รูปภาพเกี่ยวข้องกับบทเพลง > มาต่อเพลงกันเถอะ

บทเพลง...พาเที่ยว (สถานที่เกิดเหตุ)

(1/5) > >>

จรีพร:


เวลาฟังเพลง เรามักจะพบว่า ผู้ประพันธ์เพลงชอบนำสถานที่ใดที่หนึ่ง มากล่าวไว้ในบทเพลงด้วยเสมอ  สถานที่กล่าวถึงนั้นมันอยู่แห่งหนตำบลใดของประเทศไทยกันหนอ เพื่อนบางคนก็ทราบ บางคนอาจไม่เคยรู้จักหรือได้ยินชื่อมาก่อน บทเพลงที่กล่าวถึงสถานที่เกิดเหตุเหล่านั้น อาจเป็นสถานที่สำคัญ สถานที่ท่องเที่ยว สถานที่พักผ่อน ประจำจังหวัด อำเภอ ตำบล

เพื่อน ๆ คะ เรามาช่วยกันรวบรวมบทเพลง...พาเที่ยว (สถานที่เกิดเหตุ)  ไว้ในกระทู้นี้ค่ะ

 

[ Invalid YouTube link ]


  เพลง "สะพานรักสารสิน"
          (ภูเก็ต)  

คำร้อง/ทำนอง : จำนงค์ เป็นสุข (สรวง สันติ)
ผู้ขับร้อง : สรวง สันติ


ภูเอ๋ย...ภูเก็ต  อาณาเขตที่เรารักกัน
 โธ่เอ๋ย...สะพานสารสินเป็นถิ่นรื่นรมย์
 ลาแล้ว ลาก่อน คงไม่ย้อนหวนคืนมาชม
 ลาแล้วหนอความขื่นขม ทุกข์ระทมสิ้นสุดกันที
 
เราสองรักใคร่ ไม่เคยหน่ายขอตายพร้อมกัน
 ฝากฝังสะพานสารสินช่วยเป็นสักขี
 เรารักกันมั่น ผู้ใหญ่เขากันหาว่าไม่ดี
 บุญน้อยจริง ๆ ชาตินี้ เราจึงพลีชีพตายพร้อมกัน
 
พี่เป็นโชเฟอร์ ขับสองแถวใคร ๆ ก็รู้
 แต่น้องเป็นครู แม่พิมพ์ของชาติไม่อาจผูกพัน
 รักจริงใช่เล่น ขนาดเคยเป็นของกันและกัน
 รักที่เคยหมายมั่น กลับถูกกีดกันให้หมดความหมาย
 
ภูเอ๋ย...ภูเก็ต  อาณาเขตที่เรารักกัน
 โธ่เอ๋ย...สะพานสารสินเป็นถิ่นที่ตาย
 น้ำตานองหน้า เอาผ้าขาวม้ามาผูกมัดกาย
 สองเราติดกันมั่นไว้ โดดน้ำตายที่ใต้สะพาน

 





สะพานสารสิน เป็นสะพานที่สร้างข้ามช่องปากพระเพื่อเชื่อมระหว่างเกาะภูเก็ตตรงบริเวณท่าฉัตรไชยกับท่านุ่น จังหวัดพังงา  มีความยาวทั้งหมด 660 เมตร กรมทางหลวงเป็นผู้รับผิดชอบการก่อสร้าง เปิดใช้เมื่อ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2510 สิ้นงบประมาณ 28,770,000 บาท สะพานนี้ให้ชื่อตามนามสกุลของ นายพจน์ สารสิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาการแห่งชาติในขณะนั้น ปัจจุบันนี้ สะพานสารสินได้กำหนดให้ใช้เป็นสะพานขาออกจากจังหวัดภูเก็ต
 
         ตำนานรักสะพานสารสิน เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในจังหวัดภูเก็ต โศกนาฏกรรมของหนุ่มสาว 2 คนที่ตัดสินปัญหาด้วยการใช้ผ้าขาวม้าผูกต่อกันมัดตัวเองกระโดดจากกลางสะพานลงสู่พื้นน้ำในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2516  เป็นเรื่องราวของชายหนุ่มหญิงสาวที่แตกต่างกัน ด้วยชาติตระกูลและฐานะทางสังคม

         ฝ่ายหญิงชื่อ "อิ๋ว" เป็นนักศึกษาวิทยาลัยครู ส่วนฝ่ายชายชื่อ "โกไข่" เป็นเพียงคนขับรถสองแถวและรับจ้างกรีดยาง พ่อเลี้ยงอิ๋วแบบเผด็จการไม่ให้อิสระ และต้องการให้แต่งงานกับคนมีฐานะ จึงถูกขัดขวางความรักอย่างหนัก ทั้งสองคนพยายามต่อสู้ฝ่าฟันกับอุปสรรคต่าง ๆ เพื่อให้รักของเธอและเขาสมหวัง

         ความรักที่เหมือนนิยายน้ำเน่าของหนุ่มขับรถสองแถวและรับจ้างกรีดยาง ที่มีฐานะยากจนมาก แต่กลับไปหลงรักกับหญิงสาวที่มีฐานะสูงส่งและมีพื้นฐานครอบครัวที่เผด็จการ ไม่ให้อิสระทางความคิดกับลูกสาว แม้ว่าลูกสาวโตจนมีอาชีพเป็นครูแล้วก็ยังถูกกีดขวางจากผู้เป็นพ่อ ที่พยายามจะคลุมถุงชนลูกสาวให้แต่งงานกับชายหนุ่มที่มีฐานะดี และพยายามขัดขวางทุกวิถีทางเพื่อไม่ให้ลูกสาวได้คบกับโกไข่ หนุ่มขับรถสองแถว  
 
         หลังจากที่พยายามทุกวิถีทางเพื่อที่จะพิสูจน์ให้ผู้เป็นพ่อได้เห็นถึงความตั้งใจและความรักที่ทั้ง 2 มีให้แก่กัน แต่ไม่ว่าจะทำอย่างไรก็ไม่เป็นผล เมื่อผู้เป็นพ่อของฝ่ายหญิงไม่ยอมเปิดใจรับ หลายครั้งที่อิ๋วฝ่ายหญิง ถูกผู้เป็นพ่อทุบตีเยี่ยงสัตว์เพราะแอบมาพบเจอกับโกไข่ หนุ่มขับรถสองแถว และผู้เป็นพ่อก็พยายามทุกวิถีทางที่จะยัดเยียดลูกสาวให้กับเศรษฐีมีเงิน

         ชาวบ้านท่าฉัตรไชย จังหวัดภูเก็ต ต่างก็ทราบดีถึงความรักที่มีอุปสรรคของหนุ่มสาวทั้งสอง หลายคนพยายามแนะนำให้โกไข่เลิกกับครูอิ๋ว เพื่อความปลอดภัยในชีวิตของทั้งคู่ และผู้ใหญ่หลายคนพยายามพูดคุยกับพ่อของครูอิ๋ว เพื่อที่จะให้ยอมรับโกไข่ เป็นลูกเขย แต่ไม่ได้รับการยินยอม ไม่ว่าจะทำด้วยวิถีทางใด

         ในที่สุดเมื่อความรักถึงทางตัน 22 กุมภาพันธ์ 2516 โกไข่ นายหัวรถสองแถวและครูอิ๋ว สาวผู้สูงศักดิ์ ก็ได้ตัดสินใจเอาผ้าขาวม้าผูกมัดตัวทั้งสองติดกัน แล้วกระโดดจากกลางสะพานลงสู่พื้นน้ำ ทิ้งเรื่องราวความรักที่เป็นอมตะ ให้ผู้คนได้กล่าวขานถึงปัจจุบันนี้

        ตำนานรักสะพานสารสิน เป็นบทเรียนแห่งความรักอีกบทหนึ่งที่ถูกจารึกไว้ในตำนานคู่เมืองภูเก็ต แม้ว่ายุคสมัยจะเปลี่ยนไปสักกี่ยุคกี่สมัย ตำนานเหล่านี้ก็ต้องบันทึกไว้และเป็นบทเรียน ที่ทุกคนควรศึกษาและเข้าใจความหมายของคำว่า รักที่แท้จริง เพื่อที่จะได้เป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตต่อไป



 

 :'e:111 :'e:111 :'e:111


จรีพร:


[ Invalid YouTube link ]


  เพลง "กว๊านพะเยา"  

คำร้อง :ชาลี อินทรวิจิตร
ทำนอง : สมาน กาญจนะผลิน
ผู้ขับร้อง : ชรินทร์ นันทนาคร


โอ้ธารสวรรค์ กว๊านพะเยา
 ธารรักเราครวญคร่ำ
 ลมโชยพลิ้วฉ่ำในวังน้ำวน
 พร่างพรมมนต์รักมา
 ดูราวสายชลธารสวยตระการ
 อยู่ในนิทราแว่วเพลงรัก
 ของปักษาร้องอำลาคืนรัง
 
โน่นทิวทุ่งลิบ
รวงทิพย์เรืองรอง
ราวสีทองเปลวปลั่ง
 ธาราไหลหลั่ง ใสราวน้ำวัง
 ขังน้ำตาแห่งดาว

ห้วงน้ำลึกนัก
 ห้วงรักลึกกว่าหลายเท่า
 แม้นรักมิจริงกับเรา
 อายกว๊านพะเยา
 หลายเท่าเอย
 
 

 [ Invalid YouTube link ]


  เพลง "กว๊านพะเยา"  


คำร้อง/ทำนอง : สุรพล สมบัติเจริญ
ผู้ขับร้อง : สุรพล สมบัติเจริญ


โอ โอ่โอโอ่โอ้ละเน้อ
 ทำบุญจั่งใดเล่าเออ
 ถึงได้มาเจอสาวเจ้า
 น้องอยู่ดงดอย ดินแดน
 ห้วยป่าและเขา
 ถิ่นพงไพรในป่าลำเนา
 กว๊านแห่งพะเยายังงามละเน้อ
 
โอ โอ่โอโอ่โอ้นวลน้อง
 เจ้าคงสร้างบุญด้วยทอง
 ไผมองเห็นจึงหลงเพ้อ
 ถึงอยู่พะเยา
 น้องยังสวยแจ่มเลิศเลอ
 สาวเมืองกรุงยังบ่เทียมเธอ
 ใช่ยอนะเออพี่พูดด้วยใจ
 
เจ้าแต่งตัว ยามเล่นน้ำ
 เจ้านุ่งกระโจม
 เก็บกล้วยไม้มาแซมเสียบผม
 แลสลวยสวยงามวิไล
 เห็นดอกบัวตูม
 เด่นงามท่ามกลางน้ำใส
 เจ้าผุดดำโผแหวกเวียนว่าย
 ร้องกรีดหวีดไปในเพื่อนหนุ่มสาว
 
โอ โอ่โอโอ่โอ้ละหนอ
 ทำบุญจั่งใดพี่ขอ ยกผลกุศลให้เจ้า
 ขอตักบาตรพระ
 ร่วมเรียงเคียงคู่กับสาว
 แม่ตาหวานกว๊านแห่งพะเยา
 ขอปองฮักเจ้าจนวันชีพวาย

 








กว๊านพะเยา อยู่ในเขตอำเภอเมืองพะเยา จังหวัดพะเยา เป็นทะเลสาบน้ำจืดใหญ่เป็นอันดับ 1 ในภาคเหนือ และ อันดับ 3 ของประเทศไทย (รองจาก หนองหาน และ บึงบอระเพ็ด) คำว่า "กว๊าน" ตามภาษาพื้นเมืองหมายถึง "บึง" เป็นแหล่งน้ำธรรมชาติอยู่ใจกลางเมืองพะเยา มีทิวเขาเป็นฉากหลัง เกิดจากน้ำที่ไหลมาจากห้วยต่างๆ 18 สาย มีปริมาณน้ำเฉลี่ยปีละ 29.40 ล้านลูกบาศก์เมตร มีพันธ์ปลาน้ำจืดกว่า 48 ชนิด มีเนื้อที่ 12,831 ไร่ เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลาต่างๆ ทัศนียภาพโดยรอบกว๊านพะเยา มีส่วน ทำให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวตามธรรมชาติ ที่สวยงามประทับใจผู้พบเห็น จนอาจจะกล่าวได้ว่าหัวใจของเมืองพะเยาอยู่ที่กว๊านพะเยานี่เอง
 
ริมกว๊านพะเยาเป็นร้านอาหารและสวนธาธารณะให้ประชาชนพักผ่อนหย่อนใจ กว๊านพะเยาในอดีตแต่เดิมเคยเป็นที่ราบลุ่มแม่น้ำมีสายน้ำอิงไหลพาดผ่านคดเคี้ยวทอดเป็นแนวยาวไปตลอด จาดทิศเหนือจรดขอบกว๊านฯ ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ประกอบกับมีหนองน้ำน้อยใหญ่หลายแห่งและร่องน้ำหลายสายที่ไหลลงมาจากขุนเขาดอยหลวงแล้วเชื่อมติดต่อถึงกัน ทำให้พื้นที่ราบลุ่มแม่น้ำแห่งนี้จึงมีความอุดมสมบูรณ์ยิ่งนักและมีผู้คนเข้ามาตั้งถิ่นฐานอาศัยอยู่เป็นชุมชนนานนับตั้งแต่โบราณ




 :'e:111 :'e:111 :'e:111



จรีพร:


https://www.youtube.com/v/Lou_I7YP2Tw?version=3&hl


    เพลง "วังบัวบาน"   

คำร้อง : สนิท ศ.
ทำนอง : อรุณ หงสวีณะ
ผู้ขับร้อง : มัณฑนา โมรากุล 


ร้อนลมหน้าแล้ง ใบไม้แห้งร่วงลอย
หล่นทะยอยเกลื่อนตา
ไหลตามกระแสน้ำพา
ลอยมาทั้งกลีบดอกไม้

จากหุบผาไหลมาสู่ในวังน้ำ
สุสานเทวีผู้มีความช้ำ เหนือใคร
ดอกไม้ใบไม้ไหลมา
คล้ายพวงหรีดร้อยมาลา
ไหลมาบูชาบัวบาน

น้ำวังนี่หนอ เป็นที่ก่อเหตุการณ์
ที่บัวบานฝังกาย
ยึดเอาเป็นหอเรือนตาย
 รองกายไว้ด้วยแผ่นน้ำ

จากหุบเขาแนวไพรสู่ในเวียงฟ้า
ฝากไว้เพียงชื่อเลื่องลือเนิ่นช้า ฝังจำ
ฝากคำสัตย์นำนึกตรอง
หลงทางสุดหวังคืนครอง
หลงตัวจำต้องลาระทม

เอาวังน้ำไหลเย็น
นี่หรือมาเป็นเมรุทอง
เอาน้ำตกก้องเป็นกลองประโคม
เอาเสียงจักจั่นลั่นร้องระงม
เป็นเสียงประโคมร้องต่างแตรสังข์
 
เพดานนั้นเอาเมฆฟ้า
ภูผานั้นต่างม่านบัง
ประทีปแสงจันทร์ใสสว่าง
อยู่เดียวท่ามกลางดงดอย

 
 
https://www.youtube.com/v/lzk0F8uh4-g?version=3&hl


   เพลง "วังบัวบาน"   

คำร้อง : ชาลี อินทรวิจิตร
ทำนอง : สมาน กาญจนะผลิน
ผู้ขับร้อง : วงจันทร์ ไพโรจน์


วังเอ๋ยวังบัวบาน สุสานเทวี
ผู้มีความรัก หนือใคร
 ฝังร่างฝังรัก ฝากรอยอาลัย
เอาวังน้ำเย็นเช่นเรือนตาย
วิญญาณเวียนว่าย ในน้ำวัง

จากเขาลำเนาไพร สู่ในเวียงฟ้า
 เกิดมาไม่พ้น อนิจจัง
เพราะซื่อถือนัก ว่ารักจีรัง
ไม่มีระแวงไม่เคยระวัง
ชีพนางจึงฝังสังเวยธาร
 
เหลือเพียงชื่อไว้ เหลือเพียงดอกไม้
คล้ายหรีดมาลา ไหลมาบูชาบัวบาน
น้ำวังนี่หนอที่ก่อเหตุการณ์
 นี่แหละคือสุสาน เปรียบดังสถานโลงทอง
 
ยินเสียงน้ำตกซ่า แว่วมาน่าฟัง
เปรียบดังแตรสังข์ เสียงกลอง
เสียงหริ่งระงม ลมพลิ้วเป็นทำนอง
ดุจดังเสียงเพลงกล่อมเมรุทอง
ให้ผู้เจ้าของวังบัวบาน



 [ Invalid YouTube link ]
น้ำตกวังบัวบาน ตั้งอยู่บนดอยสุเทพ จ.เชียงใหม่ สถานที่ซึ่งเป็นตำนานความรักไม่สมหวังระหว่างสาวเอื้องเหนือชื่อบัวบาน กับหนุ่มบางกอก

 








วังบัวบานคืออะไร  หลายคนอาจจะสงสัย  แต่คนเชียงใหม่รู้จักเป็นอย่างดี วังบัวบานเป็นชื่อวังน้ำที่อยู่เบื้องล่างชะง่อนผาสูงบริเวณเหนือน้ำตกห้วยแก้ว ซึ่งอยู่ในเขตตำบลสุเทพ อำเภอเมือง เชียงใหม่   เดิมเรียกว่า "วังคูลวา" หรือ "วังกุลา" ด้วยมีเรื่องเล่ามาก่อนว่ามี "คูลวา-กุลา" หมายถึงแขกคนหนึ่งพลัดตกลงไปตายในวังน้ำแห่งนี้ คำว่า "คูลวา-กุลา" ในภาษาล้านนาหมายถึงแขกหรือฝรั่งชาวต่างชาติซึ่งถือว่าไม่เป็นที่พึงต้อนรับ วังน้ำที่เกิดเหตุจึงได้ชื่อดังกล่าว ทั้งนี้ บุญช่วย ศรีสวัสดิ์ นักเขียนสารคดีเชิงบันทึกเหตุการณ์กล่าวไว้ว่ามีการเปลี่ยนชื่อ เป็น "วังบัวบาน" เมื่อ พ.ศ.๒๔๘๗ โดยเหตุที่มีหญิงชื่อ "บัวบาน" ตกลงไปตายในวังน้ำนี้อีก วังน้ำอาถรรพณ์นี้จึงเปลี่ยนมาเรียกชื่อว่า "วังบัวบาน"




   :'e:111 :'e:111 :'e:111

จรีพร:


[ Invalid YouTube link ]


   เพลง "ลำน้ำพอง"   

คำร้อง/ทำนอง : หยาดฟ้า
ผู้ขับร้อง : หยาด นภาลัย


ลำน้ำพอง ล้นนอง รินหลั่ง
 สองฝั่ง สะพรั่งด้วยมวลพฤกษา
 น้ำหลากงามยามแลเพลินตา
 เบิ่งท้องนา สาวบ้านป่างามพริ้งละออ
 
โอ...สาวเอย ไผเลยงามเท่า
 ขอเว้า กับเจ้าสักคำได่บ่
 หรือ ว่านางมีชายคอยรอ
 หากสาวบ่ สิพะนอ มิสร้างราคิน
 
โอ้...น้ำพอง คลองสวรรค์
 บุพเพเสกสรรค์ บรรดาลให้มาเยือนถิ่น
 อยากอยู่ร่วมหอ ร่วมปลูกปอไถนาทำกิน
 ร่วมฝันจนวันสูญสิ้น รักยุพินจนสิ้นลมปราณ
 
อันน้ำพอง ของดินถิ่นแคว้น
 ขอนแก่น เมืองแคนแห่งแดนอิสาน
 ถึงสิไกล ดวงใจไปนาน
 ข้อยสาบาน ใจรักมั่น บ่ลืม บ่ลืม
 




   เพลง "สาวลำน้ำพองสะอื้น"   

คำร้อง/ทำนอง : หยาดฟ้า
ผู้ขับร้อง : ดาวใจ ไพจิตร


ฟังสําเนียง เสียงเพลงของชายบางกอก
เปิ้นบอก ปลายปีสิกลับมาหา
แล้วเป็นหยัง จึงลืมวาจา
บ่หวนมา สาวบ้านป่าคอยเช้าคอยเย็น

คืนและวัน ผันเวียนเลยไปทุกที
สามสี่ ห้าปีก็ยังบ่เห็น
หรืออ้ายลืม ชาวนาลําเค็ญ
หลอกล้อเล่น เห็นข้อยเป็นเหมือนบ่แม่นคน

อ้ายบ่เคยมาขอ หลอกให้รอ จนปอเฉาตายหลายต้น
ดินแตกระแหง แสงตะวันร้อนกลายเป็นเย็น
ห้วงน้ำเคยงามไหลล้น
เหลือน้ำโคลน ตมขุ่นมาแทน

ยามน้ำพอง เหลือเพียงลําคลองแห้งขอด
คิดฮอด หนุ่มไทยผู้อยู่ไกลแสน
เปิ้นอาจลืม คนเคยเป็นแฟน
ปล่อยทิ้งแดน เมืองหมอแคนขอนแก่นศร้าตรม


 
ลำน้ำพอง

ลำน้ำพอง


ลำน้ำพอง เป็นลำน้ำตามธรรมชาติที่สำคัญของจังหวัดขอนแก่น มีต้นกำเนิดจากภูกระดึง และเทือกเขาสันปันน้ำของลุ่มน้ำป่าสักกับลุ่มน้ำชี ไหลผ่านอำเภอภูกระดึง จังหวัดเลย อำเภออุบลรัตน์ และอำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น และบรรจบกับแม่น้ำชีที่บริเวณอำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น 
 



 :'e:111 :'e:111 :'e:111


จรีพร:


[ Invalid YouTube link ]


   เพลง "แม่สาย"   



คำร้อง/ทำนอง : ศรีสวัสดิ์ พิจิตรวรการ
ผู้ขับร้อง :ศรีสุดา เริงใจ 


ใบไม้ร่วงควงพลิ้วปลิวผลอย
 ฝันเคลิ้มคล้อยล่องลอยตามลม
 ฝันถึงวันถึงคืนรื่นรมย์
 โอ้ละหนออารมณ์ต้องหวานอมขมกลืน 
 
โอ้อดีตหวีดวอนมา
 เรียกให้ข้าพาไปคืน
 คืนใจรักเศร้าสุดฝืน
 สะอื้นอกตรม
 
ลมหนาวเจ้ายังพัดพรายพลิ้ว
 ฝันหวานหวิวลิ่วลอยตามลม
 ลมเหมันต์นั้นมีมีดคม
 กรีดและคว้านอารมณ์
 ผ่าอกตรมล้มตาย

โอ้อนาถพลาดชีวา
 อยากบากหน้ามาเชียงราย
 คืนใจรักให้แม่สาย
 ห่มกายฝากธาร
 

 [ Invalid YouTube link ]


   เพลง "แม่สาย"   

คำร้อง/ทำนอง : คาราบาว
ผู้ขับร้อง : เทียรี่ เมฆวัฒนา


ฟากฟ้ายามเย็นเห็นแสงรำไร
 อาทิตย์จะลับโลกไป พระจันทร์จะโผล่ขึ้นมา
 หมู่มวลวิหคเหินลมอยู่กลางเวหา
 จะกลับคืนสู่ชายคา ชายป่าคือแหล่งพักพิง
 
แต่น้องนางไยไม่เห็นกลับมา
 จากไปตั้งหลายปีกว่า
 ท้องนาบ้านเราเหงาจัง
 ลมหนาวพัดโบกโยกเรือนจนคล้ายจะพัง
 ผู้เฒ่าตายายลงนั่ง เหม่อรอด้วยใจเลื่อนลอย
 
นกน้อยจากน้องนาราคาถูก
เธอเป็นลูกที่ถูกพ่อแม่ขายไป
 กตัญญูบิดามารดาปานใด
 แม่สายจากเมืองเจียงฮาย
 ต้องไปสู่สังคมทราม
 
เมื่อรู้สึกตัวก็สายเกินไป
 หมื่นพันที่เธอผ่านชาย หัวใจเธอจึงเย็นชา
 สังคมกระหน่ำ ซ้ำสองเธอต้องติดยา
 ไม่คิดหวนคืนบ้านนา ปรารถนาเพียงยาเมา
 
ผู้เฒ่าล้มป่วยคนช่วยไปบอก
 เธอจึงจากเมืองบางกอก หวังไปให้ทันเวลา..
 เอายาไปฝาก เอาหมากเอาพลู เสื้อผ้า
 แม่สายที่เธอจากมา เหมือนวาจาว่าสายเกินไป..
 
นกน้อยกลับมาแค่ทันพระสวด
 ใครเล่าเจ็บปวดรวดร้าวเท่าสาวเมืองเหนือ
 สังคมเมืองไทยใครฟังเค้าคงไม่เชื่อ
 ขายกินหมดแล้วเอื้องเหนือ ให้กับชายที่อู้บ่จ้าง
 







อำเภอแม่สาย เป็นอำเภอเหนือสุดของจังหวัดเชียงรายและเหนือสุดของประเทศไทย มีเขตแดนตอนเหนือติดกับประเทศพม่า และมีด่านชายแดนไทย-พม่า เรียกว่า "ด่านแม่สาย" สามารถผ่านด่านข้ามไปยังจังหวัดท่าขี้เหล็กของพม่าได้โดยมีแม่น้ำสายเป็นพรมแดนทางธรรมชาติ




 :'e:111 :'e:111 :'e:111






นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป

Go to full version