สัพเพเหระ > เป็นนักเลงกลอนอย่านอนเปล่า
ยังคิดถึง
ภูวดี:
เคย'ปวดใจ' ทั้งตัดพ้อ และต่อว่า
เชือดเฉือนมา ด้วยภาษา วาจา'ขม'
'ห่าง'กวีชั้นครู ผู้ชื่นชม
คงเหมาะสม แค่คำว่า'กลอนพาไป'
แม็ท เมืองชล ๒๐ ก.ย.๕๗ ๒๓.๕๘ น.
ได้มาอ่านแล้วไพเราะเสนาะโสต
เป็นของโปรดปรานมาตั้งแต่ไหน
คุณแม็ทกล่าวคำว่า กลอนพาไป
ทำให้ใจผมนั้นพลันคิดตาม
เข้าตำราว่าเมืองไทยของเรานี้
มีนักกลอนนักกวีอยู่ล้นหลาม
เฉกเช่นสุนทรภู่ผู้ลือนาม
เล่าถ้อยความสอดคล้องทำนองดี
ติดตามอ่านตั้งแต่ชั้นประถม
ได้สะสมซึมซับตำหรับนี้
กระผม หนุ่มสงขลาฝั่งนที
จึงได้มีจิตใจ ไฝ่บทกลอน
ชบาบาน:
ก็ได้เนื้อหาที่ดีนะขอรับ เขียนมาอีกขอรับ เขียนบ่อยๆก็ชำนาญไปเอง
นำร่อง
[0] ดัชนีข้อความ
[*] หน้าที่แล้ว
Go to full version