สัพเพเหระ > เป็นนักเลงกลอนอย่านอนเปล่า
ยังคิดถึง
ชบาบาน:
ม่านราตรีคลี่พลิ้วริ้วริ้วฟ้า
ทอดทาบมาเป็นสีทองรอคล้องขวัญ
ยึดโยงใยมวลกวีตราบนิรันดร์
ร่วมผูกพันเรื่อยมาเป็นอาจินต์
สายฝนพรมโลมไล้เคลียใบสน
คิดถึงคนอยู่ห่างต่างต่างถิ่น
เคยร่วมเกลียวน้ำใจที่ไหลริน
ณ แดนดินพวกเราเหล่ากวี
บ้างร่ายกลอนอ่อนหวานซาบซ่านซึ้ง
บ้างตราตรึงบาดอารมณ์ที่ขมปรี่
แต่ละท่านเหนือชั้นวรรณคดี
ฝากไมตรีกลกานท์ผ่านเวบกลอน
ยังคิดถึงคะนึงหามิซาสร่าง
แม้จักร้างสานสลักในอักษร
“ชบาบาน”ให้โหยหาอนาทร
เพื่อนกาลก่อนรักยังเข้มเต็มหัวใจ!!.
ประดิษฐ์:
ไม่ค่อยใด้เข้าเท่าไหร ส่วนมากเปิดเพลงแล้วนอนฟัง คืนนี้ไม่ง่วงเลยเข้ามาอ่าน ยังคงมีมาเรื่อยๆสำหรับกลอนดีๆจากท่านชบาบาน ขอบคุณครับ
คนชายแดน:
สวัสดีครับลุง ชบาบาน และคุณลุงประดิษฐ์ครับ
บทกลอนของลุงชบาบาน ฟังแล้วได้กลิ่นไอกลิ่นอายสายฝนสายหมอกเลยครับยิ่งบ้านนอกคอกนาอย่างผม
ได้ฟังยิ่งได้บรรยากาศความเป็นบ้านนอกบ้านทุ่งมากๆ ครับ เพราะมากครับไม่รู้จะ
(บรรยายจั่งได) :'e:101
ชบาบาน:
พนมมือคารวะท่าน"คนชายแดน" ที่เข้ามาทักทายกัน ชอบทางนี้ก็บรรเลงเข้ามาบ้างนะขอรับ กระผม
ลุงชัย นรา:
ห่างหาย แต่...ไม่ได้ห่างเหิน ยังคิดถึงสมาชิกห้อง วรรณศิลป์ ห้องนี้ทุกคนครับ ยังสละสลวย สวยงามทุกบท นะครับท่านชบาบาน
นำร่อง
[0] ดัชนีข้อความ
[#] หน้าถัดไป
Go to full version