สีผสมอาหารภัยใกล้ตัว ... ที่มากับความสวยงาม
สีผสมอาหารภัยใกล้ตัว ... ที่มากับความสวยงาม
ในปัจจุบันจะพบว่าทั้งอาหารสด อาหารสำเร็จรูป และเครื่องดื่มต่าง ๆ ที่ขายอยู่ทั่วไป มักมีสีสันสดใสสวยงาม ชวนรับประทาน แต่แฝงไว้ด้วยอันตรายเนื่องจากผู้ผลิตมัก ใส่สีสังเคราะห์ทางเคมีลงไปโดยคาดหวังว่า อาหารและเครื่องดื่มที่มีสีสด ใสสวยงามจะเป็นที่ ดึงดูดความสนใจของผู้บริโภคได้ดี โดยเฉพาะเด็ก ๆ ซึ่งจะช่วยให้ขายดี ได้กำไรมาก ทำให้มองข้ามพิษภัย ที่อาจจะเกิดขึ้นไป ดังนั้นในการเลือก ซื้ออาหารและเครื่องดื่มจำเป็น ต้องคำนึงถึงอันตราย ที่อาจเกิดจากสีผสม อาหารให้มาก ๆ และควรเลือกที่ปลอดภัยให้มากที่สุด
สีผสมอาหารมีกี่ประเภท
ตามกฏหมายได้กำหนดสีที่อนุญาตให้ใช้ผสมอาหารได้ 3 ประเภท คือ
สีอินทรย์ ที่ได้จากการสังเคราะห์ ได้แก่ สีผสมอาหาร
สีอนินทรีย์ เป็นสีที่ได้จากสิ่งไม่มีชีวิตในธรรมชาติ เช่นผงถ่านที่ได้จากการเผากาบมะพร้าว เกลือ ทองแดง เป็นต้น
สีธรรมชาติได้จากการสกัดพืช สัตว์ เช่น
สีเขียว..........จากใบเตย
สีแดง...........จากครั่ง กระเจี๊ยบ มะเขือเทศ พริกแดง
สีเหลือง........จากขมิ้นไข่แดง ฟักทอง
สีน้ำเงิน........จากดอกอัญชัน เป็นต้น
อันตรายจากสีผสมอาหาร
อันตรายส่วนใหญ่เกิดจากสีสังเคราะห์ทางเคมีซึ่งผู้ผลิตบางคนมักใช้สีย้อมผ้า หรือสีย้อมกระดาษ ซึ่งมีโลหะหนักพวก ตะกั่ว ปรอท สารหนู สังกะสี โครเมี่ยม ปะปนอยู่ซึ่งทำให้เกิดผลต่อร่างกาย ดังนี้
ตะกั่ว: ระยะแรก จะทำให้ร่างกายอ่อนเพลี่ยเบื่ออาหารปวดศีรษะ โลหิตจาง ถ้าสะสมมากขึ้นจะมีอัมพาต ที่แขน ขา เพ้อ ชักกระตุก หมดสติ
ปรอท: กรณีเฉียบพลัน จะมีอาการคลื่นไส้ ท้องเดิน ปวดมวนท้องรุนแรง ถ้าสะสมเรื้อรัง เหงือกจะบวมแดงคล้ำ ฝันตาย เบื่ออาหาร อ่อนเพลี่ย
สารหนู: จะเกิดพิษต่อระบบทางเดินอาหาร ทำให้ผิดปกติ ตับอักเสบ หัวใจวาย
โครเมี่ยม:ถ้าสะสมในร่างกายเกินขนาดจะเกิดอาการเวียนศีรษะ กระหายน้ำรุนแรงอาเจียน หมดสติ และ เสียชีวิต เนื่องจากไตไม่ทำงาน ปัสสาวะเป็นพิษ
อาหารที่ห้ามใส่สี
อาหารที่ห้ามใส่สีผสมอาหารทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นสีจากธรรมชาติ หรือสีสังเคราะห์ มี 14 ชนิด คือ
อาหารทารก
ทอดมัน
กะปิ
ข้าวเกรียบ
แหนม
ไส้กรอก
ลูกชิ้น หมูยอ นมดัดแปลงสำหรับเด็ก
อาหารเสริมสำหรับเด็ก
ผลไม้สด ผลไม้ดอง
ผักดอง ชนิดที่ปรุงแต่งทำให้เค็มหรือหวาน
เนื้อสัตว์ทุกชนิด ที่ปรุงแต่ง รมควัน ทำให้แห้ง
เนื้อสัตว์สดทุกชนิด ยกเว้น ไก่
เนื้อสัตว์ทุกชนิดที่ปรุงแต่งทำให้เค็มหรือหวาน
อันตรายจากสีผสมอาหาร
ด้านผู้ผลิต
ใช้สีจากธรรมชาติใส่ในอาหาร
ใช้สังเคราะห์ทางเคมีเฉพาะ "สีผสมอาหาร" เท่านั้น โดยใช้ในปริมาณที่กำหนด คือ 1 มิลลิกรัม ต่อ อาหาร 1 กิโลกรัม
ในการเลือกซื้อสีผสมอาหาร ต้องสังเกตุข้อความบนฉลากดังนี้
มีคำว่า " สีผสมอาหาร"
ชื่อสามัญของสี
เลขทะเบียนอาหารของสีในเครื่องหมาย อย.
ปริมาณสุทธิ
ชื่อและที่ตั้งของสถานที่ผลิต
ด้านผู้บริโภค
เลือกซื้ออาหาร และเครื่องดื่มที่ไม่ใส่สี ถ้ามีสีควรเป็นสีอื่นอ่อน ๆ หรือ สีธรรมชาติ
ถ้าซื้อขนม อาหาร หรือเครื่องดื่มใส่สีที่บรรจุในภาชนะปิดสนิท ต้องมีเลขทะเบียนตำรับอาหาร หรือ เลขที่ อนุญาตฉลากอาหาร
บริโภคอาหาร และเครื่องดื่มไม่ใส่สีเป็นผลดีต่อสุขภาพ
ข้อมูล สำนักงานอนามัย.สีผสมอาหาร ภัยใกล้ตัวที่มากับความสวยงาม