งหน่อยก็กินลูกแก้วชาวบ้านเค้ามาเพียบ!!

ขอบคุณรูปจาก http://board.postjung.com/725265.html




9. ลูกโป่งวิทยาศาสตร์
สมัยนี้แทบจะหาเล่นไม่ได้ แต่ถ้าเป็นเมื่อก่อนนะแค่เดินออกมาหน้าโรงเรียนก็มีขายกันทุกร้าน บางคนรวยมากก็ซื้อทีทั้งแผง เอามาแข่งกันว่า
ใครจะเป่าได้ลูกใหญ่กว่ากัน ทำเอาคราวนี้คางคูม ปากเปื่อย หมดแรงกันพอดี
ขอบคุณรูปจาก http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=na-mol&month=06-01-2008&group=3&gblog=8



8.เป่ากบ
เรียกได้ว่าเป็นเกมที่แทบจะไม่ต้องลงทุนอะไรทั้งนั้น เพราะมีแค่ยางมัดแกงธรรมดาๆ ที่ยิ่งมีมากยิ่งดี แต่สิ่งที่เกมนี้ต้องการคือแรงในการเป่า
ที่จะต้องเป่าให้ยางของเราไปครอบเข้ากับยางของอีกฝ่ายถ้าทำได้ยางก็ตกมาเป็นของเรา ใครที่เก่งๆก็ดูได้จากยางที่กำมาเต็มมือนั่นแหละ
ขอบคุณรูปจาก http://www.indyscents.com



7. หมากเก็บ
เกมสำหรับเด็กสาวทั้งหลาย ที่แต่ก่อนนั้นนิยมกันสุดๆ เรียกได้ว่าไปโรงเรียนจะต้องมีหมากเก็บอยู่ในกระเป๋ามากกว่าดินสอซะอีก!! เพราะยิ่งเล่นเยอะ ยิ่งมันส์ พอว่างก็จะได้ยิงเสียงหมากเก็บกระทบพื้น และเด็กๆก็จะมานั่งล้อมวงกันอย่างไม่ได้นัดหมาย
ขอบคุณรูปจาก http://board.postjung.com/topic.php?id=495566&page=1



6. บอลลูน
เป็นเกมที่เรียกเหงื่อได้ดีจริงๆ เพราะต้องวิ่งหลบหลีกกันเป็นด่านๆ ให้อีกทีมจับตัวเราไม่ได้ หรือถ้าไม่อยากเล่นแบบนี้ก็มีบอลลูนสี
ที่เราจะต้องหาสีตามเสื้อผ้าที่เราใส่ตามที่เพื่อนบอกมาให้ได้ ถ้าไม่งั้นจะต้องหนีไปอีกฝั่งโดยไม่ให้จับได้ เป็นกิจกรรมที่นิยมเล่นกันหลังเลิกเรียน
ขอบคุณรูปจาก http://kookkik-kikky.blogspot.com/

ทรงพล ลำพูน:
5. กระโดดยาง
กิจกรรมยามว่างของสาวๆ(ที่หุ่นเพรียว) เพราะถ้าอ้วนล่ะก็คงกระโดดไม่ขึ้นแน่ๆ ซึ่งจะกลายมาเป็นตัวถ่วงของทีม แต่หน้าที่หลักๆก็แค่ต้องร้อยยางให้ยาวๆเป็นเส้น ยิ่งหนายิ่งดี เพราะโดดยังไงก็ไม่ขาด!! ซึ่งก่อนที่จะโดดเนี่ยเซียนการโดดเค้าจะต้องถอดกระโปรงเหลือแต่กางเกงขาสั้นข้างในไว้ เพราะจะได้ไม่ไปเกี่ยวยาง

ขอบคุณรูปจาก http://www.thailandsusu.com/webboard/index.php?topic=327518.0


4. กระต่ายขาเดียว
อีกหนึ่งเกมที่เรียกได้ว่าเล่นเมื่อไหร่ต้องมีหอบกันเมื่อนั้น เพราะแค่วิ่งธรรมดานี่ก็เหนื่อยจะแย่อยู่แล้ว แต่นี่ต้องวิ่งแบบขาเดียว ถ้าใครเล่นไม่เก่งล่ะก็
แค่ยกขาขึ้นมาก็ลำบากแล้ว จนบางทีต้องขอให้เพื่อนไปเล่นวิ่งไล่จับธรรมดาแทนน่าจะง่ายกว่า

ขอบคุณรูปจาก http://www.afaps.ac.th/~edbthai/activity/linkthaiplay.php



3. เขี่ยไพ่
เกมสุดโปรดของเด็กชายหลายๆคนที่มีไพ่เป็นเดิมพัน วันๆก็เอาแต่นั่งจ้องตากัน เขี่ยไพ่ไปมา ใครชนะก็ได้ไพ่ไป เล่นเอาขากลับจาก
โรงเรียนกระเป๋ากางเกงตุงด้วยไพ่ที่ถ้าเปลี่ยนเป็นเงินได้นี่คงรวยน่าดู

ขอบคุณรูปจาก http://topicstock.pantip.com/chalermthai/topicstock/2009/03/A7686456/A7686456.html



2. ดินน้ำมัน
ของเล่นที่เด็กสมัยก่อนต้องเคยเล่น เพราะที่โรงเรียนก็มีให้เล่นในเวลาว่าง ให้เราปั้นเป็นรูปนั้นรูปนี้ ตามจินตนาการของเด็ก แต่หลังๆก็พากันมาทำ
เป็นรางเดินน้ำมัน ให้เป็นทางยาวๆ ขึ้นลงตามใขแล้ว แล้วก็ใช้ปากเป่าดินน้ำมันที่ถูกปั้นเป็นก้อนให้ไปตามรางนั้น

ขอบคุณรูปจาก http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=panipani&month=12-2009&date=18&group=1&gblog=10




1. ขายขนมครก
ขนมครกที่ว่านี่ไม่ใช่ของจริงแน่นอน แต่มันทำมาจากดิน ที่เราไปขุดๆดินแล้วก็เอาดินที่ขุดออกมานั้นไปผสมน้ำให้เหนียวๆ แล้วก็หยอดใส่
หลุมขนมครก ตกแต่งด้วยใบไม้ ดอกไม้ แล้วก็แงะออกมาเหมือนกันของจริงเล้ย!! ถ้าจะให้ดีต้องมีเพื่อนเอาแบงค์กาโม่มาคอยซื้อขนมของเรา

ขอบคุณรูปจาก http://www.oknation.net/blog/print.php?id=233710


เครดิตจาก toptenthailand

ศิวพร กรุงเทพ:
เคยเล่นมาแล้วครับแทบทั้งหมด น่าแปลกที่อันดับที่ 1 ขายขนมครก ผมไม่เคยเล่น

น้ำหวานเจี๊ยบ:
ขอบคุณมากครับพี่ ผมไม่เคยเล่นเลยซักกะเกมส์จริง จริ๊งงงงงงงงง :'e:39

นักเพลงคนจน:
ขนมครก ไม่รู้จักครับ ส่วนเกมส์อื่นเคยเล่นเสียส่วนใหญ่

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป

Go to full version