สัพเพเหระ > เป็นนักเลงกลอนอย่านอนเปล่า

ยังคิดถึง

(1/3) > >>

ชบาบาน:
ม่านราตรีคลี่พลิ้วริ้วริ้วฟ้า
ทอดทาบมาเป็นสีทองรอคล้องขวัญ
ยึดโยงใยมวลกวีตราบนิรันดร์
ร่วมผูกพันเรื่อยมาเป็นอาจินต์

   สายฝนพรมโลมไล้เคลียใบสน
   คิดถึงคนอยู่ห่างต่างต่างถิ่น
   เคยร่วมเกลียวน้ำใจที่ไหลริน
   ณ แดนดินพวกเราเหล่ากวี

              บ้างร่ายกลอนอ่อนหวานซาบซ่านซึ้ง
              บ้างตราตรึงบาดอารมณ์ที่ขมปรี่
              แต่ละท่านเหนือชั้นวรรณคดี
              ฝากไมตรีกลกานท์ผ่านเวบกลอน

                  ยังคิดถึงคะนึงหามิซาสร่าง
                  แม้จักร้างสานสลักในอักษร
                  “ชบาบาน”ให้โหยหาอนาทร
                   เพื่อนกาลก่อนรักยังเข้มเต็มหัวใจ!!.

ประดิษฐ์:
ไม่ค่อยใด้เข้าเท่าไหร ส่วนมากเปิดเพลงแล้วนอนฟัง คืนนี้ไม่ง่วงเลยเข้ามาอ่าน ยังคงมีมาเรื่อยๆสำหรับกลอนดีๆจากท่านชบาบาน ขอบคุณครับ

คนชายแดน:
สวัสดีครับลุง ชบาบาน และคุณลุงประดิษฐ์ครับ
บทกลอนของลุงชบาบาน ฟังแล้วได้กลิ่นไอกลิ่นอายสายฝนสายหมอกเลยครับยิ่งบ้านนอกคอกนาอย่างผม
ได้ฟังยิ่งได้บรรยากาศความเป็นบ้านนอกบ้านทุ่งมากๆ ครับ เพราะมากครับไม่รู้จะ
(บรรยายจั่งได)  :'e:101

ชบาบาน:
พนมมือคารวะท่าน"คนชายแดน" ที่เข้ามาทักทายกัน ชอบทางนี้ก็บรรเลงเข้ามาบ้างนะขอรับ กระผม

ลุงชัย นรา:
ห่างหาย แต่...ไม่ได้ห่างเหิน ยังคิดถึงสมาชิกห้อง วรรณศิลป์ ห้องนี้ทุกคนครับ ยังสละสลวย  สวยงามทุกบท นะครับท่านชบาบาน

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป

Go to full version