รูปภาพเกี่ยวข้องกับบทเพลง > มาต่อเพลงกันเถอะ
บทเพลง...และเรื่องราวของ...สวลี ผกาพันธุ์
จรีพร:
https://www.youtube.com/v/ybPLjMhfZN4?version=3&hl
เครดิต : คุณวิทวัส สระทองคำ และ youtube
เพลง "เงาไม้"
คำร้อง : พระวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าภาณุพันธ์ ยุคล
ทำนอง : มล.พวงร้อย สนิทวงศ์
ผู้ขับร้อง : สวลี ผกาพันธุ์
แสงจันทร์วันนี้นวล ใคร่ชวนให้น้องเที่ยว
จะให้ เลี้ยวไป แห่งไหน
ชลใสดูในน้ำ เงาดำ นั้นเงาใด
อ๋อ...ไม้ริม ฝั่งชล
สวยแจ่ม...แสงเดือน...
หมู่ปลา เกลื่อนดูเป็นทิว
หรรษ์รมย์...ลมริ้ว...
จอดเรือ อาศัยเงาไม้ ฝั่งชล
:'e:135 :'e:135 :'e:135
จรีพร:
https://www.youtube.com/v/BGrSy5YeinE?hl
เครดิต : คุณPossa Pop และ youtube
เพลง "บัวขาว"
คำร้อง : พระวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าภาณุพันธ์ ยุคล
ทำนอง : มล.พวงร้อย สนิทวงศ์
ผู้ขับร้อง : สวลี ผกาพันธุ์
เห็นบัวขาว พราวอยู่ในบึงใหญ่
ดอกใบบุปผชาติ สะอาดตา
น้ำใส ไหลกระเซ็นเห็นตัวปลา
ว่าย วน ไป มา น่าเอ็นดู
หมู่ภุมริน บินเวียนว่อน
คอยร่อนดมกลิ่น กลิ่นเกสร
พายเรือน้อย คล้อยเคลื่อนในสาคร
ค่อยพาจร ห่างไปในกลางน้ำ
เพลงนี้เป็นเพลงประกอบภาพยนตร์ไทย เรื่อง "ถ่านไฟเก่า" เมื่อปี พ.ศ. 2480 ซึ่งพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธ์ยุคล เป็นผู้สร้าง และได้ประพันธ์เนื้อเพลง "บัวขาว"
ขณะนั้น หม่อมหลวงพวงร้อย สนิทวงศ์ อายุได้ 23 ปี ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ประพันธ์ทำนอง เพลง "บัวขาว" เพลงนี้จึงเป็นเพลงแรกในชีวิตท่าน ท่านจึงเป็นสตรีไทยคนแรกที่เป็นนักประพันธ์เพลง
ซึ่งเพลง "บัวขาว" ได้กลายมาเป็นเพลงอมตะจนถึงปัจจุบัน มีนักร้องเก่า และนักร้องร่วมสมัยนำมาขับร้องกันหลายท่าน
เมื่อปี พศ 2522 ศูนย์วัฒนธรรมแห่งเอเชียของยูเนสโก ประเทศฟิลิปปินส์ ได้คัดเลือก "เพลงบัวขาว" เป็น "เพลงแห่งเอเชีย" นักร้องยอดนิยมของฮ่องกง "ฟรานซิส ยิป"
ได้นำเพลงนี้ไปขับร้องบันทึกแผ่นเสียง จนเป็นที่แพร่หลายไปทั่วเอเชีย และทั่วโลก
:'e:135 :'e:135 :'e:135
จรีพร:
https://www.youtube.com/v/Vnvy7ch_nR0?version=3&hl
เครดิต : คุณJumb Jbl และ youtube
https://www.youtube.com/v/b3oNUkY45po?version=3&hl
เครดิต : คุณoxygenthailand และ youtube
เพลง "ฟ้ามิอาจกั้น" สวลี ผกาพันธ์ ขับร้องสด
เพลง "ฟ้ามิอาจกั้น"
คำร้อง/ทำนอง : สุรพล โทณะวณิก
ผู้ขับร้อง : สวลี ผกาพันธุ์
ถึงฟ้าจะกั้น ให้ฉัน และเธอ ไกลกันสุดตา
หรือว่าภูผา ทอดยาวขวางหน้า บังตาแค่ไหน
แม้มีทะเล เหลือหยั่งคะเน มากั้นเราไว้
อย่าได้ตกใจ ถึงห่างแค่ไหน ก็ไม่สำคัญ
อำนาจใด ๆ ที่ในโลกนี้ ไม่มีความหมาย
แม้แต่ภูผาก็อาจทะลาย มิอาจขวางกั้น
รักเรามีปีก บินหลีกข้ามฟ้า ไปมาหากัน
ขอให้รักฉัน แน่นอนเท่านั้น ฟ้าดินเกรงกลัว
ที่มาของเพลง "ฟ้ามิอาจกั้น"
'ฟ้ามิอาจกั้น' สวลี ผกาพันธุ์ วรรณกรรมรัก สุรพล โทณะวณิก
"ถึงฟ้าจะกั้น ให้ฉันและเธอ ไกลกันสุดตา
หรือว่าภูผา ทอดยาวขวางหน้า บังตาแค่ไหน
แม้มีทะเล เหลือหยั่งคะเน มากั้นเราไว้
อย่าได้ตกใจ ถึงห่างแค่ไหน ก็ไม่สำคัญ....."
"อำนาจใดใด ที่ในโลกนี้ ไม่มีความหมาย
แม้แต่ภูผา ก็อาจทลาย มิอาจขวางกั้น
รักเรามีปีก บินหลีกข้ามฟ้า ไปมาหากัน
ขอให้รักฉัน แน่นอนเท่านั้น ฟ้าดินเกรงกลัว (ฟ้าดินยินดี)"
นี่คือเพลงที่มีชื่อว่า "ฟ้ามิอาจกั้น" บทเพลงอมตะที่ต้องถือว่าเป็น "วรรณกรรมรักแห่งยุคสมัย" ที่มีอายุกว่าครึ่งศตวรรษแล้ว คำร้องและทำนองโดย สุรพล โทณะวณิก ศิลปินแห่งชาติ ต้นฉบับเสียงร้องโดย สวลี ผกาพันธุ์ ศิลปินแห่งชาติครูน้อย สุรพล โทณะวณิก ผู้แต่ง เล่าให้ฟังว่า
"เป็นผลงานก่อนบวชเมื่อปี 2504 ผมมีโอกาสได้บวชให้กับผู้ที่ผมรักหนึ่งพรรษาเต็มๆ ที่วัดสุทัศน์ คำว่ารักนี่ในภาษาไทยเรามีอยู่คำเดียว รักแม่รักพ่อก็ใช้คำนี้ รักพี่รักน้องก็ใช้คำนี้ รักเพื่อนรักคนรักก็ใช้คำเดียวกัน ผมจึงอยากมีคำว่ารักคำอื่นอีกสักคำหนึ่งจริงๆ นะ เพื่อจะใช้สำหรับกล่าวถึงผู้หญิงคนหนึ่งที่ผมรักตลอดมา ซึ่งก็มีอยู่คนเดียวนั่นแหละที่เขาสร้างให้ผมเป็นนักแต่งเพลง ผมจึงได้กลายเป็นอนุสาวรีย์ของเขา เป็นนักแต่งเพลง...เป็นสุรพล โทณะวณิก" หยุดทบทวนความหลังเล็กน้อยก่อนจะเล่าต่อ
"ก่อนถึงกำหนดบวชเล็กน้อย ผมได้รวบรวมเพลงที่ผมแต่งไว้ทั้งหมดสำหรับเธอ สวลี ผกาพันธุ์ บางเพลงที่แต่งค้างไว้ก็มานั่งแต่งต่ออยู่หน้าห้องอัดจนเสร็จสมบูรณ์ โดยมีประสิทธิ์ พยอมยงค์ เป็นผู้เรียบเรียงเสียงประสานดนตรี รวมทั้งสิ้นประมาณ 10 เพลง ซึ่งต่อมาก็ปรากฏทุกเพลงที่บันทึกเสียงในวันนั้นได้กลายเป็นเพลงดังไปทั้งหมด" หยุดอีกเล็กน้อยก่อนจะอธิบายว่า
"หลักการแต่งเพลงของผมก็ไม่มีอะไรมาก นั่งลงหยิบกระดาษและปากกาออกมาแล้วก็นึกถึงใบหน้าของเธอ นึกไปตั้งแต่วันที่เรารู้จักกัน นึกไปถึงเวลาที่ทำงานอยู่ใกล้ชิดกันภายในโรงละครเฉลิมนคร นึกไปถึงวันที่ผมกำลังหิวเหมือนใกล้จะตาย เพราะไม่ได้กินอะไรมาเกือบสองวัน นึกถึงสายตาที่เธอมองดูผมในวันนั้น ก่อนที่เธอจะไปหาข้าวมาให้ผมกินจนผมรอดตาย เพลงแต่ละเพลงมันก็หลั่งไหลออกมาจากหัวใจและความทรงจำของผม แล้วเพลงทุกเพลงก็เสร็จ แล้วทุกเพลงก็กลายเป็นเพลงดังมาโดยตลอด ผมจึงได้กลายเป็นอนุสาวรีย์ของเธอ เพราะเธอเป็นคนสร้างผมให้เป็นสุรพล โทณะวณิก"
สุดท้าย ศิลปินแห่งชาติ นักเขียนและนักแต่งเพลงผู้มีหลากหลายนามปากกาก็ได้กล่าวสรุปว่า
"สำหรับเพลงฟ้ามิอาจกั้นนั้นมีเรื่องอยากบอกกล่าวอยู่เรื่องหนึ่ง คือที่จริงแล้วเนื้อร้องตอนจบของเพลงผิดพลาดไปเล็กน้อย แต่ในวันอัดเสียงผมไม่กล้าบอกเธอเพราะเกรงใจ เนื่องจากเห็นเธอร้องมาหลายเพลงจนเหนื่อยแล้ว ก็เลยปล่อยเลยตามเลยไป แต่เพลงก็ยังดังจนได้ คำที่ผิดก็คือวรรคสุดท้ายของเพลงที่ว่า ฟ้าดินเกรงกลัว นั้นความจริงที่ผมแต่งไว้คือ ฟ้าดินยินดี แต่จำไม่ได้ว่าตอนเธอร้องคำนี้ไม่ทราบผมเดินไปไหน พอกลับมาเธอก็ร้องจบเพลงไปแล้ว และเพลงก็เพราะด้วย ผมก็เลยไม่กล้าบอก ปล่อยเลยตามเลยมาจนถึงวันนี้แหละ"
เครดิต :หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ -- อาทิตย์ที่ 28 มิถุนายน 2558
อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/tpd/2192028
:'e:135 :'e:135 :'e:135
จรีพร:
https://www.youtube.com/v/utOzMOwJ4l4?version=3&hl
เครดิต : คุณamuggle15 และ youtube
เพลง "รักเธอเสมอ"
คำร้อง : ชาลี อินทรวิจิตร
ทำนอง : ประสิทธิ์ พยอมยงค์
ผู้ขับร้อง : สวลี ผกาพันธุ์
หากตราบใด สายนที ยังรี่ไหล
สู่มหา ชลาลัย กระแสสินธุ์
เกลียวคลื่นยัง กระทบฝั่ง ดังอาจิณ
เป็นนิจสิน ตราบนั้น ฉันรักเธอ
เช่นตะวัน นั้นยังคง ตรงต่อเวลา
แน่นอนนัก รักท้องฟ้า สม่ำเสมอ
เช่นกับฉัน นั้นมั่นคง ตรงต่อเธอ
ฉันรักเธอเสมอ ฉันรักเธอเสมอ ชั่วนิจนิรันดร์
:'e:135 :'e:135 :'e:135
จรีพร:
https://www.youtube.com/v/ANyvjL8jRH4?hl
เครดิต : คุณกบเหลาดินสอ ไพร่เสรีชน และ youtube
เพลง "ลมหวล"
คำร้อง : พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธ์ยุคล
ทำนอง : หม่อมหลวงพวงร้อย สนิทวงศ์
ผู้ขับร้อง : สวลี ผกาพันธุ์
ลมหวล ชวนให้คิดถึง ความหลัง
ภวังค์..จิต คิด ขื่นขมระทมใจ
ตัวใครเป็นคนผิดอยากถามนัก
รักไยใจจึงกลับดัง ลมหวล
ใกล้เรากล่าวถ้อยนัยที่รัก
เจ็บนัก..พอถึงอื่นก็คืน..คำ
มาทำชิดสนิทใหม่ใคร..จะเชื่อ
เบื่อแล้วไย จะ มารับกลับคืน...
:'e:135 :'e:135 :'e:135
นำร่อง
[0] ดัชนีข้อความ
[#] หน้าถัดไป
[*] หน้าที่แล้ว
Go to full version